ชายหนุ่มระบายความโกรธด้วยการฝังใบหน้าเข้าหา ดูดกลืนยอดปลายถันสีระเรื่อที่บัดนี้แข็งเป็นไตราวกับจะท้าทายกันอย่างรุนแรงโดยไม่บอกกล่าวทำให้อีกคนที่ไม่ทันตั้งรับกับสิ่งเหล่านี้ถึงกลับครางลั่น จันทริกาเริ่มรู้สึกเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต ทุกๆ สัมผัสของอนาคินทำให้เธอใจเต้นแรงจนยากที่จะควบคุมมันได้อีกต่อไป
“อื้อ คุณคิน…โอ้ย เจ็บค่ะ” หญิงสาวระบายเจ็บปวดด้วยการข่วนลงเบาๆ ที่ท่อนแขน แต่แทนที่จะสำนึกแล้วปล่อย อนาคินกลับตอบโต้เธอกลับมาด้วยการดูดปลายถันของเธออย่างรุนแรงหนักขึ้น ขณะมืออีกข้างที่ว่างเว้นก็บีบเค้นอกอีกด้านเบาๆ
“อย่าบังอาจมาทำร้ายร่างกายผม! ผู้หญิงอย่างคุณไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะสัมผัสมันด้วยซ้ำ จำไว้!” ชายหนุ่มตวาดลั่นก่อนจะกระแทกริมฝีปากเข้าหาเรียวปากสวยอย่างรุนแรง ลงโทษหล่อนที่กล้าข่วนเขาจนได้แผลด้วยจูบที่เร้าร้อนรุนแรงมากกว่าที่เคยมอบให้ใคร ปลายลิ้นที่ไล่ต้อนกันอย่างไม่ลดละทำให้จันทริกาหมดสิ้นทางหนี หญิงสาวจำต้องหยุดนิ่งปล่อยให้คนใจร้ายตักตวงทุกๆ สิ่งตามที่ใจเขาปรารถนา เนิ่นนานราวกับว่ามันจะไม่มีวันหยุด
ภาพใบหน้าสุดท้ายที่เธอจำได้ ก่อนสติจะดับไปคือใบหน้าของเขา
คนใจร้ายที่กำลังฉุดเธอให้ต้องตกนรกทั้งๆ ที่ยังหายใจ…
อนาคินช้อนเอาร่างของคนที่จู่ๆ ก็หมดสติไปต่อหน้าต่อตาไว้ได้ทันก่อนที่หล่อนจะทรุดลงไปกองอยู่ที่พื้นห้อง ชายหนุ่มสบถคำหยาบขึ้นมาก่อนจะพาแม่ตัวดีเดินมาวางลงบนเตียงอย่างอ่อนโยนทั้งๆ ที่จะไม่ทำแบบนั้นกับเธอก็ได้ ชายหนุ่มจำต้องดึงเอาผ้าห่มมาคลุมร่างกายที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ชั้นในตัวเดียวเอาไว้ ไม่อยากมองภาพตรงหน้านานไปมากกว่านี้ด้วยกลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถควบคุมร่างกายไม่ให้เผลอทำรักกับหล่อนทั้งๆ ที่ไม่มีสติ
ซึ่งหากจะทำเขาก็ย่อมทำได้
แต่ต้องไม่ใช่กับผู้หญิงวันนี้ จันทริกาควรรับรู้ถึงความเจ็บปวดจากเขาทุกขั้นทุกตอนในช่วงเวลาที่เธอมีสติครบถ้วนมากกว่า เพราะว่าเธอคือเหยื่อล่อชั้นดี ที่จะทำให้ไอ้คนทรยศนั่นยอมโผล่หัวออกมาจากที่ซ่อน
ลองถ้าไอ้อาทิตย์มันรู้ถึงความเจ็บปวดของน้องสาวที่มันรักเข้าล่ะก็ เป็นใครก็คงไม่ทนไม่ได้แน่ และเมื่อถึงเวลานั้นขึ้นมาเมื่อไหร่ รับรองได้เลยว่าเขานี่แหละ ที่จะเอาคืนคนที่มันกล้าทรยศหักหลังกันอย่างสาสมที่สุด!!
จะไม่มีคำว่าอภัย ไม่ว่าจะกับใครหน้าไหนทั้งนั้น!
จันทริการู้สึกตัวตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ก็ไม่พบคนที่ทำให้เธอตื่นเต้นมากจนเป็นลมไป เธอพบเพียงแต่กระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกแปะไว้ที่โต๊ะอาหารในห้องนั่งเล่น พร้อมกับอาหารเช้าน่าทานที่ถูกวางไว้ใกล้ๆ กันเท่านั้น
‘ผมอนุญาตให้ลางานได้หนึ่งวัน แต่มีข้อแม้ว่าคุณห้ามออกไปไหน’
“คนเผด็จการ”
หญิงสาวต่อว่าเจ้าของลายมือสวยอย่างอดไม่ได้ ภาวนาให้พี่ชายรีบติดต่อกลับมาไวๆ เพื่อที่เธอจะได้หลุดพ้นจากเรื่องบ้าๆ พวกนี้เสียที เธอไม่อยากอยู่ที่นี่นานมากไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่อยากเป็นนางบำเรอของคนใจร้ายที่ตีค่าของคนอื่นด้วยเศษเงินของตัวเองคนนั้น แต่สิ่งที่พอจะทำได้ตอนนี้คือต้องอดทนให้ได้มากที่สุดเท่าที่เธอพอจะทำได้ อดทนรอให้พี่อาทิตย์ยอมติดต่อกลับมา เพื่อเธอจะได้รู้ว่าทำไมตัวเองต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้!
และจะต้องอดทนไปอีกนานแค่ไหน!
พี่ชายของเธอมีเหตุผลอะไรถึงต้องทำเรื่องแบบนั้นลงไป...
หญิงสาวใช้เวลาว่างที่เหลือตลอดวันเดินสำรวจไปรอบๆ ห้องที่ข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดนั้นถูกจัดแจงเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย สีขาวเป็นสีที่มีมากกว่าสีอื่นๆ เธอเดาว่ามันคงจะเป็นสีโปรดของเจ้าของห้อง เธอไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย จนกระทั่งตอนนี้เพราะพี่ชายสั่งห้ามเอาไว้
อาจเป็นเพราะอนาคินขึ้นชื่อเรื่องเสือผู้หญิง แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้านาย แต่พี่ชายของเธอคงไม่อยากให้เธอต้องตกไปเป็นของเล่นของเขา
มาตอนนี้เธอไม่รู้สึกแปลกใจอีกแล้วว่าทำไมพี่ชายของเธอถึงได้ไม่อยากให้เธออยู่ใกล้เขา เพราะว่าเขาไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอเคยคิด ไม่ใช่เลย!
อนาคินกลับมาที่คอนโดตอนสองทุ่มเนื่องจากวันนี้ทั้งวันเขามีงานสำคัญต้องสะสางเป็นจำนวนมาก ไหนจะต้องออกไปทานข้าวกับลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งกว่าจะปลีกตัวกลับมาพักผ่อนที่นี่ได้ก็เล่นทำให้รู้สึกเหนื่อยใช่ย่อย
ทว่าความเหนื่อยทั้งหมดนั้นกลับค่อยๆ หายไปยามเมื่อสายตาคมเข้มเหลือบไปเห็นร่างบอบบางของเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ซึ่งตอนนี้กำลังนอนหลับสบายอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ซึ่งมีหมอนกับผ้าห่มเตรียมไว้พร้อมราวกับเธอต้องการจะปักหลักนอนมันตรงนี้ก็ไม่ผิด
ชายหนุ่มค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งก่อนจะโน้มหน้าเข้าหาคนที่กำลังแกล้งหลับอยู่แต่ก็ไม่ได้แนบเนียนจนเขามองไม่ออกเหมือนอยากจะลองใจว่าหล่อนจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงทำเป็นนิ่งเขาก็ยิ่งอยากจะแกล้งหนักขึ้น อยากจะรู้ว่าระหว่างเขากับเธอใครมันจะแน่กว่ากัน!
“อุ้ย!! คุณอนาคิน…อย่านะคะ อื้อ!”
เสียงหวานที่ทำท่าจะเอ่ยต่อว่าคนที่จู่ๆ ก็ฝังจมูกลงบนซอกคอของเธอถูกปิดลงยามเมื่อริมฝีปากหนาของคนเจ้าเล่ห์ฉกลงมาอย่างหนักหน่วงเมื่อได้จังหวะที่เฝ้ารอมานานหลายนาที จูบของเขานั้นเต็มไปด้วยความร้อนแรงจนจันทริการู้สึกใจสั่น หวาดกลัวทุกสิ่งที่มันช่างแปลกใหม่สำหรับเธอเหลือเกิน อนาคินยังคงตั้งหน้าตั้งตาจูบเธอต่อไปอย่างไม่ยอมลดละ ไม่ว่าจะพยายามกรีดร้องในลำคอแค่ไหน เขาก็ไม่เคยคิดที่จะปราณีกันเลย
“อย่าอะไร มานอนอ่อยผมแบบนี้ คงจะอย่าช้าใช่ไหม!” อนาคินกระซิบถามหลังจากที่ปล้นเอาจูบแสนหวานจากอีกคนไปนานหลายนาที ปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบที่จะจูบใครสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมกับแม่คนอวดดีปากเก่งใต้ร่างคนนี้กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งเธอทำเหมือนรังเกียจสัมผัสของเขา เขาก็ยิ่งอยากจะเอาชนะเธอมากขึ้นเท่านั้น
และไม่ว่าจะยังไงเขาต้องชนะไม่ด้วยวิธีใดก็วิธีหนึ่ง!
เขาอยากทำให้เธอได้เรียนรู้ว่าการคิดสู้กับคนอย่างเขานั้นนอกจากเธอจะไม่ได้เลยแล้วนั้น เธอยังมีโอกาสที่จะเสียมากกว่า สูญเสียทุกๆ สิ่งที่สำคัญ และเมื่อถึงเวลานั้นขึ้นมาเมื่อไหร่อย่าหวังไปเลยว่าเขาจะปราณี!
“คนบ้า ฉันไม่ได้อ่อยคุณ ปล่อยนะ!” หญิงสาวพยายามจะอธิบายแต่ดูเหมือนยิ่งเธอพูดออกไปมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดูคล้ายคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี
“ทำไมผมต้องปล่อยด้วย ในเมื่อคุณเป็นคนเลือกทางนี้เอง ก็ต้องสานต่อให้มันจบ หรือถ้าคิดจะเปลี่ยนใจตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าไม่ทัน!”