ดูท่าปรีญาณินจะติดใจวงการออฟเด็กไปเสียแล้ว เธอมีกจะนัดวินออมาเจอและนอนกับเขาในโรงแรมที่ห่างไกลจากตัวกรุงเทพฯ บางครั้งก็เจอ จ่าย แล้วจบ แต่บางคราวก็นอนด้วยกันหนึ่งคืนแล้วจึงแยกย้าย
แต่ทุกครั้งที่ไปถึงโรงแรม เด็กหนุ่มบอกเสทอว่าเขาชอบแบบค้างคืนมากกว่า ดูเหมือนเขาจะติดใจลูกค้าคนนี้เสียแล้วเช่นกัน ก็แน่ล่ะปรีญาณินยังสาวแถมยังสวยขนาดนั้น แถมเธอก็ไม่ได้ช่ำชองเรื่องบนเตียงนัก เขาจึงไม่ได้เหน็ดเหนื่อยเท่าไร เวลาที่มาบริการเธอ
“พี่ไม่กลัวแฟนพี่จับได้เหรอ?” เพราะการได้อยู่กับวิน ทำให้ปรีญาณินรู้สึกสบายใจ เธอจึงได้บอกเขาไปตามตรง ว่าเธอนั้นแต่งงานมีสามีแล้ว
"ถ้าไม่กลัว คงนอนกับเธอในกรุงเทพไปแล้ว" เธอตอบก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ สายตาทอดมองออกไปนอกกระจก บนผืนทะเลกว้าง
“ดูท่าพี่คงจะมีปัญหากับเขาอยู่แน่ๆ” วินพูดขึ้น แต่นั่นทำให้ปรีญาณินรู้สึกไม่พอใจเท่าไร เธอไม่ได้อยากให้เขามายุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอขนาดนั้น
“ถ้าอยากอยู่กับฉันนานๆ ก็ช่วยสงบปากสงบคำสักนิด อย่าลืมสถานะระหว่างเราด้วย” แม้ว่าเธอจะชื่นชอบเด็กหนุ่มคนนี้มากสักแค่ไหน แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับเขา ก็เป็นเพียงแค่ลูกค้ากับเด็กหนุ่มขายบริการเท่านั้น เธอจึงจำเป็นที่จะต้องพูดเพื่อเตือนสติเขา จะได้ไม่ลืมว่าตัวเองเป็นใคร
วินสีหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย แต่ก็ทำให้เขารู้ตัวว่าตัวเองนั้นล้ำเส้นลูกค้ามากเกินไปเสียแล้ว และก็เลือกที่จะหยุดพูดแล้วนั่งเงียบๆ ดูโทรทัศน์ไป
เสียงโทรศัพท์ของปรีญาณินดังขึ้น เธอละสายตาจากผืนทะเลแล้วเหลือบมอง เมื่อเห็นชื่อของคนที่โทรเข้ามาก็พลันถอนหายใจ แต่ก็เลือกที่จะเดินมากดรับสาย
“คุณหายไปไหนตั้งเป็นอาทิตย์ งานกองจนล้นโต๊ะทำงานแล้วนะณิน” หญิงสาวกลอกตาเมื่อได้ยินเสียงของสามีจากปลายสาย เธอคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเขาคงจะโทร.มาด้วยเหตุผลเรื่องงานแน่ คงไม่ได้เป็นห่วงเรื่องการหายตัวของเธอ
“ฉันลาพักร้อน คุณจะได้นอนกกอีขวัญรุ้งให้มีความสุข ไม่ต้องมีฉันไปกวนไง”
“นี่คุณยังคิดเล็กคิดน้อยเรื่องนี้อยู่อีกเหรอ คิ้วสวยพลันขมวดยุ่งทันทีที่ได้ยินดังนั้น สิ่งที่เขาทำยังกล้ามาพูดกับเธอแบบนี้อีกหรือ
“คุณเลิกกับมันหรือยังล่ะ ถ้ายังทำไมฉันต้องเลิกคิดด้วย” ก็เพราะเขาไม่ใช่หรือ ที่ทำให้เธอต้องหัวเสีย จนต้องหาเด็กหนุ่มมาเยียวยาจิตใจอยู่แบบนี้
“คุยกับคุณไม่ถึง 5 นาทีก็ปวดหัวแล้ว อยากทำอะไรก็เชิญ” สิ้นเสียงของภูริวัตรเขาก็กดวางสายทันที ปรีญาณินข่มอารมณ์ตัวเองอย่างสุดขีด เธอหายใจเข้าแล้วหลับตาลงเพื่อจะไม่ให้ระเบิดออกมา ‘อยากทำอะไรก็เชิญงั้นเหรอ’ หญิงสาวคิดทวนคำพูดของสามีในใจ เธอกันมองวินที่กำลังนั่งจ้องเธออยู่ ชายหนุ่มรีบหันหน้าหนีทันที เมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกมอง
“ผมไม่ได้แอบฟังนะ” แต่พอหันกลับมาอีกครั้ง แล้วพบว่าปรีญาณินยังคงจ้อเขาไม่วางตา ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบพูดแก้ตัว
“ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ถ้าไม่อยากให้เธอได้ยิน ก็คงเดินไปคุยที่อื่นแล้ว” หญิงสาวว่าพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างเด็กหนุ่ม ไวน์ในมือถูกยกขึ้นจิบอีกครั้ง
ช่วยทำให้ฉันหายเครียดหน่อยสิ เดี๋ยวซื้อรถให้ ยังไม่มีรถไม่ใช่เหรอ” เมื่อได้ยินข้อเสนอของปรีญาณิน วินถึงกับตาลุกวาว เขาไม่เคยได้รับของขวัญจากลูกค้าคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน แน่นอนว่าเขาจะบริการเธอให้เต็มที่ที่สุด
ริมฝีปากอุ่นจูบไซร้ซอกคอขาว ยาวไปจนถึงติ่งหูติ่งหู สองมือลูบไล้เรือนร่างบางที่สวมเพียงเสื้อเชิ๊ตสีขาวบางๆ ตัวเดียว
เสื้อเชิ้ตถูกปลดออกจากร่างบาง เผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าหญิงสาวนั่งลงบนโซฟา แล้วชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น ก่อนจะแหกขาออก วินย่อตัวลงนั่งที่พื้นแล้วมุดหน้าลงดูดชิมน้ำหวานของลูกค้าสาวตามที่เธอต้องการ
“อื๊อ…เสียวจัง” ปากว่า มือก็จิกที่ผมของวินเพื่อระบายความเสียวซ่าน ชายหนุ่มละเลงลิ้นบดขยี้กีบชมพูอวบอูม ที่ชุ่มไปด้วยน้ำรักอย่างแรง เพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายชอบให้ทำเช่นนั้น
เสียงกระเส่าของลูกค้าสาว ปลุกเร้าอารมณ์ของย่างถึงที่สุด เขาตวัดลิ้นผ่านกลีบเนื้อของเธออย่างถี่รัวจนกระทั่งน้ำรักไหลเยิ้มออกมา แล้วก็ค่อยๆ ยืนขึ้น ถอดกางเกงบ็อกเซอร์ของตัวเองลง ดุ้นเนื้อขนาดเขื่องแข็งเด่รออยู่นานแล้ว โซฟาถูกเปลี่ยนให้เป็นแดนรักของทั้งสอง ปรีญาณินนั่งอยู่บนโซฟา เธอใช้มือจับเอ็นอุ่นของวินเข้าไปดูดดุนอย่างไม่เคยทำมาก่อน เธอไม่คิดมาก่อนด้วยซ้ำว่าตัวเองจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ เสียงดูดเลียดุ้นสวรรค์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับเอวรับปากของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ มือหนึ่งก็รวบผมยาวสลายให้กับปรีญาณิน