หลังจากที่ม่านนีใช้เวลานั่งร่ำสุราอยู่กับหลุมศพของมารดาจนพอใจ
นางจึงเดินทางกลับออกมาจากหน้าผาสูงชันแห่งนั้นอย่างใจเย็น นางใช้เวลาเดินทางจากวังหลวงมายังป่าใหญ่แห่งนี้หลายวัน ซึ่งมันก็นานพอที่นางจะต้องรีบกลับเข้าวังหลวงก่อนที่จะมีใครสังเกตได้ว่ามีนางกำนัลชั้นต่ำตัวเล็กๆ ไม่โดดเด่นอันใดได้หายตัวไป
ภายใต้ผืนป่าพนาไพรอันอุดมสมบูรณ์มีลำธารสายน้อยไหลเอื่อยเฉื่อยสะท้อนแสงแดดเป็นประกายระยิบระยับวิบวับงดงาม ม่านนีมองตามแสงทอประกายสวยงามนั่นอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงริมลำธารสายนี้อย่างไม่อาจห้ามใจ
หญิงสาวนั่งลงแล้วเอื้อมฝ่ามือเรียวเล็กลงไปในน้ำ ก่อนจะก้มหน้าลงแล้วล้างหน้าล้างตาอย่างต้องการควานหาความสดชื่นจากมันเข้าใส่ใบหน้างามของตัวเอง
หยดน้ำใสๆ พลันเกาะพร่างพราวอยู่จนเต็มใบหน้างามและไรผมจนเกิดการสะท้อนแสงระยิบระยับบนใบหน้าขาวนวลเนียนละเอียดลออให้สะท้อนกับแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังส่องกระทบกับสายน้ำ ภาพของม่านนียามนี้ไม่ต่างอันใดกับนางสวรรค์ลงมาเล่นน้ำอยู่ตรงริมลำธารเลยทีเดียว
ในขณะที่ม่านนีกำลังนั่งล้างหน้าล้างแขนล้างขาของตัวเองอยู่นั้น สายตาเรียวสวยของนางพลันได้เห็นหมู่ปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมาล่อตาล่อใจล่อน้ำลายของนางสิ้นดี
อยู่ในวังไม่ได้กินหรอกนะนี่ มีโอกาสอย่างนี้ต้องรีบคว้าเอาไว้
ม่านนีคิดอย่างนั้นพลันลุกขึ้นแล้วเดินไปตัดกิ่งไม้อันเล็กแต่ยาวยื่นหนึ่งอันด้วยมีดสั้นที่พกติดตัว ก่อนจะหมุนตัวกลับมายังริมลำธารอีกรอบแล้วเหวี่ยงไม้ในมือออกไปจนเสียบทะลุกลางลำตัวของปลาโชคร้ายตัวนั้นอย่างแม่นยำในทันที
หญิงสาวไม่รอช้ารีบยกแขนเสื้อขึ้นจนเผยลำแขนเรียวสวยผิวพรรณผ่องผาดเป็นยองใยดั่งหยกเนื้อดีหายาก ตามด้วยยกชายกระโปรงขึ้นเพื่อก้าวเท้าเดินลงไปยังลำธารเพื่อหมายจะจับปลาที่สิ้นชีวาไปเมื่อครู่
แต่ยังไม่ทันที่ม่านนีจะก้าวเท้าลงลำธาร ปลาตัวนั้นก็ถูกคนผู้หนึ่งดึงปลายไม้จนปลาล่องลอยออกมาจนเหนือผิวน้ำต่อหน้าต่อตาของม่านนี
หญิงสาวถึงกับตวัดสายตาขึ้นมองเจ้าของฝ่ามือเรียวยาวนั้นอย่างนึกขุ่นเคือง
“นั่นปลาของข้า” นางกล่าวออกไป
“...”
เงียบ
ไร้ซึ่งเส้นเสียงใดๆ จากเจ้าของฝ่ามือ
เขากำลังก้มหน้าจับปลาให้เลื่อนออกจากไม้อันเล็กแล้วเดินขึ้นมาบนฝั่งริมลำธารใกล้ๆ กับตำแหน่งที่ม่านนียืนอยู่
ม่านนียืนถลึงตาจ้องมองด้วยความไม่พอใจฉายชัด
คนผู้นั้นก็ก้มหน้าลงมองม่านนีเช่นเดียวกัน
แต่ครู่เดียวเท่านั้น เขาก็ละสายตาคมเข้มดุดันออกไปจากวงหน้าของม่านนี ในขณะที่ม่านนียืนมองเขาอย่างขุ่นเคือง
คนผู้นี้เปลือยแผงอกของลำตัวช่วงบน เขากำลังจับปลาอยู่ก่อนนางอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะว่าภายในมือของเขามีปลาร้อยด้วยเชือกเถาวัลย์อีกสามตัว รวมกับของม่านนีก็เป็นสี่ตัว
เขาวางปลาพวกนั้นลงตรงฝั่งพื้นดินเบื้องหน้าที่มีใบไม้ปกปิดฝุ่นดินเอาไว้ก่อนหันมามองม่านนีอีกรอบพลางยืนกอดอกอยู่นิ่งๆ มิได้กล่าวคำอันใด
ม่านนีมองตอบกลับไปพลางยืนกอดอกเช่นเดียวกัน
นางเห็นแผงอกบึกบึนกล้ามเนื้อแน่นๆ เรียงตัวสวยงามอยู่บนลำตัวช่วงบนของเขา นางเห็นครึ่งลำตัวเปล่าเปลือยของเขาจนถึงช่วงเอว นางเคยเห็นมาแล้วกับการเปลือยลำตัวช่วงบนของบุรุษเพื่อจับปลาในลำธารอย่างนี้
อาจารย์ของนางชอบถอดเสื้อหาปลาอย่างนี้เหมือนกัน แต่แผงอกของอาจารย์ในวัยที่ผ่านมาแล้วเกือบห้ารอบอย่างนั้นเนื้อช่วงอกของอาจารย์ไม่แน่นอย่างนี้
มิได้เรียงตัวสวยงามอย่างนี้
อืม...เขาดูดีใช้ได้
แต่ช่างเถิด จะอย่างไรเสียปลาตรงหน้าก็น่ามองยิ่งกว่ามากนัก
นางเห็นปลาตัวใหญ่อวบอ้วนที่มีดีเหนือกว่าปลาของนางอย่างมากมาย นางจึงเปลี่ยนท่าทีก่อนยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจแล้วกล่าวออกมา
“ท่านควรมีเพื่อนเพื่อแบ่งปันกินเจ้าปลาพวกนั้น”
“เมื่อครู่ข้าเห็นมีสตรีนางหนึ่งหวงแหนปลาเพียงหนึ่งตัว”
เส้นเสียงทุ้มต่ำกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ดวงตาคมเข้มจ้องมองม่านนีอย่างดุดันไร้อารมณ์ผ่อนคลาย
“อา...ใครกันนะ” ม่านนีพลิกลิ้นได้ในทันที
ชายหนุ่มผู้นั้นยืนมองม่านนีอยู่นิ่งๆ มิได้กล่าวคำอันใดออกมา ซักพักเขาก็ละสายตาออกไปจากใบหน้าของม่านนีแล้วย่อตัวสูงใหญ่ลงต่ำก้มหน้าเอื้อมมือหยิบเศษไม้แห้งจากบริเวณนั้นขึ้นมาแล้วทำท่าจะก่อไฟ
“ให้ข้าช่วย” ม่านนีกล่าวออกมาอย่างมีน้ำใจเหลือเกิน
บุรุษหนุ่มผู้นั้นมองม่านนีนิ่งๆ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เขาเพียงปล่อยให้ม่านนีได้ก่อไฟดังคำด้วยการลุกขึ้นยืนแล้วหมุนตัวเดินหายไปหลังก้อนหินขนาดใหญ่ริมลำธาร
ครู่หนึ่งเขาก็ออกมาจากหลังก้อนหินก้อนนั้นและใส่เสื้อผ้าผูกเอวเรียบร้อยก่อนกลับมานั่งอยู่นิ่งๆ ไม่ไกลกับที่ม่านนีกำลังก่อไฟ
และไม่นานกองไฟขนาดย่อมก็เป็นผลสัมฤทธิ์ขึ้นมา ตามด้วยปลาตัวใหญ่หนาถูกเสียบด้วยไม้ลำเล็กกำลังถูกปิ้งย่างอยู่เหนือกองไฟ
และในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูปปลาย่างก็ส่งกลิ่นหอมฉุยแผ่กระจายออกมา ม่านนีนั่งปิ้งปลาและกินปลาตัวเดียวกันกับบุรุษตรงหน้าอยู่ที่ริมลำธารด้วยท่าทางเป็นมิตรเพื่อที่จะได้ไม่ต้องลงน้ำไปจับเอง