ตอนที่ 12

3197 Words
หลังจากรับประทานอาหารมื้อค่ำด้วยกัน กอหวายอาสาขับรถให้เพราะแอบมีแผนในใจ เมื่อออกนอกเส้นทางบ้านของตัวเอง ธูปหอมหันไปมองดูคนที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “นอนคอนโด หรือ” ธูปหอมถาม “นอนที่คอนโดด้วยกันนะคะ คิดถึงอยากใช้เวลาด้วย” กอหวายบอกความรู้สึกของตัวเอง โดยลืมถามถึงธามไปเลย “เห็นหายไปตั้งนาน นึกว่าน้าคิดถึงอยู่คนเดียว” “ถึงไปต่อได้ไม่ไกล หวายจะไม่เสียใจเลยที่ได้รักน้าธูป” กอหวายยิ้มโดยไม่ได้หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ “ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลยหรือ อยากรักเฉยๆ เท่านั้น” ธูปหอมไม่เข้าใจสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไรนัก คนเราจะรักใครสักคนโดยไม่มีเหตุผลประกอบยอมทั้งๆ รู้ว่าต้องเสียใจ ธูปหอมหันไปมองดูกอหวายที่เงียบไปและตั้งใจกับการขับรถเพราะใกล้จะถึงที่พักแล้ว “ถึงแล้วค่ะ” กอหวายรีบลงมาเปิดประตูรถยนต์ให้ธูปหอมที่ยิ้มๆ กับท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูและมีความสุขของกอหวาย ความ ร่าเริงสดใสตามวัยดูมีเสน่ห์ในความรู้สึกของธูปหอม กอหวายจับมือธูปหอมพากันเดินเข้าไปในลิฟต์ โดยไม่ได้สนใจใครซึ่งอันที่จริงคงไม่มีใครมาสนใจเพราะวัยที่ต่างกันมาก ถือ เป็นเรื่องดีแต่สำหรับธูปหอมที่เคยผ่านเรื่องความรักของผู้หญิงด้วยกัน หากมีคนมองบ้าง ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรนัก “ถ้ามีใครถามว่าน้าเป็นใคร หวายจะตอบเขาว่าอย่างไร” ธูปหอมถามกอหวายหลังจากเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้ว “อยากบอกว่าเป็นแฟน แต่น้าธูปจะเสียหาย เพราะยังมีคุณธาม” กอหวายบอก ธูปหอมจึงดึงตัวมากอดเอาไว้ “มีแฟนรุ่นเดียวกับแม่เลยนะ เราน่ะ ไม่สิน้าเด็กกว่า 2 ปี” ธูปหอมบอกแล้วยิ้มๆ เมื่อกอหวายขมวดคิ้วจ้องมองใบหน้า “ไม่เห็นมีริ้วรอยเลยค่ะ” กอหวายยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ โดยไม่ได้คิดอะไรเพียงแค่อยากดูผิวหน้าของธูปหอม แต่จุมพิตอ่อน หวานทำเอาหัวใจรวนไม่กล้าเผยอริมฝีปากตอบรับ จนธูปหอมทำท่าจะขยับออกห่าง จึงรั้งตัวเอาไว้และจุมพิตอย่างดูดดื่มและร้อนแรง เรียกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองแอบมีความร้อนแรงอยู่ในตัว “ไม่เคยมีแฟน ทำไมจูบเก่ง” ธูปหอมถาม กอหวายหน้าแดงเดินหนีไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์กับที่เปิดขวดมายื่นให้ธูปหอมซึ่งส่าย หน้าปฏิเสธ “ไม่รู้ จูบเก่งจริงดิ” กอหวายถามเสียงอ่อยๆ ยังคงออกอาการเขินอายยืนบิดไปบิดมา ธูปหอมรับขวดเบียร์มาและช่วยเปิดฝาขวดให้แล้วส่งกลับไปให้กอหวายที่เริ่มดื่มทีละนิด “หวายมีไวน์อยู่นะคะ” กอหวายบอกธูปหอม “ไม่ล่ะ ดื่มคนเดียวดีแล้วจะได้มีคนพาเข้านอน” ธูปหอมยิ้มให้ “ฝันไปหรือเปล่าหนอ กอหวายเอ๊ย ถ้าฝันไปล่ะก็ ตื่นขึ้นมาร้องไห้ตาบวมแน่ๆ” กอหวายพาธูปหอมไปนั่งที่ระเบียง ซึ่งสามารถเห็นวิวแม่น้ำยามค่ำคืนอันงดงาม ถึงแม้จะเคยเห็นมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ค่ำคืนนี้งดงามที่สุดเพราะคนที่มานั่งไหล่เบียดชิดอยู่ข้างๆ และยังจับมือไปวางไว้ที่ตักรวมถึงกุมมือกอหวายเอาไว้ทำเหมือนกลัวกอหวายจะลุกหนีไป “ฝันหรือเปล่าล่ะ” ธูปหอมหันไปหอมแก้มเสียงดังฟอดใหญ่ “แรกๆ ทำเป็นเย็นชา ตอนนี้ก็น่ารักซะ แปลกนะคะ หวายไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าความรักฉันท์คนรักเป็นยังไงและที่ สำคัญหลงรักผู้หญิงด้วยกัน น้าธูปล่ะคะ รู้จักความรักแบบคนรักตอนไหน” กอหวายถาม “ตอนมหาวิทยาลัย” ธูปหอมไม่ได้เล่ารายละเอียดบอกเพียงแค่นั้น “ที่เดินร้องไห้ผ่านบ้านตาบุญ” กอหวายนึกถึงเรื่องราวที่ตาบุญเคยบอกเอาไว้ “เดี๋ยว ลุงบุญเคยบอกด้วยหรือ” ธูปหอมถามเสียงเข้ม “ไม่บอก” กอหวายหัวเราะคิกคัก จึงถูกธูปหอมตีเบาๆ ที่แขนคนถูกตีทำเป็นเอะอะโวยวายร้องโอดโอย “เยอะไป ไหนว่าไม่ชอบการแสดง” ธูปหอมพูดดุ “ใครกันนะที่เป็นผู้โชคดีตอนนั้น แต่ต้องขอบคุณเขานะคะที่ทำให้หวายได้มานั่งอยู่ข้างๆ น้าธูป” กอหวายยิ้มๆ และจุมพิตธูป หอมที่รอยยิ้มจางลง เมื่อถูกถามถึงเรื่องราวในอดีต “เขาอาจคิดว่าโชคร้ายก็ได้” ธูปหอมบอก “แต่หวายว่า หวายโชคดี” กอหวายยิ้ม ธูปหอมเอามือทาบทับไปที่ศีรษะอย่างเอ็นดูในความน่ารักและช่างพูดเอาใจของกอ หวาย “อีก 2 – 3 ปีอาจไม่พูดแบบนี้ก็ได้ หวายอาจพูดว่า เราไม่น่าเจอกันเลยอะไรประมาณนี้” ธูปหอมบอกกอหวายที่ทำหน้างอหันมา จ้องเขม็ง “ถ้าเกิน 3 ปีล่ะ” “อีกไม่เท่าไรน้าจะ 60 แล้วนะ ให้โอกาสคิดอีกครั้ง” ธูปหอมหัวเราะ “ท่าทางไม่ดื้อ แม่ดื้อกว่าเยอะค่ะ” กอหวายหัวเราะเช่นกัน เมื่อได้เอ่ยถึงมารดา “เพราะรักเรานั่นแหละ เขาถึงเป็นแบบนั้นทั้งพ่อทั้งแม่” กอหวายแอบถอนใจ แต่ธูปหอมสัมผัสได้ จึงเอื้อมแขนไปโอบไหล่เอาไว้เป็นการปลอบโยน เพราะรู้ดีว่า ถึงอย่างไรคงมีปัญหา แน่ๆ แม้ก่อนหน้าพยายามพาตัวเองออกห่างจากกอหวาย แต่สุดท้ายความรู้สึกที่ชัดเจนทำให้ธูปหอมไม่คิดถอยหนีอีกต่อไป “การได้รับการยอมรับ ถ้าลำบากด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย หวายว่าหวายไม่ต้องไปบอกให้พ่อแม่ยอมรับในเรื่องเราสองคนหรอกค่ะ น้า ธูปจะเป็นไรไหม” กอหวายถามด้วยความเป็นห่วง “เรานั่นแหละ จะเป็นไรไหม นอกจากน้าจะเป็นผู้หญิงแล้วยังแก่มากด้วย อันที่จริงขึ้นอยู่กับเราสองคนนั่นแหละ บางคู่ใช้ชีวิต อยู่ด้วยกัน โดยบอกสถานะกับใครๆ ว่าเป็นเพื่อน เขาก็อยู่กันยืด” “กลัวตัวเองจะเป็นเด็กขี้หวง จนทำให้น้าธูปปวดหัว” “น้าจะดูแลตัวเอง ไม่ให้หวายต้องกลายเป็นเด็กขี้หวง ตกลงไหม” “เหมือนวันนี้ หวงมาก งอนมากด้วย” กอหวายทำเสียงเล็กเสียงน้อย “ดูมีค่าขึ้นมาเลย” ธูปหอมหัวเราะแล้วหันไปจุมพิตที่ไหล่กอหวาย “น้าธูปน่ารักแบบนี้กับแฟนทุกคนไหมเนี่ย” กอหวายถาม “แล้วแต่ช่วงวัย ดื่มหมดก็ไปอาบน้ำได้แล้วนะจ๊ะ ตาโรยๆ ท่าทางจะเหนื่อยอยู่” ธูปหอมยิ้ม ขณะช่วยเขี่ยเส้นผมให้คนที่หันหน้า มาหาและขยับเข้าใกล้เสียจนปลายจมูกเกือบจะสัมผัสกัน แก้มที่มีเลือดฝาดทำให้ดู มีเสน่ห์ “อาบน้ำให้ด้วยสิคะ หวายล่ะเนื๊อยเหนื่อย” กอหวายพูดอ้อนและใช้ปลายจมูกเขี่ยที่ปลายจมูกของธูปหอม “อาบเองเลย แต่จะแปรงฟันให้” ธูปหอมหัวเราะ กอหวายยิงฟันให้ดูและหัวเราะตามธูปหอม “อยากให้ตาบุญได้เห็นและรับรู้ว่า หวายปฏิบัติตามที่ได้รับปากเอาไว้ เพราะน้าธูปยิ้มกว้างมาก” กอหวายยิ้มจางๆ เมื่อพูดถึง ตาบุญ “เวลาน้าเห็นดาวดวงที่สว่างรู้สึกเหมือนลุงบุญมองดูอยู่ เมื่อคืนยังฟ้องอยู่เลยว่า สงสัยคิดไปเองฝ่ายเดียว” ธูปหอมพูดยิ้มๆ มองดูดวงดาวที่แม้แสงจะริบหรี่ แต่ยังคงสวยงามเพราะวิบวับเหมือนรู้ว่ากำลังถูกจ้องมอง “พ่อเคยบอกว่า คนที่ชอบดูดาวหรือดวงจันทร์ มักเป็นคนที่กำลังเหงาเศร้าหรือไม่อย่างนั้นก็กำลังมีความสุข น่าจะจริงนะคะ เพราะเวลามานั่งคนเดียวมองแว๊บๆ ไม่ค่อยได้ดูวิวเลยด้วยซ้ำ ปิดม่านนอน” กอหวายบอกเรื่องราวชีวิตของตัวเอง “น้าคงเหงาล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้น เพราะชอบนั่งมองวิว บางทีนั่งเพลินจนดึกดื่นไม่รู้ตัว เกือบเช้าก็เคย” ธูปหอมยิ้มน้อยๆ เมื่อกอ หวายเอามือทาบทับไปที่แก้มทั้งสองข้างและเบี่ยงหน้าให้หันมา ก่อนจะจุมพิตอย่างอ่อนโยน ซึ่งทำให้หัวใจของธูปหอมสดชื่นขึ้นมาก “มีหวายแล้วนะ น้าธูป ถ้าอยากนั่งเงียบๆ ดูวิว ดูดาว หวายจะนั่งอยู่ด้วยไม่ไปไหน ถ้าไม่สบายใจอะไร หวายไปนั่งเงียบๆ อยู่ ข้างๆ ก็อุ่นใจแล้วใช่ไหมคะ” กอหวายถาม ธูปหอมพยักหน้าและจุมพิตเล็กๆ เป็นการขอบคุณ “ลุงบุญบอกมาอีกล่ะสิท่า” ธูปหอมถาม กอหวายหัวเราะคิกคัก ถึงแม้ตาบุญจะเสียไป แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าอยู่ห่างไกลเลยกลับถูกพูดถึงระลึกถึงและยังสร้างรอยยิ้มให้ด้วย กอหวายรู้สึกสุขใจที่ตาบุญบอกฝากให้ดูแลธูปหอมที่เป็นคนที่ตาบุญรักมาก “ตารอดูได้เลยว่า หวายจะทำให้น้าธูปมีความสุข แต่บางตอนห้ามดูนะตา” กอหวายหัวเราะเล็กๆ ลุกขึ้นและยื่นมือให้ธูปหอมลุก ขึ้นเช่นกัน ธูปหอมอาบน้ำก่อน เพราะนางแบบสาวต้องทำความสะอาดหน้าใช้เวลาพอสมควร หลังจากประเมินเวลาเอาไว้ว่าธูปหอมอาบน้ำเสร็จตัวเองคงทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จพอดี คนอาบน้ำเสร็จออกมาเห็นกอหวายยืนยิงฟันและยื่นแปรงสีฟันให้ “น้าธูปบอกจะแปรงฟันให้” กอหวายพูดยิ้มๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ “30 หรือ 3 ขวบ อ้าปาก” ธูปหอมก้มตัวเล็กน้อยอดขำไม่ได้ที่เจ้าตัวอยากให้ช่วยแปรงฟันให้จริงๆ “3 ขวบจะดูปัญหาอ่อนไปนะคะ สัก 20 แล้วกันเนอะ กำลังวัยใส” “แปรงฟันเองจะได้สะอาด รีบอาบน้ำด้วยล่ะ ไม่งั้นน้าหลับก่อนนะ” ธูปหอมเดินอมยิ้มมานั่งที่เตียงนอนและหยิบหนังสือที่กอหวายอ่านค้างอยู่ซึ่งวางเอาไว้โต๊ะข้างเตียงนอนมาค่อยๆ พลิกดู กอหวายใช้เวลาไม่นานสำหรับการอาบน้ำ ธูปหอมยิ้มมองดูคนที่นั่งประทินผิวเริ่มจากใบหน้า ลำคอ จนมาที่แขนและขา คนที่ ดูแลผิวพรรณหันมาเห็นธูปหอมยิ้มให้อยู่ “ยิ้มอะไรคะ” กอหวายถาม “ถ้าง่วงมากๆ ทำยังไง” ธูปหอมถาม “ไม่อาบน้ำ นอนเลย” กอหวายหัวเราะ เมื่อเห็นธูปหอมขมวดคิ้วและยังทำท่าทางคล้ายเหม็นคนไม่อาบน้ำ “ปกติกลับมาจะทำความสะอาดหน้าก่อนเลยค่ะ แล้วก็นั่งเล่นทำโน่นทำนี่เรื่อยเปื่อย ถ้ากลับบ้านแกล้งแม่บ้าง คุยกับพ่อบ้าง เวลาหมดเร็วมากในแต่ละวัน แต่ช่วงหลังจะมีเวลามากขึ้น เพราะรับงานน้อยลงและมีผู้จัดการช่วยเรื่องรับงานด้วย หวายอยากมีเวลา อยู่กับน้าธูปเยอะๆ แต่เราสองคนยังมีคนแวดล้อมรอบตัวอยู่ น้าธูปแบ่งเวลาให้หวายบ้างก็แล้วกัน” กอหวายพูดอ้อน แต่เมื่อเห็นชื่อ ของคนที่โทรศัพท์เข้ามาทำให้รีบลุกเดินไปล้มตัวลงนอน เพราะคิดว่าธูปหอมคงเดินออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง “คะ ธาม” ธูปหอมทักทายคนที่โทรศัพท์เข้ามา “อยู่คอนโด กอหวาย” กอหวายได้ยินธูปหอมบอกกับธาม “กลับพรุ่งนี้สายๆ ก่อนห้องสมุดเปิด ธามอยู่ไหนคะ” ธูปหอมถาม “ไว้เจอกันพรุ่งนี้เช้านะ” นั่นคือทั้งหมดที่กอหวายได้ยิน ซึ่งเดาได้ไม่ยากนักว่า ธามคงอยู่ที่ห้องสมุด “ปิดไฟเลยไหม” ธูปหอมถามกอหวายที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ แต่ไม่ได้พูดหรือตอบคำถาม คนที่ถามเลยเอื้อมไปปิดไฟหัวเตียงด้านที่กอหวายนอนอยู่และกำลังหันกลับมาเพื่อจะปิดไฟอีกด้าน แต่ถูกกอ หวายรวบเอวและดึงตัวเอาไว้ ร่างกายธูปหอมทาบทับบนตัวของกอหวายที่จ้องเขม็งอยู่ สายตาคู่นั้นเหมือนมีคำถาม แต่ไม่มีคำพูดใดๆ เอ่ยออกมาสักคำ ธูปหอมพอจะรู้ว่า จากที่พูดเจื้อยแจ้วและเงียบไปสาเหตุเกิด จากอะไรจึงก้มลงพรมจูบเว้าวอนและปลอบโยน กอหวายตอบรับสัมผัสนั้นทันที เหมือนกลัวว่าวันข้างหน้าจะไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้กับธูปหอมอีก กอหวายมองดูเรือนร่างเปลือยเปล่าของธูปหอม เมื่อเจ้าตัวค่อยๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ หลังจากจุมพิตกันอย่างอ่อนหวาน กอ หวายจ้องมองไม่วางตารู้สึกร่างกายรุ่มร้อนและใจเต้นแรง การได้เห็นเรือนร่างผู้หญิงด้วยกันทำไมถึงทำให้รู้สึกเร่าร้อนได้มากมายขนาดนี้ ธูปหอมจับมือกอหวายโดยนำมาทาบทับที่หน้าอกของตัวเอง กอหวายขยับตัวและลุกขึ้นนั่งค่อยๆ คลึงเคล้าเนินอกที่หย่อน คล้อยไปบ้าง แต่กลับนุ่มนวลเสียจนทำให้รู้สึกหลงใหล จุมพิตเล็กๆ จึงได้ทาบทับไปที่เนินอกของธูปหอมที่หายใจแรงขึ้นมาทันที อาภรณ์กำลังถูกถอดออกจนไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว กอหวายลูบไล้เนินอกของธูปหอมอย่างทะนุถนอมและอ่อนโยน ริมฝีปากของธูป หอมขยับเข้าหาและเบียดชิดให้แนบแน่น จนกอหวายเป็นฝ่ายล้มตัวลงนอนอีกครั้ง “เรื่องธามทำให้ไม่สบายใจ หรือเปล่า” ธูปหอมถาม เพราะแววตาของกอหวายดูเศร้าไป เจ้าตัวไม่ยอมพูดอะไร เริ่มคลึงเคล้าที่เนินอกของ ธูปหอมอย่างหนักหน่วงและเบียดชิดริมฝีปาก เพื่อดูดดื่มความหอมหวาน จากริมฝีปากเรียวบางของธูปหอมที่ปล่อยให้ กอหวายได้ระบายความรู้สึกออกมา ด้วยหวังอยากให้ความใกล้ชิดได้ช่วยปลดปล่อยความไม่เข้าใจที่คับคั่งอยู่ภายในใจ กอหวายพลิกตัวให้ธูปหอมนอนลง โดยทาบทับตัวเองอยู่บนเรือนร่างที่อบอุ่น ขณะจ้องมองความหวงแหนได้ถาโถมเข้าไปอยู่ ในความรู้สึกข้างใน จึงจุมพิตธูปหอมอย่างร้อนแรง โดยคนที่ถูกจูบตั้งรับอย่างอ่อนโยนดุจตัวเองเป็นน้ำเย็นที่จะทำให้ไฟในตัวของกอ หวายเบาบางลง “ปล่อยความรู้สึกออกมา อย่าเก็บเอาไว้” ธูปหอมกระซิบบอกคนที่ก้มลงจูบที่ไหล่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดกอหวายจึงกัดที่หัวไหล่ ธูปหอมร้องโอ๊ย กอหวายจึงจุมพิตเบาๆ ด้วยรู้สึกผิดที่ปล่อยอารมณ์หึงหวงที่ไม่ควรเกิดขึ้น จนทำให้ธูปหอมเจ็บตัว “หวายทำน้าธูปเจ็บ” กอหวายพูดและเริ่มมีน้ำตาไหลรินออกมา “นิดหน่อยแค่มีรอย ไม่เป็นไร” ธูปหอมพูดปลอบโยนจูบกอหวายที่ตอบรับสัมผัส ถึงแม้ไม่เคยมีสัมพันธ์ใดๆ กับใครมาก่อนไม่ ว่าหญิงหรือชาย แต่การได้ใกล้ชิดกับธูปหอม ถึงแม้ก่อนหน้าจะรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งเร้า ซึ่งก็คือ เรือนร่างเปลือยเปล่าที่กำลังเบียดเข้าหากันและกัน หากแต่ความอ่อนโยนของธูปหอมทำให้ความตื่นเต้นผ่อนเบาลงไปและคงไว้เพียงความอบอุ่นที่ค่อยๆ แผ่ซ่านไปในทุกอณู ของเรือนกาย ดุจดั่งว่า ความอบอุ่นได้ไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดของกอหวายที่เริ่มหอบหายใจแรง เมื่อจุดเล็กๆ บนเนินอก ที่ถูกคลึง เคล้าด้วยนิ้วมือธูปหอมที่หยอกเย้าและทำให้ร่างกายเสียวซ่าน จนทำให้กอหวายขยับถอยห่างออกมา เพราะไม่อย่างนั้นร่างกายอาจ จะแหลกสลายไปกับความเย้ายวนนั้น จุมพิตที่กดทับไปบริเวณลำคอไม่ได้ทำให้ธูปหอมถอยหนี แต่กลับยั่วด้วยการขยับร่างกายให้เบียดชิดเหมือนอยากบอกกึ่งยั่ว ให้พรมจูบให้ถ้วนทั่วและหนักหน่วง ไอ้เจ้ารอยยิ้มที่ได้เห็นทำให้กอหวายอยากรุกเร้าหนักขึ้น จึงจุมพิตและดูดดื่มไปตามเรือนร่างของธูปหอมไล่เรื่อย ตั้งแต่ลำคอลงมาหยุดคลอเคล้าอยู่ที่หน้าอก ซึ่งทำให้เรือนร่างของธูปหอมบิดไปมาและไหวเอนไปตามที่ร่างกายรู้สึก รุ่มร้อน แต่ยังอยากเข้าแนบชิด อยากถูกรุกเร้า จึงพยายามเบียดตัวเข้าหาจุมพิต จากทุกสัมผัสของกอหวายที่สำรวจเรือนร่างของธูป หอมจนถ้วนทั่ว จึงขยับตัวขึ้นมาค่อยๆ จุมพิตและเบียดริมฝีปากเข้าหาอย่างแนบแน่น เรือนร่างเปลือยเปล่าของทั้งสองแนบชิดกัน ธูป หอมคลึงเคล้าที่สะโพก ยามกอหวายหลงใหลความอ่อนหวานจากการจุมพิตกันและกัน สะโพกได้เริ่มเคลื่อนไหว โดยการเหนี่ยวรั้งด้วยมือทั้งสองของธูปหอม ซึ่งกอหวายปฏิบัติตามด้วยการขยับสะโพกไปตามจังหวะการเต้นของหัวใจ ร่างกายที่ถูกบดทับกำลังทำให้ รู้สึกหวามไหวและเคลิบเคลิ้มไปกับความอ่อนไหวที่ถูกจุดขึ้นในร่างกาย กอหวายใช้แรงที่มีค่อยๆ ทวีถาโถมเบียดชิดสัมผัสแนบสนิท จนกระทั่งร่างกายของทั้งสองชะงักชะงันด้วยกันทั้งคู่ จึงทิ้งตัวลงทาบทับบนเรือนร่างของธูปหอมที่กอดรัดเอาไว้สุดแรง “เหมือนจะขาดใจเลย” กอหวายพูดขึ้น ขยับตัวขึ้นไปจุมพิตธูปหอมที่ยังคงหอบหายใจแรง แต่ตอบรับสัมผัสที่ได้รับและดึงตัวกอหวายมากอดเอาไว้แนบแน่นอีกครั้ง “เป็นยาชูกำลังให้คนแก่นะ เรา” กอหวายหัวเราะคำพูดของธูปหอม ทำให้ความคลางแคลงใจเรื่องธามเบาบางลงไปบ้าง แต่ คำพูดของบิดายัง คงก้องกังวานอยู่ในความคิด เพราะกอหวายกำลังเข้าไปแทรกตรงกลางระหว่างธามกับธูปหอมทั้งที่รู้ว่าไม่ควร หาก แต่ทำไมธูปหอมถึงยอมปล่อยให้กอหวายถึงเนื้อถึงตัว จนแทบจะเป็นคนๆ เดียวกันแบบนี้ “ดีจัง” กอหวายพูดขึ้นแล้วยิ้มอายๆ “อะไรดี” ธูปหอมแสร้งถาม “ไอ้เมื่อกี้ไง” กอหวายหัวเราะเล็กๆ ปิดหน้าปิดตาและซุกใบหน้าไว้ที่เนินอกเปลือยเปล่าของธูปหอมที่ลูบศีรษะเบาๆ “เซ็กส์เป็นเหมือนส่วนประกอบส่วนหนึ่งของความรัก เหมือนเวลาทำอาหารเรื่องนี้น่าจะเหมือนผงปรุงรสที่ทำให้อาหารรส ชาติกลมกล่อมขึ้น ส่วนรสรักจะทำให้เลือดสูบฉีดกลายเป็นรสชาติของชีวิต” ธูปหอมพูดวกวนเสียจนกอหวายหัวเราะ “น้าธูปเป็นคนอ่อนหวานทั้งร่างกาย จิตใจ ไอ้เรื่องนั้นด้วย” กอหวายพูดจบรีบดึงผ้าห่มมาคลุมกายให้ธูปหอม เพราะถ้าปล่อยให้นอนไร้อาภรณ์ต่อไปล่ะก็คงไม่ได้หลับได้นอนกันพอดี กอหวายยิ้มอายๆ กับสิ่งที่ตัวเองคิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD