ตอนที่ 5

2058 Words
กอหวายเงียบหายไปไม่ได้แวะไปหาหรือติดต่อธูปหอม จนเด็กๆ ถึง กับถามจากป้าธูปว่าพี่คนสวยจะเข้ามาบ้างหรือไม่ เพราะหายไปหลายวันและอีกไม่กี่วันเด็กๆ ถึงเวลาต้องไปเรียนพิเศษ ดังนั้นกว่าจะมาที่ห้องสมุด ก็คงเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์เท่านั้น “คงงานยุ่ง เดี๋ยวมาก็เห็นนะคะ” ธูปหอมบอกขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจที่เด็กๆ ถามหากอหวายทั้งๆ ที่ได้พบกันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น “แม่ฝากเงินมาซื้อหนังสือที่มีรูปพี่คนสวยด้วยค่ะ ป้าธูป” เด็กคนหนึ่งบอกกับธูปหอมพร้อมกับยืนธนบัตรให้ คนรับมายิ้มๆ นึกไม่ถึงว่าญาติของเด็กจะฝากขอลายเซ็นมาด้วย “ได้จ้ะ ป้าฝากสตางค์ไว้กับพี่ที่ร้านขายหนังสือนะ ถ้าพี่หวายมาช่วยเตือนพี่หวายให้ไปเซ็นหนังสือด้วยนะคะ” ธูปหอมบอก การพูดคุยถูกเปลี่ยนประเด็นเป็นเรื่องขนม ยามบ่ายเด็กๆ จะแวะเวียนเข้ามาทานขนมก่อนกลับบ้าน ห้องสมุดของธูปหอมเหมือนเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กในช่วงปิดเทอม ซึ่งขนมบางส่วนได้รับมาจากบิดามารดาของเด็ก รวมถึงผู้ใหญ่ละแวกใกล้เคียงที่สนับสนุนเด็กๆ สำหรับการอ่านหนังสือ ยามเย็นจนค่ำคนที่เข้ามาในห้องสมุด ส่วนใหญ่จะเป็นคนทำงานที่แวะเวียนเข้ามา แม้ไม่ใช่คนละแวกนี้ แต่ด้วยการเดินทางที่ไม่ได้ลำบาก เพราะสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ไม่ห่างจากห้องสมุดสักเท่าไร เรียกว่า เดินไปได้อย่างสบายไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว ธูปหอมเพิ่งปิดคอมพิวเตอร์ จึงได้มองลงไปด้านล่างที่วันนี้ผู้คนบางตากว่าทุกวัน หรือเป็นเพราะอากาศด้านนอกที่เหมือนเริ่มมีฝนตกปรอยๆ ลงมาบ้าง “คุณหวายมาได้ 2 – 3 ชั่วโมงแล้วค่ะ หลับไปแล้ว” เจ้าหน้าที่บอกกับธูปหอมที่เพิ่งลงมาจากห้องทำงาน “ไม่ให้ขึ้นไปข้างบนล่ะคะ” ธูปหอมถาม “คุณหวายเกรงใจน่ะค่ะ เห็นคุณธูปทำงานอยู่เลยหาหนังสืออ่าน” “ขอบคุณค่ะ” ธูปหอมยิ้มให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน ส่วนห้องสมุดจะปิดตอนสามทุ่ม โดยธูปหอมรับหน้าที่ดูแลต่อจากเจ้าหน้าที่ที่เลิกงานกันตอนหนึ่งทุ่มตรง ธูปหอมยิ้มมองดูคนที่นอนฟุบไปกับโต๊ะโดยมีหนังสือเปิดวางอยู่ใกล้ๆ เสียงเคาะโต๊ะเบาๆ ดังขึ้น แต่คนที่หลับอยู่ยังนิ่งเหมือนไม่ได้รับรู้อะไรเลย ธูปหอมยิ้มๆ มองดูคนที่ท่าทางจะหลับสนิท “ห้องสมุดมีไว้อ่านหนังสือ ไม่ได้มีไว้นอนนะคะ คุณ” ธูปหอมพูดขึ้นโดยไม่ได้กระซิบกระซาบนัก เพราะหันไปมองรอบๆ ไม่เห็นคนอื่น “เพิ่งหลับไปแป๊บเดียวเองค่ะ” กอหวายพูดขึ้น แล้วพนมมือไหว้คนที่ยืนยิ้มมองดูคนที่งัวเงีย แต่ใบหน้าซีดเซียวจนน่าแปลกใจ ธูปหอมจึงเอามือทาบทับไปที่หน้าผาก “ตัวร้อนจี๋เลย” ธูปหอมบอก กอหวายจึงเอามือทาบทับที่หน้าผากของตัวเอง “มิน่าถึงได้หนาวๆ ร้อนๆ หวายกลับบ้านก่อนดีกว่า” “กินยาก่อนไหม” ธูปหอมถาม “หนูง่วงมาก อยากนอน” กอหวายพูดงึมงำ “แล้วไม่กลับบ้านไปนอน มานั่งหลับอยู่ที่นี่ทำไมกัน” “ก็อยากเห็นน้าธูป ตอนนี้กลับได้แล้วล่ะค่ะ” กอหวายสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แต่อาการมึนศีรษะไม่ลดลง โดยเฉพาะอาการอ่อน เพลียที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดินทางกลับจากระยอง หลังจากถ่ายแบบเสร็จ “ขับรถไหวหรือเปล่า” ธูปหอมถาม “หวายไปถ่ายแบบต่างจังหวัดมาค่ะ เจ้าของงานให้รถมาส่ง ไม่ได้ขับเอง แต่เดี๋ยวนั่งรถไฟใต้ดินกลับก็ได้ค่ะ” กอหวายบอก “งั้นรอเดี๋ยวนะ น้าไปเอายามาให้ทาน รอสักพักค่อยกลับ” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” กอหวายรีบลุกขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่ ได้เป็นอะไรมากนัก แต่อาการเวียนศีรษะทำให้ยืนเซเล็ก น้อย ธูปหอมเลยเข้ามาคว้าตัวเอาไว้ “จะให้ไปส่ง หรือจะให้โทรฯ บอกแม่มารับ” “ขอนอนสักงีบก่อนได้ไหมคะ ถ้าดีขึ้นเดี๋ยวหวายนั่งแท็กซี่กลับเอง” “ทานข้าวต้มหน่อยไหม ทานยาแล้วค่อยขึ้นไปนอนชั้นบน” “ทานยาแล้วไปนอนเลยได้ไหมคะ” น้ำเสียงออดอ้อนทำเอาคนได้ยินถึงกับส่ายหน้า “ท่าทางจะดื้อไม่เบา งั้นเดี๋ยวดื่มโกโก้ร้อนสักหน่อยค่อยทานยา” “ไม่ได้ดื้อสักหน่อย แค่ไม่สบาย” กอหวายบ่นงึมงำ “เดินดีๆ ล่ะ ถ้าล้มไปล่ะก็ แม่เธอเล่นงานฉันตายแน่” ธูปหอมพูดโดยกอหวายหลับไปตั้งแต่รับประทานยา จนเกือบสี่ทุ่มธูปหอมจึงมาปลุก “หวายบอกแม่ไว้ว่าจะนอนค้างที่ระยอง” กอหวายพูดงึมงำ ก่อนจะหลับไปอีกครั้ง มือของธูปหอมถูกกอหวายดึงไปกอดเอาไว้ ความอบอุ่นทำให้กอหวายรู้สึกสบายตัว แต่ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้ จึงค่อยๆ เบียดตัวเข้าหาความอบอุ่นนั้นซึ่งทำให้หลับสนิท เสียงพูดคุยที่ดังอยู่ด้านนอกทำให้กอหวายพยายามลืมตาขึ้น เมื่อมองดูไปรอบ จึงรีบลุกขึ้นทันที กระเป๋าถือวางอยู่ข้างเตียง ความรู้สึกมึนๆ จากอาการไข้ยังไม่ทุเลาสักเท่าไรนัก ขณะทบทวนช่วงเวลาก่อนจะหลับไปจำได้ว่านั่งอยู่ที่ห้องสมุด เมื่อหันไปมองดูโต๊ะข้างเตียงที่อยู่ด้านหลัง จึงเห็นภาพถ่ายของธูปหอมกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา “เป็นไงบ้างดีขึ้นหรือยัง” ธูปหอมถาม เมื่อเห็นกอหวายเดินออกมาจากห้องนอน แต่ท่าทางดูไม่ค่อยดีสักเท่าไรนัก “ค่ะ” กลิ่นกาแฟหอมๆ โชยมาพร้อมกับชายหนุ่มในรูปถ่ายที่ได้เห็นเมื่อสักครู่ รอยยิ้มดูมีเสน่ห์ กาแฟที่มีควันบางๆ ถูกหยิบยื่น ให้ธูปหอม ที่หันไปยิ้มให้ผู้ชายคนนั้นและรับแก้วกาแฟมาถือเอาไว้ “นั่งสิ ดื่มอะไรอุ่นๆ ก่อน” ธูปหอมบอกกอหวายที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ “ทานอาหารเช้าด้วยกัน จะได้ทานยา” ผู้ชายคนนั้นบอกกับคนที่ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร “อ้อ หวายนี่คุณธาม” ธูปหอมบอกกอหวายที่รีบพนมมือไหว้ทันที “ยินดีที่ได้รู้จักครับ นั่งก่อนเดี๋ยวผมเสริฟ์อาหารเช้าให้ เพราะผู้หญิงแถวนี้ทำอะไรไม่เป็นเลย” ธามหัวเราะก่อนเดินกลับเข้าไป ในห้องๆ หนึ่ง “หวายขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ มารบกวนนานแล้ว” กอหวายพูด “ทานอาหารเช้า ทานยาก่อน เดี๋ยวน้าขับรถไปส่ง” “ฟ้าสว่างแล้ว กลับแท็กซี่ได้ค่ะ หวายไปนะ” กอหวายรีบลุกขึ้นทำให้รู้สึกมึนศีรษะ จึงหยุดยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งและรีบเดินลงบันไดไป “เดี๋ยวหวาย” ธูปหอมรีบตามไปทันที คนป่วยถึงแม้จะรีบเดินแต่ก็ช้ากว่าคนที่ตามลงมา “ปล่อยหวายค่ะ” กอหวายพยายามดึงมือออก แต่สู้แรงของธูปหอมไม่ไหว “เป็นอะไร” “ไม่ได้เป็นอะไร หวายอยากกลับบ้านไปนอนพักผ่อน เดี๋ยวน้าธูปต้องทำงานแล้ว” กอหวายไม่ยอมหันมามองคนที่ยังจับมือและดึงตัวเอาไว้ “ดื้อจริงๆ ถึงบ้านแล้วโทรฯ บอกหน่อยได้ไหม” ธูปหอมไม่ได้เพียงแค่พูดแต่ดึงตัวมากอดเอาไว้ “ไม่อยากบอก” กอหวายพูดและก้มหน้าไม่กล้ามองคนที่กอดอยู่ “ถ้าไม่รับปากจะกอดอยู่แบบนี้แหละ ตกลงจะเอายังไง” ธูปหอมทำเสียงเข้มคล้ายพูดดุกอหวาย “ทำไมต้องบังคับล่ะ” “ก็หวายดื้อ น้าเป็นห่วง” ธูปหอมกระซิบบอกใกล้ๆ กอหวายนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ามามองสบตาด้วย “ถึงแล้วจะส่งข้อความมาบอกค่ะ ไปได้หรือยังทีนี้” กอหวายพูดงึมงำ แต่กลับเบียดตัวเข้าหาคนที่กอดให้ใกล้ขึ้นอีก “น่ารักมากจ้ะ เดี๋ยวลงไปนั่งรอข้างล่าง น้าจะเดินไปซื้อโจ๊ก ถึงบ้านจะได้มีอะไรทานแล้วทานยาด้วยล่ะ” ธูปหอมนำยาใส่ใน กระเป๋าให้กอหวายแล้วจับมือไว้พาเดินไปนั่งอยู่ในห้องสมุด ซึ่งยังไม่มีใครมา กอหวายปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย หลังจากสัมผัสได้ถึง ความห่วงใยที่ธูปหอมมีให้ กอหวายนึกถึงความอบอุ่นของกลางดึกที่ผ่านมา แต่พอมาลองคิดดูอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้ เพราะผู้ชายคนที่ชงกาแฟมาให้ธูปหอมยังสวมชุดนอนอยู่หรือเกิดจากไอร้อนจากตัวเอง แต่อ้อมกอดในตอนเช้าก่อนจะกลับออกมาจากบ้านธูปหอมทำให้รู้สึกอุ่นใจ และหายขุ่นเคืองกับเรื่องที่ตัวเองไม่ได้มีสิทธิ์อะไร หากจะมีใครอยู่ในบ้านกับธูปหอม โจ๊กถูกตักรับประทานไป 2 – 3 คำตามด้วยยาและดื่มน้ำตามที่รับปากเอาไว้ ข้อความถูกส่งไปยังโทรศัพท์ของคนที่พูดดุกึ่งบังคับ แต่ที่ทำให้ยอมทำตามดูเหมือนจะเป็นอ้อมกอดอุ่นๆ นั้นไม่ใช่น้ำเสียงดุๆ ของธูปหอม “ทำไมต้องโกรธด้วยว๊ะ น้าธูปมีแฟน ก็ไม่แปลก” กอหวายพูดบ่นและต่อว่าตัวเองก่อนจะไปอาบน้ำและนอนพัก บิดากับมารดา ไปทำบุญต่าง จังหวัดมีกระดาษแผ่นเล็กๆ ติดไว้ที่ตู้เย็น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ท่านจะไปทำ บุญและค้างคืนสองสามวัน ธามแต่งตัวเตรียมออกไปทำธุระเรื่องงาน ธูปหอมเองก็พร้อมจะลงไปข้างล่างเพื่อดื่มกาแฟอีกกับลุงบุญ “กอหวายท่าทางจะไม่ชอบธามนะ แนะนำปุ๊บรีบกลับบ้านเลย” “คิดมาก ธูปว่าคงตกใจที่ตื่นมาแล้วอยู่ที่นี่มากกว่า” ธูปหอมบอก “ก็เป็นได้ ไปเปิดหน้าบ้านได้แล้ว เดี๋ยวลุงบุญรอ” ธามหัวเราะเล็กๆ เดินไปจุมพิตที่ศีรษะของธูปหอม ธูปหอมยิ้มเมื่อเห็นข้อความที่ถูกส่งเข้ามา แต่เพียงแค่เปิดอ่านไม่ ได้ส่งข้อความกลับไป เพราะป่านนี้เด็กงอแงคงหลับเพราะ ฤทธิ์ยาอีกรอบ “ขยันมากวนใจเสียจริง” ธูปหอมยิ้มๆ รีบลงไปขายหนังสือพิมพ์ให้กับลูกค้าเจ้าประจำซึ่งก็คือ ลุงบุญ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นหลายครั้ง กอหวายจึงเอื้อมไปหยิบมาเพื่อรับสายเพราะไม่อย่างนั้นคงดังอยู่เรื่อยๆ “สวัสดีค่ะ กอหวายค่ะ” กอหวายเอ่ยทักทาย โดยไม่ได้ดูว่าใครเป็นคนโทรศัพท์เข้ามา “เป็นไงบ้าง” เสียงที่ได้ยินทำเอารีบลืมตาทันที “ไม่เป็นไรค่ะ” กอหวายบอก แต่เสียงงึมงำเสียจนปลายสายคิดว่าคงจะต้องดุกันอีก “ไม่เป็นไร คือ เป็น ไปหาหมอมาหรือยัง” น้ำเสียงเข้มๆ ทำให้ กอหวายรีบลุกขึ้นนั่งทำเหมือนว่า ตัวเองสบายดีทำทั้งที่รู้ว่า ธูปหอมไม่เห็น “ก็บอกอยู่ว่าไม่เป็นไร น้าธูปจะดุหวายทำไมบ่อยๆ” “แม่คงทำอะไรให้ทานแล้วสิ” ธูปหอมเป็นห่วงมากเสียจนลืมไปว่ากอหวายอยู่กับบิดามารดา “พ่อกับแม่ไปต่างจังหวัดค่ะ” กอหวายพูดงึมงำ เพราะเดี๋ยวคงได้ถูกดุอีกครั้ง “ไม่กลับหรือ” “อือ” กอหวายพูดเพียงแค่นั้น “อือไม่ได้นะคะ ต้องพูดว่า ค่ะ ถ้าอย่างนั้นแต่งตัวให้เรียบร้อย น้าจะไปรับแล้วพาไปหาหมอ น้าจะจอดรออยู่หน้าบ้านจนกว่า หวายจะออกมา ถ้าไม่ออกมา ก็จะรอทั้งคืนเลยคอยดู” ธูปหอมยิ้มก่อนวางสายและรีบไป แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าให้ปิดห้องสมุดแล้วกลับได้เลย เพราะวันนี้ไม่มีคนแล้ว “อายุเยอะกว่าแค่ 20 กว่าปีเอง สั่งใหญ่เลย แค่กินยานอนเยอะๆ ก็หายแล้ว” ปากก็พูดบ่นไป แต่ก็ลุกไปเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อ ผ้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD