ตอนที่ 3 ( หลักฐาน)
เมื่อหทัยภัทรร้องไห้จนเป็นที่พอใจแล้ว เธอก็ผละตัวออกมาป้ามาลีหญิงข้างบ้านก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับหญิงสาวที่เธอรักและเอ็นดูเหมือนกับลูกแท้ ๆ ยิ่งหทัยภัทรต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เธอก็ยิ่งสงสารขึ้นเป็นเท่าตัว
"เสื้อป้ามาลีเปียกหมดเลย หวานขอโทษนะคะ" ฉันหันไปมองคราบน้ำตาที่เปียกเป็นวงกว้างที่บนหน้าอกของป้ามาลี
"โอ๊ย..มันจะเปียกสักเท่าไรกันลูก อย่าคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องนี้เลย มาดูนี่กันดีกว่าแม่หนูทิ้งอะไรไว้บ้าง"
"ค่ะ"
ฉันหยิบของในลิ้นชักออกมาดูทีละชิ้น มีเงินสดของแม่อยู่จำนวนหนึ่งซึ่งฉันนับดูคร่าว ๆ ได้ประมาณ 30,000 บาท สร้อยคอทองคำ 1 เส้น แหวนทองหนึ่งวง และเป็นรูปกับจดหมายของพี่ตาลทั้งหมด ฉันหยิบสมุดเหมือนจะเป็นสมุดบันทึกของแม่ขึ้นมา ฉันเปิดหน้าแรกขึ้นมาลองอ่านดู
'...แม่คิดถึงน้ำตาลนะลูก ทำไมหนูใจร้ายกับแม่ขนาดนี้ ทำไมหนูต้องทิ้งแม่ไป แล้วแม่จะอยู่ได้อย่างไร...'
.
..
'...แม่คิดถึงน้ำตาลสุดหัวใจ...'
.
..
'...วันนี้น้ำหวานพาน้องมาร์คไปสมัครเรียนแล้วนะลูก น้องบอกว่าหลานแม่หล่อที่สุดในโลกเรียนเลย คุณครูยังชมเลยลูก...'
.
..
'...วันนี้แม่ทำขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ ใส่เลือดไก่เยอะมากเลยเพราะแม่รู้ว่าน้ำตาลชอบไงลูก หนูมากินสิลูก กินตอนร้อน ๆ จะได้อร่อยไงล่ะ...'
.
..
'...ช่วงนี้ที่บ้านเริ่มหนาวแล้วลูก น้ำหวานพาเจ้าตัวยุ่งไปก่อกองไฟนั่งผิงกันหน้าบ้าน เห็นว่าเอาหัวมันไปเผากินกันด้วย ท่าทางสนุกสนานกันเชียว น้ำตาลหนาวไหมลูก แม่ส่งเสื้อกันหนาวไปให้แล้ว ไม่ต้องห่วงน้องมาร์คนะลูกยัยน้ำหวานมันรักเหมือนลูกตัวเองเลย เมื่อวานมีคนแถวบ้านมาว่าน้องมาร์ค ยัยน้ำหวานก็จัดการไปซะกระเจิง หนูไม่ต้องห่วงนะลูก...'
.
..
'...น้ำตาลรอแม่นะ อีกไม่นานแม่จะไปหาน้ำตาล แม่คิดถึงน้ำตาลเหลือเกินลูก...'
ฉันปิดสมุดลงเมื่ออ่านจนถึงหน้าสุดท้าย จากที่หยุดร้องไห้ไปแล้วเมื่อกี้ ฉันกลับต้องมานั่งร้องไห้อีกครั้ง ทำไมแม่ไม่คิดถึงฉันบ้าง ฉันไม่ได้อิจฉาพี่หรอกนะ แต่ทำไมแม่ไม่พยายามมีชีวิตอยู่เพื่อฉันกับน้องมาร์คบ้าง ทำไมแม่ไม่สู้เพื่อจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ฉันรู้พี่ตาลน่ะเป็นคนสวยและพี่ตาลก็เก่งมาก เธอไปทำงานที่กรุงเทพแล้วก็ส่งเงินมาให้ฉันจะแม่ใช้ตลอด ฉันได้เรียนจนจบก็เพราะพี่ตาลด้วยนี่แหละ ฉันยังจำได้เสมอในสิ่งที่พี่สอนฉันมาตลอด
"...น้ำหวาน น้องต้องตั้งใจเรียนนะ เรียนให้จบเรียนเผื่อพี่ด้วยนะพี่มันโง่หัวไม่ไป เรียนไปก็ไม่รู้เรื่อง"
"ทำไมจะไม่รู้เรื่องล่ะพี่ตาล อะไรที่ไม่เข้าใจก็ถามอาจารย์ไง"
"ไม่เอาล่ะ เอาจริง ๆ พี่ขี้เกียจด้วยแหละ ทำงานส่งให้น้องเรียนแทนดีกว่า"
"ฮ่าฮ่าฮ่า เห็นไหมหวานว่าแล้ว พี่ตาลน่ะขี้เกียจมากกว่า"
"หวานอยากสวยเหมือนพี่ตาลบ้างจัง ที่กรุงเทพเป็นยังไงบ้างพี่ พี่เจอดาราไหม น้องอยากเห็นดาราตัวเป็น ๆ จังเลย"
"ดาราก็คนนี้แหละจะไปอยากเห็นทำไม แล้วน้องสาวพี่ก็น่ารักออกจะตายไปอยากเหมือนพี่ทำไมกัน" เดี๋ยวพี่ส่งเสื้อผ้าพี่ไปให้นะ เสื้อผ้าพี่เยอะแยะไปหมดเลย"
"โอ๊ย!! ไม่หรอกไม่ต้องส่งมานะ เสื้อผ้าพี่ตาลใส่ปิดแค่นมกับกับจิมิได้แค่นั้นแหละ น้องไม่ใส่หรอกเศษผ้าน่ะ แต่ว่า ส่งมาเถอะถ้าพี่ไม่ใส่แล้ว น้องจะเอาไปไลฟ์ขายในเฟสดีกว่า "
"ตามใจน้องละกัน งั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ ตั้งใจเรียนล่ะ ให้สมกับที่พี่เหนื่อยทำงานส่งให้น้องเรียน"
"คร้าา..น้องรู้แล้ว น้องรักพี่ตาลนะคะ กลับมาหาแม่บ้าง แม่บ่นคิดถึงทุกวัน แม่อ่ะชอบเอาน้องไปเปรียบเทียบกับพี่ตาล น้องเบื่อมาก "
"อย่าไปสนใจเลย แม่ก็พูดไปอย่างนั้นเองแหละ น้องอย่าน้อยใจแม่เลยนะ"
"ค่ะ..."
"น้ำหวานเอาเงินไปฝากไว้นะลูก ทองก็เก็บรักษาดี ๆ อย่าคิดมากเลยนะลูก แม่น้ำค้างกับน้ำตาลไปสบายแล้ว เราเองก็ต้องเข้มแข็ง เข้าใจไหมลูก"
"เข้าใจค่ะป้ามาลี ใกล้จะถึงเวลาไปรับน้องมาร์คแล้ว หวานว่าหวานไปก่อนดีกว่า อย่างน้อย ๆ ทุกคนก็ทิ้งน้อยมาร์คไว้ให้หวาน หวานก็พอใจแล้วค่ะ หวานไม่ได้ตัวคนเดียวแต่หวานยังมีน้องมาร์ค"
"จ้าลูก น้ำหวานยังมีป้าอีกคนนะลูก ป้าอยู่ข้างน้ำหวานเสมอ ไปรับไอ้ดื้อเถอะ เดี๋ยวมันรอนานมันจะพยศเอา ส่วนเรื่องที่บ้าน พรุ่งนี้ป้าจะพาน้ำหวานไปบ้านพ่อกำนันเอง ยังไงมันก็ต้องมีทางออก เชื่อป้านะลูก"
"ขอบคุณค่ะป้ามาลี ป้าดีกับหวานเหลือเกิน"
ป้ามาลีกลับบ้านของแกไปแล้วฉันก็จัดการเก็บของในห้องของแม่ที่ฉันรื้อออกมาให้เข้าที่ ฉันเดินไปอยู่หน้ารูปถ่ายของแม่ที่แขวนเอาไว้ที่ฝาบ้าน
"แม่..ทำไมแม่ไม่อยู่เพื่อหวานบ้าง พอพี่ตาลไม่อยู่ แม่ก็เอาแต่ตรอมใจจนทิ้งหวานไปแบบนี้ แม่ไม่รักหวานบ้างเหรอ" ฉันเอามือไปลูบที่ในหน้าของแม่ในรูปถ่าย ฉันยิ้ม ยิ้มมันทั้งน้ำตาฉันจะมัวมาเศร้าอยู่ไม่ได้หรอกหลานฉันยังรออยู่อีกทั้งคน ฉันเดินออกมา และหันไปดูรูปถ่ายแม่อีกครั้งในรูปเหมือนเราจะสบตากัน แต่นั่นเพราะฉันคิดไปเอง ฉันปิดประตูลงและเดินลงไปขี่รถมอเตอร์ไซต์คันเก่า ๆ ของฉันไปรับหลานที่โรงเรียน
"หวาง..หวางมาแย้ว มัครอตุ้งนานแน่ะ" เสียงเรียกฟังไม่ชัดดังขึ้นในตอนที่ฉันเดินเข้ามาในโรงเรียนที่น้องมาร์คเรียนอยู่ ฉันรีบเดินไปคุกเข่าแล้วดึงน้องมาร์คเข้ามากอดเพื่อเติมพลังให้กับตัวเอง
ฟอด!!!
"หวานมาแล้วนี่ไง น้องมาร์คตั้งใจเรียนไหม วันนี้ครูให้กินข้าวกับอะไรครับ" ฉันกอดแก้มยุ้ย ๆ ของไอ้หล่อไปหนึ่งทีก่อนจะถามคำถามเดิมที่ฉันถามหลานในทุก ๆ วัน
"กิงข้าวกะจ้ม " ฟังยากมากกับภาษาเด็ก 3 เนี่ยแต่ฉันก็ชินนะ เพราะคุยอยู่ทุกวัน
"กินข้าวกับส้มเนี่ยนะแล้วกับข้าวน่ะกินกับอะไร"
"เอ่อ มั่ยยู้เหมืองกัง"
"เอ้า!!" ฉันร้องอ้าวออกมาทันที ดูเหมือนน้องมาร์คจะชอบใจซะเหลือเกิน หัวเราะคิกคัก ๆใหญ่เลย
" วันนี้ทานข้าวกับอะไรครับน้องมาร์ค ใช่ข้าวผัดหมูหรือเปล่าน๊าา"
คุณครูพี่เลี้ยงที่ยืนอยู่คงจะทนไม่ไหวแล้วที่เจ้าดื้อมันตอบไม่ได้สักที คุณครูก็เลยเดินมาคุยด้วย เธอคุยกับฉันเรื่องที่โรงเรียน เห็นบอกว่าน้องมาร์คโดนเพื่อนผู้หญิงแกล้ง เพราะไม่ยอมนอนกลางวันข้าง ๆ เธอ แต่คุณครูก็จัดการเคลียร์ให้เรียบร้อย ฉันก็ไม่ติดอะไร เด็ก ๆ ก็อย่างนี้แหละมีทะเลาะกันบ้างเป็นธรรมดา