เสิ่นเสวี่ยล้วงเงินในแขนเสื้อนางออกมาสามตำลึง ก่อนจะมอบมันให้แก่อาหลี่ เขาส่ายหน้าก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"เจ้าเก็บไว้เถิด"
"ท่านทำงานหนัก เงินนี่เป็นของท่านนะเจ้าคะ"
"ข้าไม่ได้ใช้สิ่งใด เจ้าเก็บเอาไว้ซื้อของสวยๆงามๆเถิด"
"ท่านพี่อาหลี่ใจดีจังเลยเจ้าค่ะ"
เสิ่นเสวี่ยโน้มใบหน้าเข้าไปหอมแก้มของเขาฟอดใหญ่ อาหลี่รีบหันมามองนางด้วยสายตาที่ตกตะลึงไม่น้อย เขายกมือขึ้นลูบข้างแก้มแผ่วเบาอย่างเหม่อลอย ก่อนจะรีบตั้งสติและยกมือขึ้นเกาศีรษะแก้อาการเก้อเขิน
"ข้าจะไปทำกับข้าวแล้ว"
เขารีบเดินหนีนางออกมาทันที เมื่อถึงโรงครัวเขารีบจัดการใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ มาเช็ดตามลำตัวเพื่อดับความเร่าร้อน ลำแท่งแก่นกายขนาดใหญ่ที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ร่มผ้าของเขา มันชี้แข็งดุนดันจนรู้สึกปวดหนึบ
ให้ตายสิ!!ไม่ได้ นางเป็นเจ้านายของเขา
แต่เขาเป็นสามีนางนะ!!!
อาหลี่รีบส่ายหน้าไปมาไล่ความคิดที่หื่นกระหายนี้ออกไป ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำกับข้าวให้เสิ่นเสวี่ย เขากลัวนางจะหิวจนโมโหขึ้นมาอีก เขาไม่อยากเห็นนางเป็นสตรีที่ใจร้ายใจดำเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
เสิ่นเสวี่ยนั่งมองผัดผักกาดที่มันเยิ้มในจาน กับหัวไชเท้าดองเค็มด้วยสายตาเบื่อหน่าย อาหลีที่สังเกตเห็น ก็มีสีหน้าสลดลงไม่น้อย เขาเองไม่มีเงินมากพอที่หาของดีดีมาให้นางกิน ของที่ฮูหยินใหญ่ให้มาก็หมดเสียแล้ว เขาเองก็ไม่กล้าที่จะไปเอ่ยปากขอสิ่งใดจากฮูหยินใหญ่ ให้นางไม่สบายใจเปล่าๆ
"เดี๋ยวข้ามานะ"
"เจ้าจะไปไหน?"
"ไปโรงครัวใหญ่ หาหมูหาเนื้อมากิน"
"ไม่ได้ เราแยกเรือนแล้ว เดี๋ยวท่านโหวจะตำหนิเอาได้"
"ก็ลองดูสิ"
เสิ่นเสวี่ยก้าวเท้าฉับๆเดินตรงไปที่โรงครัวใหญ่ทันที เหล่าสาวใช้ที่ได้เห็นต่างป้องปากกระซิยกระซาบ มองนางด้วยสายตาดูแคลน ใครๆก็รู้ว่าแท้จริงแล้ว อำนาจในเรือนใหญ่เป็นของฮูหยินรอง ฮูหยินใหญ่เจ็บป่วยมานานแรมปี จะตกตายเมื่อใดก็ยังไม่มีใครรู้ได้
เสิ่นเสวี่ยไม่สนใจเหล่าสาวใช้พวกนั้น นางเดินตรงเข้าไปด้านในครัว สายตาสอดส่องมองหาของกินอย่างไม่ลดละ
"คุณหนูใหญ่หาสิ่งใดอยู่หรือเจ้าคะ?"
"ข้าอยากได้เนื้อหมู ยังมีเหลืออยู่หรือไม่?"
"มีเจ้าค่ะ แต่คงให้คุณหนูใหญ่ไม่ได้"
"ทำไมล่ะ?"
เสิ่นเสวี่ยขมวดคิ้ว จ้องมองสาวใช้น้อยนางนั้นด้วยสายตาสงสัย
"ฮูหยินรองสั่งเอาไว้เจ้าค่ะ ของที่จะนำออกไปทำอาหารทุกอย่างจะต้องมีการจดบันทึกเข้าออกจ่ายไปอย่างละเอียด คุณหนูใหญ่ออกเรือนไปแล้ว เหตุใดจึงไม่ให้สามีชาวสวนหาเลี้ยงเล่าเจ้าคะ"
เสิ่นเสวี่ยส่งเสียงเฮอะในลำคอ นี่เสิ่นเสวี่ยคนเก่าอ่อนแอเสียจนพวกสาวรับใช้ในจวนกล้าดูถูกดูแคลนตีตัวเสมอนางขนาดนี้เชียวหรือ
"เจ้าพูดอีกทีสิ?"
"ให้สามีชาวสวนหาให้กินสิเจ้า...โอ๊ย!!"
เพี๊ยะ!!!เพี๊ยะ!!!เพี๊ยะ!!!
เสิ่นเสวี่ยยกมือขึ้นจิกหัวสาวใช้น้อยนางนั้น ก่อนจะรัวมือตบหน้าสั่งสอนไปสามครั้งรวด
หึ!!!ข้าเสิ่นเสวี่ยมือตบแห่งเซี่ยงไฮ้!!!
"ฮือออ คุณหนูใหญ่"
"ปากดีเช่นนี้ต้องตบสั่งสอนให้หลาบจำ ข้าเป็นนาย เจ้าเป็นคนรับใช้ กล้าดีอย่างไรมาสั่งสอนข้า ถึงข้าจะมีสามีเป็นชาวสวน หรือขอทานข้างถนน ข้าก็ยังเป็นเจ้านายของพวกเจ้าอยู่ดี!!!"
เหล่าสาวใช้ต่างนั่งก้มหน้าหลบตาเสิ่นเสวี่ย ร่างของพวกนางสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว
คุณหนูใหญ่ที่แสนอ่อนแอผู้นั้น เหตุใดวันนี้จึงน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
"เอาเนื้อหมูมาให้ข้า!!!"
"เจ้าค่ะ ฮือออ"
"หยุดร้อง!!หากไม่หยุดข้าจะถีบติดเสาเดี๋ยวนี้!!!"
สาวใช้น้อยหยุดร้องไห้ทันที ก่อนจะรีบเดินไปหยิบเนื้อหมูชิ้นใหญ่ส่งให้แก่เสิ่นเสวี่ย
หึ!!ให้แต่แรกก็สิ้นเรื่อง หาเรื่องเจ็บตัว
เสิ่นเสวี่ยเดินกลับมาพร้อมเนื้อหมูชิ้นใหญ่ อาหลี่แม้จะสงสัยว่าเสิ่นเสวี่ยใช้วิธีใดจึงได้มันมา แต่เขาก็ไม่กล้าเอ่ยปากถามนาง
ข่าวเสิ่นเสวี่ยทำร้ายสาวใช้และขโมยเนื้อหมูในโรงครัว ไปถึงหูของเสิ่นเหยากวง เขารู้สึกเดือดดาลไม่น้อย แต่เมื่อได้พบกับเสิ่นเสวี่ยที่มีใบหน้าเรียบเฉย จ้องมองมาทางเขาด้วยสายตาดุดัน เขาก็รีบเบือนหน้าหนีเฉไฉมองไปทางอื่นทันที
ให้ตายสิ!!!บุตรสาวเขาน่ากลัวเข้าไปทุกวัน
"ได้ยินว่าเจ้าไปตบตีสาวใช้ในโรงครัวและยังขโมยเนื้อหมูด้วย เสิ่นเสวี่ยขาดเหลือสิ่งใด ทำไมไม่บอกแม่เล็กเล่า"
ฮูหยินรองอวิ๋นแสร้งทำเป็นแม่เลี้ยงจิตใจดีที่ห่วงใยลูกเลี้ยงเสียเต็มประดา เสิ่นเสวี่ยจ้องมองนางกลับ ก่อนจะเอ่ยปากพูด จนฮูหยินรองอวิ๋นใบหน้าถอดสี
"บอกท่านหรือเจ้าคะ หึ!!สาวใช้ในโรงครัวบอกว่า หากต้องการสิ่งใดในโรงครัวต้องรายงานท่านก่อน ไม่ว่าจะรับเข้าจ่ายออก ข้าเพิ่งรู้วันนี้เอง ว่าจวนโหวตระกูลเสิ่น ยกภรรยารองขึ้นมาเป็นใหญ่ในจวน ทั้งที่หน้าที่นี้ควรเป็นของภรรยาเอกด้วยซ้ำ!!!"
เสิ่นเกยากวงรู้สึกสั่นสะท้านกับคำพูดของเสิ่นเสวี่ยไม่น้อย
ใช่แน่ๆคำนี้ท่านแม่ที่ตายไปแล้วของเขาเคยพูดต่อว่าเขา!!!
ท่านแม่ไม่เคยชอบภรรยารองของเขามาแต่ไหนแต่ไร ต้องใช่แน่ๆ!!!!
"แม่เจ้าป่วย แม่เล็กจึงมาดูแลแทน"
"ดูแลกับยึดอำนาจ มีเส้นบางๆคาบเกี่ยวกันอยู่นะเจ้าคะ อีกอย่างหนึ่งถ้าแม่เล็กห่วงใยข้าจริงๆ เหตุใดจึงต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ วิ่งโร่มาฟ้องท่านพ่อเช่นนี้เล่าเจ้าคะ"
ฮูหยินรองอวิ๋นเงียบปากสนิทไม่กล้าเอ่ยสิ่งใด เป็นเสิ่นเหยากวงเสียเองที่กระแอมไอออกมาเบาๆเพื่อแก้สถาณการณ์อันกระอักกระอ่วนนี้
"เจ้าทุบตีสาวใช้ เจ้ามีความผิด"
"แต่สาวใช้ด่าข้าก่อนนะเจ้าคะ นางบอกว่าข้ามีสามีชาวสวน เหตุใดจึงไม่ให้สามีเลี้ยงดู ข้าเป็นคุณหนูใหญ่นะเจ้าคะ หมิ่นเกียรติข้าเช่นนี้ มิใช่หมิ่นเกียรติท่านพ่อด้วยหรือ?"
ทุกคำพูดของเสิ่นเสวี่ยรางกับมีดแหลมคมที่พุ่งแทงไปที่จิตใจของเสิ่นเหยากวงเข้าอย่างจัง จากที่คิดจะตักเตือนบุตรสาว กลับกลายเป็นว่าเขาต้องหันไปมองฮูหยินรองอวิ๋นเสียใหม่
"เจ้าสั่งสอนคนใช้เช่นไร มันจึงกล้ากำเริบเช่นนี้"
"เอ่อ แต่ว่าที่สาวใช้พูด.."
"หุบปาก!!! ขายคนใช้ชั่วนางนี้ออกไปเสีย แล้วถ้าใครกล้าพูดจาดูหมิ่นข้าอีก ข้าจะโบยให้ตกตายจนหมด!!!"
เสิ่นเสวี่ยยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ บิดาของนางนี่ก็หูเบาใช้ได้ เป่านิดเป่าน้อยก็คล้อยตามเลยเชียว
"ส่วนเจ้าเสิ่นเสวี่ย หากอยากได้สิ่งใด ก็ให้อาหลี่มาเอาที่โรงครัวใหญ่ เจ้าจะได้ไม่ต้องเสนอหน้ามาสร้างเรื่องทำให้ข้าขายหน้าอีก"
"เจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านพ่อน่ารักที่สุดเลย"
เสิ่นเหยากวงรู้สึกเบิกบานในใจไม่น้อย เสิ่นเสวี่ยไม่เคยพูดเอาใจเขา แต่วันนี้นางกลับออดอ้อนเขา
เสิ่นเสวี่ยหันไปยักคิ้วให้ฮูหยินรองอวิ๋น ก่อนจะเดินกลับไปที่เรือนไม้เก่าทรุดโทรมของนาง แล้วจึงพบกับอาหลี่ที่รีบวิ่งเข้ามาหานางด้วยความตื่นตระหนก
"เจ้าถูกท่านโหวทุบตีหรือไม่?"
"ใครจะกล้าทุบตีข้าเจ้าคะ ไหนเล่าเนื้อหมู!!ท่านทำสิ่งใดให้ข้ากิน"
"อ้อ ข้าหมักเกลือเอาไว้ กำลังจะย่าง"
"ไปย่างหมูกันเถิดเจ้าค่ะ"
อาหลี่พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปก่อไฟ และจัดการย่างเนื้อหมูให้เสิ่นเสวี่ยได้กิน
ช่างดีจริงเชียว ทำสวนก็เก่ง ทำอาหารก็อร่อย
อาหลีเดินหายเข้าไปที่หลังเรือน บอกว่าจะไปอาบน้ำ เสิ่ยเสวี่ยจึงแอบตามไปดูเขาทันที นางค่อยๆย่องไปที่มุมอับ สายตาสอดส่องไปที่อาหลี่ ก่อนจะพบว่าตอนนี้ร่างกายของเขาเปลือยเปล่า ไร้ซึ่งอาภรณ์ใดใดปกปิด
"ว่าแล้ว!!!ว่าต้องใหญ่กว่าหัวไชเท้า!!"
เสิ่นเสวี่ยตบหน้าขาตนเองดังฉาด สายตาจ้องมองลำแท่งไผ่ใหญ่ยาวของอาหลี่ที่กำลังขยับโยกไปมาตามท่วงท่าของเขา
หลังจากที่ทานมื้อเย็นอิ่มและอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว สองสามีภรรยาก็เข้ามานอนในห้อง เสิ่นเสวี่ยนอนบนเตียง ส่วนอาหลี่นอนที่พื้น
"ท่านพี่อาหลี่"
"อะไรหรือ?"
"ท่านอยากนอนกับข้าอีกรอบหรือไม่?"
อาหลี่หันควับไปมองเสิ่นเสวี่ยทันที เขายกมือขึ้นลูบหน้าแก้เก้อเล็กน้อย
"ข้านอนพื้นดีแล้ว"
"พื้นมันหนาวนะเจ้าคะ"
"ข้าเป็นบุรุษร่างกายกำยำ ไม่หนาวหรอก"
"หนาวตรงไหน ร้อนจะตายเจ้าค่ะ"
เสิ่นเสวี่ยพูดพลางดึงเสื้อตัวบนลงเล็กน้อย เผยให้เห็นร่องเนินอกอวบอิ่มขนาดใหญ่ของนาง ผิวขาวนวลเนียนของนางช่างดึงดูดสายตาของอาหลี่เป็นอย่างยิ่ง
"มองอย่างเดียวไม่สนุกหรอกเจ้าค่ะ"
"เอ่อ ข้าจะนอนแล้ว โอะ!!เสิ่นเสวี่ย เจ้ามานั่งบนตัวข้าทำไม?"
"ก็ข้ายังไม่ง่วงนี่เจ้าคะ อยากออกกำลังกายก่อนนอนเหลือเกิน"
"ดึกแล้ว เจ้าจะออกกำลังอะไรนั่นไปทำไมกัน?แล้วจะไปออกที่ใด?"
"ที่นี่อย่างไรเล่าเจ้าคะ"
เสิ่นเสวี่ยขยับสะโพกขึ้นลงบนร่างของอาหลี่อย่างช้าๆ จนเขารู้สึกเสียวซ่าน ลำแท่งเอ็นร้อนใต้ร่มผ้าเริ่มแข็งชูชันดุนดันเสียจนเสิ่นเสวี่ยสัมผัสได้
"อุ๊ย อะไรชี้ตั้งมาโดนหว่างขาของข้าอะ"
เสิ่นเสวี่ยทำท่าทางตกใจราวกับสาวน้อยผู้บอบบาง แต่สำหรับอาหลี่ตอนนี้นางช่างดูดึงดูดและร้อนแรงเหลือเกิน
"ข้าอยากนอนแล้ว"
"นอนก็นอนเจ้าค่ะ"
เสิ่นเสวี่ยพลิกกายลงจากร่างของอาหลี รอจนเขาเผลอ นางจึงจัดการดึงกางเกงช่วงล่างของเขาออกจนหมด เผยให้เห็นแก้มก้นสีคล้ำที่ชวนมอง
"โอะ!!เสิ่นเสวี่ย!!"
อาหลี่ใบหน้าแดงซ่าน มือใหญ่ข้างหนึ่งเอื้อมมาปิดแก้มก้น ส่วนอีกข้างก็ปกปิดแท่งเอ็นร้อนเอาไว้ด้วยความเขินอาย
"ไม่ต้องอายนะเจ้าคะ หากท่านทำไม่เป็น เดี๋ยวข้าสอนให้เจ้าค่ะ ไหนๆก็ร่วมหลับนอนด้วยกันมาครั้งหนึ่งแล้ว อีกครั้งจะเป็นไรไป"
เสิ่นเสวี่ยพลิกร่างของอาหลี่ให้นอนหงายมาหานาง สายตาที่เร่าร้อนมองไปที่ลำแท่งมังกรใหญ่ยาวของเขาอย่างละสายตาไม่ได้ อาหลี่เมทื่ถูกนางจ้องมองก็รู้สึกเขินอายจนทำสิ่งใดไม่ถูก ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยถูกสตรีใดล่วงเกินเช่นนี้มาก่อน
"เอามือออก จะปิดไว้ทำไม ข้าเป็นภรรยาของท่านนะ ขอดูหน่อยจะเป็นไรไป!!"
"เอ่อออ มันไม่น่าดูหรอก"
"เอามือออก!!อย่าให้ข้าต้องโมโห!! นอนนิ่งๆ!!ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าใจร้าย"
เสิ่นเสวี่ยจ้องอาหลี่เขม็งแล้วจึงยกยิ้มมุมปาก ด้วยความพึงพอใจ ในเมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ ก็ต้องยืมไม้แข็งจากเสิ่นเสวี่ยคนเก่ามาใช้เสียหน่อย