บทที่ 4

874 Words
"สั่งไวน์ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่จะไปไหน" ชายหนุ่มที่จับเธอนั่งลงเมื่อสักครู่ก็เลื่อนเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ ก่อนจะยืดแขนยาวพาดไปเก้าอี้อีกตัวที่เธอนั่งอยู่คล้ายท่าโอบ "นี่นาย!" "ครับ" "เราไม่เคยรู้จักกันอย่ามาทำตัวแบบนี้กับฉัน" "แน่ใจนะว่าเราไม่เคยรู้จักกัน.." จบประโยคคำพูดสายตาคมมองต่ำลงไปจนถึงตรงที่ผู้ชายชอบมองผู้หญิงกัน เพราะเขายังคงจำทุกส่วนในร่างกายของเธอได้ดี "ไอ้เลว" หญิงสาวกำลังจะลุกขึ้นอีกครั้ง แต่มือที่พาดเก้าอี้อยู่ด้านหลังก็โอบร่างเธอไว้จนลุกขึ้นไม่ได้ "แกไม่กลัวว่าฉันจะร้องให้คนช่วยหรือไง" "ก็ลองดูสิครับ" "แกทำงานที่นี่เหรอ" "อย่าบอกนะว่าไม่รู้.. อ๋อ หรือแค่ตั้งใจจะมาหาไอ้นั่น" เวทมนต์นึกได้แล้วงานแต่งสิงหาไม่ได้ไปด้วย เธอคงไม่รู้ว่าที่นี่เป็นของพ่อเลี้ยงภูตะวัน แต่สิ่งที่เขาข้องใจอยู่คือเธอกับสิงหาเป็นอะไรกัน "ไอ้ไหน?" มีนาใช้ความคิดครู่หนึ่ง แสดงว่ามันเห็นเธอตั้งแต่ตอนที่เข้าไปในห้องกับพี่ชายแล้ว "หมายถึงคุณสิงหาน่ะเหรอ นายคิดถูกแล้วล่ะ ถ้าฉันรู้ว่านายทำงานอยู่ที่นี่ ฉันคงชวนคุณสิงหาออกไปเจอข้างนอกแล้ว" "ไอ้สิงหามันเล็กกว่าฉัน​ เธอไม่ได้วัดขนาดเหรอ" "อะไรเล็ก?" หรือว่า.. ไอ้บ้าเอ้ยพูดออกมาได้หน้าตาเฉย "ใครบอก.." อยากจะเล่นแบบนี้กับเธอใช่ไหม..ได้! ดวงตางามมองต่ำลงไปดูจุดนั้นของผู้ชายเหมือนเยาะเย้ยพร้อมกับแสยะยิ้มเล็กน้อย จนคนที่นั่งอยู่ในท่าสบายรีบขยับขาหนีบเข้าหากันโดยอัตโนมัติ "ใหญ่กว่ามันแล้วกัน" ทีแรกว่าจะนั่งชิลด์ๆ รอให้ดึกกว่านี้ถึงจะกลับ แต่มาเจอแบบนี้เธอก็ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว "คุณๆ" "อะไร" "ดูตรงนั้น" มีนาชี้ไปด้านหลังของเขา..เวทมนต์หันมองตามนิ้วที่เธอชี้ไป ที่เขามองไปดูเพราะคิดว่าในร้านเกิดเรื่องอะไรขึ้น อึบ! "..........โอ๊ยย" จังหวะที่เวทมนต์หันไปมือเรียวก็ได้บีบเข้าให้ที่จุดอ่อนของผู้ชาย "ซี๊ดดด ฝะ ฝากไว้ก่อนเถอะ" เขาได้แต่มองตามเธอที่ตอนนี้วิ่งออกไปจากบาร์แล้ว "คุณเวทเป็นอะไรไหมคะ" อนงค์เป็นคนรับลูกค้าโต๊ะนี้รีบเข้ามาดูเมื่อเห็นลูกค้าวิ่งออกไป พอเข้ามาก็เห็นเวทมนต์กุมน้องชายอยู่ "ไม่มีอะไร" ขณะที่บอกว่าไม่มีอะไรต้องได้กัดฟันไว้จนกรามขึ้น "แต่ลูกค้ายังไม่ได้จ่ายเงินเลยนะคะ" "ลงบัญชีฉันไว้" "ค่ะ..ว่าแต่คุณเวทไม่เป็นอะไรแน่นะคะ" "ก็บอกว่าไม่เป็นอะไรไง มีอะไรทำก็ไปทำไป" เวทมนต์จะดันตัวลุกขึ้นแต่ก็ลุกยังไม่ได้เพราะมันจุก วันต่อมา..ที่บ้านของมีนา "นั่นแกจะไปไหน" "ไปเอารถที่จอดไว้ไงคะ" รถเธอยังคงจอดอยู่ที่ร้านอาหาร เพราะเมื่อคืนนั่งแท็กซี่กลับมาที่บ้านเลย ที่จริงถ้าจะไปเอารถก็ได้แต่เธอคิดว่าเอาไว้นั่นแหละจะได้หาเรื่องออกจากบ้านเพราะไม่อยากอยู่ฟังแม่พูด "เดี๋ยวค่อยออกไปพร้อมแม่" "มีนาจะนั่งแท็กซี่ไปค่ะ" "แม่ว่าจะชวนหนูไปทานข้าว" "ไปทานข้าวที่ไหนคะ ทานกับใครอีก" "อย่าใช้น้ำเสียงแบบนี้กับแม่" "หวังว่าคงไม่ใช่ตาแก่นั่นอีกนะคะแม่" "เสี่ยนพดลไม่เห็นแก่ตรงไหนเลย" "แบบนั้นแหละค่ะที่เขาเรียกว่าแก่" "หนูรู้ไหมว่าเสี่ยเขาร่ำรวยแค่ไหน" "แม่จะต้องการเงินเขาไปทำไมคะ เงินเราที่มีอยู่ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด" "ผิดแล้วล่ะ ถ้าเรามัวแต่ใช้เงินอยู่แบบนี้สักวันมันก็ต้องหมด" ตอนที่พ่อของเธอรู้ว่าป่วยด้วยโรคร้าย ท่านก็ขายกิจการที่ทำอยู่ เพราะลูกสาวคงบริหารงานต่อไม่ได้ รวมถึงเงินประกันชีวิตของท่านที่ทำไว้ก็เป็นวงเงินเยอะพอสมควร ที่จริงมีนาก็คุยกับพ่อเรื่องนี้ เธออยากจะบริหารงานต่อ แต่ท่านก็กลัวว่าเธอจะเสียรู้คนในวงการ ถ้าเธอเป็นผู้ชายท่านคงไม่เป็นห่วงขนาดนี้ พอพ่อเสียเธออยากทำร้านอาหาร แต่แม่ก็ไม่สนับสนุน คนทำอาหารไม่เป็นแบบลูกสาวจะเปิดร้านอาหารได้ยังไง เรื่องที่แม่สนับสนุนมีอยู่แค่อย่างเดียวคืออยากให้เธอได้ผัวรวย เพราะท่านก็เคยทำแบบนั้นสำเร็จมาแล้ว "กลับขึ้นไปแต่งตัวสวยๆ" "แม่!" "จะแม่อะไรล่ะ ไม่ใช่เสี่ยนพดลหรอกน่า" "ได้ค่ะ! ถ้างั้นแม่ไปรออยู่ที่รถก่อนเลย" "ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิลูกแม่ แต่งสวยๆ เลยนะลูกรัก" "ค่ะ..สวยแน่"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD