ตอนที่ 6.

1545 Words
“ยั่วแรงนะ จัดให้สักหน่อยก็แล้วกัน” ปรัชญ์พลิกกายเข้ามาคร่อมทับร่างนุ่มนิ่มของเธอไว้ ดวงตาเรียวยาวมองจ้องใบหน้างามของผู้หญิงแสนเย่อหยิ่งนิ่ง เขาแค่แกล้งเมาแล้วหลอกเธอเล่น อยากดูหญิงสาวโวยวายใส่ ไม่คิดว่าลินินจะใจดียอมพาเขามาส่งบ้าน หากเธอไม่ด่าเขาว่าไอ้หมาตลาด เขาคงไม่เอาคืนด้วยการอาเจียนรดเธอหรอก “อย่านะ... อย่าทำอะไรฉันนะ” ลินินเสียงสั่น ตัวสั่นไปหมดด้วยความหวาดหวั่น ไม่คิดว่าความใจดีจะทำให้หลงเล่ห์ของปรัชญ์ “กลัวอะไร ได้ข่าวว่าไปอยู่เมืองนอกมาตั้งนาน ไม่เคยออกเดตกับฝรั่งมั่งเหรอ” ปรัชญ์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ใช้หลังมือเกลี่ยแก้มนุ่มไปมา มองดูร่างงามสั่นสะท้านแล้วยิ้มขำ ท่าทางมาดจอมโจรปล้นสวาทของเขาจะทำให้ยายผ้าป่านกลัวจริงๆ “อย่านะ... ปล่อยฉัน” ลินินเบือนหน้าหนี หลับตาด้วยความกลัว ตั้งแต่โตมาไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายแบบนี้มาก่อน เธอตั้งใจร่ำเรียนไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหน หนุ่มๆ ในมหาวิทยาลัยได้แต่มองเธอ แต่ไม่มีใครสามารถเข้ามาใกล้เธอได้ หญิงสาวเว้นระยะความสัมพันธ์อย่างห่างเหิน จนหลายคนหมดความพยายาม ปล่อยให้ด็อกเตอร์สาวลอยตัวอยู่บนคานพร้อมดีกรีการศึกษาสูงลิ่วนั้น "กลัวอะไร"  เขาถามเสียงกระเส่า ใช้ศอกยกตัวขึ้นอีกนิด สายตาสำรวจร่างงามของหญิงสาว ผ้าขนหนูคลายปมจนชายผ้าเผยอออก ทรวงอวบงามโผล่ออกมาวับแวบยั่วสายตา ผิวนุ่มขาวผ่องละมุนราวกับน้ำนม ทำให้คนมองตาพร่าเลือดในกายร้อนฉ่า ทั้งจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปบวกกับอารมณ์คุคลั่งของวัยหนุ่ม ปรัชญ์ใจเต้นแรงจ้องมองความงามพิสุทธิ์อย่างตะลึงลาน สัญชาตญาณของนักล่าทำให้เขาก้มลงไปหาเหยื่อสาว ริมฝีปากแตะลงบนเนินอกขาวผ่อง ปลายลิ้นละเลงไล้ จนเจ้าของสะดุ้งเฮือกยกมือยันหน้าเขาไว้ "อย่านะ ออกไปนะไอ้หมาตลาด..." ลินินร้องห้ามเสียงสั่น  "ปากเสียอีกแล้วนะยายผ้าป่าน ฉันเคยบอกแล้วไงว่า ถ้าเรียกฉันว่าหมาตลาดอีก เธอจะโดนอะไร" ปรัชญ์ตาวาววับ จับปลายคางลินินจ้องใบหน้าแดงจัดของเธอด้วยสายตาคาดโทษ ก่อนจะลงทัณฑ์สาวปากดี ด้วยจุมพิตดุดัน สองมือขยำเต้าทรวงอวบเคล้นคลึงหนักหน่วง จนเธอร้องครางประท้วง เสียงครางดังอึกอักในคอ ร่างนุ่มดิ้นรนขัดขืน ยิ่งเสียดสี เร่งเร้า กระตุ้นอารมณ์ให้เร่าร้อน เขาบดจูบหนักๆ จนเธอเริ่มหมดแรงต่อต้าน ริมฝีปากคลายออกให้เธอได้สูดอากาศเข้าปอด จากนั้นก็ลงมาฟัดเฟ้นทรวงอวบสล้าง ครอบครองอัญมณีเม็ดงามสีชมพูเปล่งปลั่ง หยอกเย้า เม็ดจิ๋วในอุ้งปาก จนเจ้าของร้องคราง บิดตัวไปมา  "อย่า... อา..." "อืม... หวาน ยายผ้าป่าน ทำไมหวานแบบนี้" ปรัชญ์หูอื้อตาลาย หลงเพลิดเพลินกับความงาม เขาเคล้าคลึง ดูดกินความหวานล้ำเข้าปาก ราวกับนักเดินทางกลางทะเลทรายที่กำลังกระหายน้ำ ได้พบโอเอซิส สองมือเคล้นคลึง ปากดื่มกินทิพย์รสหวานล้ำสลับไปมาทั้งสองข้าง สติใกล้หลุดลอยไปพร้อมกับอารมณ์ที่พุ่งแรง แต่ปลายเล็บที่จิกบนต้นแขน ทำให้เขาสะดุ้งหลุดจากดำกฤษณา รู้สึกตัวขึ้นมาในเสี้ยวนาทีสุดท้าย รีบสะกดกลั้นความรู้สึกอันตรายนั้น ก่อนที่จะหน้ามืดทำอะไรเกินเลยกับคนที่ตัวเองบอกว่าเกลียดนักหนา “หึ... รู้ไหมยายผ้าป่าน ผู้ชายมีสารพัดเล่ห์ไม่แพ้ผู้หญิงหรอกนะ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงไม่มาพูดเล่นอย่างฉันหรอก จำเอาไว้ว่าอย่าประมาท” ปรัชญ์ก้มลงไปหอมแก้มนวลแรงๆ เหมือนลงโทษเธอแล้วก็พลิกตัวออก ปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระ เขาไม่คิดทำอะไรมากกว่าจะแกล้งเธอเล่น แต่ก็เกือบพลาดเมื่อเธอหวานเกินไป หวานจนน่าอันตราย ชายหนุ่มถอนหายใจแรงข่มกลั้นอารมณ์ที่ตื่นโพลงเอาไว้ เขามองเห็นอาการตัวสั่นของเธอบ่งบอกว่าไม่เคยมือชายมาก่อน ชายหนุ่มเผลอยิ้มเมื่อคิดว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้จูบเธอ “ไปแต่งตัวได้แล้ว” ปรัชญ์คลายรอยยิ้ม เมื่อรู้สึกตัวว่าเริ่มคิดอะไรเลื่อนเปื้อนไปแล้ว เขายอมลุกขึ้นแล้วไล่เธอไปแต่งตัว ลินินรีบเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนมาชุดหนึ่ง เดินหนีไปแต่งตัวในห้องน้ำ ก่อนจะกลับออกมา “ตามมาล็อกประตูด้วย ฉันยืมรถเธอขับกลับบ้านก่อนนะ พรุ่งนี้จะมารับไปทำงานแต่เช้า” เขาหยิบกุญแจรถที่เธอวางไว้ แล้วเดินออกไปรอด้านนอก ลินินตามออกมาล็อกประตูบ้าน พอเห็นเขาขับรถออกไปก็ถอนหายใจโล่งอก รีบเข้ามาในบ้านปิดประตูล็อกกลอนแน่นหนา “ไอ้หมาตลาดบ้า ชอบแกล้งฉันอยู่เรื่อย” หญิงสาวกุมหน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง ใจเธอยังเต้นรัวแรง หากปรัชญ์คิดข่มเหงเธอจริงๆ ลินินคงไม่มีปัญญาขัดขืน แต่ชายหนุ่มกลับไม่ทำ เขายอมปล่อยเธอแล้วจากไป ผู้ชายคนนี้กำลังเล่นตลกอะไรกับเธอกันแน่ ลินินไม่เข้าใจเขาและไม่เข้าใจตัวเองที่เกลียดเขาไม่ลง ลินินนอนไม่หลับทั้งคืน ความสับสนเกิดขึ้นในใจจนเธอทนไม่ไหว หากพรุ่งนี้เขาเอารถมาส่งคืนเธอต้องถูกเขาเย้ยหยันอีกแน่ คิดแล้วไม่อยากเจอหน้าปรัชญ์ขึ้นมา หญิงสาวจึงจองตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพหนีปัญหาชั่วคราว คนมีดีกรีจบด็อกเตอร์ใช่ว่าจะรับมือกับทุกปัญหาได้ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากผู้ชายคนที่ชื่อปรัชญ์   รุ่งเช้าปรัชญ์ขับรถของลินินมาหาหญิงสาวที่บ้านพัก แต่บ้านปิดเงียบไม่มีวี่แววของคนอาศัย เขาจึงต้องขับรถของเธอไปจอดไว้ที่มหาวิทยาลัย แล้วนั่งรถรับจ้างไปเอารถที่จอดทิ้งไว้เมื่อคืน “ด็อกเตอร์ลินินลาป่วยตั้งหนึ่งอาทิตย์ เพิ่งมาทำงานแท้ๆ แต่ใช้วันลาล่วงหน้าได้” อาจารย์สาวคนหนึ่งกำลังซุบซิบนินทาด็อกเตอร์สาวกับเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน “ก็ใช้เส้นท่านอธิการบดีนี่เนาะ ใครจะกล้าว่า ดีไม่ดีปีหน้าคงได้เลื่อนขั้นไวกว่าพวกเรา” อาจารย์อีกคนร่วมวงนินทาอย่างสนุกปาก อาจารย์สาวหลายคนไม่ได้ชอบลินินนัก บางคนถึงกับหมั่นไส้กับมาดหยิ่งๆ ของเธอ ยิ่งอาจารย์หนุ่มพากันให้ความสนใจ ยิ่งทำให้ความน่าหมั่นไส้ทวีเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว “อุ้ย! อาจารย์ปรัชญ์มาแล้ว นึกว่าจะลางานเหมือนด็อกเตอร์ลินิน เห็นว่าไปงานด้วยกันมา” อาจารย์สาวจอมนินทา เปลี่ยนสีหน้าฉาบความน่ารัก มาพูดจาทักทายกับอาจารย์หนุ่มสุดหล่อของมหาวิทยาลัย “เมื่อคืนงานเลิกค่อนข้างดึกครับ ผมเห็นด็อกเตอร์ลินินไม่ค่อยสบาย เลยแนะนำให้ลาป่วย” ปรัชญ์อดแก้ตัวแทนไม่ได้ ถึงเขาจะไม่ชอบขี้หน้าลินิน แต่ก็ทนเห็นเธอถูกคนว่าร้ายไม่ได้ “จริงหรือคะ แต่ลาทีเดียวหนึ่งอาทิตย์ แบบนี้จะมีผลกระทบต่อตารางสอนหรือเปล่าคะเนี่ย”  อาจารย์สาวยังไม่วายหาเรื่อง “คงไม่หรอกครับ ด็อกเตอร์ลินินอยู่ฝ่ายบริหาร ไม่ได้ยุ่งกับการสอนแบบพวกเรา อ้อ... ผมมีสอนคาบเช้าต้องขอตัวก่อนนะครับ” ปรัชญ์ขี้เกียจเสวนาต่อ จึงเลี่ยงออกไป “ยายด็อกเตอร์นี่เสน่ห์แรงไม่เบา อาจารย์ปรัชญ์ยังออกตัวปกป้อง หมั่นไส้จริง” เสียงนินทาลอยตามหลังมา ไม่ทำให้ปรัชญ์สนใจ เขาครุ่นคิดเรื่องการลางานของลินินมากกว่า เมื่อคืนเขาคุยกับมารดา ท่านอยากให้เขาเดินเรื่องในการฟ้องร้องแพรพรรณในคดีมรดกของมัสลิน เขาอยากเจรจากับลินินก่อน แต่หญิงสาวดันหลบหน้าเสียได้ “ยายผ้าป่าน นึกเหรอว่าจะหนีฉันพ้น หึ ฉันจะตามไปจัดการเธอกับแม่ถึงหน้าบ้านเลยคอยดูสิ” ปรัชญ์สอนจนครบคาบ แล้วก็ส่งใบลาในอีกสองวันข้างหน้า เขาลางานทีเดียวเจ็ดวันใช้วันลาของตัวเองแบบเต็มพิกัด งานนี้เขาต้องตามไปจัดการเรื่องคดีความให้มัสลิน อาจจะต้องใช้เวลาในการจัดการเรื่องนี้นานสักหน่อย   ลินินหลบหน้าปรัชญ์ด้วยการขอลาป่วยถึงหนึ่งอาทิตย์ แล้วพาตัวเองกลับมาหามารดาที่บ้าน แพรพรรณเห็นลูกสาวกลับมาก็ดีใจมาก ตอนนี้สถานะทางการเงินของนางต้องพึ่งพารายได้ของลูกสาว เงินที่ขายตลาดได้จมหายไปกับการลงทุนเปิดร้านอาหารในต่างแดน บวกกับค่ารักษาตัวของสมเกียรติทำให้แทบล่มจม แพรพรรณรักษาสมบัติที่แย่งชิงจากมัสลินไว้ไมได้ เหลือเพียงบ้านเก่าหลังนี้กับเรือนไทยของคุณยายฝ้ายคำทรัพย์สมบัติชิ้นสุดท้ายที่ยังไม่ได้ขายออกไป ตลาดถูกเจ้าสัวโภคินรื้อทิ้งแล้วสร้างคอนโดหรูโครงการใหญ่แทนที่ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD