บทที่ 3

2650 Words
สัมภาระของคู่สามีภรรยาที่กำลังเดินทางข้ามเกาะเพื่อไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ฉลองความรักให้หวานฉ่ำ มีเพียงกระเป๋าเป้สะพายหลังคนละใบเท่านั้น “แบบนี้ก็คล่องตัวดีนะ” สิงหาสะพายเป้สีน้ำเงินของตนขึ้นหลังแล้วเอื้อมมือไปหยิบอีกใบที่วางอยู่บนเบาะหลังด้วยตั้งใจว่าจะเอามาสะพายไว้ข้างหน้า ทว่าก็ช้ากว่าเพียงรัมภาที่คว้ากระเป๋าเป้ใบนั้นไปซะก่อน “เดี๋ยวหนูสะพายเองค่าสามี ไม่ต้องช่วยหรอก” “หนักนะ เดี๋ยวพี่สะพายให้” เพราะที่จอดรถไกลจากท่าเทียบเรือพอสมควร และเวลานี้อากาศก็ค่อนข้างร้อน เขาจึงไม่อยากให้เพียงรัมภาสะพายกระเป๋าหนัก ด้วยกลัวว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะเป็นลมก่อนที่จะเดินถึงท่าเทียบเรือ เพียงรัมภาส่ายหน้ารัว “ก็พูดเองว่าหนัก แล้วอย่างนี้หนูจะให้พี่เสือแบกคนเดียวได้ยังไงเล่า ช่วยกันดีกว่า คนละไม้คนละมือ” “พี่เป็นผู้ชาย ยกดัมเบลหนักกว่านี้ก็ไหว แต่กระต่ายเป็นผู้หญิงตัวนิดเดียว จะแบกของหนักๆ ได้ยังไงกัน” นี่มันดูถูกกันนี่หว่า! เพียงรัมภาเท้าสะเอวมองสามี เจ้าหล่อนทำหน้ามู่ทู่ “พี่เสือรู้จักไอ้กระต่ายคนนี้น้อยไปซะแล้ว พี่รู้ไหมว่าหนูผ่านอะไรมาบ้าง หนูน่ะแบกเป้หนักๆ ขึ้นภูกระดึงก็เคยมาแล้ว อย่าว่าแต่แบกเป้ขึ้นภูกระดึงเลย ตอนเด็กๆ เคยแม้กระทั่งแบกกระสอบข้าวสารให้แม่นู่น” แบกกระสอบข้าวสาร? “จริงดิ” “ใช่แล้วค่า เพราะฉะนั้นกรุณาอย่ามองหนูเป็นผู้หญิงไร้เรี่ยวแรง อ่อนแอปวกเปียก เพราะหนูเป็นชะนีพลังเหลือล้น” “โอเคๆ พี่ก็ลืมไปว่ากระต่ายพึ่งเล่าให้ฟังว่าเดินห้างฯ ทั้งวันยังไง งั้นก็ไปกันเถอะ รีบไปขึ้นเรือ จะได้ถึงเกาะสีชังไวๆ” ระหว่างเดินทางจากบ้านมาที่ท่าเทียบเรือ เพียงรัมภาพูดเรื่องเกาะสีชังให้เขาฟังไม่หยุดปาก เธอบอกว่าเธอเคยเดินทางไปที่เกาะแห่งนี้แล้วครั้งหนึ่งเมื่อสี่ปีที่แล้ว ซึ่งเกาะเกาะนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่ที่เธอไปเคยไปเยือนแล้วอยากกลับไปอีก เพราะบนเกาะไม่วุ่นวาย ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย เธอบอกว่าการไปเที่ยวที่นี่ไม่เหมือนการไปเที่ยว แต่ให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดซึ่งห้อมล้อมไปด้วยญาติพี่น้องมากกว่า นั่นจึงทำให้คนที่ไม่ชอบเที่ยวอย่างเขารู้สึกสนใจเกาะสีชังขึ้นมา คราวนี้ใบหน้าจิ้มลิ้มเปลี่ยนจากบึ้งตึงเป็นยิ้มแป้นแล้น เพียงรัมภาสอดแขนตัวเองเข้าไปในช่องว่างระหว่างแขนล่ำกับลำตัวบึกบึนของสามี “ไปค่ะ รีบไปกัน ตอนเย็นๆ หนูจะพาพี่ไปตลาด ไปซื้อพวกปลาหมึกสด กุ้งสด แล้วก็ของกินเล็กๆ น้อยๆ มาทำปิ้งย่างกินกันที่ที่พัก” ทั้งคู่เดินเคียงกันไปตามเส้นทางที่ไปยังท่าเทียบเรือ พูดคุยสัพเพเหระไม่หยุดปาก ราวกับเป็นคู่รักที่อยู่ด้วยกันมานาน ผูกพันจนกลายเป็นเหมือนเพื่อนที่พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง และทุกเรื่องที่พูดคุยกัน ไม่มีสักประโยคที่ฟังแล้วรู้สึกเบื่อ แม้กระทั่งเรื่องราวธรรมดาที่หยิบยกขึ้นมา ก็ทำให้เป็นเรื่องน่าฟังได้ หากมันออกจากปากของเขาและเธอ ใช้เวลาเดินเรือประมาณสี่สิบห้านาที เรือข้ามฟากลำใหญ่ก็แล่นมาจอดที่ท่าเทียบเรือเกาะสีชัง ซึ่งก่อนที่เรือจะออกจากท่าเทียบเรือเกาะลอย เพียงรัมภาก็ได้ส่งข้อความแชตบอกกับคุณลุงเจ้าของที่พักเพื่อให้มารอรับเธอกับสิงหาที่ท่าเรือไปยังที่พักที่หญิงสาวจองไว้ “ใช่หนูเพียงรัมภาไหมครับ” เจ้าของรีสอร์ตวัยกลางคนเอ่ยถามนักท่องเที่ยวชายหญิงซึ่งมีลักษณะคล้ายกับที่เคยแจ้งไว้ในข้อความแชต “ใช่ค่า คุณลุงเจ้าของบ้านพักใช่ไหมคะ สวัสดีค่า” แม้จะมาเยือนในฐานะลูกค้า กระนั้นหญิงสาวก็ยกมือไหว้สวัสดีคุณลุงด้วยความนอบน้อมอย่างเด็กคนหนึ่งที่ให้ความเคารพกับผู้ใหญ่ ซึ่งสิงหาที่อายุน้อยกว่าเจ้าของรีสอร์ตก็ทำตามภรรยาเช่นกัน “สวัสดีคร้าบ” “สวัสดีครับ รถจอดอยู่ทางนู้น เชิญครับเชิญ” ลุงชาญเจ้าของรีสอร์ต มองตามชายหนุ่มหญิงสาวซึ่งเป็นลูกค้าของตนด้วยความรู้สึกชื่นชม ตั้งแต่ขั้นตอนการจองห้องพัก เพียงรัมภาลูกค้าสาว ทำตามทุกอย่างโดยไม่ขาดตกบกพร่อง แล้วก่อนเดินทางมาถึง เจ้าหล่อนก็ได้แจ้งกับเขาว่าเรือออกเวลาใด จะถึงประมาณเวลาใด เธอกับคนรักแต่งตัวเช่นไร มีลักษณะยังไง ทำให้ทุกอย่างง่ายไปหมด เขาไม่ต้องรอนาน พอทั้งคู่มาถึงไม่ต้องโทร. หรือเดินหากันให้วุ่นวาย ที่สำคัญคือทั้งคู่นอบน้อม มีมารยาท รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ กิริยามารยาทบ่งบอกชัดนักว่าได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี ลุงชาญรีบเดินไปขึ้นรถ นั่งประจำที่นั่งของตน นั่นคือที่นั่งคนขับ “พวกคุณจะแวะซื้อของก่อนไหม ลุงผ่านเซเว่นอยู่นะ” “คุณลุงคะ ที่พักของคุณลุงมีรถมอร์ไซค์ให้เช่าไหมคะ” “มีๆ ลุงให้ป้าเตรียมไว้ให้แล้ว” “งั้นเดียวพวกหนูแว้นมอร์ไซค์มาซื้อเองดีกว่าค่า หนูเกรงใจ” “งั้นลุงพากลับที่พักเลยนะ” “ค่า” ระยะทางจากท่าเทียบเรือเกาะสีชังมายังที่พักประมาณหนึ่งกิโลเมตร ซึ่งที่พักที่เพียงรัมภาทำการจองไว้เป็นที่พักสไตล์รีสอร์ต เป็นบ้านไม้ตั้งเป็นหลังๆ แต่ละหลังตั้งอยู่ห่างกันพอสมควร ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง อีกทั้งบ้านพักก็มีทั้งหมดแค่ห้าหลังเท่านั้น จึงเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย “พี่เสือโอเคกับที่พักไหม ถ้าไม่โอเค เปลี่ยนไปนอนโรงแรมได้นะ” ใช่ว่าก่อนจะทำการจองเธอไม่ได้คิด แต่คิดแล้วคิดอีก อันที่จริงบนเกาะแห่งนี้ก็มีโรงแรมหรูๆ อยู่หลายแห่ง แต่ที่เธอไม่พาสิงหาไปพัก เพราะอยากให้เขาได้ลองสัมผัสความธรรมดาเช่นนี้บ้าง แต่ความธรรมดาที่เธอเลือกให้เขานั้น เธอคัดสรรมาอย่างดี ที่พักแห่งนี้เธอเคยมาพักแล้วครั้งหนึ่ง รู้สึกประทับใจกับบรรยากาศ เจ้าของสถานที่ และความสะอาดที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าคนดูแลสถานที่แห่งนี้ใส่ใจในรายละเอียดแค่ไหน เธอจึงอยากพาสิงหามา “ทำไมจะไม่โอเคล่ะ ที่นี่น่าพักดีออก ร่มรื่น ไม่วุ่นวาย แบบนี้แหละพี่ชอบ” นี่แหละสิงหา ผู้ชายบ้านๆ ของเธอ บ้านๆ แบบบ้านรวยแต่ทำตัวติดดิน อยู่ง่าย กินง่าย ไม่เรื่องเยอะ ทุกอย่างที่เป็นเขานั้นดีเหลือเกิน เสียอย่างเดียว คือเขาไม่ใช่คนรักของเธอจริงๆ แต่อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต เธอก็เคยพิชิตผู้ชายที่เป็นแรร์ไอเท็มล่ะวะ “น่ารักที่สุด งั้นเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ” “ไปสิ” สิงหาเดินนำหน้าเธอเข้าไปในบ้านพัก เธอมองตามแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มพลางแอบคิดว่า ใครกันนะจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นที่ได้หัวใจสิงหาไปครอบครอง แต่ก็คงไม่ใช่เธอแน่นอน เพราะเราสองคนจะไม่มีวันตกหลุมรักกันและกันเด็ดขาด เพราะรู้ไส้รู้พุงกันขนาดนี้ คงไม่มีทางหันมากินกันเองหรอก “เหม่ออะไรของเธอ” เขาเอ่ยถามเมื่อเห็นใบหน้าเพียงรัมภาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จากเศร้าเป็นยิ้ม จากยิ้มเป็นเศร้า เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้งจนเขาต้องถามออกไป “หรือว่าเมนส์มาเหรอ อารมณ์ถึงได้สวิงแบบนี้” “อารมณ์สวิง? ตรงไหน หนูก็ว่าหนูปกติดีอยู่นะพี่เสือ” “ก็เมื่อกี้พี่เห็นเธอเดียวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็ทำหน้าเหมือนคนพึ่งอกหักมา เลยนึกว่าเป็นเมนส์” เพียงรัมภาชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “หนูเนี่ยนะเหมือนคนอกหัก เฮอะ! ตอนนี้ไม่มีแฟนค่ะ และคงไม่ได้เฉียดกายไปใกล้ผู้ชายคนไหนอีกเป็นปีๆ จนกว่าจะหย่ากับพี่นู่นแหละถึงจะได้กลับไปเป็นกระต่ายคนที่รักๆ เลิกๆ กับผู้ชายเป็นว่าเล่นคนเดิม” “ถ้าไม่อยากอกหักบ่อยๆ ก่อนคบกับใครก็ต้องคิดดีๆ สิ ดูกันนานๆ แล้วค่อยคบ” เขาพูดกับเพียงรัมภาในฐานะพี่ชายที่หวังดี แม้จะมีไหล่กว้างๆ ไว้พร้อมให้เธอซับน้ำตา แต่เขาก็ไม่อยากเห็นเธอเสียใจบ่อยๆ หรอกนะ ไม่สิ! ไม่อยากเห็นเธอเสียใจเลยด้วยซ้ำ “ถ้ายังไม่เจอคนที่ใช่ก็ไม่ต้องรีบร้อน” “ไม่รีบร้อนแบบพี่น่ะเหรอ พอไม่มีผู้หญิงให้แต่งงานด้วยก็เลยมาคว้าเอาหนูทำเมีย หนูเลยกลายเป็นหนูตัวน้อยๆ ตกถังข้าวสาร อยู่ๆ ก็ได้เป็นเมียเศรษฐีเฉยเลย” “งั้นสนใจจะเป็นเมียพี่ไปนานๆ ไหมล่ะ” เขาเย้าเพียงรัมภาเล่น แต่อีกใจก็อยากรู้จริงๆ ว่าเธอแอบคิดอยากจะเป็นเมียเขาไปนานๆ บ้างหรือเปล่า “ได้เหรอ งั้นก็ดีดิ งั้นหนูวางแผนลาออกมาเกาะพี่กินไปตลอดชีพเลยนะ” สามีของเพียงรัมภาหรี่ตามองหญิงสาว “อย่าพูดเป็นเล่นไป ถ้าพี่เกิดเอาจริงขึ้นมา เธอจะหนาว” “ฮึ! พี่นั่นแหละจะหนาวถ้าได้หนูเป็นเมียจริงๆ หรือว่าอยากหนาวไหมล่ะ เดี๋ยวหนูจัดให้” ที่เธอพูดเล่นเช่นนี้กับสิงหาได้โดยไม่กระดากปาก เพราะเราสองคนสนิทกันมาก มากซะจนไม่อาจจะก้าวข้ามความสัมพันธ์พี่น้องโซนไปเป็นคนรักได้ “อย่าไปพูดแบบนี้กับผู้ชายคนไหนเชียวนะ มันไม่ดี เราเป็นผู้หญิง” หากรู้ว่าเพียงรัมภาพูดเช่นนี้กับผู้ชายคนอื่น เขาจะหยิกเนื้อเจ้าหล่อนให้เขียวเลยคอยดู เพียงรัมภาย่นจมูกเมื่อถูกดุเข้าให้ แต่พอหันไปมองหน้าสิงหาแล้วเจ้าหล่อนถึงกับยิ้มออกมา เพราะยามนี้เขาทำหน้าราวกับตาแก่ที่ลูกหลานทำตัวไม่น่ารัก “พูดกับพี่เสือคนเดียวนี่แหละ จะไปพูดกับคนอื่นได้ไง ไม่ได้สนิทกับใครเหมือนสนิทกับพี่เสือซะหน่อย” ไม่ได้สนิทกับใครเหมือนสนิทกับพี่เสือซะหน่อย.. สิงหาหัวเราะฮึออกมาเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่จากปากภรรยาตัวเอง จริงอยู่ที่ว่าเขาเป็นผู้บริหาร ทำงานอยู่ชั้นยี่สิบเก้า ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของตึก ส่วนเพียงรัมภา ทำงานอยู่ที่ชั้นสอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ไม่เห็นว่าเจ้าหล่อนควงหนุ่มๆ พนักงานออฟฟิศไม่ซ้ำหน้า ทั้งแผนกไอที แผนกวิศวกร ฝ่ายกฎหมาย หนุ่มนักบัญชี และอีกหลายต่อหลายคนที่เธอลิสต์รายชื่อลงในบัญชี ‘คนคุย’ “แต่พี่เห็นเธอควงหนุ่มไม่ซ้ำหน้าเลยนะ” “ก็ตอนนั้นหนูโสดไหม แล้วอีกอย่างหนูไม่ได้ควงซะหน่อย แค่มีคนมาคุยด้วย หนูก็ตอบไปตามมารยาท” “ต้องตอบทุกคนเลยเหรอ พี่ว่าตอบบ้างไม่ตอบบ้างก็ได้มั้ง” เพียงรัมภาเป็นสาวเจ้าเสน่ห์มาแต่ไหนแต่ไร อันที่จริงเรื่องที่ว่าเจ้าหล่อนจะคุยๆ กับผู้ชายคนไหน มันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาหรอก แต่เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด “ถ้าตอบบ้างไม่ตอบบ้าง หนุ่มๆ ในสต๊อกของหนูก็น้อยใจแย่อ้ะดิ” อันที่จริงเธอก็ไม่ได้คุยกับใครเป็นตัวเป็นตนจริงๆ จังๆ แชตก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างตามอารมณ์ซะมากกว่า บางแชตดองเค็มอยู่นานเป็นปีๆ รู้ตัวอีกทีว่ายังไม่ได้ตอบก็ตอนที่เจ้าของแชตนั้นทักมาสวัสดีปีใหม่นู่น สิงหาเบะปาก “ครับ คุณคนสวย คุณสาวฮอต” “แน่นอนอยู่แล้ว” “จะไม่ถ่อมตัวสักนิดเลยเหรอ” “โน! ไม่ค่ะ หนูสวย หนูฮอต ทุกอย่างที่พี่พูดมา เป็นความจริงทุกประการ แล้วทำไมหนูต้องถ่อมตัวด้วยล่ะคะคุณสามี” เธอพูดพลางชม้อยชม้ายชายตามองสิงหา ส่งสายตาโปรยเสน่ห์ใส่เขา ทว่าชายหนุ่มกลับนิ่ง ไม่แสดงอาการเคอะเขินใดๆ ออกมา มีเพียงสายตาเอือมระอาเท่านั้นที่เธอได้รับ “ชิ! อย่ามาหลงเสน่ห์น้องกระต่ายคนนี้ก็แล้วกัน” ไม่เข้าใจเลยว่าสิงหาเป็นผู้ชายประเภทไหนกัน ใช่ว่าชีวิตชายหนุ่มจะมีแค่เธอ แต่เขามีสาวๆ สวยๆ รายล้อมมากมาย ทว่ากลับไม่สนใจที่จะคว้าใครมาอิงแอบแนบกาย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอักษราถึงพยายามจับคู่ให้หลายชาย สามีแรร์ไอเท็มของเพียงรัมภาเพียงแค่ส่งเสียงฮึออกมาสั้นๆ และมองหญิงสาวด้วยสายตาขบขัน ซึ่งมันทำให้เจ้าหล่อนรู้สึกสูญเสียความมั่นหน้ามั่นโหนกที่เคยมี “หัวเราะไปเหอะ คอยดูนะ พี่หลงเสน่ห์หนูขึ้นมาวันไหน แม่จะเล่นตัวให้เยอะๆ เลยคอยดู!” “ไม่มีวันซะหรอก อย่างเธอไม่ใช่สเปคพี่” “อ้อ! ลืมไปว่าพี่ชอบผู้หญิงเรียบร้อย พูดน้อย เป็นกุลสตรีไทย” ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่ตรงกันข้ามกับนิสัยเธอราวฟ้ากับเหว แต่แล้วไง บางทีสเปคเป็นอีกแบบ แต่เขาอาจจะแพ้ทางผู้หญิงอีกแบบก็ได้ ซึ่งเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายที่เดาทางยาก อารมณ์นิ่งประดุจน้ำในบ่อ ไม่ไหวหวั่นต่อสิ่งเร้าใดๆ จะพ่ายแพ้ให้แก่เธอหรือเปล่า “แล้วถ้าเกิดหนูอ่อยพี่ พี่คิดว่าพี่จะไม่หวั่นไหวกับหนูจริงๆ เหรอ” “ใครจะไปตอบได้ ต้องลองให้เธออ่อยพี่ก่อน พี่ถึงจะรู้ว่าจะหวั่นไหวหรือเปล่า” เขาชำเลืองมองเพียงรัมภา ริมฝีปากบางหยักยกขึ้นเล็กน้อย “แต่พี่ว่าคงไม่หรอก พี่ไม่ชอบผู้หญิงพูดมาก” “พี่เสือ!” สิงหาหัวเราะเสียงดังลั่นเมื่อเห็นเพียงรัมภาหน้าง้ำหน้างอ เจ้าหล่อนจะรู้ตัวไหมนะว่าเวลาที่เธอเป็นเช่นนี้แล้วมันน่ารักจนทำให้เขาอยากแกล้งบ่อยๆ “คอยดูนะ พี่หลงเสน่ห์น้องกระต่ายน้อยคนนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ แม่จะหยิ่งใส่เลยคอยดู” เธอย่นจมูกใส่สิงหาก่อนจะเลิกสนใจเขาแล้วกลับมาแต่งหน้าทาปากต่อ ใบหน้ามู่ทู่ของคนน่ารักทำให้เขาทั้งยิ้มและหัวเราะขำขัน นัยน์ตาสีดำขลับทอประกายวาววับฉายชัดว่าเจ้าของมันกำลังมีความสุขแค่ไหน “คนอย่างพี่ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งเร้าง่ายๆ หรอกเว้ย” “ฮึๆ แต่ถ้าสิ่งเร้าสวยๆ อึ๋มๆ อย่างหนูก็ไม่แน่นะ” เธอปรายตามองสิงหาทั้งยังยกยิ้มทำหน้าเหมือนนางร้ายในละครหลังข่าวที่กำลังวางแผนชั่วเพื่อจะงาบพระเอก แต่จริงๆ ไม่ได้คิดอะไร แค่พูดเล่นกับผู้ชายที่ตัวเองสนิทและไว้ใจเท่านั้น แต่เพียงรัมภาคงลืมไปว่าผู้ชายยังไงก็เป็นผู้ชาย ยิ่งผู้ชายอย่างสิงหาที่ถึงแม้จะไม่เคยคบใครเป็นตัวเป็นตน แต่ตอนที่เขาโสด เขาก็ได้ชื่อว่าเป็น ‘เสือซุ่มเงียบ’ ที่มีผู้หญิงให้กินไม่เคยขาด และผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่ได้ได้มาเพราะใช้เงินแลก แต่เขา.. ‘ออกล่า’ ด้วยตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD