ภีมพลแทบบ้าตายอารมณ์เขาทะยานขั้นถึงขีดสุด! “พอแล้ว พอก่อน...” จับหัวไหล่เล็กให้หยุดการกระทำ หล่อนช้อนสายตาขึ้นมองเขาปากเล็กเผยอออกเล็กน้อยหอบหายใจถี่กระชั้นเขาอดไม่ไหวจูบหล่อนอีกครั้งทาบทับให้หล่อนเอนกายลงนอนบนเตียงกว้างแยกขาเรียวออกจากกันนำพาร่างกายเข้าไปรุกประชิดโดยริมฝีปากยังจูบหล่อนไม่ละไปไหน กายเขาขยับเข้าออกช่วงแรกเนิบนาบสร้างความคุ้นเคยเหมือนทุกครั้ง อารยามีคนเดียวในโลกฉะนั้นเขาถึงต้องทะนุถนอมหล่อนเข้าไว้ เขาขยับเชื่องช้าแต่เต็มแน่นทุกจังหวะเสียงครางหล่อนกระตุ้นเขาให้อยากเพิ่มแรงมากขึ้น “อาย... ชอบไหม อยากได้แรงกว่านี้อีกหรือเปล่า”
“แล้วแต่อาภีมจะกรุณาค่ะ...” ปากเล็กส่งเสียงแห่งความทรมานเขาเพิ่มแรงขึ้นเร็วเป็นเท่าตัวกายหนุ่มสาวสัมผัสกันโดยไร้เครื่องป้องกันเช่นเคย เขาไม่เคยใช้กับหล่อนชอบปลดปล่อยข้างนอกแต่อารยาก็อดหวั่นใจทุกครั้งเพราะกลัวจะพลาดพลั้งตั้งครรภ์ไม่งั้นหมดอนาคตแน่ๆ ติดหนี้เขาไม่มีปัญหาออกจากบ้านไปหาเงินใช้หนี้ไม่พอยังต้องเป็นเมียเก็บเลี้ยงลูกเขาอยู่บ้านอีก แค่จินตนาการน้ำตาหล่อนก็เกือบไหลออกมา
“อา... สุดยอด งั้นก็แรงอีกนิดนะ” ชายหนุ่มบอกเล่ามากกว่าเป็นคำถามเพราะไม่กี่วินาทีถัดมาร่างกายเขาก็เคลื่อนไหวเร็วปานพายุลูกใหญ่โหมกระหน่ำ เนื้อตัวอารยาสะท้านไปทั้งร่างกักเก็บเสียงไว้ไม่ไหวหลุดปากเปล่งออกไปหลายครั้งถึงขั้นต้องยกมือมาปิดปากไว้กลัวเสียงจะหลุดออกไปข้างนอก ก็นี่เป็นบ้านไม้เก็บเสียงไม่ค่อยอยู่หรอก
“อาภีม ช้า ลงหน่อย อาย... ไม่ไหวแล้ว” ส่ายหน้าไปมาเส้นผมกระจายเต็มไปหมดทรมานที่ต้องรองรับอารมณ์ดิบเถื่อนจากเขา ท่วงท่าเขามากมายแต่ละอย่างล้วนยากทั้งนั้นกว่าจะจบแต่ละยกอารยาเหนื่อยอ่อนแทบหมดแรงทุกครั้ง มือเล็กสะกิดยอดอกเขาเบาๆ แกล้งเขาคืนบ้าง ภีมพลยิ้มมุมปากเหงื่อชื้นเต็มหน้าผากขยับสะโพกเข้าออกหนักหน่วงยิ่งใกล้ถึงจุดหมายกายสาวก็ยิ่งทวีแรงบีบรัดเขาจนแทบหายใจไม่ออก
ให้ตายเถอะเมียเขาสุดยอดที่สุดในโลก ชายหนุ่มคำรามลั่นกัดฟันกรอดเส้นเลือดนูนเด่นขึ้นตามลำคอกระชากกายส่วนนั้นออกมาปลดปล่อยข้างนอกจับเบาๆ เท่านั้นมันก็ทะลักออกมาจนหมดฤทธิ์
“อาภีมขา... เช็ดออกให้อายด้วยนะคะ” เหนื่อยแทบบ้าหลังถูกเขาร่วมรักไปสามรอบเนื้อตัวเหนอะหนะเขาคลานไปหยิบทิชชู่ข้างหัวเตียงมาเช็ดคราบรักออกจากหน้าท้องขาวนวลทำความสะอาดส่วนนั้นให้ด้วย นำไปทิ้งแล้วกลับมาล้มตัวลงนอนกอดเมียหมดแรงไปตามๆ กัน
ช่วงเช้าวันต่อมาก่อนถึงเวลากินข้าวเช้าแม่บ้านนำกาแฟมาเสิร์ฟภาคภูมิก็ดื่มหมดในสองนาทีแรกวางเรียงแก้วบนโต๊ะได้สามแล้วกระนั้นก็ชูนิ้วชี้ขึ้นขอเพิ่มอีกแก้ว แม่บ้านย้อนกลับเข้าครัวในทันที ภาคภูมิอ้าปากกว้างหาวนอนหลายครั้งตาเขาเกือบปิดเนื่องจากเมื่อคืนแทบไม่ได้นอน วันนี้ในไร่ท่าทางจะมีงานเยอะฉะนั้นเขาจะหลับไม่ได้
“กาแฟแก้วที่สี่มาแล้วค่ะถ้าดื่มแก้วนี้หมดพอเถอะนะคะ ป้ากลัวคุณภูมิจะสุขภาพไม่ดี” ภาคภูมิรับคำดิบดีหางตามองไปเห็นพี่ชายเดินผิวปากอารมณ์ดีลงมาจากบนบ้าน เออครับ ไม่อารมณ์ดีก็ให้รู้ไปสิ!
“กำลังอยากดื่มกาแฟพอดีเลยขอแล้วกันนะน้องชาย” แย่งแก้วกาแฟจากมือน้องชายมาจิบหน้าตาเฉย ภาคภูมิกลอกสายตามองพี่ชายแรงไม่ได้คัดค้านอะไรเพราะแค่สามแก้วใจเขาก็เต้นแรงมากแล้ว
“เป็นอะไรวะ ตาลอยๆ เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ”
“ครับ ไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน”
“ทำไมวะ คิดถึงเมียสี่ขาของนายอยู่หรือไง”
“เปล่า ผมคิดถึงหนังเอ็กซ์ที่ดูเมื่อคืน” ภีมพลชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยฆ่าเวลาอาหารเช้าทว่าพอน้องชายตอบกลับมากาแฟในปากก็ถูกพ่นออกมาใส่หน้าภาคภูมิ “อืม... เต็มๆ” หยิบทิชชู่มาซับกาแฟจากหน้า
“โทษๆ ไม่ได้ตั้งใจ” ให้ตายเถอะ เมื่อกี้เขาร้อนตัวนึกว่าเจ้าน้องชายจะได้ยินบทรักสุดเร่าร้อนระหว่างเขากับอารยาที่เล่นสนุกกันค่อนดึก คงไม่ใช่หรอกมั้งมันอาจจะหมายถึงหนังโป๊ในคอมพ์ก็ได้
“ตาสว่างเลยแฮะ” กาแฟอุ่นๆ พ่นใส่หน้าได้ผลดีกว่าดื่มไปสามแก้วซะอีก ภาคภูมิซับกาแฟออกจนหมดแล้วมองหน้าพี่ชายตัวดีที่ดื่มกาแฟหน้าตาเฉยไม่ได้รู้เลยว่าเป็นต้นเหตุให้เขานอนไม่หลับทั้งคืน ลดเสียงลงหน่อยสิครับ เตียงห้องเขากับเตียงห้องอารยาอยู่ติดกันแค่มีไม้กั้นตรงกลางแยกห้องเฉยๆ ไม่ได้ยินอะไรเร้าอารมณ์แบบนั้นก็ให้รู้ไปสิ
“เล่นสงครามกาแฟอยู่เหรอจ๊ะ” คุณยายบุหลันเดินออกมาร่วมโต๊ะโดยมีอารยาคอยประคองให้นั่งลงแล้วรับชาจากสาวใช้มาเสิร์ฟท่าน มีเก้าอี้ว่างอยู่ระหว่างคุณยายกับคุณภาคภูมิจึงนั่งลงกับทุกคน
“แล้วนี่ใครกินตั้งสามแก้ว” ท่านถามหลานชาย
“นายภูมิครับ นี่แก้วที่สี่ของมันแต่ผมแย่งมา” ฟ้องคุณยายหน้าตาเฉย ภาคภูมิหัวเราะหึหึในลำคออยากฟ้องคุณยายกลับบ้างแต่รอก่อน... ยังไม่ถึงเวลาฟ้องไว้รอโอกาสเหมาะๆ หัวเราะทีหลังดังกว่า
“ตาภูมิทำไมดื่มกาแฟเยอะแบบนี้ล่ะลูกมันไม่ดีต่อสุขภาพนะ มาจิบชากับยายดีกว่ามา” ท่านสั่งสาวใช้ให้เอาชุดน้ำชามาเพิ่มอีกจิบร่วมกับหลานๆ ทั้งสาม เป็นชารสชาติดีจากทางเหนือแบรนด์ของไร่จอมธรรม คุณยายบุหลันเป็นแฟนพันธุ์แท้ชาไร่นั้นซื้อมาชงดื่มตลอดปี
“วันนี้หนูอายจะไปเที่ยวไหนบ้างจ๊ะ”
“ฟ้าใสบอกว่าตอนบ่ายจะมารับอายไปเที่ยวรีสอร์ทค่ะ”
“ดีเลยจ้ะ รีสอร์ทอยู่ด้านหลังไร่นี้เองแถวนั้นเป็นคอกม้าของตาภูมิเห็นว่าเมื่อวานมีม้าออกลูกถ้าหนูอายอยากไปดูขอพี่เขาได้นะจ๊ะ”
“ได้นะครับ ถ้าน้องอายอยากไปกินข้าวเสร็จไปเปลี่ยนชุดได้เลยนะเดี๋ยวพี่พาทัวร์รอบไร่เอง” เสนอตัวอีกครั้งก็ถูกพี่ชายเตะหน้าแข้งเข้าให้อีกครั้ง อะไรวะ หวงเขาแต่ไม่ยอมออกตัวแรงว่าอยากพาเขาไปไหน
“ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากเกินไปอายขอติดรถไปด้วยนะคะ ขอรับรองว่าจะกวนให้คุณภูมิเสียการเสียงานค่ะ”
“นายภูมิงานยุ่งจะตายจะตามไปให้เกะกะทำไม”
“ตาภีม!” คุณยายบุหลันเอ็ดหลานชาย
“ก็มันเรื่องจริงนี่ครับคุณยายผิดจากที่ผมพูดตรงไหน”
“งานผมไม่ได้ยุ่งขนาดนั้นหรอกพี่ภีม ยืดหยุ่นจะตายอยากทำก็ทำไม่อยากทำก็นอนกลางวัน น้องอายไปได้นะครับเดี๋ยวช่วงบ่ายพี่ไปส่งที่บ้านฟ้าใสเอง” เขาจะได้มีข้ออ้างในการไปเจอหน้ายัยตัวแสบด้วยไง
ขอบปากกระตุกเว้ย ภีมพลจิบชาสงบสติอารมณ์แต่ก็เท่านั้นอารมณ์มันสงบไม่ลง “เอาเถอะ ถ้าเธออยากไปเที่ยวกับผู้ชายสองต่อสองมากขนาดนั้นก็ตามใจ ผมขอตัวเข้าบ้านก่อนนะครับคุณยาย”
“ตาภีม! ทำไมพูดจาแบบนั้น ตาภีม! ได้ยินที่ยายพูดไหม อะไรกันเจ้าหลานคนนี้ไปติดนิสัยไม่ดีมาจากใคร” บ่นยาวตามหลังสงสารอารยาที่จู่ๆ ก็ถูกหลานชายตนเองพาลใส่เหมือนเด็กๆ ฮึ่ม! ตาภีมนิสัยเสีย!
สุดท้ายอารยาก็ตัดใจไม่ไปเที่ยวคอกม้ากับภาคภูมิเพราะไม่อยากถูกภีมพลโกรธ หล่อนใช้เวลาครึ่งวันหมดไปกับการช่วยแม่เขาทำขนมไทยเรียนรู้การเป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือนไว้รอปรนนิบัติสามีในอนาคต สามีคนนั้นจะเป็นใครไม่รู้ รู้แน่ชัดคือไม่น่าจะใช่คนที่นั่งหลับอยู่ตรงนั้น
“แม่หนูฟ้าชอบกินขนมตาลมากเลยนะจ๊ะ ไว้ทำเสร็จป้าจะจัดใส่กล่องไว้หนูอายเอาไปให้แม่หนูฟ้า” มีของติดไม้ติดมือไปให้ด้วยทางครอบครัวฟ้าใสจะได้เอ็นดูสาวน่ารักคนนี้คุณดุจตะวันวางแผนให้ ลงมือทำขนมตาลโดยมีอารยาคอยช่วยเหลือหยิบจับสิ่งของเป็นลูกมือให้
“คุณป้าชอบทำขนมกับอาหารเหรอคะ”