เมื่อไม่สามารถเข้าไปหาคิริลได้ใน Demon’s Palaceหญิงสาวก็เลยต้องคิดค้นหาวิธีใหม่เพื่อมาต่อกรกับผู้ชายร้ายกาจคนนี้ และวิธีที่คิดออกก็คือ...
ร่างอรชรเดินนวยนาดผ่านรปภ. ของบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ที่สุดในรัสเซียเข้ามาอย่างง่ายดาย แม้จะอับอายกับการแต่งตัวที่เปิดเผยสัดส่วนที่หวงแหนมาตลอด แต่เพื่อเอวาหล่อนต้องทำ อะไรที่สามารถทำให้หล่อนจะได้เอวาคืนมา หล่อนจะทำให้หมดนั่นแหละ แม้แต่การแต่งตัวในชุดรัดรูปสีแดงเพลิงโชว์เนื้อหนังมังสาแบบนี้ก็ตาม
เนื้อนวลซ่อนความอับอายเอาไว้แต่ภายในอกเมื่อสายตาของผู้ชายทุกคนที่มองมานั้นปานจะกลืนจะกินหล่อนเข้าไปทั้งตัวเสียทุกคน ในขณะที่สายตาของผู้หญิงก็เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาอย่างเห็นได้ชัด หล่อนไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองมีทรวดทรงองค์เอวสมส่วนแค่ไหน จนเจ้าของร้านที่หล่อนไปเช่าชุดนี้มาเอ่ยปากชมนั่นแหละถึงได้รู้
“เฮ้ย... เช็ดน้ำลายหน่อย”
เสียงของผู้ชายคนหนึ่งร้องบอกเพื่อนของตัวเอง ขณะที่หล่อนเดินผ่าน แต่เนื้อนวลบอกให้ตัวเองเลิกสนใจ และมาหยุดยิ้มหวานกับพนักงานประชาสัมพันธ์แทน
“ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมาพบใครคะ”
น้ำเสียงของคู่สนทนากระชากเล็กน้อย แม้จะยังยิ้มอยู่ก็ตาม
เนื้อนวลคลี่กลีบปากอิ่มที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดไม่แพ้ชุดที่สวมใส่ออกน้อยๆ ดวงตากลมโตยิ้มนิดๆ อย่างมีจริต
“ฉันมาหาคุณคิริลค่ะ”
ทุกๆคน ที่ได้ยินคำพูดของหล่อนต่างอ้าปากค้าง ก่อนที่แม่สาวประชาพันธ์จะเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง
“นัดเอาไว้หรือ... เปล่าคะ”
“แน่สิค่ะต้องนัดเอาไว้อยู่แล้ว”
“คุณชื่ออะไรคะ ดิฉันจะได้เช็คเวลาเข้าพบท่านประธานให้ค่ะ”
เนื้อนวลระบายยิ้มอย่างที่ฝึกปรือมา ก่อนจะตอบออกไป
“โซฟีค่ะ มาจากซ่องที่หรูที่สุดในมอสโก และฉันแน่ใจว่าพวกคุณรู้ดีว่าซ่องนี้ชื่ออะไรคะ”
“งั้นคุณก็เป็น...”
“ใช่ค่ะ ฉันเป็นโสเภณีที่เมื่อคืนเจ้านายของพวกคุณหิ้วไปขย่มบนเตียง และก็ได้รับคำสั่งว่าให้มาหาที่ทำงานในวันนี้ เป็นไงคะทีนี้ฉันพอจะขึ้นไปหาคุณคิริลที่รักได้หรือยังคะ”
เนื้อนวลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะคิดว่าตัวเองชนะแล้วแน่นอน ยังไงซะวันนี้ก็ได้ขึ้นไปป่วนคิริลบนห้องทำงานแน่ แต่แล้วความหวังก็ต้องดับวูบลงเมื่อเสียงกระด้างคุ้นหูตะเบ็งอยู่ด้านหลัง หล่อนตัวสั่นและค่อยๆ หันกลับไปมอง
“คุณคิริล...”
“ท่านประธาน...”
หล่อนอุทานด้วยหน้าที่ซีดจัด ในขณะที่พนักงานทุกๆ คนแยกย้ายแตกฮือกันไปคนละทิศละทางอย่างรวดเร็ว
“กล้ามากนะ กล้ามากที่มาก่อกวนที่นี่”
คิริลที่โคตรจะหล่ออยู่ในชุดสูทสมบูรณ์แบบเดินตรงดิ่งเข้ามาหาหล่อน และแน่นอนว่าคนที่มัวแต่มองเขาด้วยความตกใจระคนชื่นชมอยู่อย่างหล่อนนั้นไม่มีทางตั้งตัวทัน ไม่ช้าก็ถูกอุ้งมือหนาที่แข็งไม่ผิดจากคีมเหล็กคว้าหมับเอาที่ต้นแขนทั้งสองข้าง และกดปลายนิ้วแรงๆ จนผิวขาวๆ ของหล่อนเขียวช้ำ
“เจ็บนะ...”
“ผู้หญิงแพศยาอย่างเธอมันสมควรเจ็บมากกว่านี้อีก”
แล้วเขาก็ผลักหล่อนออกห่างอย่างรังเกียจ ร่างอรชรเสียหลักล้มลงกองกับพื้น ชายกระโปรงที่สั้นเต่ออยู่แล้วล่นขึ้นไปสูงทันที หญิงสาวรีบตะครุบเอาไว้ทันควัน
“ออกไปให้พ้นหน้าฉันซะ!”
“คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับฉันนะ”
คิริลแค่นยิ้มกวาดมองสตรีที่แต่งตัวได้สุดแสนจะเซ็กซี่ด้วยสายตามืดดำ เพราะหล่อนสลักเสลาไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้สินะ ผู้ชายมากหน้าหลายตาจึงวิ่งเข้าใส่หล่อนกันอย่างมากมาย แต่อย่าหวังว่าจะมีรายชื่อของเขารวมอยู่กับผู้ชายหน้าโง่พวกนั้น เพราะมันไม่มีทาง
ชายหนุ่มกัดฟัน เบือนหน้าหนีภาพล่อแหลมของสตรีตรงหน้า
“เธอไม่มีวันได้เอวาคืน ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนมาสู้กับฉันก็ตาม”
แล้วเขาก็ถอดเสื้อสูทโยนใส่ร่างของหล่อน หญิงสาวจะเหวี่ยงทิ้ง แต่เสียงกระด้างของเขาก็ทำให้หล่อนต้องกำเสื้อนุ่มๆ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกายของเจ้าของเอาไว้แน่น
“ถ้าไม่อยากได้ผัวทีเดียวเป็นร้อยคน ก็ใส่ซะ ถือว่าฉันเมตตาก็แล้วกัน”
พ่อเจ้าประคุณพูดจบก็ก้าวยาวๆ เดินจากไปด้วยท่าทางแสนสง่างาม ในขณะที่หล่อนจมอยู่กับความอับอาย ไม่นานรปภ. ก็วิ่งกรูกันเข้ามา
“เชิญออกไปจากที่นี่ครับ”
“อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ฉันเดินเองได้”
หญิงสาวกัดฟันลุกขึ้นยืน ขณะกระชับเสื้อสูทของคิริลที่สวมคลุมอยู่เอาไว้แน่น
“งั้นก็เชิญออกไปครับ”
เนื้อนวลกัดปากจนเลือดซึม เจ็บปวด ผิดหวังและอับอาย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรผู้ชายอย่างคิริลได้เลย หล่อนแพ้เสมอเมื่อคิดจะต่อกรกับผู้ชายคนนี้ แต่อย่าหวังว่าหล่อนจะยอมแพ้ หล่อนไม่มีทางยอมแพ้แน่ ยังไงซะหล่อนก็ต้องทำให้เขาคืนเอวากับหล่อนให้จงได้ หญิงสาวคิดอย่างเจ็บปวด ขณะก้าวเดินตามรปภ. ออกไปนอกบริษัทใหญ่โตของคิริลอย่างไร้ทางเลือก
ขณะที่หญิงสาวเดินคอตกออกไปนั้น สายตาของใครบางคนในจุดที่สูงที่สุดของอาคารแห่งนี้ก็กำลังจับจ้องมายังที่หล่อน
“ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะแสดงได้แนบเนียนแบบนี้เนื้อนวล”
คิริลมองอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับมาทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำหลังโต๊ะทำงานไม้ของตัวเอง ไม่นานเสียงลมหายใจก็ดังขึ้น