นัทมนพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงเข้าใจ “งั้นฉันขออาหารไทยแล้วกันค่ะ” ขณะแอร์โฮสเตสสาวกำลังหมุนตัวไปเตรียมอาหาร เสียงนัทมนก็ถามต่อ “เอ่อ แล้วคุณคามินล่ะคะ เขาหายไปไหนแล้ว”
“ขอโทษนะคะ ดิฉันไม่ได้รับอนุญาตให้พูดเรื่องเจ้านายค่ะ” คำตอบของแอร์โฮสเตสสาว ทำให้นัทมนหน้าเหวอ ไม่กล้าถามอะไรต่อ เธอรับถาดอาหารที่ในนั้นมีข้าวสวย แกงเขียวหวาน ผัดผัก มากินบนโต๊ะส่วนตัวอย่างเงียบๆ เธอเพิ่งจะรวบช้อนตอนที่คามินเดินมาตรงหน้าพอดี
“อาหารพอจะทานได้ไหม ไม่รู้ถูกปากคุณหรือเปล่า” คามินถามพร้อมกับมองจานข้าวที่ว่างเปล่า
นัทมนหัวเราะแห้งๆ เธอไม่ได้กินอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมแบบนี้มานาน รู้สึกอร่อยจนอยากร้องขอ แต่ก็ตอบกลับไปอย่างสงวนท่าที
“ก็พอทานได้ค่ะ”
เธอนึกแช่งชักเขาที่เข้ามาได้จังหวะพอดี เห็นเขาทำหน้าจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม เธอก็ยิ่งโมโห ยิ่งเห็นสายตาคู่คมเจ้าเล่ห์มองมาที่ถาดอาหารว่างเปล่า นัทมนก็ยิ่งรู้สึกเขินอาย
“มีอะไรหรือเปล่าคะ แล้วนี่คุณนั่งตรงไหน ฉันไม่เห็นคุณเลย”
“ผมไปดูหมาป่าน้อยมา”
“คุณเลี้ยงหมาป่าไว้หรือคะ แล้วคุณเอามันขึ้นเครื่องมาด้วยหรือคะ แสดงว่าต้องเอาไปบาห์เรนด้วยใช่ไหม”
“ใช่ ผมจะพาไปบาห์เรนด้วย”
นัทมนยิ้มอย่างสนใจ “ขอฉันดูเจ้าหมาป่าน้อยของคุณหน่อยได้ไหมคะ ฉันอยากเห็นว่ามันเป็นพันธุ์อะไร หมาป่าไม่ใช่สัตว์สงวนใช่ไหมคะ คุณถึงเอามันมาเลี้ยงได้”
“คุณดูเองดีกว่า อีกหน่อยคุณต้องเลี้ยงแทนผม”
“ห๊ะ! ไม่ได้นะคะ คุณทำผิดสัญญา คุณจ้างฉันมาเลี้ยงเด็ก ถ้าเพิ่มงานให้ฉันดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณด้วยฉันขอทบทวนเรื่องค่าจ้างใหม่”
คามินหัวเราะออกมาทันที “คุณนี่เป็นพี่เลี้ยงที่เขี้ยวที่สุด ตั้งแต่ผมรับมาทำงานด้วย”
นัทมนขมวดคิ้วไม่พอใจเขา แต่พอเห็นว่ามีร่างเล็กที่มีความสูงระดับเอวของคามิน เดินพ้นจากร่างใหญ่ออกมา เธอก็ร้องอ๋อเข้าใจในทันที
“ตกลงหมาป่าที่ว่า...”
“ใช่แล้ว จาคอป ลูกชายผมเอง เด็กที่คุณต้องดูแลให้ดีที่สุด” คามินตอบนัทมนที่เพิ่งเรียกสติตัวเองมาจากอาการเหวอ
“จาคอป คนนี้คือ มิสนัทมน คนที่แด๊ดเคยบอกว่าจะให้มาเป็นพี่เลี้ยงของลูก”
“ไฮ คนซวย”
นัทมนที่หน้าตายิ้มระรื่นเพราะเห็นว่าจาคอปดูเงียบๆ ไม่น่าจะมีพิษภัยเปลี่ยนเป็นยิ้มเจื่อน อืม...คามินคงสอนลูกชายเขา ให้ทักทายเธอเป็นภาษาไทย เธอก็พอเข้าใจเด็กฝรั่งคงลิ้นแข็ง พอให้หัดพูดภาษาไทย แม้จะเป็นคำพูดสั้นๆ แต่ก็ทำให้คนสวยกลายเป็นคนซวยไปได้
“ไม่ใช่คนซวยจ้า คนสวย พูดใหม่สิคะ”
นัทมนเห็นท่าทางเด็กน้อยที่มีนัยน์ตากลมโตสดใส ผมสีน้ำตาลอ่อน ดูน่ารักก็นึกเอ็นดู แต่พอจาคอปพูดอีกครั้ง นัทมนก็เริ่มรู้สึกว่า การรับงานครั้งนี้ จะพาเธอซวยจริง ๆ
“พี่ซวยมาก ๆ ”
“เอาล่ะจ้ะ ฉันเข้าใจ ภาษาไทยคงออกเสียงยากไปสำหรับคนที่ไม่เคยเรียนมาก่อน ฉันชื่อนัทมนนะ เรียกฉันว่าพี่นัทก็ได้”
“ครับ พี่นัท ผมอยากมีพี่เลี้ยงมาก ขอผมกอดหน่อยได้ไหมครับ”
นัทมนยิ้มหวาน เด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำ “ได้สิจ๊ะ”
คามินปล่อยมือลูกชาย จาคอปเดินเข้าไปหานัทมน ที่อ้าแขนรอรับเด็กน้อยเข้าไปกอด นัทมนมองเด็กน้อยด้วยแววตาเอ็นดูแกมสงสาร เด็กที่มีแต่พ่อไม่มีแม่ก็คงเหงา แต่แล้วเธอต้องหวีดเสียงขึ้นมาเบาๆ ด้วยความเจ็บ เมื่อสะโพกของเธอถูกมือเล็กๆ ขยุ้มเบาๆ
“โอ๊ย”
“เป็นอะไร นัทมน” คามินถาม
นัทมนมองหน้าเด็กน้อยที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ไม่มีอะไรค่ะ สงสัยถูกมดกัด”
คามินหรี่ตามองอย่างไม่เชื่อ “จาคอป ลูกรู้ใช่ไหมว่าเป็นเด็กดื้อ ไม่เชื่อฟัง จะถูกลงโทษยังไง”
“ผมทราบครับแด๊ด ผมรับปากแด๊ดแล้วว่าจะไม่ดื้อไม่ซน แต่ก้นพี่คนซวย นิ๊มนิ่ม”
“จาคอป ลูกทำอะไร” คามินไม่ได้ดุเสียงดัง แต่ก็รู้สึกผิดที่จาคอปทำแบบนี้ นัทมนจะว่าได้ว่าเขาไม่รู้จักสอนลูก
คามินอยากจะยกมือก่ายหน้าผาก เมื่อนึกขึ้นมาได้หรือเขาผิดเอง มันคงจะเกิดจากเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่วิคตอเรียแวะมาหาเขาที่บ้าน แล้วตามประสาคนเคยคบกันมาก่อน เธอทักทายเขาด้วยการล้วงเข้าไปในสาบเสื้อ แล้วเธอยังเล่นซนด้วยการดึงมือเขาให้ไปจับบั้นท้ายของเธอ คืนนั้นจาคอปตื่นลงมาเจอพอดี แล้วถามเขาว่ากำลังทำอะไรกัน เขาเลยตอบลูกชายแก้เก้อไปว่า กำลังทักทายกับวิคตอเรีย
“ห้ามดื้อ ห้ามซน ทำตามที่ตกลงกับแด๊ด ไม่อย่างนั้น แด๊ดจะส่งกลับอเมริกาทันที”
“ไม่เอาครับ ผมอยากอยู่กับแด๊ด”
จาคอปกลัวพ่อไม่รัก กลัวจะถูกทิ้งให้อยู่อเมริกาคนเดียว ตรงนี้นัทมนมองออก และไม่ชอบใจที่คามินขู่ลูกแบบนี้ ซึ่งมันจะกลายเป็นปมด้อยของเด็ก อีกทั้งกิริยาที่จาคอปทำต่อเธอเมื่อครู่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เด็กวัยนี้ควรจะทำ มันไม่น่ารักเลย นัทมนมองเห็นความไม่ถูกต้องบางอย่างระหว่างสองพ่อลูก จึงรีบแทรกขึ้น
“เดี๋ยวก่อนนะคะ ถ้าต่อไปฉันต้องดูแลจาคอปจริงๆ ล่ะก็ ฉันก็ควรจะมีสิทธิพูดอะไรได้บ้าง จริงไหมคะ”
คามินหรี่ตามองก่อนจะพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอคุยเป็นการส่วนตัวกับคุณสักครู่ได้ไหม”
คามินก้มมองลูกชายที่ทำหน้าเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ ก่อนจะเงยขึ้นมาตอบ
“ได้สิ ตามผมมา จาคอป ลูกนั่งดูการ์ตูนตรงนี้ไปก่อนนะ แด๊ดจะให้เดมอนมาอยู่เป็นเพื่อน” คามินเปิดช่องการ์ตูนในทีวีตรงช่องที่นั่งให้ลูกชายดู ส่วนเดมอนก็เดินมายืนข้างๆ หลังจากได้ยินที่คามินสั่ง