สเปน
เฮ็นดริกซ์พาซีเก็ตส์มาทานอาหารด้านหลังสวนหลังบ้าน โดยที่รอบๆบริเวณสวนด้านหลังเขาได้สั่งลูกน้องจัดทำให้โรแมนติกที่สุด ทุกมุมของสวนหลังบ้านได้มีเทียนจุดสว่างไสว เฮ็นดริกซ์ปลายตามองคนตัวเล็กนิ่งๆ พลางยิ้มอบอุ่นผุดขึ้นที่มองปาก ซีเก็ตส์มองรอบๆสวนหลังบ้าน พลางยิ้มหวานหัวใจดวงน้อยมันพองโตมากๆ เพราะนี้คือครั้งหนึ่งและครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้รับแบบนี้
" สวยจังเลยค่ะพี่เฮ็น " ซีเก็ตส์เงยหน้าขึ้นมามองหน้าคนตัวโต เฮ็นดริกซ์มองดูรอบๆในบรรยากาศใต้เสียงเทียน แต่ไม่ได้หันมามองหน้าคนตัวเล็ก
" พี่อยากให้เป็นความทรงจำดีๆสำหรับพี่และที่รักของพี่ครับ " เฮ็นดริกซ์พูดออกมาเสียงอ่อนโยน พลางปลายตามองคนตัวเล็กที่มองหน้าของเขาอยู่ ซีเก็ตส์ยิ้มหวานให้คนตัวโตไม่หุบเลย
" พี่เฮ็นอย่าพูดแบบนั้นสิค่ะ ซีจะเป็นที่รักของพี่จนกว่าพี่จะเลิกชอบซีค่ะ " ซีเก็ตส์พูดออกมาเสียงแผ่วเบาในใจก็รู้สึกเจ็บไม่ใช่น้อยกับคำพูดของคนตัวโตตรงหน้า เฮ็นดริกซ์ยิ้นเอ็นดูคนตัวเล็กพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อย
" หึหึ เราไปทานอาหารกันดีกว่าครับ " เฮ็นดริกซ์หัวเราะในลำคอ พลางเอ่ยชวนคนตัวเล็กพูดเรื่องอื่น มือใหญ่จูงมือเล็กเดินตรงไปที่โต๊ะอาหารที่มีอาหารที่คนตัวเล็กชอบนั้นคือชาบู ซีเก็ตส์มองบนโต๊ะแล้วยิ้มหวานให้คนตัวโต กลิ่นหอมๆของน้ำชูบลอยเข้ามาจมูกเล็ก เนื้อเยอะแยะเต็มโต๊ะ ผักมากมาย เห็ดและเครื่องอีกมากมาย เฮ็นดริกซ์ปลายตามองคนตัวเล็กพลางยิ้มไม่หุบเพราะเขารู้ว่าเธอชอบอาหารตรงหน้ามากแค่ไหน ซีเก็ตส์อดขำไม่ได้ เพราะไอ้ชุดที่เธอและเขาสวมใส่มาดินเนอร์ช่างดูไม่เข้ากันกับอาหารบนโต๊ะจริงๆ
" น่าทานจังเลยค่ะ พี่เฮ็นน่ารักที่สุดเลยค่ะ " ซีเก็ตส์พูดออกมาเสียงหวาน เฮ็นดริกซ์ปล่อยมือออกจากมือเล็กพลางเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้คนตัวเล็ก ซีเก็ตส์มองหน้าคนตัวโตพลางเดินไปนั่งบนเก้าอี้
" พี่จะน่ารักกับคนที่พี่รักเท่านั้นแหละครับ หึหึ" เฮ็นดริกซ์ก้มลงกระซิบบอกคนตัวโตเสียงแผ่วเบา ซีเก็ตส์หันมามองหน้าคนตัวโตพลางยิ้มหวานให้ หัวใจทั้งสองดวงเต้นแรงโครมคราม แต่เป็นเฮ็นดริกซ์ที่ต้องตัดใจเอ่ยพูดชวนคนตัวเล็ก
" หึหึ เราทานกันดีกว่าครับ " เฮ็นดริกซ์หัวเราะในลำคอพลางเอ่ยชวนคนตัวเล็ก ซีเก็ตส์พยักหน้ารับเล็กน้อย เฮ็นดริกซ์ดันตัวยืนเต็มความสูงพลางแอบเป่าลมออกจากปาก และเดินไปที่เก้าอี้ตรงกันข้ามคนตัวเล็ก ทั้งสองคนเริ่มช่วยกันจัดการย่างอาหารทันที พร้อมกับตักอาหารและคีบอาหารให้กันอย่างมีความสุข จนลืมเรื่องในประเทศไทยไปเลย
เช้าวันใหม่
ครืดๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ของซีเก็ตส์ดังขึ้น มือเล็กพยายามยื่นไปหยิบมารีบ
" อื้มๆๆ" ซีเก็ตส์ครางเสียงงัวเงียตอบกลับไปทันที
" น้องอยู่ไหนเนี่ย" เสียงปลายสายบ่งบอกว่าเป็นเสียงใคร ซีเก็ตส์เบิกตากว้างๆ พลางดึงโทรศัพท์ออกมามองดูหน้าจอ
' พี่เนอร์ ' ซีเก็ตส์เรียกชื่อพี่ชายคนโตเสียงแผ่วเบา พลางดันตัวขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงทันที
" น้องอยู่บ้านค่ะ" ซีเก็ตส์ตอบพี่ชาย
" แน่ใจน่ะ?" เก็ตส์เนอร์ถามน้องสาวเสียงเข้ม ซีเก็ตส์อ้าปากหวอ หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้น
" พะ..พี่เนอร์ พี่อยู่ไหนคะ?" ซีเก็ตส์เรียกชื่อพี่ชายเสียงสั่นเทาพลางกลั้นใจถามพี่ชายด้วยความอยากรู้ เพราะเธอกำลังเดาว่าพี่ชายของเธอต้องอยู่ที่ที่เธอคิดเอาไว้แน่ๆเลย
" หึหึ น้องสาวพี่ถึงกับเสียงสั่นเลย " เก็ตส์เนอร์หัวเราะในลำคอเอ็นดูน้องสาว พลางพูดเอ่ยแซวน้องสาวด้วยความเอ็นดู เพราะเขาสัมผัสได้ว่าน้องสาวกำลังกลัวโดนดุ
" น้องจะให้พี่ไปหาหรือว่าจะมาหาพี่ล่ะ " เก็ตส์เนอร์ถามน้องสาวที่ยังเงียบไม่ตอบอะไรหรือพูดอะไรเลย ซีเก็ตส์กัดริมฝีปากล่างแน่นๆ พลางสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ
" น้องไปหาพี่ดีกว่าค่ะ" ซีเก็ตส์ตอบพี่ชายเสียงแผ่วเบา พลางดันก้าวลงจากเตียงนอนทันที
" หึหึ น้องสาวของพี่ กลัวพี่เห็นหน้าแฟนเหรอไง " เก็ตส์เนอร์หัวเราะในลำคอพลางเอ่ยปากแซวน้องสาวไม่หยุด ซีเก็ตส์ปลายตามองโทรศัพท์พลางกัดริมฝีปากแน่นๆ หน้าแดงเขินอาย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงโครมคราม
" พี่เนอร์หยุดแซวซีนะคะ " ซีเก็ตส์ พูดออกมาเสียงดุๆ ใส่พี่ชายเพื่อให้พี่ชายเลยแซว
" หึหึ ครับๆน้องรัก" เก็ตส์เนอร์หัวเราะในลำคอชอบใจพลางเอ่ยออกมารับปากแบบส่งๆ
รถสปอร์ตของเฮ็นดริกซ์มาจอดที่หน้าบ้านหลังเล็กของซีเก็ตส์ที่แด๊ดแกรได้ซื้อไว้ให้เธอตอนเธอมาทำงานที่นี่
" พี่รักของพี่เป็นอะไรครับ ตื่นเต้นเหรอครับ" เฮ็นดริกซ์ถามซีเก็ตส์ด้วยความสงสัย เพราะเมื่อเช้าซีเก็ตส์รีบวิ่งลงมาด้านล่าง เจอเขาพอดี เขาเลยของตามมาด้วยถึงแม้ว่าคนตัวเล็กจะเอ่ยปฏิเสธ แต่เขาก็ดื้อท่าเดียวจนซีเก็ตส์เลยต้องยอมให้ตามมาด้วย
ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะกระจกรถด้านของซีเก็ตส์มาจากด้านนอก ซีเก็ตส์กัดริมฝีปากล่างแน่นๆ พลางถอนหายใจแรงๆ
" พี่จะอยู่ข้างๆที่รักของพี่เองครับ " เฮ็นดริกซ์บอกคนตัวเล็กที่ยังเงียบ มือใหญ่ยื่นไปจับมือเล็กที่เย็นเฉียบ เพื่อปลอบใจ ซีเก็ตส์สูดหายใจเข้ามปอดลึกๆ พลางพยักหน้ารับเล็กน้อย
" เราไปกันเถอะนะครับ พี่ของที่รักรอนานแล้วนะ หึหึ" เฮ็นดริกซ์เอ่ยชวนคนตัวเล็กที่ทำหน้าไม่ถูกอยู่ แต่เธอก็ยอมหันหน้าไปเปิดประตูรถลงไป
" ไงครับ น้องสาวพี่ " เก็ตส์เนอร์เอ่ยทักทายน้องสาวทันที หลังจากที่ร่างเล็กออกมาด้านนอก ซีเก็ตส์หันหน้ามามองหน้าพี่ชายพลางยิ้มเจื่อนๆ เก็ตส์เนอร์อ้าแขนออกกว้างๆเพื่อรับน้องสาวเข้ามาสู้อ้อมกอด ซีเก็ตส์เดินเข้าไปหาอ้อมกอดพี่ชายทันที เก็ตส์เนอร์กอดน้องสาวฝาแฝดหลวมๆพลางหันไปมองหน้าเฮ็นดริกซ์ ทั้งสองหนุ่มยิ้มให้กันเล็กน้อย
" พี่เนอร์ " ซีเก็ตส์เรียกชื่อพี่ชายเสียงเบาๆ เก็ตส์เนอร์ก้มลงมองน้องสาวที่ซบอกแกร่งอยู่ พลางยิ้มเอ็นดู ซีเก็ตส์เงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่ชายพลางทำจมูกหย่นใส่
" เข้าบ้านกันเถอะ " เก็ตส์เนอร์เอ่ยชวนน้องสาว และหันไปมองหน้าเฮ็นดริกซ์เพื่อนเป็นการเอ่ยชวน เฮ็นดริกซ์พยักหน้ารับ ทั้งสามคนเดินเข้าไปในบ้านทันที
ในห้องรับแขก
" ห่ะ! อะไรนะคะ " ซีเก็ตส์ร้องออกมาเสียงหลง เพราะคำพูดของพี่ชายที่พูดว่าจะมาดูการแข่งขันมอเตอร์ไซค์วิบากที่สนามแข่งขันของเฮ็นดริกซ์ เก็ตส์เนอร์มองหน้าเฮ็นดริกซ์พลางยิ้มที่มุมปากให้เล็กน้อย
" คุณเฮ็นดริกซ์ไม่รังเกียจใช่ไหมครับ ถ้าผมจะเข้าไปชมการแข่งขันครั้งนี้ " เก็ตส์เนอร์หันไปถามเจ้าของสนามแข่งขัน เฮ็นดริกซ์ปลายตามองหน้าซีเก็ตส์พลางยิ้มให้เล็กน้อย
" ครับ ผมยินดีครับ " เฮ็นดริกซ์ตอบสั้นๆ เพื่อเป็นการแสดงความเป็นมิตรและเจ้าภาพที่ดี เก็ตส์เนอร์ยิ้มที่มุมปากพลางปลายตามองน้องสาวที่ก้มหน้ามองตักเล็กของตัวเองอยู่ มือใหญ่ยื่นไปจับมือเล็กของน้องสาว
" ไม่ต้องเสียใจหรอก พี่จะพาน้องเข้าไปดูด้วยคราวนี้ เพราะแด๊ดอนุญาตแล้ว" เก็ตส์เนอร์บอกน้องสาวเสียงอ่อนโยน ซีเก็ตส์เงยหน้าขึ้นมามองหน้าพี่ชายพลางยิ้มที่มุมปาก
" พี่เฮ็นดริกซ์ค่ะ แข่งวันไหนเหรอคะ" ซีเก็ตส์แกล้งถามเฮ็นดริกซ์ทั้งๆเธอก็รู้อยู่แล้ว เฮ็นดริกซ์ถึงกับกลั้นขำพลางส่ายหน้าแววตาเอ็นดูคนถาม ซีเก็ตส์กัดริมฝีปากล่างแน่นๆ
" อีกสองวันครับ" เฮ็นดริกซ์ตอบคำถามคนตัวเล็ก เก็ตส์เนอร์มองหน้าน้องสาวพลางขมวดคิ้วเข้าหากัน
" อุ๊ย! ซีเสียดายจังเลยค่ะพี่เนอร์ แต่พอดีซีมีประชุมกับพนักงานในร้านทั้งวันเลยค่ะ" ซีเก็ตส์อุทานออกมาด้วยความตกใจและทำหน้าเสียดายมากๆ ปากเล็กพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้า เก็ตส์เนอร์ดึงน้องสาวเข้ามาในอ้อมกอด
" งั้นน้องค่อยไปดูสนามแข่งของเราแล้วกันนะครับ " เก็ตส์เนอร์บอกน้องสาวด้วยความเห็นอกเห็นใจ เพราะเขาเข้าใจความรู้สึกน้องสาวดีว่ามันน่าเสียดายมากแค่ไหนที่พลาดโอกาสนี้ไป เพราะตั้งแต่เล็กจนโตกีฬาที่แด๊ดและมัมห้ามนักห้ามหนาคือมอเตอร์ไซค์วิบาก ซีเก็ตส์ฟังเรื่องราวของแด๊ดเล่าให้ฟังว่าครั้งหนึ่งแด๊ดคือนักแข่งและนายแบบของสนามแข่งคนแรกของสนามของแด๊ดเลย
" หึหึ พี่เสียใจด้วยนะครับน้องซี เพราะวันนั้นมีขวัญใจระดับที่แฟนๆข้างสนามเข้ามาเชียร์เขาโดยเฉพาะเลยด้วยนะครับ" เฮ็นดริกซ์หัวเราะเอ็นดูซีเก็ตส์ พลางพูดออกมาเพื่อให้ซีเก็ตส์ได้รับรู้ว่าในสนามทุกคนรอค่อยนักแข่งคนไหน ซึ่งก็ไม่ต่างจากเก็ตส์เนอร์เช่นกัน
" ใครเหรอคะพี่เฮ็นดริกซ์ " ซีเก็ตส์ถามด้วยความอยากรู้ แววตาเป็นประกายแวววาบ เก็ตส์เนอร์ก้มมองน้องสาวพลางส่ายหน้า เพราะโลกของนักแข่งน้องสาวไม่รู้จักใครเลย นอกจากคนในครอบครัวเท่านั้น แต่เรื่องออกแบบและดีไซเนอร์คนไหนเก่งๆน้องสาวรู้หมด
" ' ไอ้แบทแมนครับ ' ทุกคนเข้ามาให้กำลังใจไอ้แบทแมนครับ " เฮ็นดริกซ์มองหน้าซีเก็ตส์พลางพูดออกมาน้ำเสียงที่ภูมิใจมากๆ ซีเก็ตส์ถึงกับอึ้งและสตั้นไปเล็กน้อย
" หึหึ น้องสาวของผมคงไม่รู้จักหรอกครับ เพราะแด๊ดกับมัมห้ามให้น้องสาวของผมเข้าใกล้กีฬาพวกนี้ครับ เพราะมันอันตรายและไม่เหมาะกับผู้หญิงครับ" เก็ตส์เนอร์หันไปพูดกับเฮ็นดริกซ์ ซีเก็ตส์กัดริมฝีปากล่างแน่นๆ พลางทำหน้าเศร้า
" ไม่เอาไม่เศร้านะครับ เดี๋ยวเราค่อยหาโอกลาสใหม่กันนะครับที่รักของพี่ " เฮ็นดริกซ์พูดออกมาปลอบใจคนตัวเล็กที่ยังกอดพี่ชายอยู่ เก็ตส์เนอร์มองหน้าเฮ็นดริกซ์พลางก้มลงมองหน้าซีเก็ตส์กับสรรพนามคนเฮ็นดริกซ์ ทั้งสามคนเริ่มพูดคุยเรื่องการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นอีกสองวันหน้าหน้านาน จนทั้งสามคนทานอาหารเที่ยงด้วยกันจนอิ่ม และได้แยกย้ายกันกลับย้านโดยเฮ็นดริกซ์กลับบ้านคนเดียว ด้วยใบหน้าหล่อที่เศร้าสลด แต่ก็ทำใจได้ที่ต้องห่างคนตัวเล็ก
ประเทศไทย
คริสเตียนตรวจดูอาการคนไข้ที่เขาได้ช่วยชีวิตเอาไว้ เขายังไม่สามารถรู้ว่าคนป่วยคนนี้เป็นใคร ชื่ออะไร มาจากไหน ทำไมถึงโดนลอบทำร้าย เพราะคนไข้ยังไม่ได้รู้สึกตัว และคริสเตียนได้ให้คนไข้อยู่ในห้องพักที่ปลอดภัยที่สุด ไม่มีใครสามารถเข้าออกได้ นอกจากคนสนิทกันอย่างเถื่อน ซีคริส แด๊ดเว และเขาเท่านั้น ส่วนพยาบาลเขาก็หาคนที่สามารถเชื่อใจได้ คริสเตียนนั่งอยู่ในห้องทำงานเงียบ พลางคิดแค้นใจที่ซีเก็ตส์ที่อยู่สเปนตลอดเวลา
" จองตั๋วเครื่องบินให้กูเรียบร้อยแล้วใช้ไหมไอ้เจ็ตส์" คริสเตียนถามเจ็ตส์เสียงเรียบ ในใจเดือดดาลแทบระเบิด รพ. เป็นจุน เพราะตั้งแต่ที่เขาให้เจ็ตส์ไปสืบมาให้ เขาได้ทราบว่า ซีเก็ตส์ไปสเปนจริงๆ ไปเคลียร์งานที่นั้น แต่ที่เขาแค้นมากๆ คือซีเก็ตส์ไปนอนค้างบ้านของ ' ชู้ ' ที่ชื่อว่าเฮ็นดริกซ์
" ครับนาย พรุ่งนี้เย็นครับนาย" เจ็ตส์บอกกับคริสเตียนพลางลอบมองใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรที่ตอนนี้ดูเหมือนปีศาจร้ายที่กำลังเข้าสิงร่างของคริสเตียน
" ดี!" คริสเตียนตอบสั้นแค่นั้น เจ็ตส์ก้มหัวให้พลางหมุนตัวเดินออกไปนอกห้องทันที เพราะอยู่ต่อไปเขาคงมีได้บริจาคอวัยวะให้คนไข้วีไอพีคนไหนแน่ๆ
" เพื่อนพร้อมสำหรับปาร์ตี้เย็นพรุ่งนี้ไหนว่ะ " เสียงของฟอลตัลดังมาจากประตูทางเข้า คริสเตียนเงยหน้าไปมองพลางถอนหายใจแรงๆ ออดี้ค่อยๆเดินเข้ามาช้าๆ เถื่อนเดินตามหลังมาห่างๆ
" พร้อม" คริสเตียนตอบออกไปเพื่อให้เพื่อนๆที่นัดกันเอาไว้ได้ดีใจ แต่เขาจะไปสเปนต่างหาก ฟอลตัลนั่งลงเก้าอี้ตรงกันเข้าคริสเตียน ตามด้วยออดี้ และเถื่อน
" ดี๊ด้านะมึง เอวหายแล้วเหรอว่ะ" เถื่อนถามออดี้ออกมาด้วยความหมั่นไส้ เพราะดูท่าทางยังเดินเดี่ยงๆอยู่ แต่ออดี้ยังซ่าไม่หยุด คริสเตียนมองหน้าออดี้นิ่งๆ ฟอลตัลหันมามองออดี้เช่นกัน
" นี้พวกมึงห่วงกูหรือกำลังสมเพชกูว่ะ" ออดี้ถามเพื่อนด้วยความสงสัย เพราะแววตาของเพื่อนๆดูกวนๆ
" ห่วงแหละ เพราะกลัวเอวมึงจะได้ใช้แค่อีกครั้งเดียวแล้วก็นอนติดเตียงอีกหลายเดือน เพราะเอวอักเสบไงว่ะ " เถื่อนพูดออกมาแทนใจเพื่อนๆทั้งสองคนที่เงียบอยู่ ออดี้ขบกรามแน่นๆ พลางเหยียดยิ้มร้ายที่มุมปาก
" คนอย่างไอ้ออ ต้องได้กระแทกหนักถึงจะหายว่ะ" ออดี้พูดออกมาด้วยความมั่นใจ เพราะเขาให้หมอนวดผู้เชี่ยวชาญมานวดให้ฉบับเร่งด่วน และตอนนี้เริ่มปกติเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว นวดอีกแค่ครั้งก็หายเขาก็พร้อมซ่าได้อีก เถื่อนอ้าปากหวอ ฟอลตัลถึงกับอึ้ง คริสเตียนส่ายหน้ากับความหื่นของเพื่อนที่ไม่มีวันลดละ
" ไปผับไอ้เดกันไหม อุ่นเครื่องรอเย็นพรุ่งนี้ไงเพื่อน หึหึ" ฟอลตัลถามเพื่อนอีกสามคน
" ไปสิว่ะ รออะไร" เถื่อนตอบ ทั้งสามหนุ่มดันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับเดินตรงออกไปจากห้องทำงานทันที
' เจอกันซีเก็ตส์ ไอ้ชู้เฮ็นดริกซ์' คริสเตียนพลางคิดในใจ และเดินออกจนกห้องทำงานไปเช่นกัน