“ไม่ ฉันไม่ชอบชื่อนี้” หลินหลินตอบทันที ทว่าเมื่อเห็นดวงตาพิศวงของหญิงสาวทั้งสองก็รู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว
หลินหลินพลันผุดลุกขึ้นอีกครั้ง หันหลังให้คนทั้งสองเพื่อซ่อนความตระหนกเอาไว้เมื่อครู่ผู้หญิงสองคนนั้นเรียกเธอว่าฮองเฮา ต่อมาก็เรียกว่าจางซื่อคือคำเรียกขานสตรีที่แต่งงานแล้ว แต่เธอไม่ชอบ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือยุคปัจจุบัน2018 ไม่มีระบบศักดินาแล้วเท่ากับว่าเธอไม่ได้อยู่ในยุคปัจจุบันแต่หลงภพหลงชาติกลับมาในยุค...
หลินหลินก้มมองการแต่งกายของตัวเอง การแต่งกายแบบนี้เห็นบ่อยในกองถ่ายละครจีนย้อนยุค เครื่องที่สวมบนศีรษะนั้นโดดเด่นเรียกว่าหมวกเตี้ยน ก่อนพึมพำออกมา ยุคราชวงศ์ชิง
“โอ พระเจ้า เพราะสายฟ้าฟาดนั่นใช่ไหม” ที่จริงฉันเคยเขียนบทแบบนี้บ่อยไป นางเอกในยุคปัจจุบันมีเหตุอะไรสักอย่างทำให้ย้อนยุคไป แล้วเรื่องราวก็จะแฟลชแบคกลับไปกลับมาถึงต้นสายปลายเหตุ แต่นั่นมันบทละครโทรทัศน์ มโนของคนเขียนบทที่ได้รับโจทย์มาให้พาคนดูละครลอยล่องตามจินตนาการ
‘มันไม่จริง’
‘เป็นไปไม่ได้’
‘แต่มันเป็นไปแล้ว’
หลินหลินค่อยๆหันหน้ากลับมา แล้วถามผู้หญิงสองคนนั้นช้าๆ “ข้าชื่อจางชิงหลินใช่หรือไม่”
ทั้งลู่เจียวและจิวฮุ่ยพยักหน้าพร้อมกัน แต่ทำไมชื่อนี้ถึงได้เหมือนกับรายละเอียดในความฝันครั้งก่อน
“ข้าเป็นอดีตฮองเฮาที่ถูกฮ่องเต้ฉินซือเฉิงปลดใช่หรือไม่” พลันสมองขาวโพลนนึกไปถึงความฝันก่อนหน้านี้ ความฝันเป็นเรื่องเป็นราวที่หญิงสาวแอบคิดว่าจะนำมาเรียบเรียงเขียนเป็นเรื่องย่อเสนอพิจารณาทำละครหารายได้เข้ากระเป๋า ไฉนเล่ามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ
ทั้งลู่เจียวและจิวฮุ่ยพยักหน้าพร้อมกันอีกครั้ง
“ครอบครัวของข้าตายหมดแล้ว” หลินหลินโยนหินถามทางเมื่อเห็นสาวใช้พยักหน้า ครั้งนี้นางรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจราวกับนางผ่านเรื่องเลวร้ายมาด้วยตัวเอง จู่ๆหางตากลับมีน้ำตามาคลอหน่วย “แล้วตอนนี้ข้าอยู่ที่ไหน”
ลู่เจียวเป็นฝ่ายตอบ “ฮองเฮาอยู่ที่บ้านของท่านยายของพระนางเพคะ”
“บ้านของท่านยายข้า”
“ใช่ เพคะ” ลู่เจียวตอบแล้วกระซิบกับจิวฮุ่ย “สงสัยเป็นเพราะพิษไข้หรือไม่ก็เป็นเพราะฮองเฮาสะเทือนใจมากจึงจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้”
หลินหลินได้ยินก็หันไปถาม “ใช่ ข้าป่วย จำอะไรไม่ได้”
“ฮองเฮาทรงหลับไม่ได้สติอยู่สามคืนเต็มๆ พวกหม่อมฉันกลัวว่าฮองเฮาจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวแล้ว...” พวกนางหยุดพูดแล้วพร้อมใจกันร้องไห้ออกมา
“แล้วอะไร กลัวข้าตายจากพวกเจ้าไปอย่างนั้นหรือ” หลินหลินถาม
พวกนางสองคนพยักหน้า “ก็ตอนที่เดินทางมาถึงจวนสกุลหลวน จู่ๆก็เกิดฝนตก มีสายฟ้าฟาดลงมาใกล้พระวรกายฮองเฮาทำให้ฮองเฮาสลบไป หมอที่มาตรวจดูอาการบอกว่าชีพจรอ่อน จนเมื่อวานชีพจรหยุดเต้นไปจนท่านยายของฮองเฮาเตรียมจะนำไปทำพิธีฝังแต่จู่ๆ ฮองเฮาก็มีชีพจรขึ้นมาทำให้ทุกคนดีใจมากเพคะ”
หลินหลินกัดริมฝีปากแน่น เหตุการณ์ฟ้าผ่าเหมือนกัน ทำให้เกิดความผิดพลาดอะไรบางอย่างแน่ๆ เธอถึงมาอยู่ในร่างของฮองเฮาจางชิงหลิน เมื่อมองตัวเองผ่านกระจกทองแดงก็พบว่ามีใบหน้าเดียวกัน
“มันเป็นไปได้ยังไง ใครส่งฉันมาที่นี่กัน” สองมือจับสองข้างแก้มด้วยความพิศวง พลันความคิดกระหวัดไปถึงดวงตามีอำนาจของซุป’ตาร์ชื่อดัง แต่จะเป็นไปได้หรือนักแสดงสาวคนนั้นเป็นเพียงคนธรรมดาจะส่งเธอย้อนเวลามาได้ยังไง
หลินหลินอยากจะร้องไห้แต่เพราะเสียงฝีเท้าคนที่เดินเข้ามาสมทบในห้องอีก นางจึงเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่
“ชิงหลินฟื้นแล้วหรือหลานรัก”
“อะ เอ่อ เจ้าค่ะ” ในละครนางเอกที่ย้อนยุคมักจะชอบแสดงบทตามน้ำสวมรอยเป็นคนอื่น เพื่อหาข้อมูล เอาละวะวันนี้เล่นเองขอสวมบทนางเอกสักครั้ง
“ยายคิดว่าเจ้าจะไม่รอดแล้ว ยายเสียแม่เจ้าไปแล้วอย่าให้เสียเจ้าไปอีกคนเลย เจ้าต้องเข้มแข็งรู้หรือไม่”
หลินหลินมองหญิงชราที่อายุน่าจะราวหกสิบกว่า อยู่ในชุดยาวสีน้ำเงิน ท่าทางมีเมตตา กุมมือนางไปนั่งที่เก้าอี้ที่ตั้งอยู่กลางห้อง
“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ จะรักษาตัวให้ดี”
หลินหลินปะติดปะต่อเรื่องราวได้ในทันทีว่าการที่นางเป็นฮองเฮาที่ถูกปลด แถมครอบครัวเดิมยังถูกประหารเป็นเรื่องอันตรายที่ใครก็ไม่กล้ารับนางให้มาอาศัยอยู่ได้ การที่ท่านยายของจางชิงหลินให้พำนักแถมยังดูแลอย่างดี เท่ากับจางชิงหลินยังมีครอบครัวฝ่ายมารดาที่มีคุณธรรมอยู่บ้าง
นอกจากจะมีผัวชั่วกับเมียน้อยชั่วแล้ว ก็ยังดีที่มีคนรักนางอย่างจริงใจ
“การที่ข้ามาพักกับท่านยายจะทำให้ท่านเดือดร้อนหรือไม่” หลินหลินถามด้วยความเป็นห่วงอีกฝ่าย หากทำให้ครอบครัวของสตรีชราเดือดร้อน เธอก็จะออกไปหาที่พักที่อื่นแล้วค่อยคิดต่อไปว่าจะทำอย่างไร
เธอควรจะหาทางกลับไปยุคปัจจุบัน แต่จะกลับไปอย่างไร หรือถ้ายังกลับไปไม่ได้แต่ต้องอยู่ต่อที่นี่ เธอจะทำอะไรต่อไป หลินหลินครุ่นคิดแต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอรู้ดีคือความเจ็บปวดที่เกาะกุมในใจจางชิงหลิน ความเจ็บปวดร้าวรานจากการถูกหักหลัง ความอับอายที่จางชิงหลินตัวจริงได้รับทั้งหมด เธอร่วมรับรู้กับเจ้าของร่างราวกับว่าเป็นตัวเธอเองที่ถูกกระทำ
ราวกับว่าเป็นชาติภพของเธอเอง แต่เธอได้มีโอกาสย้อนกลับมาเพื่อแก้แค้นผัวชั่วและตามหาสิ่งที่ขาดหายไป
‘เป็นไปได้ไหมที่คนเราจะย้อนเวลาเพื่อกลับมาแก้ไขบางเรื่อง’
หลวนซูฮวาตบหลังมือหลานสาวเบาๆ “ยายอยู่มาจนอายุปานนี้ไม่เสียดายชีวิตอีกแล้ว ห่วงก็แต่เจ้า ยายยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องเจ้า”
“ขอบคุณท่านยาย” หลินหลินรับรู้ได้ถึงความรักที่หญิงชราคนนี้มีให้ สายใยบางอย่างไม่มีที่มาที่ไปแต่รู้สึกได้ว่าคุ้นเคยก่อเกิดขึ้นเงียบๆ หมือนมีมานานแสนนานแล้ว
“ตอนนี้เจ้ายังป่วยอยู่ พักผ่อนเถอะ ข้างนอกหย่งเล่อเพิ่งจะกลับมาจากชายแดน ยายจะไปดูเขาสักหน่อย”
“หย่งเล่อ ใครหรือเจ้าคะ”
“เจ้าคงจำไม่ได้ เพราะไม่ได้เจอกันเสียนาน หย่งเล่อลูกชายคนโตของท่านลุงหย่งสืออย่างไรเล่า เขาไปรบที่ชายแดนเพิ่งจะกลับมา เขาเอ็นดูเจ้ามาก และเสียใจมากที่เจ้าพบเจอเรื่องร้าย”
หลินหลินส่ายหน้า “ข้าจำไม่ได้ ว่าแต่หล่อไหมเจ้าคะ” หลินหลินเผลอยิ้ม รู้สึกอับอายที่ถามอะไรออกไป พอเห็นสายตาของสตรีชรามองมาด้วยแววตาสงสัยนางจึงส่งยิ้มแห้งๆ “เอ่อ ท่านยายเจ้าคะ ข้าเพิ่งฟื้นเลยพูเลอะเลือน ท่านยายอย่าถือสาข้านะเจ้าคะ วิญาณกับร่างกายของข้าอาจยังไม่รวมตัวกันดี”
สตรีชรายิ้มอ่อนๆ สีหน้าแฝงความเมตตาระคนเอ็นดู “เจ้าป่วยจริงๆด้วย นอนพักเสียเถอะหลานรัก ยายไม่กวนเจ้าแล้ว”