หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนกล่าวออกมาเสียงจริงจัง “วันหยุดที่จะถึง นิดาขออนุญาตใช้บริเวณหน้าเรือนพักคนงานสอนภาษาฝรั่งเศสให้คนงานที่ยังพูดและฟังไม่ได้นะคะ” นั่นคือความตั้งใจจริงและต้องการให้แต่ละคนมีความสุขในการทำงาน ไม่ใช่รู้สึกอึดอัดตอนที่สื่อสารกับคนอื่นไม่ได้
“ได้สิ...อยากได้อะไรเพิ่มไหม?” หากมาโคไม่อยู่ เขาคือคนที่ตัดสินใจได้ สิ่งที่นิรดาขอไม่ใช่เรื่องใหญ่ แถมยังดีกับงานของเขาด้วยซ้ำ
“ขอบคุณค่ะ” นิรดาตอบเสียงตื่นเต้นปนความยินดี “นิดาไปก่อนนะคะ รถน่าจะมาถึงแล้ว” หญิงสาวยกมือไหว้ยาคอบตามความเคยชิน หัวหน้าคนงานหนุ่มใหญ่ ยกมือรับไหว้แบบงงๆ ก่อนจะหัวเราะขำๆ เมื่อเด็กสาวเดินตัวปลิวจากไป เขาเดินไปแง้มมูลี่ดูภายนอก เมื่อได้ยินเสียงเฮดังลั่น
คนงานส่วนใหญ่ปรบมือกันเกลียว มีนิรดายืนยิ้มเขินๆ กลางกลุ่มคนงานทั้งหมดหล่อนคงไปแจ้งข่าวดีให้พวกเขารับรู้ หลังขึ้นมาขออนุญาตกับเขา
แม่สาวตัวเล็กนั่น กำลังทำสิ่งยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีคนงานคนไหนริเริ่มทำมาก่อน
ยาคอบกำลังเคร่งเครียดกับตัวเลขที่น่าปวดหัวตรงหน้า บางครั้งเขาก็นึกเบื่อกับการจัดการตัวเลขเหล่านี้ แม้มันจะเป็นออเดอร์ที่สั่งผลไม้มาก็ตาม เขาชอบทำงานอยู่ในที่โล่งและใช้แรงกายมากกว่าการใช้สมอง “มีปัญหาเหรอยาคอบ คิ้วคุณแทบจะผูกเป็นโบว์แล้วนะ” มาโคยิ้มกว้าง กล่าวกระเซ้าหัวหน้าคนงานที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในออฟฟิต แทนการสั่งงานอยู่ในสวน
“โอ้พระเจ้า ในที่สุดคุณก็กลับมา!!” ยาคอบครางเสียงโล่งใจ ในที่สุดเจ้านายเขาก็กลับมาเสียที หลังจากหายหน้าไปเป็นอาทิตย์
ชายหนุ่มเดินมาอิงสะโพกข้างโต๊ะทำงานของยาคอบ เขาฉวยเอกสารขึ้นมาอ่านคร่าวๆ ก่อนจะโยนไว้ที่เดิม “ปีนี้ออเดอร์เยอะขึ้นจม!!” มาโคบ่นน้ำเสียงขึ้นจมูกเขาเองก็เบื่อตัวเลขพวกนี้ จนไม่อยากเห็น
“คุณน่าจะหาคนที่ทำหน้าที่ตรงนี้มาแทนผมนะ” ยาตอบผายมือไปตามกองเอกสาร ที่วางปนๆ กันอยู่บนโต๊ะ เมื่อเขาแทบไม่มีเวลามาเคลียร์เมื่อต้องทำงานในสวนด้วย
“อืม...ได้สิ” จู่ๆ ความคิดก็สว่างวาบขึ้นมา และมันน่าจะลงล็อคหากเป็นอย่างที่คาดไว้
“เห้อ! ค่อยยังชั่วหน่อย หากให้ผมทำงานพวกนี้ ผมบนหัวผมคงจะเปลี่ยนสีทั้งหมด” ยาคอบบ่นพร้อมกับยกมือดันเอกสารให้ห่างจากตัว “เออ...เจ้านาย แม่หนูนั่นมาขออนุญาตใช้วันหยุดสอนภาษาคนงาน ผมอนุญาตไปแล้วนะครับ” ยาคอบเอ่ยปากบอกเรื่องสำคัญ เขามาสะดุดเมื่อเจ้านายพยักหน้าเข้าใจ มาโครู้ได้ยังไงว่าเขาหมายถึงใคร เมื่อเขาบอกเพียงแค่ว่า แม่หนูนั่น
“วันนี้มีอะไรกินมั้ง?” และเพราะเจ้านายถามขึ้นมาปุบปับ ยาคอบเลยลืมเรื่องที่สะดุดใจไปโดยปริยาย
“ไม่ทราบเลยครับ ผมกินกาแฟไปแก้วเดียวตั้งแต่เช้า”
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูหยุดจังหวะสนทนา
“ลุง..คนงานเกิดอุบัติเหตุ!!” หลุยส์ยื่นหน้ามาบอก ก่อนจะรีบผลุบกับไปเมื่อมองเห็นเจ้านายยืนอยู่ด้านข้างยาคอบด้วย
“ใครว่ะ” มาโคเดินออกมาเปิดประตูและตะโกนถาม
“นิดาครับ เธอตกต้นไม้เพราะเจองู” หลุยส์ตะโกนบอก เขารีบสตาร์ทมอเตอร์ไซน์คันเล็กที่มีไว้สำหรับใช้งานง่ายๆ ในสวน
“ใคร...นิดา?” มาโคย้อนกลับมาถามยาคอบ
หัวหน้าคนงานสูงวัยเงยหน้ามองเจ้านายก่อนตอบ “ก็หนูนั่นไงครับ” สิ้นคำตอบเขา มาโคก็กระโจนออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ยาคอบอมยิ้ม เจ้านายรู้ว่าแม่หนูนั่นชื่อนิดาแล้วสินะ
“นิดาไม่ได้เป็นอะไรเลย แค่ตกใจค่ะ” นิรดากระถดตัวหนี เมื่อมีมือหลายมือเอื้อมมาจับที่ปลายเท้า เธอแค่ตกใจเมื่อเห็นอสรพิษ เลยพลัดตกลงมาจากบันไดที่ใช้ปีนขึ้นไปเก็บผลเชอรี่ ไม่ได้เจ็บหนักอะไร แต่ตกใจนั้นมีมากกว่า
“มาขึ้นรถนี่ เดี๋ยวพาไปหาหมอ” หลุยส์แหวกวงล้อม เขาจอดรถมอเตอร์ไซน์ไว้ด้านนอก
“ไม่ต้องหรอกค่ะ นิดาไม่ได้เป็นอะไร เดี๋ยวจะเสียงาน” หญิงสาวปฏิเสธ พยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ยังทรงตัวไม่ได้เต็มที่ เมื่อรู้สึกขัดๆ ที่ข้อเท้า
มาโคเดินฝ่าวงล้อมเข้ามา และเพราะรัศมีที่แผ่ออกมาจากร่างสูง แม้ไม่รู้ว่าเขาคือใคร คนงานหลายคนจึงเผลอขยับตัวหลีกทางให้ เขาเดินไปซ้อนเบื้องหลังนิรดา ยกมือขึ้นจับไหล่ และจับเธอหมุนตัว เพื่อทดสอบสิ่งที่เจ้าตัวยืนยัน คนที่ยังทรงตัวไม่ได้เลยผวาทำท่าจะล้ม มาโคเลยรวบร่างเล็กบางมากอดไว้แนบอก “ไหนบอกไม่เป็นอะไรไง เธอเจ็บ แต่พยายามฝืน มันไม่เป็นผลดีเลย” เสียงติดดุกับแววตาตำหนิทำให้นิรดาไม่กล้าเถียง
“ไปหาหมอกับหลุยส์ แล้วก็ไปหายาคอบที่ออฟฟิตด้วย” มาโคสั่ง นิรดาหน้าเสีย เธอกลัวตัวเองถูกไล่ออก
“นิดาไม่เป็นอะไรเลยค่ะ นิดาทำงานต่อได้ อย่าไล่นิดาออกเลยนะคะ!!” หญิงสาววิงวอนเสียงเครือ น้ำตาเออจวนจะหยด
“แค่เจ็บ ไม่มีเจ้านายที่ไหนไล่คนงานออกเพราะเขาเจ็บหรอกน่า” มาโคกล่าวเสียงตึงๆ เมื่อถูกมองเป็นคนใจร้ายไปเสียแล้ว
หญิงสาวยิ้มแหยๆ ให้รีบยกมือเช็ดรอยน้ำตาป้อยๆ
คนงานที่หยุดมาดูอาการของนิรดาพากันกลับไปทำงานต่อ รวมทั้งเจิ่นมุยหวาด้วย เธอพยายามส่งสายตาให้มาโค แต่เขาไม่เหลือบแลไปที่ใดเลย นอกจากเพื่อนร่วมห้องของเธอเท่านั้น
นิรดายอมซ้อนท้ายหลุยส์ไปพบแพทย์ที่มีไว้คอยดูแลคนงาน
ชายหนุ่มกดโทรศัพท์หายาคอบทันที่ “คนงานเป็นอะไรมากไหมครับ?” ยาคอบรีบถามหลังกดรับสายจากนายจ้าง
“ไม่รู้! หลุยส์เป็นคนพาไป ฉันส่งเธอไปหาคุณ ช่วยหางานให้เธอทำด้วยหล่ะ งานอะไรก็ได้ที่เธอน่าจะทำไหว แทนการมาปีนต้นเชอรี่ที่นี่”
มาโคกล่าวเสียงห้วน ก่อนจะกดวางสาย เขาไม่เคยก้าวก่ายเรื่องการจัดการคนงาน แต่สำหรับนิรดา เขาปล่อยวางเรื่องหล่อนไม่ลงสักที
“เฮ้อ...” มาโคถอนหายใจยาวอย่างรู้สึกเพลียๆ
ยาคอบอมยิ้ม รู้ทันความคิดเจ้านาย เพราะความสนใจที่มีจนออกนอกหน้า เจ้านายของเขาเลยเก็บนิรดาให้ห่างจากสายตาทุกคน คาดว่าวันพรุ่งนี้ เขาจะได้เห็นหน้าเจ้านายแถวๆ นี้บ่อยขึ้น หากว่าตนเองเดาไม่ผิด มาโคคงหาเรื่องมานั่งอยู่ที่นี่ทั้งวัน “ใครอยู่แถวนี่บ้างวะ?” ยาคอบโผล่หน้าออกไปเรียกคนงานที่เดินอยู่แถวนี้ น่าจะมีคนงานว่างพอที่จะช่วยเขาจัดการเปลี่ยนโต๊ะเก้าอี้เสียใหม่
“ลุงมีอะไรใช้ผมเหรอ?” หลุยส์อีกนั่นแหละที่โผล่หน้ามาให้เขาใช้
“มีใครว่างอีก ไปยกโต๊ะทำงานให้ห้องเก็บของมาที่นี่ตัวสิ” เขาสั่งหลุยส์ ก่อนจะเดินนำหน้า เมื่อต้องไปจัดการธุระบางอย่างให้เสร็จ ก่อนที่นิรดาจะมาถึง
ยาคอบกลับมาถึงออฟฟิตโต๊ะทำงานใหม่เอี่ยมก็ถูกตั้งไว้ชิดมุมห้อง และในห้องนั้น นิรดากำลังนั่งรอเขาด้วยความกระวนกระวาย “คุณคนนั้นให้นิดามาหาคุณค่ะยาคอบ!!” รอยกังวลเกิดขึ้นในหน่วยตาที่พริบพราวเหมือนมีดวงดาวนับล้านดวงอยู่ในนั้น
“อ้อ...มาโค เขาชื่อมาโค” ยาคอบไม่ได้บอกสถานะของมาโคให้หญิงสาวรับรู้
หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี เมื่อเธอไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่เขาส่งเธอมาที่นี่
ยาคอบลดสายตามองเท้าของนิรดาที่ถูกนายแพทย์พันผ้าไว้ “ช่วงนี้คงขยับตัวลำบาก เขาเลยให้เธอมาช่วยฉันทำงานที่นี่แทน” ยาคอบอธิบาย ผายมือไปยังกองเอกสารบนโต๊ะทั้งของเขา และโต๊ะตัวใหม่ที่เพิ่งถูกนำมาตั้งไว้สดๆ ร้อนๆ
“เอกสารพวกนั้น ไม่มีใครจัดเก็บ เธอพอจะทำได้ไหมล่ะ?” หากเป็นสาวๆ คนอื่นได้รับมอบหมายหน้าที่นี้ เจ้าหล่อนคงดีใจจนเผลอแสดงความยินดีออกมานอกหน้า แต่เด็กสาวตรงหน้ากับหน้าสลดลง เสียงอุบอิบที่ถามกลับมานั้น ยาคอบเกือบหัวเราะ “นิดาจะได้ค่าแรงเท่ากับตอนที่ออกไปเก็บเชอรี่ไหมคะ?”