SAENDI TALK. เรานั่งจมอยู่กับความทุกข์ ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำยังไงต่อไปดี ใจอยากจะตามไปดูแสงดาวที่โรงพยาบาล แต่พอนึกถึงสายตาเย็นชากับแววตาเฉยเมยของเสี่ยทำให้เราไม่กล้า เรารอฟังข่าวอยู่ในห้องทั้งวันจนกระทั่งมืด ทำได้แค่เพียงเดินไปเดินมาอยู่อย่างนั้นเหมือนคนใกล้บ้าเข้าไปทุกที รอแล้วรอเล่าว่าเมื่อไหร่ที่เสี่ยจะกลับมา และคิดไปไปต่างๆนาๆว่าเสี่ยมันจะโกรธเราไหม จะเกลียดเราสักแค่ไหนถ้าแสนดีกับลูกเป็นอะไรไป... บอกตรงๆว่ากลัว....เรากลัว..... กลัวว่าเราจะต้องเสียเสี่ยปลื้มไป.... รอจนดึกเสี่ยมันก็ยังไม่กลับมา เราก็นั่งรอเสี่ยมันตรงโซฟาจนเราเผลอหลับไป จนกระทั่งกลางดึก ตอนนั้นเรารู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น เหมือนเราได้ยินเสียงของเสี่ยมันดังมาจากที่ไกลๆแต่จับใจความไม่ได้ ตามมาด้วยสัมผัสอ่อนโยนแผ่วเบาแถวๆหน้าผาก เรารู้ได้ทันทีว่านี่คือความฝัน เพราะความเป็นจริงเสี่ยปลื้มไม่เคยอ่อนโยนกับเราแบบนี้ ถึงแ