แพรวา
“จริงหรอจ้ะพี่ดาว” ฉันถามพี่ดาวออกไปด้วยรอยยิ้มดีใจทันที
“จริงสิ พี่จะโกหกเราทำไม พรุ่งนี้เก้าโมงอย่าลืมล่ะ ไปก่อนเวลาด้วยนะคุณติณเค้าชอบคนตรงต่อเวลา” พี่ดาวเดือนที่มาหาฉันที่บ้านในเวลาเย็นบอกฉันออกมาด้วยรอยยิ้ม
“แพรขอบคุณพี่ดาวมากเลยนะจ้ะที่ช่วยฝากงานให้แพร” ฉันยกมือไหว้พี่ดาวเดือนออกไป
“ขอบคุณอะไรล่ะ ถึงพี่จะฝากแต่คุณติณเข้มงวดมาก ถ้าแพรไม่เก่งทำข้อสอบไม่ผ่านท่านก็ไม่เลือกหรอก”
“ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ถ้าไม่ได้พี่ดาวแพรก็คงไม่ได้ไปสมัครงานที่นี่” ถ้าพี่ดาวเดือนไม่ได้บอกเรื่องราวหรือถามความสมัครใจของฉัน ฉันก็คงไม่ได้รู้เรื่องและทำงานที่เดิมไปเรื่อยๆอีกหลายปีจนเปลี่ยนเองนั่นแหละ
“จ้าๆ งั้นพี่กลับบ้านก่อนนะ”
“จ้ะ เดินกลับบ้านดีๆนะจ้ะ” ฉันบอกพี่ดาวเดือนก่อนจะเดินมาส่งพี่แกหน้าบ้าน แล้วเดินเข้าบ้านมาด้วยรอยยิ้มมีความสุข ถึงผลยังไมร้อยเปอร์เซ็นว่าคุณติณณภพจะเลือกหรือเปล่า แต่แค่ได้เข้าไปสัมภาษณ์กับประธานบริษัทแบบนี้ก็ทำให้ฉันรู้ว่าฉันพัฒนาตัวเองขึ้นได้อีกขึ้นแล้ว จากคู่แข่งเป็นสิบๆคนเหลือแค่ไม่กี่คนแค่นี้ก็ภูมิใจแล้ว
“อ้าวๆนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรคนเดียวไอ้ลูกคนนี้” เสียงแม่เดินเข้ามาพูดขึ้นทำให้ฉันหันไปมองแล้วลุกขึ้นไปรับของ
“กลับมาแล้วหรอจ้ะ” ฉันรับของจากมือพ่อกับแม่เพื่อมาวางไว้ที่โต๊ะ
“ยังมั้งถึงได้เห็น” แม่ตอบกลับกวนๆ จนฉันหันไปยู่หน้าใส่ท่าน
“หึๆ ว่าแต่นั่งยิ้มอะไรคนเดียว มีหนุ่มมาชอบหรือไง” พ่อแซว
“เปล่าสักหน่อย แต่มีข่าวดีกว่านั้นอีก” ฉันบอกท่านออกไปด้วยรอยยิ้ม
“ข่าวดี หรือว่ามีหนุ่มมาขอ ใช่ไอ้ต้าร์บ้านซอยข้างๆหรือเปล่า” แม่พูดออกมาทำให้ฉันหุบยิ้มทันที จะอะไรล่ะก็ต้าร์มันเป็นเพื่อนสมัยเด็กจนถึงมัธยมและมันก็ชอบฉันจนถึงทุกวันนี้ไง แม่เลยแซวเล่นไม่เลิก
“แม่อ่ะ”
“แม่ก็ชอบแกล้งลูก ว่าแต่ข่าวดีอะไรบอกพ่อหน่อย” พ่อหันไปว่าแม่ก่อนจะถามฉัน ที่ว่าแม่นี่เพราะอยากรู้ข่าวดีของฉันแล้วไงล่ะ
“ข่าวดีก็คือ พรุ่งนี้แพรจะได้เข้าไปสัมภาษณ์กับประธานบริษัทพี่ดาวแล้วจ้า” ฉันบอกพ่อกับแม่ไปด้วยความตื่นเต้นทันที
“นั่นไง พ่อว่าแล้วลูกพ่อเก่งที่สุดยังไงก็ต้องได้” พ่อพูดออกมา
“ดีแล้วลูก พรุ่งนี้ก็ตั้งใจทำให้เต็มที่เลยนะ” แม่บอก
“จ้ะ งั้นวันนี้เราเรียบกินข้าวกันดีกว่า พรุ่งนี้แพรต้องไปแต่เช้าด้วย” ฉันบอกแม่ก่อนจะยกของที่พ่อกับแม่ซื้อมาจากตลาดเมื่อกี้เข้าครัวเพื่อทำอาหารเย็น
วันรุ่งขึ้น...
วันนี้ฉันตื่นแต่เช้าลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดที่ดูเรียบร้อยด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวและกระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่าพอดีจะได้ดีทะมัดทะแมง พร้อมกับรวบผมหางม้าให้ดูคล่องแคล่วมากขึ้น
“มาแล้วจ้า” ฉันวิ่งลงจากชั้นสองส่งเสียงบอกพ่อกับแม่ที่นั่งดูข่าวอยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“โอ้ยๆ เมื่อไหร่ลูกฉันจะเลิกเป็นม้าดีดกะโหลกสักที” แม่บ่นพร้อมกับส่ายหัวให้ฉัน แต่ฉันชินแล้วแหละที่แม่ชอบว่าฉัน ไม่โตสักที เหมือนม้าดีดกะโหลก ไม่มีความเป็นกุลสตรี ชอบเสียงดัง
“มาๆลูกมากินข้าวดีกว่า จะได้รีบไปเดี๋ยวรถติดก่อน” พ่อพูดขึ้น นี่แหละคนคอยให้ท้ายฉันเสมอ อิอิ
“แพรไปก่อนนะจ้ะ” หลังจากกินข้าวเสร็จฉันก็บอกพ่อกับแม่
“ตั้งใจนะลูก ขอให้ได้อย่างที่หวัง” พ่ออวยพร
“ขอให้ประสบความสำเร็จนะลูก” ตามด้วยแม่ที่อวยพรให้ฉัน
“สาธุ ขอให้สมพรปากนะจ้ะ ไปแล้ว” ฟอด ฟอด ฉันยกมือไหว้รับพรก่อนจะหอมพ่อกับแม่แล้วปั่นจักรยานไปหาพี่ดาวเดือนที่บ้านของแก เพราะวันนี้พี่ดาวเดือนบอกว่าถ้าจะไปแต่เช้าก็ให้ไปพร้อมกันเลยถ้าซึ่งฉันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
“รอนานไหมจ้ะพี่ดาว” ฉันจอดจักรยานเสร็จก็ถามพี่ดาวเดือนออกไป
“ยังไม่ได้รอเลยแพรก็มาก่อนพอดี” พี่ดาวเดือนพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินนำไปขึ้นรถ แต่พี่ดาวเดือนไม่ได้ขับไปเองหรอกนะ พี่นุแฟนพี่ดาวเดือนขับไปให้
ใช้เวลานานพอสมควรกับการฝ่ารถติดยามเช้าเพื่อไปทำงานในที่สุดก็ถึงพอดี ชีวิตในเมืองใหญ่ก็แบบนี้แหละต่างคนต่างเร่งรีบ คนก็เยอะช่วงเช้ากับช่วงเย็นนี่ต้องทำใจกับสภาพการจราจรไว้เลย
ฉันเดินเข้ามาในบริษัทกับพี่ดาวเดือนและพนักงานในบริษัทอีกหลายชีวิตที่ต่างตบเท้าเข้ามาในนี้ไม่น้อย พี่ดาวเดือนพาตรงมารอลิฟท์ที่ตอนนี้มีพนักงานหลายคนยืนรออยู่ดีที่มีลิฟท์หลายตัวเลยไม่ต้องรอนาน ฉันกับพี่ดาวเดือนมุ่งทยานสู่ชั้นบนสุดของบริษัทที่เป็นชั้นของผู้บริหาร ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดออกทำให้เห็นความเงียบสงบหรูหรากว่าข้างล่างที่เห็นเยอะเลย มองดูรอบๆก็ห้องทำงานที่มีโต๊ะหน้าห้องแค่สามโต๊ะเอง
“แพรนั่งรอตรงนี้แล้วกัน อีกไม่นานเดี๋ยวคุณติณก็เข้าบริษัทจ้ะ” พี่ดาวเดือนบอกก่อนจะให้ฉันนั่งรอเก้าอี้ข้างๆ
“จ้ะ” ฉันนั่งลงข้างๆแล้วก็ดูพี่ดาวเดือนเตรียมตัวทำงาน เพราะงานที่พี่ดาวเดือนทำตอนนี้มันก็เป็นงานในอนาคตฉันเหมือนกัน(เค้ายังไม่ได้รับแกไหม)
แล้วพี่ดาวเดือนก็บอกรายละเอียดเกี่ยวกับงาน บริษัท และตัวของคุณติณณภพให้ฟังคร่าวๆจะได้ทำความรู้จักไว้ แต่เท่าที่ได้ฟังนี่คุณติณณภพนั่นเข้มงวดจังเหอะ คงจะหัวล้านพุงย้วยแน่ๆเลย อิอิ (นินทาเจ้านายตั้งแต่เค้ายังไม่รับเลยฉัน)
“พี่ดาวแพรอยากเข้าห้องน้ำอ่ะ” ฉันบอกพี่ดาว เพราะยิ่งใกล้ถึงเวลาก็ยิ่งตื่นเต้น ต้องไปถ่ายเบาก่อนเพื่อเตรียมความพร้อม
“เดินตรงไปเลี้ยวซ้ายเลย ห้องน้ำอยู่ซ้ายมือนั่นแหละ” พี่ดาวเดือนบอก
“งั้นเดี๋ยวแพรมานะจ้ะ” ฉันบอกพี่ดาวเดือนก่อนจะลุกเดินเร็วไปห้องน้ำทันที