03 - เป็นแฟนกันไหม?

1869 Words
"เฮ้ย ๆๆ ไอ้ภัทร มึงจะไปไหนวะ? ไหนบอกจะไปส่งกูกลับบ้านไง" ผมรีบท้วงเมื่อนภัทรขับรถไปคนละเส้นทางกับบ้านผม "กูง่วงละ ไปนอนที่คอนโดกูเถอะ พรุ่งนี้เช้ากูค่อยไปส่งมึงกลับบ้าน" มันตอบง้ายง่าย "ไม่ตลกละ มึงจะพากูไปทำมิดีมิร้ายเหรอ? กูสู้ตายนะเว้ย!" ผมเริ่มโวยวาย แต่ถ้ามันจะทำจริง ๆ ผมจะกระทืบมันตายคาตีนเลยคอยดูสิ "โอ๊ย! ไอ้คิม มึงหุบปากเถอะ กูเป็นผู้ชายนะ มึงก็เป็นผู้ชาย กูจะทำไรมึงวะ? ตอนนี้กูง่วง เข้าใจป่ะ บ้านมึงแม่งโคตรไกล กูไปส่งมึงแล้วกูขับรถย้อนกลับมาอีก เช้าพอดีสิวะ แต่คอนโดกูอยู่ข้างหน้านี่เอง กูขอนอนก่อนเถอะ" ผมจนกับเหตุผลของมัน มันพูดถูก ถ้าไปบ้านผมแล้วขับกลับมา มันจะไกลมาก แล้วมันก็เมาด้วย เกิดขากลับมันหลับใน รถชนตายห่า ผมผิดเต็ม ๆ เลยนะเนี่ย มีหวังมันเป็นผีไปหักคอผมถึงบ้าน ไม่นานก็ถึงคอนโดแห่งหนึ่ง หรูใช้ได้ มีรปภ.หน้าโหดเฝ้าประตูด้วย เขามองมาที่ผมอย่างตั้งใจ คงคิดว่าผมเป็นพวกไม่น่าไว้ใจแน่ ผมรีบเดินตามนภัทรเข้าไปด้านในและรีบเข้าลิฟต์ ก่อนมันจะพาผมขึ้นมาชั้นสูงที่มีห้องของนภัทรอยู่ พอเข้ามาในห้องนภัทร มันโล่งมาก นอกจากเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานอย่างโต๊ะตู้เตียงกับชุดโซฟาแล้ว ของตกแต่งอะไรแทบไม่มี นอกจากโน้ตบุคตัวเดียวที่วางบนโต๊ะ แม้กระทั่งทีวีมันก็ไม่มี!! แต่ที่อลังการคือห้องครัวกับตู้เย็นสองตู้ มันกินเยอะขนาดนั้นเลยเหรอวะ? แล้วไอ้อุปกรณ์เครื่องครัวนั่น มันเยอะมาก อย่างกระทะนี่มีทุกขนาดเลยมั้ง แถมมีแต่ยี่ห้อเกรดเอทั้งนั้น เครื่องปรุงมันมีเยอะกว่าในซูเปอร์มาเก็ตอีก มีแต่ของนอก สรุปว่าคอนโดไอ้นภัทรครึ่งห้องคือห้องครัว ผมหันไปหาเจ้าของห้องด้วยความคันปากอยากจะถาม แต่นภัทรนอนแผ่บนเตียงหลับไปแล้ว มันคงง่วงจัดจริง ๆ ผมถอนหายใจแล้วเดินไปอีกฝั่งของเตียง ล้มตัวลงนอนและดึงผ้านวมมาห่มทั้งมันและผม ก่อนจะหลับเป็นตายตามไป ผมรู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เพราะแสงสว่างลอดหน้าต่างเข้ามาในตอนบ่ายมันแยงตา ผมยกมือมาบังแล้วจะขยับตัว แต่ผมขยับไม่ได้! ผมตลบผ้าห่มออกแล้วก็สะดุ้ง เมื่อเห็นไอ้นภัทรมันกอดผมอยู่ แขนมันพาดมากอดตัวผม ขามันพาดมาก่ายขาผม "เฮ้ย! ไอ้ภัทร! ลุกสิวะ!" ผมผลักแขนถีบขามันออก "อือ เสียงดังจังวะ ยังง่วงอยู่เลย" นภัทรงัวเงียแล้วกอดรัดตัวผมแน่นขึ้น "มึงจะนอนต่อก็ตามใจมึง แต่ปล่อยกูก่อน กูปวดขี้" ผมร้องโวยวายแล้วผลักมันออกจนได้ พอเป็นอิสระผมก็ไปนั่งสงบใจในห้องน้ำ ใจเต้นตึกตักโครมคราม หน้าร้อนผ่าวขึ้นมา กูจะตื่นเต้นทำไมวะ? แค่ผู้ชายกอด! ขุ่นพระ!! ตั้งแต่เกิดมาผมก็เพิ่งเคยโดนผู้ชายกอดนี่ล่ะ ผู้ชายที่ไม่ใช่คนในครอบครัว และไม่ใช่ไอ้กายเพื่อนซี้ผม แถมผมเพิ่งรู้จักมันมาได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง หลังล้างหน้า ทำธุระเรียบร้อยแล้ว ผมแงัมประตูห้องน้ำออกดู แต่ไม่เห็นไอ้นภัทรบนเตียงแล้ว มันไปไหนแล้ววะ? "เสร็จยังวะ? กูจะเข้าบ้าง" นภัทรจับประตูห้องน้ำแล้วเปิดออกก่อนจะแทรกตัวเข้ามา "เฮ้ย! มึงจะเข้ามาทำไมวะ!!" ผมโวยวายแล้วขยับไปติดผนังห้องน้ำและทำตัวลีบที่สุด "เอ๊า! ห้องน้ำมีไว้ตีกอล์ฟหรือไงวะ?" มันตอบแบบกวนตีนที่สุด ไม่พูดเปล่า มันถลกกางเกงลงแล้วงัดเอาลูกชายออกมาเล็งลงชักโครกแล้วยืนแอ่นปลดปล่อยออกมาเป็นสายอย่างสบายอารมณ์ แม่โว้ย! มันใหญ่กว่าของผมจริง ๆ มันไม่ได้โม้!! "จะยืนดูทำไมวะ? อิจฉาเหรอ ที่กูใหญ่กว่า" ไอ้นภัทรมันหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงแบบเยาะเย้ยและสะใจ ฮึ่มมม เจอแบบนี้ยัวะสิครับผม ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้ ผมไม่ยอมแพ้มันหรอก แต่ผมจะเอาอะไรมาบลัฟมันดีวะ? มันสูงกว่าผม หล่อกว่าผม เท่กว่าผม แถมไอ้นั่นใหญ่กว่าผม โอยยย ปวดใจ ผมแพ้มันแล้ว ฮือออ อยากร้องไห้ ผมยอมแพ้เดินคอตกออกมาจากห้องน้ำ นั่งลงบนเตียงอย่างหมดแรง จนไอ้นภัทรออกมาแล้วถามผม "หิวยัง? อยากกินอะไรไหม? จะทำให้กิน" คำถามเรียบง่ายที่ไม่แฝงความกวนตีนทำให้ผมเงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ "มึงทำอาหารเป็นจริงอ่ะ? งั้นกูอยากกินสเต็กเนื้อกวาง มีป่ะ" ผมกวนตีนบ้าง โทษฐานที่มันเหนือกว่าผม แล้วผมก็ต้องอึ้งเมื่อมันตอบมา "ไม่มีปัญหา นั่งรอที่โต๊ะเลย ชั่วโมงนึงก็ได้กินละ" มันบอกมางี้ "โม้ป่ะวะ? มึงจะไปเอาเนื้อกวางมาจากไหน? แค่ชั่วโมงเดียว" ผมหัวเราะเยาะบ้าง ไอ้นภัทรไม่ตอบ มันเดินไปที่ตู้เย็นตัวหนึ่ง เปิดช่องฟรีซ หยิบห่อพลาสติกแช่แข็งออกมาแล้วโชว์ให้ผมดูใกล้ ๆ พร้อมรอยยิ้มกวนตีน ขุ่นพระ!! เนื้อกวางเรนเดียร์แช่แข็ง ผลิตจากฟาร์มกวางที่ไซบีเรีย!! ผมเลิกกวนตีนมันแล้วนั่งรออย่างสงบ มองไอ้นภัทรแกะห่อเนื้อเอาไปใส่ไมโครเวฟละลายน้ำแข็ง ทาเกลือพริกไทยแล้วเริ่มย่างบนกระทะด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อนที่เตาหนึ่ง อีกกระทะมันผัดผักรวมกับเนยโรยเกลือพริกไทยและใส่อะไรอีกไม่รู้ ผมดูไม่ทัน แต่กลิ่นเนื้อกวางย่าง กับเครื่องเคียงมันทำให้ท้องผมครวญครางขึ้นมาอย่างหนัก ผมกลืนน้ำลายไปจนมันผลิตไม่ทันละ นภัทรย่างเนื้อกวาง 2 ชิ้น แล้วเอาน้ำที่ได้จากการย่างเนื้อในกระทะมาทำน้ำเกรวี่ราดลงบนจานเนื้อที่ย่างแล้ว เคียงด้วยผักผัดเนยที่มันทำตะกี้ และยังมีเฟรนช์ฟรายและขนมปังปิ้งตัดแนวทแยงอีกแผ่นหนึ่ง พักเดียวมื้อแรกของวันนี้ก็วางบนโต๊ะเรียบร้อยพร้อมมีดและส้อมจัดวางสวยงามบนผ้าปูรองจานสีขาวสะอาด ยัง ยังไม่พอ ไอ้นภัทรมันเปิดไวน์แดงเทใส่แก้วไวน์ทรงสูงวางคู่มาด้วย แม่โว้ย! ความรู้สึกผมในตอนนี้ ยังกะนั่งในภัตตาคารของโรงแรมชั้นหนึ่งไม่มีผิด ถ้าไม่มองไปรอบ ๆ แล้วเห็นว่าเป็นคอนโดธรรมดาให้เสียอารมณ์อ่ะนะ อาหารมันดูหรูก็จริง แล้วรสชาติล่ะ จะได้เรื่องไหม? ผมจับมีดและส้อมบรรจงตัดเนื้อสเต็กแบบมีเดียมที่ผมชอบใส่ปาก แค่คำแรกมันก็ทำให้ผมแทบจะลืมทุกอย่าง เนื้อมันนุ่มมาก สุกกำลังดี รสชาติก็.. อื้อหือ สุดยอดกว่าเชฟมือหนึ่งของโรงแรมชั้นหนึ่งที่เคยกินที่ฝรั่งเศสซะอีก "อร่อยไหม? กูทำสุดฝีมือเพื่อมึงเลยนะเนี่ย" ไอ้นภัทรมองหน้าผมแล้วส่งยิ้มมาให้ "อือ อร่อยมาก" ผมตอบแล้วหน้าก็ร้อนขึ้นมา ไอ้นี่ทำไมมันหล่อแบบนี้วะ ยิ่งยิ้มมันก็ยิ่งหล่อ ห๊ะ!! นี่กูจะชมมันทำไมวะ แล้วทำไมกูตื่นเต้น!? ทำไมกูถึงเขินมันด้วย! อ๊ากกก! นี่กูเป็นอะร๊ายยย! ไอ้นภัทรมันเป็นผู้ชายนะ!! ผมตบหน้าตัวเองในใจเพื่อเรียกสติ แล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าไปจนหมดเกลี้ยง พร้อมไวน์อีกแก้ว ไวน์แดงช่างเข้ากับอาหารประเภทเนื้อจริง ๆ ผมอิ่มมากเลย อร่อยด้วย นภัทรนั่งเท้าคางกับมือข้างหนึ่งมองผมด้วยรอยยิ้มอย่างพอใจที่เห็นผมมีความสุขกับมื้ออาหาร "อยากกินอาหารแบบนี้ทุกมื้อไหม? มาอยู่กับกูสิ จะทำให้กินทุกมื้อเลย" คำพูดกับรอยยิ้มและสายตานั่นมันอะไรกัน? ไม่น่าไว้ใจเลย แต่ทำไมผมตื่นเต้น ใจผมเต้นแรงและหวิว ๆ เมื่อมองหน้ามัน นี่มันกำลังล่อผมให้ติดกับใช่ไหมเนี่ย? ไม่มีทางซะล่ะ "ทำไมกูต้องมาอยู่กับมึง? ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย" ผมตอบแบบไร้เยื่อใย "เย็นชาจัง แต่กูอยากให้มึงมาอยู่ด้วย กูชอบมึงแล้วว่ะคิม มาเป็นแฟนกูไหม? แล้วกูจะดูแลมึงอย่างดีเลย" "ตลกล่ะมึง ไอ้ภัทร มึงเป็นเกย์เหรอ? มึงกับกูเพิ่งพบหน้ากันแค่ครึ่งวัน มึงจะมาชอบกูเหรอ? ไวเกินไปไหม? กูยังไม่รู้จักมึง พอ ๆ กับที่มึงไม่รู้จักกูน่ะแหละ" "ก็ค่อย ๆ เรียนรู้นิสัยกันไปด้วยก็ได้นี่นา กูจะปรับตัวเข้าหามึง มึงก็ปรับตัวเข้าหากู เดี๋ยวมันก็เข้ากันได้เองแหละ โอเคไหม?" "นั่นไม่ใช่ปัญหาเว้ย! ที่สำคัญคือ กูไม่ใช่เกย์ กูไม่ต้องการมีแฟนเป็นผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายอย่างมึง!" ผมขึ้นเสียงใส่ และเห็นแววตามันสลดไปวูบหนึ่ง "กูก็ไม่ใช่เกย์ กูแค่ชอบมึงเท่านั้นแหละ แต่ถ้ามึงไม่ชอบกูก็ไม่เป็นไร ขอโทษที" นภัทรลุกเก็บจานไปล้างเงียบ ๆ และไม่กวนตีนผมอีกจนผมรู้สึกผิดที่หักหาญน้ำใจ แต่จะให้ผมเป็นแฟนมัน มันก็ยังไงอยู่ หลังจากล้างจาน ทำความสะอาดและเก็บโต๊ะเรียบร้อย มันก็ไปส่งผมกลับบ้าน ตลอดทางที่ไปส่งผม มันไม่พูดอะไรเลย เอาแต่นิ่งเงียบจนผมอึดอัด แต่ก็ไม่อยากถามอะไรออกมา "ขอบใจนะที่มาส่ง แล้วยังทำอาหารเลี้ยงด้วย" ผมพูดออกมาจากใจจริง นภัทรไม่ตอบ มันแค่พยักหน้าแล้วขับรถกลับคอนโด ผมมองตามรถมันแล้วก็รู้สึกแปลก ๆ แต่แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ ทางใครทางมัน ผมกลับเข้าบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปที่ร้าน โชคดีที่ คุณนายอารีไม่อยู่ ถ้าเห็นผมไปเที่ยวตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเพิ่งกลับบ้านตอนบ่ายสามแบบนี้ ชีอาละวาดแน่ อ้อ! ผมลืมบอก ว่าบ้านกับร้านผมอยู่คนละที่กัน ส่วนมากผมจะนอนที่บ้าน ไอ้สันต์น้องผมก็นอนที่บ้าน พี่เหมจะนอนบ้านอีกหลังกับเมียเขา ที่ร้านจะไม่มีคนอยู่ แต่บางทีช่วงที่ผมจะคิดเมนูใหม่หรือเตรียมตัวแข่ง หรือต้องไปออกงานที่ไหนสักที่ ผมก็จะนอนที่ชั้นสามของร้าน ส่วนชั้นสองเป็นที่เก็บอุปกรณ์และวัตถุดิบที่ผมจะสั่งมาทีละเยอะ ๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย -------------------------
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD