ในห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งของห้องทำงานบอส มุกดาเปิดก๊อกน้ำแรงๆ เพื่อชำระล้างเจ้าโลมาสีครามเข้มข้น เวลาถูกน้ำแล้วต้องแสงไฟ เจ้าโลมาก็ยิ่งส่องประกายงดงาม เธอขัดๆ ถูๆ ด้วยความประหม่า ทั้งโมโหตัวเองที่ไม่ทำลายหลักฐานให้ดี เธอน่าจะเช็ดมันสักนิด ก่อนเผ่นแน่บเมื่อคราวโน้น
ซ่า...ซ่า...
ขัดๆ ถูๆ ด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำยาล้างมือ อยากให้เจ้าโลมาสะอาดเอี่ยมละนะ รู้ตัวอีกทีเสื้อแสงตรงที่ติดกับขอบอ่างก็เปียกชุ่ม เชิ้ตสีขาวพอเปียกอย่างนี้ก็แทบจะเห็นผิวเนื้อข้างใน เธอส่ายหัวให้ความซกมกของตัวเอง ถอนหายใจเฮือกๆ แล้วออกจากห้องน้ำมา หวังว่าเธอจะไม่ถูกบอสเล่นงานอีกนะ หวังว่า...
บอสใหญ่นั่งทำงานไปเรื่อยๆ กระทั่งเลขาหน้ามนกลับเข้ามาอีกครั้ง หล่อนไปล้างทำความสะอาดเจ้าโลมามาจริงๆ รู้ได้จากชุดฟอร์มที่ชุ่มน้ำนั่น
“ขอโทษค่ะ คือ...มุกเปิดก๊อกแรงไปหน่อย ก็เลย...”
มุกดาทำหน้าเศร้า มือข้างหนึ่งถูเสื้อตรงพุงที่มันเปียกชื้น ส่วนอีกมือยื่นเจ้าโลมาน้อยคืนให้บอสใหญ่ เธอไม่กล้ามองหน้าเขามากนัก รู้สึกเกรงๆ บอกไม่ถูก
อธิปชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ตอนแรกว่าจะค่อยๆ ตะล่อมแม่แสนซื่อให้ยอมศิโรราบ แต่ตอนที่หล่อนขยับกาย แล้วเสื้อตัวในแนบไปกับผิวเนื้อ จนเห็นหน้าท้องขาวๆ เขาก็ทนไม่ไหว ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วละนะ
“พอดี...หรือเปล่า”
“คะ?”
“ก็...เจ้าโลมาของฉัน มัน...พอดีกับเธอหรือเปล่า” เขาเอ่ยปากถาม มือเริ่มลูบไล้เจ้าโลมา หากหล่อนไม่ใสซื่อเกินไป คงรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
พวงแก้มของมุกดาร้อนระอุ ทั้งอายทั้งกลัวว่าเขาจะไล่เธอออก ไม่สิ ไม่ๆๆ เธอเพิ่งทำงานวันแรก เขาคงไม่ไล่เธอออกตั้งแต่วันแรกหรอกน่า
“บะ...บอส บอสหมายถึงอะไรคะ มุกไม่เข้าใจ”
“แน่ใจนะว่าไม่เข้าใจ”
อธิปยิ้มเยาะหน่อยหนึ่ง ลุกจากเก้าอี้ไปเผชิญหน้ากับมุกดา เขานั่งอยู่ต่อหน้าหล่อนโดยวางบั้นท้ายหมิ่นๆ กับขอบของโต๊ะทำงาน ในขณะที่หล่อนเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสานสบสายตา
“ไม่เข้าใจจริงๆ ค่ะ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของอธิปส่งไปให้คนที่กำลังก้มหน้า หล่อนไม่ยอมรับสินะ เอาละ ความสนุกของเขาคงเริ่มต้น ณ บัดนี้
“โอเค...ไม่รู้ก็ไม่รู้ เอานี่ ฉันให้”
เขายื่นเจ้าโลมาที่ทับกระดาษให้มุกดา หล่อนเงยหน้าขึ้น กลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ
“ให้มุกหรือคะ”
“อือ...เผื่อว่า...ที่ทับกระดาษเธอหาย เจ้าโลมาของฉันคงช่วยแก้ขัดได้ จริงไหมล่ะ”
มุกดาไม่ตอบ มือสั่นๆ ยื่นไปหาเจ้าโลมาคริสตัล เหมือนบอสกำลังเย้ยหยันเธออยู่
“เอาละ ออกไปได้แล้ว อ้อ...อย่าลืมบอกพี่วราให้จองโต๊ะมื้อค่ำด้วย ร้านเดิม เธอก็ต้องไปด้วยนะ”
“อ่า...ค่ะๆ”
มุกดารับคำแล้วรีบกลับออกไป อธิปมองตามร่างหล่อน พุ่มทรวงอันอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดฟอร์ม บั้นท้ายงอนๆ กับต้นขาขาวๆ นั่น ถูกใจเขาชะมัด หล่อนไปอยู่ในมานะ ผู้หญิงที่ดูซื่อๆ แต่ซ่อนไฟเร่าร้อนไว้ในตัวนี่ช่างน่าเก็บเข้าคลังสมบัติเสียจริง ไม่ได้ละ คงต้องหาวิธีเคลมแม่เลขาหน้าซื่อเสียหน่อย แค่เคลมละนะ ไม่ใช่จริงจัง ผู้ชายอย่างเขาน่ะ อาจเป็นคู่นอนที่ดีได้ แต่เป็นคนรักดีๆ ไม่ได้หรอก เชื่อสิ!
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดอ้าตอนสี่ทุ่มพอดิบพอดี มุกดามึนหัวนิดๆ เธอมากินเลี้ยงลูกค้ากับบอสและพี่วรา แต่พี่วรามีธุระ ขอกลับก่อน เธอเลยต้องอยู่ทำหน้าที่แทน นอกจากต้องคอยดูแลคู่ค้าของบอสแล้ว เธอก็ต้องส่งบอสให้ถึงบ้านด้วย
และเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์ แขกที่ผับแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมหรู จึงมีมากกว่าปกติ ต่างคนก็ต่างมีดีกรีในเส้นเลือด เธอถูกดันเข้าไปในลิฟต์ เหมือนปลากระป๋องชิ้นเล็กๆ ที่กำลังจะเละเพราะถูกเบียด แล้วจังหวะหนึ่งนั้น บอสก็กางแขนกั้นเธอไว้ พุ่มทรวงอวบใหญ่จึงเบียดชิดอยู่กับตัวบอส ส่วนแผ่นหลังเธอติดผนังลิฟต์ตรงมุมพอดิบพอดี
“อา...แน่นเกินไปแล้วนะ”
อธิปทำเป็นส่ายหัวระอา แต่ขยับเข้าหาร่างของเลขาสาวอีกนิด ความจริงก็ไม่นิดละนะ มุกดาถอยหลังจนไม่มีพื้นที่จะถอยอีกแล้ว
ลิฟต์เลื่อนลงตามหน้าที่ของมัน เวลาที่มันเคลื่อนที่นั้น มุกดาจำต้องเกาะสาบเสื้อบอสไว้ เพราะแรงหน่วงทำเอาเธอมึนศีรษะ ต้องโทษแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไปละนะที่ทำให้เกิดอาการ
ผู้คนในลิฟต์กลุ่มใหญ่ที่คาดว่าจะมาด้วยกัน พากันเปิดปากจ้อเจรจาอย่างไม่เกรงใจ พวกเขาสนใจเพียงกันและกัน ไม่ได้ใส่ใจหนุ่มสาวที่ถูกดันติดมุมของลิฟต์แม้แต่น้อย