ออกเดินทาง

2444 Words
กว่าสามคนพ่อลูกจะกลับมาถึงหมู่บ้านก็เป็นช่วงเวลาเกือบเที่ยงวันแล้ว พอมาถึงทุกคนก็แยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเอง เมื่อรู้ว่าซานเฉียวเตรียมตัวจะไปซื้อตั๋วรถไฟเดินทางไปปักกิ่งในวันพรุ่งนี้ "งั้นแม่กับย่าจะช่วยกันทำเนื้อแห้งเองนะลูก" "พ่อกับเจ้าใหญ่กับปู่จะช่วยกันปลูกข้าวให้ได้อีกซัก 3 ไร่ เสร็จแล้วจะไปสีข้าวที่เหลืออยู่ให้เป็นข้าวสาร ระหว่างนี้ลูกก็เริ่มเก็บของที่แม่กับย่าแยกไว้เข้าไปเก็บในมิติเลยนะลูก" "ได้ค่ะพ่อ" พอตกลงกันได้แบบนั้นซานเฉียวก็พาทุกคนเข้าไปในมิติ ส่วนตัวเธอเองก็รีบเก็บของทั้งหมดเข้าไปในมิติไม่เว้นแม้แต่ฟืนหรือไม้อ่อยไฟที่จำเป็นต้องใช้ เหลือไว้เพียงที่นอนและผ้าห่มที่ต้องใช้ในคืนนี้เท่านั้น เพียงไม่นานสิ่งของจุกจิกโต๊ะและชั้นวางของต่าง ๆ ก็ถูกย้ายไปไว้ในมิติจนหมดพอถึงเวลาค่ำทุกคนก็ออกมาใช้ชีวิตนอกมิติเพื่อให้เพื่อนบ้านไม่เกิดความสงสัยเกินไป เช้าวันต่อมา ข้าว 3 ไร่ที่ปลูกไว้ถูกเกี่ยวและกรอกถุงจัดเรียงใส่เกวียนไว้เรียบร้อยตั้งแต่เช้ามืด ทันทีที่ทำงานเสร็จ 3 คนพ่อลูกก็ออกเดินทางเข้าเมืองโดนที่ซานเฉียวแยกตัวออกไปที่สถานีรถไฟเพียงคนเดียว ส่วนฮั่วซานถังกับลูกชายจำเป็นต้องขับรถไถไปคนละ 1 คันเพื่อรอให้โรงสีเปิดทำการและส่งมอบให้เสร็จสรรพ พอมาถึงสถานีรถไฟซานเฉียวก็เห็นว่ามีผู้คนมากมายที่กำลังวิ่งไปรอรถไฟที่กำลังจะเข้าเทียบชานชาลาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า โดยมีเจ้าหน้าที่คอยโบกธงและดูแลความเรียบร้อยอยู่ไม่ห่าง ไม่ไกลกันนักมีช่องซื้อขายตั๋วที่กำลังชุลมุนกันอยู่ ซานเฉียวจึงเลือกที่จะนั่งรอให้คนเบาบางลงก่อน ขณะเดียวกันเธอได้มองเห็นผู้คนมากมายที่ต้องการเดินทางไปทำงานในเมืองใหญ่ บ้างก็เดินทางเพียงลำพัง บ้างก็หอบหิ้วลูกหลานได้ด้วยเป็นครอบครัวใหญ่ พอเห็นว่าผู้คนเบาบางลงแล้ว ขบวนรถไฟก็เคลื่อนตัวออกจากชานชาลาไปแล้ว ซานเฉียวจึงเดินไปที่ช่องขายตั๋ว หลังจากที่เธอมองดูที่กระดานใหญ่มาสักพักแล้วว่าตารางเดินรถมีวันละกี่รอบ "สวัสดีค่ะ ฉันขอรบกวนสักครู่นะคะพี่ชาย ไม่ทราบว่ารถไฟที่จะเดินทางไปปักกิ่งรอบ 5 โมงเย็นของวันนี้พอจะมีตั๋วว่างไหมคะ" "มีสิ ตอนเย็นไม่ค่อยมีคนเดินทางหรอก จะเยอะหน่อยก็คือช่วงเช้า ว่าแต่น้องสาวอยากได้กี่ที่นั่งล่ะ เอาแบบห้องหรือแบบธรรมดา" คำถามของเจ้าหน้าที่ขายตั๋วทำให้ซานเฉียวตอบได้โดยที่ไม่ต้องคิด ยังไงเสียนั่งแบบเป็นห้องพิเศษย่อมสะดวกกับการเข้าออกมิติได้มากกว่า "ห้องพิเศษนั่งได้กี่คนคะพี่ชาย" "ห้องพี่เศษนั่งได้ 4 คน ค่าโดยสาร 40 หยวน ระยะเวลาเดินทางประมาณ 3 วัน ส่วนที่นั่งปกติคนละ 4 หยวนเท่านั้นครับ" "งั้นเอาห้องพิเศษ 1 ห้อง แล้วก็ตั๋วที่นั่งปกติอีก 2 ที่ค่ะ" "ได้เลย รอแป้บนึงนะ" พอซานเฉียวตัดสินใจได้เจ้าหน้าที่ขายตั๋วก็รีบทำการออกตั๋วโดยสารให้ซานเฉียวทันที "..." "ได้แล้วครับ ทั้งหมด 48 หยวน ยังไงให้มาก่อนเวลาสัก 30 นาทีนะครับ" "ได้ค่ะ นี่เงิน 50 หยวนค่ะ" เงินจำนวน 50 หยวนถูกยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ขายตั๋ว หลังจากที่ซานเฉียวรับตั๋วรถไฟมาเรียบร้อยแล้ว ไม่นานเธอก็ได้รับเงินทอนที่เหลือ ซานเฉียวเดินไปดูรถรับจ้างที่อยู่บริเวณนั้น "มองหาอะไรล่ะนังหนู" หญิงวัยกลางคนที่นั่งขายผลไม้อยู่แถวนั้นเอ่ยถามซานเฉียวเมื่อเห็นเธอชะเง้อคอมองหาอะไรบางอย่าง "หนูหารถรับจ้างค่ะป้า ป้าพอจะแนะนำให้ได้ไหมคะ" "จะเหมารถเหรอ จากไหนไปไหนล่ะ ผัวป้าก็รับจ้างอยู่นะ ตอนนี้ตาแก่มันกำลังออกไปส่งผู้โดยสารอยู่ โน่นไง มาโน่นแล้ว" ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่หญิงวัยกลางคนก็หันไปชี้ที่รถกระบะคันหนึ่งที่กำลังวิ่งเข้ามาจอดที่ข้างร้านของนาง "มีอะไรกันเหรอ แม่หนูจะเหมารถเหรอลูก" ลุงคนขับลงมาจากรถได้ก็รีบถามไถ่เด็กสาวที่กำลังยืนคุยอยู่กับภรรยาของตนเองอยู่ "ใช่จ้ะลุง หนูอยากให้ลุงออกไปรับที่หมู่บ้านตอนบ่าย 3 โมงของวันนี้ หนูกับครอบครัวมีกันทั้งหมด 6 คน ลุงจะคิดค่าโดยสารเท่าไหร่คะ" ซานเฉียวรีบยื่นแผนที่ไปหมู่บ้าน ที่พี่ชายของเธอเป็นคนวาดให้กับคุณลุงได้ดูเพื่อประเมินราคา " 6 หยวนไหวไหมแม่หนู ลุงจะออกจากที่นี่ตั้งแต่บ่าย 2 ครึ่ง ไปถึงหมู่บ้านของแม่หนูก็บ่าย 3 พอดี" "ได้ค่ะ หนูต้องมัดจำไว้ก่อนไหมคะ" "ไม่ต้องหรอก ยังไงก็ต้องมาขึ้นรถไฟที่นี่อยู่แล้ว เอาเป็นว่าลุงจะไปรับตามเวลาที่นัดหมายนะ แม่หนูกลับไปเตรียมตัวเถอะ" "ขอบคุณค่ะลุง โอ๊ะ ป้าขายมันนึ่งด้วยเหรอคะ มีแบบที่ยังไม่นึ่งด้วยรึเปล่าคะ หนูอยากได้" ก่อนจะเดินออกมาซานเฉียวเห็นว่าอีกฝ่ายตกลงกันง่าย เธอจึงอยากจะอุดหนุนสินค้าที่ป้ากำลังขายอยู่เพื่อเป็นการตอบแทน โชคดีที่เธอเห็นเข้ากับมันหวานนึ่งจึงอยากได้ไปฝากปู่กับย่า และอยากได้ไปปูไว้ในมิติด้วย "มีสิลูก ถุงละ 2 เหมา หนูจะเอากี่ถุงดีล่ะ" "เอาแบบนึ่งแล้ว 2 ถุงค่ะ แบบยังไม่นึ่ง 3 ถุง นี่เงิน 1 หยวนค่ามันหวานค่ะป้า" "จ้ะ ๆ อ่ะนี่ได้แล้ว ขอบใจมากนะแม่หนู เดี๋ยวตอนบ่ายลุงเค้าจะออกไปรับนะลูก" "ค่ะคุณป้า หนูไปแล้วนะคะ" เมื่อหารถได้แล้วซานเฉียวจึงรีบปั่นจักรยานกลับไปหาพ่อกับพี่ชายของเธอที่โรงสีนอกเมือง ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีซานเฉียวก็ไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ไปถึงเธอก็พบว่าพ่อกับพี่ชายออกมารออยู่ที่หน้าโรงสีแล้ว "มาแล้วเหรอลูก แล้วนั่นซื้ออะไรมาด้วย" ฮั่วซานถังเอ่ยถามลูกสาว ขณะเดียวกันก็ช่วยลูกสาวยกจักรยานขึ้นบนเกวียนแล้วเตรียมตัวออกเดินทางทันที "มันนึ่งค่ะพ่อ เรารีบกลับหมู่บ้านกันเถอะ หนูได้ตั๋วรถไฟรอบ 5 โมงเย็น แต่หนูเหมารถให้ออกไปรับเราตอนบ่าย 3 โมง หนูอยากไปเก็บของแล้วก็ตรวจความเรียบร้อยให้ดีก่อนเดินทาง" "งั้นขึ้นมาเลยอาเฉียว ส่วนนี่เป็นเงินค่ารถไถ 8,000 หยวน แล้วก็เงินค่าข้าวที่ขายได้อีก 1,300 หยวน น้องเอาไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยก่อน" ซานหลางยื่นถุงเงินทั้งหมดให้น้องสาวเก็บเอาไว้ในที่ปลอดภัย จากนั้นเขาก็ขับรถไถออกไปจากโรงสีทันที พอปลอดสายตาผู้คนพวกเขาก็เปลี่ยนมาใช้จักรยาน กระทั่งใกล้ถึงหมู่บ้านจึงเปลี่ยนเป็นการเดินเท้าเปล่าแล้วเก็บทุกอย่างเข้ามิติจนหมด "กลับมากันแล้วเหรอ อาเฉียวมาดูนี่เร็วเข้า วันนี้แม่กับย่าโชคดีมากเลยรู้ไหม" นางฮั่วเจินพอเห็นว่าลูกและสามีกลับมาถึงบ้านก็รีบเรียกลูกสาวให้มาดูเห็ดซงหยงที่หายากมากกว่าจะพบ โชคดีที่วันนี้นางกับพ่อแม่สามีออกบ้านแต่เช้ามืดแล้วเดินขึ้นเขาไปสูงพอสมควรจึงได้เห็ดชนิดนี้มาเกือบ 10 ดอก "เห็ดอะไรเหรอจ๊ะแม่" "เห็ดซงหยง เช็ดออกดี ๆ หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วจิ้มกับซีอิ๊วอีกซักหน่อยอร่อยเหาะเลยนะลูก" "ว้าว งั้นต้องลองซะแล้ว แม่อย่าลืมเอาส่วนที่ขูดออกเก็บไว้นะจ๊ะ หนูจะเอาไว้ปลูก" "ได้ลูกได้" ซานเฉียวรีบร้อนเดินเข้าไปหยิบมีดกับเขียงรวมไฟถึงซีอิ๊วในครัวจนลืมเล่าเรื่องการเดินทางไปเสียหมด ทำเอาซานหลางต้องส่ายหัวเบา ๆ ให้กับน้องสาว "ปู่ ย่า แม่ครับ พวกเราต้องเดินทางวันนี้แล้วนะครับ ผมว่าเราทำมื้อเที่ยงกินก่อนเวลาสักหน่อยดีไหม อาเฉียวได้ตั๋วรถไฟรอบ 5 โมงเย็นวันนี้ อีกไม่นานก็จะมีรถที่จ้างไว้มารับเราไปขึ้นรถไฟในเมือง รถจะมาถึงบ้านเราตอนบ่าย 3 โมง" ซานหลางบอกเล่าทุกอย่างให้ทุกคนได้รู้แล้วจะได้เตรียมตัวได้ทันเวลา "เร็วขนาดนั้นเลยเหรอลูก งั้นเรารีบทำกับข้าวกินกันเลย กินเสร็จจะได้ช่วยกันเก็บของเข้าไปไว้ใน... เสร็จแล้วจะได้อาบน้ำเตรียมเดินทางต่อ" ฮั่วเจินตอบลูกชาย จากนั้นนางก็รีบเดินไปช่วยลูกสาวเตรียมอาหารออกมาให้ทุกคนกิน อาหารมื้อนี่เป็นเพียงอาหารง่าย ๆ จากเสบียงที่มีอยู่อย่างเนื้อแห้ง ข้าวหอมมะลิที่ถูกหุงเอาไว้เต็มหม้อ กับน้ำแกงผักหวาน ๆ ที่โรยด้วยเนื้อแห้งที่ย่างแล้วทุบก่อนจะนำมาฉีกเป็นชิ้นฝอย ๆ แล้วโรยบนน้ำแกงให้คนแก่กินได้ง่าย ๆ ขาดไม่ได้ก็คือเห็ดซงหยงจิ้มซีอิ๊วที่เป็นทีเด็ดของมื้อนี้ "หื้ออ อร่อยมากเลยค่ะปู่ ปู่ลองกินเห็ดดูรึยังคะ นี่เลยหนูคีบให้ ของย่าด้วย" "กินเถอะลูก ปู่เคยกินแล้ว หลานเพิ่งได้กินก็กินให้เยอะ ๆ " "ได้ยังไงกันคะ หนูรู้นะว่าทุกคนกลัวหนูไม่อิ่ม แต่ไม่ต้องห่วงหนูหรอกค่ะ พรุ่งนี้เราก็จะมีเห็ดซงหยงให้กินอีก เพราะฉะนั้นวันนี้ทุกคนต้องกินเยอะ ๆ ตุนแรงไว้เก็บของก่อนเดินทาง" "รู้แล้ว ๆ บ่นเก่งเหมือนย่าของหลานไม่มีผิด" ในที่สุดคนเป็นปู่ก็ต้องยอมแพ้ให้กับเหตุผลของหลานสาว แต่ก็ไม่วายที่จะหาเรื่องภรรยาแก้เขินที่หลานสาวรู้ทัน "ย่าคะ ปู่ว่าย่าอีกแล้วอ่ะ" "เดี๋ยวเถอะตาเฒ่า" เป็นอีกมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม หลังจากกินข้าวเสร็จทุกคนก็ช่วยซานเฉียวเก็บของเข้ามิติจนหมด กระทั่งถึงช่วยบ่าย 2 โมงถึงได้สับเปลี่ยนกันไปอาบน้ำแต่งตัวจนครบทุกคน แล้วซานเฉียวก็เก็บของเข้ามิติอีกครั้งจนในบ้านไม่เหลืออะไรสักอย่าง 15.00 น. ปี๊ก ปี๊ก "ใช่บ้านของแม่หนูซานเฉียวรึเปล่า" เสียงแตรรถที่ดังมาจากหน้าบ้านทำให้ทุกคนรีบเปิดประตูออกไปดู เมื่อเห็นว่าเป็นรถกระบะที่ซานเฉียวจ้างเอาไว้มารับแล้วพวกเขาจึงรีบขึ้นไปนั่งบนท้ายรถทันที ส่วนฮั่วซานถังผู้เป็นพ่อขึ้นไปนั่งที่หน้ารถเป็นเพื่อนคนขับ "ใช่ครับ ทุกคนขึ้นรถเลย เดี๋ยวผมปิดบ้านเอง" ซานหลางเป็นคนสุดท้ายที่ขึ้นไปนั่งหลังรถ หลังจากที่เขาปิดประตูบ้านเรียบร้อยแล้ว ทุกคนจ้องมองบ้านที่เคยอยู่อาศัยมากว่า 20 ปีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้านไป มีชาวบ้านเพียงไม่กี่คนที่เห็นรถกระบะขับออกไปจากหมู่บ้าน เพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านแยกย้ายออกไปทำงาน และด้วยการแต่งตัวที่มิดชิดจึงไม่ทันมีใครได้สังเกตว่าบนรถคือคนบ้านฮั่วที่กำลังจะเดินทางจากไป 20 นาทีต่อมา รถกระบะก็พาทุกคนมาถึงสถานีรถไฟอย่างปลอดภัย ซานเฉียวจ่ายค่าจ้างให้คุณลุงไป 10 หยวนโดยไม่รับเงินทอน จากนั้นทุกคนจึงพากันไปนั่งรอเวลาที่รถไฟจะมาถึงโดยไม่มีใครเดินไปไหนมาไหน ระหว่างนั้นซานเฉียวก็เห็นว่าพี่ชายของเธอกำลังวาดแบบรถอะไรซักอย่าง เธอจึงลองถามดูความตั้งใจของอีกฝ่าย "พี่จะทำอะไรเหรอพี่ใหญ่ เกี่ยวกับเหล็กแล้วก็ล้อรถที่ซื้อมาใช่ไหม?" "ใช่แล้ว ตาถึงหนิเรา พี่ตั้งใจว่าจะให้เวลา 3 วันที่อยู่บนรถไฟทำเจ้ารถลากตัวนี้ให้เสร็จ พอไปถึงปลายทางเราจะได้เอาออกมาใช้งานได้สะดวก เผื่อต้องขนข้าวหรือขนอะไรไปขายอีก" "โห พี่ชายฉันก็เป็นนักประดิษฐ์คนนึงเลยนะเนี่ย หนูสนับสนุนเต็มที่เลยพี่ใหญ่ ไม่แน่นะถ้ามีคนมาสนใจรถลากของพี่ อนาคตมันอาจจะสร้างรายได้ให้พี่เป็นกอบเป็นกำก็ได้นะ" "ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีสิ พี่จะได้แบ่งเบาอะไรน้องได้บ้าง" "คิดอะไรแบบนั้น ดูโน่น รถไฟมาแล้ว เตรียมตัวได้แล้วพี่ชาย" ขบวนรถไฟมาเทียบท่าที่ชานชาลาตามเวลาที่กำหนด ซานเฉียวกับแม่ รวมไปถึงปู่ย่าได้เข้าไปนั่งในห้องพิเศษตามตั๋วที่จองไว้ ส่วนซานหลางกับพ่อต้องนั่งที่นั่งธรรมดาไปก่อน รอจนกว่ารถไปเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา เจ้าหน้าที่มาตรวจความเรียบร้อยเสร็จ สองพ่อลูกจึงเดินเข้าห้องพิเศษไปหาทุกคน พอปิดล็อกห้องเรียบร้อยซานเฉียวก็พาครอบครัวเข้าไปอยู่ในมิติ พ่อกับพี่ชายของเธอก็ลงมือช่วยกันทำรถลากทันที ส่วนเธอกับแม่ก็ช่วยกันเพาะต้นองุ่นสองสายพันธุ์ตามที่มีเมล็ดอยู่ในมิติ ทางด้านปู่กับย่าก็กำลังสนุกอยู่กับการหว่านเชื้อเห็ดซงหยง ส่วนเห็นโคนที่หว่านเชื้อเอาไว้ก็เกิดขึ้นมาเป็นกลุ่มใหญ่หลายกลุ่ม ผู้เฒ่าทั้งสองจึงเก็บมาทำกับข้าวแล้วขูดส่วนดินตรงโคนเห็นเอาไว้หว่านเป็นหัวเชื้อให้ขยายออกไปมากกว่าเดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD