ฮานะทำข้าวผัดปู 2 จานซึ่งให้ตนเองและกอหญ้า ข้าวผัดปูส่งกลิ่นหอมถูกนำมาวางบนโต๊ะอาหาร ทั้งสองคนนั่งทานข้าวผัดปูกันอย่างเงียบๆ เมื่อทานกันเสร็จ ฮานะ ก็เอาจานไปล้าง
ส่วนกอหญ้าก็เดินมานั่งดูทีวีที่เปิดค้างไว้ต่อ ฮานะ เมื่อล้างจานเสร็จเธอก็เดินมานั่งข้างๆกอหญ้า
"กอหญ้า"ทำไมถึงต้องหนีคนพวกนั้นด้วยล่ะ คนพวกนั้น ฉันดูออกนะว่าที่จริงแล้วก็คือพวกบอดี้การ์ดของเธอเอง
ฮานะถามเหตุผลจากกอหญ้า
!!เธอคงรู้แต่แรกแล้วสินะ แล้วทำไมถึงยังช่วยเราล่ะ กอหญ้ามองตาฮานะอยากอยากรู้
เธอไม่ต้องรู้หรอก ว่าทำไมฉันถึงต้องช่วยเธอ แต่สิ่งที่เธอต้องบอกฉันมาว่าทำไมต้องหนีมากกว่า หากว่าเธอไม่บอกแล้วล่ะก็ จะเชื่อไหมว่าฉันสามารถส่งเธอกลับบ้านเธอได้ ฮานะพูดพร้อมกับมองตากอหญ้าแสดงให้กอหญ้าเห็นว่าตนนั้นทำได้จริงๆ
กลัวแล้ว กลัวแล้วจ้า บอกสิทำไมจะไม่บอก กอหญ้าพูดทีเล่นทีจริงออกไป
#คืองี้นะ ป๋าเราจะให้เราแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ทำไมตรีกับกลุ่มมาเฟียใหญ่ที่ญี่ปุ่น เพื่อจะให้เป็นปึกแผ่น แต่เราไม่อยากแต่งงานกับคนที่เราไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักมาก่อนน่ะสิ ป๊าเลยลงโทษเราด้วยการกักบริเวณ วันนี้เรามีโอกาสเลยหนีออกมาจึงถูกบริการที่ให้เฝ้าดูแลเราเป็นพิเศษไล่ตามมาอย่างที่เห็นนั่นแหละ กอหญ้าเราเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฮานะฟังอย่างละเอียด
ฮานะเห็นหน้าตาเศร้าสร้อยของกอหญ้าก็ไม่อยากเสาความถามอะไรต่อ
กอหญ้า!!ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะกับบางสิ่งบางอย่างและชะตาฟ้าลิขิตเราก็ไม่มีหนทางหลีกหนีได้ ได้แต่ยินยอมและทำตาม
!!กอหญ้ามองฮานะแบบอึ้งๆ นี่เธออย่าบอกนะว่าเธอก็โดนเหมือนกัน
ฮานะเมื่อได้ฟังประโยคที่กอหญ้าถาม เธอเลี่ยงที่จะไม่พูดก็ทำให้กอหญ้ารู้ได้ทันทีว่า ผลลับไม่ต่างจากตน
ไปนอนได้แล้วกอหญ้า ฉันจะไปนอนแล้วเหมือนกัน ฮานะพูดตัดบทเพื่อให้กอหญ้าหยุดพูดสักที
ทั้งสองต่างแยกย้ายกันเข้านอนคนละห้อง
เช้าวันต่อมา
??เสียงโทรศัพท์ของฮานะดังขึ้นเป็นรอบที่ 3แล้ว เธอกำลังออกกำลังกายอยู่เลยไม่ได้ยินเสียงเรียก เพราะตั้งเสียงไว้เบานั้นเอง
กอหญ้าตื่นขึ้นมาตอนเกือบจะ 9 โมงเช้าแล้ว เธอก็อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดของฮานะที่เตรียมไว้ให้ตั้งแต่เมื่อคืน
กอหญ้าเดินออกมาจากห้อง มองหาฮานะก็ไม่เจอ กอหญ้าเดินหาฮานะจนทั่วห้องจนมาเจอกับโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงร้องอย่างต่อเนื่อง กอหญ้ามองดูโทรศัพท์พร้อมกับมองหาเจ้าของโทรศัพท์ที่ดังก็ไม่เจอ เธอมองดูเบอร์ที่โทรเข้ามา เป็นเบอร์โทรไม่ได้เมมชื่อไว้ เธอจึงกดรับสายดูเผื่อเป็นสายก่อกวนจะได้ด่าไปให้
อัลโล...
(ใครรับสาย แล้วฮานะไปไหน)ปลายสายถามกอหญ้าทันทีเมื่อถูกรับสาย
แล้วนายละเป็นใคร ทำไมถึงโทรมา กอหญ้าแปลกใจที่อยู่ และทั้งรู้ชื่อเจ้าของโทรศัพท์ด้วย หัวคิ้วของกอหญ้าขมวดขึ้นเป็นปมปนสงสัยไม่น้อย
(ไปเรียกฮานะมารับโทรศัพท์เดี่ยวนี้)ปลายสายยังคงไม่ตอบยังคงออกคำสั่งกอหญ้าต่อ
ทำไมฉันต้องฟังและทำตามนายด้วย ฉันเป็นแฟนฮานะ นะ นายไม่มีสิทธิมาใช้ฉัน กอหญ้าโกหกคำโตใส่ปลายสายที่ตนก็ไม่รู้เป็นใครและคิดอีกทีถ้าคนสำคัญ ฮานะต้องเมมเบอร์สิ นี่ไม่มีชื่อด้วยซ้ำ หึหึ
เมื่อปลายสายได้ยินที่กอหญ้าบอกมานั้นถึงกับชงักงึก (ฉันจะคุยกับฮานะ ฮานะเป็นเมียฉันแล้วจะมีแฟนอย่างเธอซึ้งเป็นผู้หญิงได้ไง ถ้าเธอยังพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้เดี่ยวฉันไปถึงคอนโดแน่ แล้วหาคำตอบไว้ด้วยละ)ตู๊ด ตู๊ด แล้วสายก็ถูกตัดไป กอหญ้าใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ เพราะเธอไม่รู้ว่าชายที่พูดอยู่ปลายสายนั้นเป็นไครกันแน่และจะทำอย่างที่เขาพูดไว้หรือเปล่า
ฮานะเดินออกมาจากห้องออกกำลังกาย เห็นกอหญ้ายืนจำโทรศัพท์ตัวเองไว้อย่างแน่น ก็เลยเดินเข้าไปถามกอหญ้า
เป็นอะไรกอหญ้ายืนตัวสั่นเชียว แล้วนี่โทรศัพท์ฉันนิ
เอออออ... เมื่อกี้มีโรคจิตโทรมาหาเธอ ฉันคุยแล้วมันก็วางสายไปแล้วช่างมันเถอะ กอหญ้าบอกกับฮานะแบบส่งๆไปที แต่ในใจก็นึกกลัวในถ้อยคำที่ชายแปลกหน้าได้ทิ้งเอาไว้ กอหญ้าได้แต่สะบัดหน้าทิ้งความกังวลออกจากหัว แล้วส่งโทรศัพท์ให้กับฮานะ
ฉันขอไปอาบน้ำก่อนนะเหนียวตัวเพิ่งออกกำลังกายมา ฮานะบอกแกกอหญ้า
กอหญ้าพยักหน้าเข้าใจและเดินไปนั่งบนโซฟาเปิดทีวีดู เพื่อรอฮานะอาบน้ำแต่งตัว
ผ่านไป30 นาที ฮานะเดินออกมาจากห้องด้วยการแต่งกายแบบชิวๆ เธอใส่เสื้อแขนยาวเอวลอย พร้อมกับกางเกงขาวทรงกระบอกไม่ใหญ่มากและก็ไม่เล็ก ที่ลำคอระหงมีสร้อยเกียรของยูกิที่ใส่ให้ก่อนหน้านี้ ข้อมือแขวนนาฬิกา นิ้วชี้สวมแหวนโลหะ
อือหือ แต่งตัวสะขนาดนี้จะออกไปข้างนอกรึป่าวเนี่ย กอหญ้าที่เห็นฮานะแต่งตัวเสร็จเดินออกมาจากห้องก็อดเอ่ยแซวไม่ได้ ดูจากมุมไหนๆฮานะก็ดูดี
ก็จะพาไปทานข้าวข้างนอกไง จะไปรึไม่ไปละ ฮานะบอกกับกอหญ้า ไปสิจะไม่ไปได้ไง กอหญ้าบอกกับฮานะอย่างดีใจ เพราะตนเบื่อที่อยู่แต่ในห้องจะตายอยู่แล้ว
แต่ไม่ทันที่กอหญ้าจะเอ่ยบอกกับฮานะว่าตนจะไปหยิบเสื้อคลุมในห้อง ประตูก็ถูกเปิดออก ร่างสมส่วนของชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามา กอหญ้ามองชายตรงหน้าอย่างแปลกใจ
จะออกไปไหนกันฮานะ ยูกิจ้องและถามฮานะ
เฮียมามีอะไรรึป่าว ฮานะแปลกใจในการมาของคนพี่
ยูกิเลิกคิ้วเป็นเชิงให้ฮานะตอบคำถามไม่ใช่ให้มาถามตนแบบนี้ เพราะถ้าตนไม่ได้ยินคำพูดของผู้หญิงที่ไหนไม่รู้บอกว่าเป็นแฟนฮานะ เขาเองคงไม่ถ่อมาเร็วขนาดนี้ เพราะได้นัดคนน้องไว้แล้ว แต่ที่ต้องมาก่อนด้วยเพราะอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่ช่างกล้าพูดกับตนนั้นเอง
ฮานะกำลังจะพากอหญ้าไปหาอะไรทานข้างนอกค่ะ ฮานะตอบคนพี่รู้สึกมีอะไรแปลกๆ
อ่อ คนนี้นะหรอ กอหญ้า ยูกิหันมองกอหญ้าพร้อมถามออกไปลอยๆ ค่ะ ฮานะตอบกลับสั้นๆ โดยมองยูกิที่มองกอหญ้าแปลกๆ
ส่วนกอหญ้าเองเมื่อเห็นแววตาที่ยูกิมองตนนั้นก็เสียวสันหลังไม่น้อยเลย แอบกลืนน้ำลายหลายต่อหลายอึก
ฮานะเริ่มคิดและประมวลผลก็เริ่มประติดประต่อเรื่องราวที่ก่อนหน้านี้กอหญ้าได้รับสายโทรศัพท์ของตน ที่ตอนนั้นกอหญ้าบอกแค่ว่าคนโรคจิต คงจะใช่ยูกิแน่ๆ เพราะเธอเองก็ยังไม่รู้เบอร์โทรของคนพี่เลย จึงไม่ได้แมมชื่อไว้ และไม่แปลกถ้ากอหญ้าจะคิดว่าเป็นโรคจิต
เฮีย นี่กอหญ้า เพื่อนฮานะเอง ส่วนนี่คือเฮียยูกิ สามีฉันเอง ฮานะแนะนำให้ต่างฝ่ายต่างรู้จักเพื่อจะได้ช่วยดึงสถาณะการณ์ที่มันตึงเครียดให้มันดีขึ้น
อ้าว เพื่อนหรอกหรอ แต่ตอนที่คุยโทรศัพท์ไม่ใช่บอกว่าเป็นแฟนกับหนูหรอ ยูกิถามพร้อมปลายตามองปฏิกิริยาของกอหญ้า
ฮานะมองกอหญ้าพร้อมยกคิ้วเป็นเชิงถามว่าอะไรยังไงกัน กอหญ้าเองมองฮานะอย่างเศร้าๆที่ตนนั้นโกหกเพราะนึกว่าเป็นโรคจิตจริงๆ ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วเป็น สามี
เอาละๆ ฉันโกหกไปเองแระ ก็ใครจะไปรู้ละ ก็นึกว่าโรคจิตนี่นา อีกอย่างเบอร์ที่โทรเข้ามาก็ไม่มีชื่อ ใครจะนึกกันละว่าจะเป็น...สามีฮานะอะ(ทำหน้าเศร้า) กอหญ้าเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
พอแระ เฮียก็ด้วย ฮานะหิวนี่ก็จะเที่ยงแล้วยังไม่ได้ทานอะไรเลย ออกไปหาไรทานกันดีกว่า กอหญ้าไม่ได้ตั้งใจ เฮียจะมาอะไรละ ฮานะตัดบทรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะบานปลาย
ก็ได้ ไปงั้นเดี่ยวจะพาไปทานข้าว ยูกิตอบกลับฮานะสั้นๆและอาสาพาไปหาอะไรทาน
ทั้งสามเดินมายังรถส่วนตัวของยูกิ แต่ดันเอารถที่นั่งได้แค่2คนมาสะด้วย ฮานะจึงบอกกับยูกิว่าเดี่ยวให้เอารถตู้ของเธอไปแทนดีกว่า เพราะนึกอยู่แล้วว่าวันนี้นัดกับยูกิไว้ก็เพื่อจะไปดูอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนด้วย
พี่เคนตะค่ะ เอารถตู้ออกค่ะ แล้วขอบอดี้การ์ดติดตามไปแค่ 2คนพอนะค่ะ หนูไม่อยากให้ดูแปลกตาค่ะ ฮานะสั่งกับมือขวาตนเอง
ครับนายหญิง เคนตะรับคำ
รถเล่นมายังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ทั้งสามพร้อมเคนตะและลูกน้องที่ติดตามอีก2คน เดินเข้ามาในห้าง
จะกินอะไรละ ยูกิถามคนน้อง
อือ...ฮานะอยากกินอาหารญี่ปุ่น พวกปลาดิบ ข้าวปั้น อะไรแบบนั้นค่ะ ฮานะตอบยูกิ
ทานได้ใช่มั้ยกอหญ้า ฮานะไม่ลืมจะถามกอหญ้าด้วยเช่นกัน
ได้สิ กอหญ้ารีบตอบฮานะ
ทั้งหมดเดินไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ภายในห้างนั้นทันที
เมื่อเดินไปถึงหน้าร้านก็มีพนักงานต้อนรับพาทั้งหมดไปนั่งโซนที่ตัวเองต้องการ ฮานะยังให้บอดี้การ์ดที่ตามมากับเคนตะนั่งแยกโต๊ะทานอาหารญี่ปุ่นด้วยเหมือนกัน
ไม่นานพนักงานก็เอาเมนูมาให้ ฮานะไม่รอช้าเพราะตนนั้นหิวมากๆเลย จึงสั่งออเดอร์เลือกแต่ที่ตัวเองชอบ
ยูกินั่งมองฮานะที่เลือกเมนูอย่างใจจดใจจ่ออย่างนึกเอ็นดู
ส่วนฮานะก็ไม่ลืมที่จะถามคนพี่กับกอหญ้าด้วย
สักพักอาหารมากมายก็ทยอยมาเสริฟ ทั้งสามนั่งทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย
อาหารญี่ปุ่นเนี่ยฮานะชอบมากขนาดนั้นเชียว กอหญ้าแย่เพื่อนสาว
ก็ชอบนะแต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ฉันชอบละฮานะตอบไม่จริงจัง
แล้วที่ไม่ชอบละมีมั้ย กอหญ้ายังถามต่อ
!!ก็มีนะ อย่างเช่น ฉันเกลียดผักฉุนๆ อย่างผักชี ใบโหระพา สาระแหน่ คื่นฉ่ายอะไรแบบนี้แหละ ฮานะสาธยายให้กอหญ้าฟังในสิ่งที่ตนนั้นไม่ชอบเอามากๆ
อ่อ งั้นก็จำพวกอาหารไทยนะสิใช่มะ กอหญ้าคิดถึงสิ่งที่ฮานะบอกมาโดยส่วนมากแล้วมักอยู่ในอาหารไทย งั้นเธอก็ไม่ชอบอาหารไทยนะสิ กอหญ้ายังถามต่ออย่างสงสัย
ก็ทานได้นะแค่อย่าใส่ก็พอ ฮานะไขข้อส่งสัย
ยูกินั่งฟังสองสาวพูดคุยกันอย่างสนุกสนานอย่างเงียบๆ
เมื่อทั้งหมดทานอาหารและจ่ายเงินกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปยังเป้าหมายที่วางไว้แต่ต้น คืออุปกรณ์การเรียนและชุดนักศึกษา โดยกระโปรงนักศึกษากับเสื้อสูทและแนคไท จะรับได้ที่มหาลัยตอนไปลงทะเบียนเท่านั้น ไม่มีวางจำหน่ายทั่วไป ส่วนที่จะซื้อคือเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวที่จะใส่ไว้ด้านในนั้นเอง
กอหญ้า แล้วเธอละไม่ต้องเตรียมหรอ ฮานะสงสัยเลยถามออกไปตรงๆ
เตรียม แต่เตรียมเรียบร้อยแล้ว ฉันไม่ได้เรียนที่นี้ ฉันต้องไปเรียนที่ญี่ปุ่น กอหญ้าตอบฮานะ ใบหน้าที่เศร้าทำให้ฮานะเห็นใจ แต่ใครจะทำอะไรได้ หากกอหญ้าเจอกับเฮียไคอาจจะชอบเฮียก็ได้ ต้องให้เป็นเรื่องของอนาคต ฮานะได้แต่คิดในใจ
ยูกิ ที่มองดูทั้งคู่ก็รู้ทันทีว่าฮานะเองก็มีเรื่องราวในใจเยอะแยะมากมาย
ทั้งสามเมื่อเสร็จจากทุกอย่างแล้วก็เดินมาที่รถหวังจะกลับคอนโดฮานะ
บนรถ!! ฮานะฉันขอลงข้างหน้านะ ฉันจะกลับบ้านอะ กอหญ้าบอกกับฮานะให้บอกให้จอดรถที่ป้ายรถเมย์ข้างหน้า
ไม่ได้ หากจะกลับบ้านเดี่ยวฉันไปส่งละกัน มันอันตรายผู้หญิงตัวคนเดียวขึ้นรถเมย์ แถมนี้ก็เย็นแล้วด้วย ฮานะเป็นห่วงกอหญ้าจึงรีบปรามและจะไปส่งเอง
อืม ก็ได้ กอหญ้าตอบฮานะอย่างขัดไม่ได้
รถเล่นได้สักพักก็วิ่งมาหยุดอยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ กอหญ้าเอ่ยอำลากับฮานะ ทั้งสองกอดกัน กอหญ้าน้ำตาคลอ ถึงแม้ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันแค่คืนเดียวแต่กลับรู้สึกเหมือนรู้จักและคุ้นเคยกันมานาน เนื่องด้วยชีวิตของทั้งคู่มีอะไรที่คลายกันด้วยจึงทำให้สนิทเร็ว
ฉันจะทำตามที่เธอบอกนะฮานะ กอหญ้าลงจากรถ แต่ก็ไม่วายจะหันกลับมาพูดอีกประโยคกับฮานะ ฮานะเองก็เข้าใจทันทีว่าเพื่อนสื่อถึงอะไร ฮานะพยักหน้าให้กับกอหญ้า ประตูบานใหญ่เลื่อนเปิดออก กอหญ้าเดินเข้าบ้านหลังใหญ่ไปฮานะมองดูกอหญ้าที่ไกลออกไปจนประตูเลื่อนปิดสนิท ก็ได้แต่นั่งทอดถอนใจ
ยูกิเห็นท่าทีฮานะจึงเอื่อมไปจับมือฮานะไว้อย่างให้กำลังใจ ทั้งสองมองตากัน