ตั้งครรภ์ลับบำเรอทราย

1

ภายในคฤหาสน์หรูหราสไตล์อังกฤษ บนเนื้อที่กว้างกว่าสามสิบเอเคอร์ ด้านหลังของคฤหาสน์มีสวนกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ ส่งกลิ่นหอมระรื่นไปทั่วอาณาบริเวณ ทั้งหมดดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากหลังจากที่พลอยวารินทร์และไข่มุกลูกสาวตัวน้อยย้ายเข้ามาอยู่ นัทมนเพิ่งจะมีโอกาสเดินทางมาเยี่ยมญาติผู้พี่และหลานรักเป็นครั้งแรก จึงอดที่จะปลื้มอกปลื้มใจไปกับพลอยวารินทร์ไม่ได้ พี่สาวของเธอช่างโชคดี มีสามีครบเครื่อง เรียกว่าหล่อ รวย ควบตำแหน่งซีอีโอที่เก่งกาจของบริษัทผลิตก๊าซพลังงานธรรมชาติยักษ์ใหญ่ มิหนำซ้ำยังมีความเป็นแฟมิลี่แมน น่ารัก อบอุ่น

นัทมนนั่งทอดอารมณ์มองออกไปนอกหน้าต่าง รู้สึกเป็นบุญตาของเธอ เพราะเธอคงไม่มีโอกาสย่างกรายเข้ามาในคฤหาสน์หรูหราแบบนี้ หากว่าภรรยาเจ้าของคฤหาสน์ไม่ใช่ญาติผู้พี่ของเธอ ใครจะเชื่อว่าพี่สาวที่ตอนเด็กๆ เคยเล่นหม้อข้าวหม้อแกงมาด้วยกัน เวลานี้จะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีหมื่นล้านไปแล้ว

‘ส่วนเธอนั่นเหรอ’ นัทมนถอนหายใจหนึ่งครั้ง ‘ก็ยังเป็นนัทมนคนเดิม’ เพิ่มเติมคือความจนกรอบ เธอไม่กล้าที่จะบอกพี่สาวว่า เดือนนี้เธอขาดสภาพคล่องทางการเงิน เรียกง่ายๆ ว่าช็อต เพราะส่งเงินไปให้แม่ เนื่องจากแม่บอกว่าผู้รับเหมาขอเบิกเงินค่าวัสดุล่วงหน้า

ตึกเช่าเล็กๆ เป็นความฝันของเธอ ที่กำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นทีละนิด จากน้ำพักน้ำแรงที่ส่งไปให้ทางบ้าน แม้เธออยากจะโชคดีแบบพลอยวารินทร์ แต่ก็เข้าใจถึงสำนวนไทยโบราณที่ว่า แข่งเรือแข่งพายแข่งกันได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนา แข่งกันยาก และดูเหมือนว่าชีวิตของเธอจะชอบแขวนเอาไว้บนที่สูง เพราะเวลานี้ สองมือยังเกาะคานทองฝังเพชรเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ยอมปล่อย เธอก็เคยลองอ่อยทั้งผู้ชายไทยและต่างชาติ คนที่หล่อเข้าตาแต่ก็กลับมีหัวใจรักผู้ชายด้วยกัน และบางรายที่เธอหมายตา ผลปรากฏว่าเขาก็มีแฟนแล้ว แต่ก็ใช่ว่าชีวิตสาวโสดวัยเริ่มทำงานอย่างเธอ จะไร้หนุ่มๆ มาเกี่ยวพัน มีหลายคนที่พยายามแจกขนมจีบเธอ แต่นัทมนมีกฎเหล็ก สำหรับการคบหากับเพศตรงข้ามเอาไว้ว่า มีเมียแล้วไม่ยุ่ง...มุ่งหาแต่คนโสด

‘สวยเหลือเกิน แบบนี้นี่เองที่เขาเรียกกันว่าคฤหาสน์’ หญิงสาวรำพึงในใจพร้อมกับชะโงกหน้ามองจากหน้าต่างลงไปที่สระว่ายน้ำสีฟ้าใสแจ๋ว แล้วย่นจมูกน่ารัก ก่อนจะตะโกนลงไปแซวคู่สามีภรรยาที่ว่ายน้ำอยู่ในสระ

“พี่เฮย์เดน พี่เอพริล ระวังนะคะ มดมันจะเข้าใจผิด คิดว่าน้ำในสระเป็นน้ำหวาน”

“อยากหวาน...ก็รีบลงจากคานสิจ้ะ แม่สาวโสด” เป็นเสียงใสของเอพริลที่ตอบกลับมา

“แรงนะคะพี่เอพริล” นัทมนตอบพี่สาวอย่างงอนๆ

พลอยวารินทร์อยู่ในชุดว่ายน้ำทูพีชสีฟ้า โชว์ทรวดทรงที่สมส่วน จนมองแทบไม่ออกเลยว่าผ่านการมีลูกมาแล้วถึงสองคน คนแรกคือ หนูไข่มุกจอมแสบ ที่เวลานี้ ดีกรีความแสบก็ยังคงเส้นคงวา ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไป

ส่วนลูกคนที่สองมีชื่อน่ารักว่า หนูพายไข่ ซึ่งคลานได้แล้วกำลังหัดยืน หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่ากำลังตั้งไข่

‘พี่เขยของเธอคงรักและเอ็นดูลูกสาวมากถึงได้ตั้งชื่อเสียน่ารัก’ นัทมนคิดไปก็ยิ้มไป พลางภาวนาว่าหลานสาวคนเล็กอย่างพายไข่ เมื่อโตขึ้นจะแสบน้อยกว่าไข่มุก

เมื่อนึกถึงชื่อของหลานสาวคนใหม่ นัทมนก็รู้สึกเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า พายไข่ เป็นชื่อที่น่ารักเหมาะกับลูกสาวของพลอยวารินทร์ เพราะหนูน้อยหน้าตาน่าเอ็นดู ดวงตากลมโต จมูกโด่งเป็นสัน ผิวก็ขาวราวกับหิมะ นัทมนยังจำได้ว่า ยัยไข่มุกจอมแสบ ร้องโยเยอยากจะตั้งชื่อน้องสาวเอง จนทำให้คุณหมอและนางพยาบาลที่ทำคลอด กลั้นหัวเราะกันไม่อยู่ เพราะว่าแต่ละชื่อที่หนูน้อยเสนอนั้น ไม่ว่าจะเป็น ไข่พะโล้ ไข่นุ้ย ไข่ตุ๋น ไข่เยี่ยวม้า ที่สรรหามาตั้งชื่อให้น้องด้วยความหวังดีฟังดูพิลึกทุกชื่อ โชคยังดีที่พี่สาวและพี่เขยของเธอ ไม่บ้าจี้ตามลูกสาวคนโตไปด้วย

“เฮ้ นัตตี้มาเล่นน้ำด้วยกันไหม” เป็นเสียงพี่เขยที่ตะโกนขึ้นมา พร้อมโบกมือให้นัทมนลงไปที่สระน้ำ

“ลงมาเล่นด้วยกันสิ พาไข่มุกลงมาด้วย” เสียงหวานของพลอยวารินทร์ก็ดังตามมา พร้อมกวักมือเรียกสำทับ

นัทมนส่ายหน้า ใจเธอก็อยากจะลงไปว่ายน้ำในสระสวยหรู น้ำใสแจ๋วนั่นอยู่หรอก แต่ติดตรงที่ว่า เธอถูกจองตัวจากบิวตี้บล็อกเกอร์สุดฮอตวัยกระเตาะ ที่ยืนอยู่ด้านหลัง แถมแม่หนูกำลังเอาด้ามแปรงปัดแก้มมาจิ้มก้นของนัทมน สองครั้งติดกันจนหญิงสาวสะดุ้งเฮือก

“ว้าย! อะไรนี่” นัทมนยกมือทาบอกอย่างตกใจ เมื่อหันกลับมาก็แทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ กับภาพบิวตี้บล็อกเกอร์รุ่นเยาว์ ที่มาพร้อมกระเป๋าเครื่องสำอาง นัทมนเดาว่ายัยตัวแสบน่าจะไปหยิบของคนเป็นแม่มาเล่นอย่างแน่นอน

“พร้อมหรือยังคะ? คุณลูกค้า” แม่หนูตัวแสบที่ดูก๋ากั่นส่งยิ้มให้

นัทมนไม่ได้เจอหลานสาวเกือบปี หนูไข่มุกดูโตขึ้นแต่แก้มยังน่าหยิกเช่นเคย วันนี้หลานสาวเกล้าผมมวยทำเป็นช่อโบดูน่ารัก คงเป็นฝีมือของคุณแม่ยังสาวที่ทำให้

ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง ไข่มุกมาขอเป็นช่างแต่งหน้า โดยให้คุณน้าอย่างนัทมนสวมบทเป็นลูกค้า แม้ว่านัทมนจะพยายามบ่ายเบี่ยงแกมอ้อนวอนหลานรัก ว่าไม่อยากเป็นหุ่นทดลองแต่งหน้า ทว่าไข่มุกจอมแสบก็ออดอ้อนเข้ามากอดเอว เรียกน้านัทคะ น้านัทขา ชวนนัทมนให้เล่นเป็นเพื่อน จนนัทมนใจอ่อน ยอมให้หลานรักใช้พื้นที่บนหน้าของเธอทดลองแต่งหน้า

“นี่ไปหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางของมามี๊มาทั้งชุด ระวังโดนดุนะคะ ไข่มุก”

“ไม่ดุหรอกค่ะ ทีไข่มุกยังให้มามี๊ยืมแด๊ดดี๊ ไปเล่นน้ำในสระด้วยเลย” ไข่มุกเอียงคอตอบ ดวงตาแวววาวสดใส นัทมนฟังหลานสาวแล้วขมวดคิ้วคิดตาม ‘แบบนี้ก็ได้เหรอ รับรองว่าโตขึ้นทำการค้าไม่เสียเปรียบแน่’

“คุณน้านัท พร้อมหรือยังคะ” เสียงไข่มุกดึงสติของนัทมนให้กลับมา เธออ้อมแอ้มถาม

“ไข่มุกแน่ใจนะคะ ว่าจะแต่งหน้าน้านัทให้สวยเหมือนคน ไม่ใช่สวยเหมือน ศะ..” นัทมนไม่กล้าพูดต่อ เพราะกลัวหลานสาวเสียใจ แต่ใบหน้าขาวอมชมพูของนัทมนต้องซีดลงเรื่อยๆ เมื่อเห็นแม่หนูน้อยตัวแสบเปิดกล่องเครื่องสำอางอย่างคล่องแคล่ว ราวกับเคยไปหยิบมาเปิดเล่นบ่อยๆ ไข่มุกทำตาโตเมื่อเห็นเครื่องสำอางมากมาย ทั้งบลัชออน พาเลทลิปสติก มาสคารา อายไลน์เนอร์ แป้ง เบสรองพื้นต่างๆ วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบภายในกระเป๋าเครื่องสำอางสีดำหนังแท้

“เอาจริงแฮะไข่มุก หน้าฉันจะพังก่อนไหมนะ” นัทมนพึมพำ

“ไว้ใจได้ค่ะ” ไข่มุกพูดขึ้นราวกับอ่านใจคนเป็นน้าออก “ไข่มุกเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ที่อายุน้อยที่สุด และกำลังฮอตที่สุดในยุคนี้ น้านัทคือผู้โชคดี” ไข่มุกพูดเสียงดังฉะฉาน ตบมือชอบใจแล้วยิ้มแป้น ผิดจากนัทมนที่ยิ้มเจื่อน สีหน้าดูหวาดหวั่น

นัทมนยกมือกุมขมับเพียงแค่เห็นท่าจับแปรงของสาวน้อยที่ดูมั่นใจและยังดวงตากลมโตที่มองพื้นที่ว่างบนหน้าเธอ ด้วยแววตาเป็นประกาย ราวกับได้ตุ๊กตาตัวใหม่มาละเลง ก็ยิ่งทำให้นัทมนรู้สึกใจคอไม่ดี

“ใครเขามอบตำแหน่งให้ยัยไข่มุก แน่ใจนะว่า ไม่ได้มโนไปเอง” สีหน้านัทมนยิ่งดูหวาดหวั่นมากขึ้น เมื่อไข่มุกหยิบเบสสำหรับรองพื้นขึ้นมา

เด็กหญิงมองผู้เป็นน้าสาวที่เพิ่งจะมาเยี่ยมคฤหาสน์นี้เป็นครั้งแรก เพราะมารดาบอกว่าน้าสาวเพิ่งเรียนจบไม่นานและกำลังหางานทำอยู่ ต้องการหาเงินมากๆ จะไปสร้างฝันอะไรสักอย่างแต่ไข่มุกจำไม่ได้

“งานนี้น้านัทเสร็จแน่ๆ อุ้ย...ขอโทษค่ะ ไข่มุกพูดผิด น้านัทสวยแน่ๆ ”

คำพูดน่ารักไร้เดียงสาของไข่มุก ฟังดูเหมือนจะขบขัน แต่นัทมนฟังแล้วรู้สึก อยากเปลี่ยนใจกลับบ้านแทบแย่ แต่ก็ไม่อาจจะทำลายน้ำใจของหลานรักได้

‘ซวยแล้วนัทมนเอ๋ย หน้าฉันพังงานนี้แน่ๆ ไม่น่ายอมใจอ่อนเป็นหุ่นทดลอง ให้ยัยไข่มุกเลย’