บทที่7.แผนสยบนางมาร

1539 Words
“กรี้ดดดดด...” เสียงหวานแหลมกรีดร้องดังลั่น เรือนกายอวบอัดกระตุกสั่น แล้วก็ร่วงผล่อยซบแผ่นอกกว้าง กลีบปากอิ่มเผยอคราง แข่งกับเสียงโอดครวญอาเธอร์เช่นเดียวกัน... ชายหนุ่มรีบพลิกร่างกายอ่อนปวกเปียกของนัชชาวีลงด้านข้าง พร้อมทั้งตอกอัดแก่นกายลงบนกึ่งกลางร่างกายฉ่ำหวานแรงๆ สานต่อความรัญจวนแบบต่อเนื่อง จนลำตัวอ่อนปวกเปียกไหวสะเทือน เธอสะบัดใบหน้าครางไม่หยุด ใบหน้าหวานแดงจัด ลำตัวชื้นเหงื่อ นัชชาวีครางแผ่วๆ เธอหมดแรงและเหนื่อยอ่อน เปลือกตาจวนจะปิดลง และต้องการพักผ่อนโดยด่วน!! แต่พ่อคนบ้าพลังยังไม่ยอมหยุด!! ทั้งๆ ที่บทรักร้อนๆ เพิ่งจบลงไปหมาดๆ เธอไม่คิดว่าผู้ชายหน้าหวานอย่างอาเธอร์จะร้อนแรงเช่นนี้ เขาขรึมเฉยเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน แต่กลับร้อนแรงสุดๆ เวลาที่อยู่ในห้องหับส่วนตัว เขาเป็นจอมพลังที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เธอครางเสียงแหบเสียงแห้ง และต้องทนรองรับความหวานเจียนตาย จนกว่าจะชายหนุ่มจะหมดแรง           นัชชาวีหลับสนิท...หลังจากอาเธอร์ยอมลามือ เธอหลับเหมือนโดนหมัดน็อค!! ไม่รู้เนื้อรู้ตัวแม้กระทั่งผู้ชายที่เธอคิดว่าตัวเองรังเกียจนักหนาเช็ดตัวให้           สายตาของชายหนุ่ม...ยามที่เธอไม่ได้เห็นนั้น ช่างอ่อนโยนจนเธอคาดไม่ถึง...แต่นัชชาวีจะมีโอกาสได้รู้หรือไม่นั้น โชคชะตาเท่านั้นที่จะรู้ เพราะมันเป็นเรื่องราวในอนาคต           เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ไม่ว่าจะ ‘เบนิคอฟ’ หรือ ‘มาริน’ ต่างคนก็มีศักดิ์ศรีและแบกอีโก้ไว้เต็มสองบ่า           มันขึ้นอยู่แค่ว่า...ใครจะยืดอกรับความจริงมากกว่ากัน... “ดีม่า เป็นอะไรไหมลูก?” นีรนาทซักบุตรสาว ใบหน้าของนัชชาวีเหมือนอมความทุกข์ ดวงตาของเธอหมองเศร้าจนแม้แต่นางยังรู้           น้ำตาร่วงเผาะๆ หญิงสาวไม่รู้ว่าจะตอบมารดาแบบไหน? เธออยากถอยห่างผู้ชายใจร้ายคนนั้น เขากล้าดียังไงมาท้า ‘หย่า’ กับเธอ เขาได้ทุกสิ่งอย่างไปจากเธอจนไม่มีอะไรเหลือ...แล้วยังมีหน้าจะทอดทิ้งเธออีก ศักดิ์ศรีทำให้นัชชาวีฝืนตอบตกลง หากเขากล้า!! เธอก็จะสนอง แต่เวลานี้หัวใจเธอเจ็บร้าวเหลือเกิน อยากจะหยุดหายใจ หลับตานอนยาวๆ           “เปล่าค่ะแม่ ดีม่าแค่คิดถึงบ้าน คิดถึงทุกคน” เธอบิดเบือนคำตอบ เวลานี้แม่ไม่ใช่ที่ปรึกษาที่ดี เมื่อคนริเริ่มคือมารดา ท่านโยนเธอให้กับเขา โดยไม่ฟังเหตุผลของเธอเลย           น้ำตาของลูก เหมือนคมมีดที่กรีดลงบนหัวใจ จนเลือดไหลโทรม นีรนาทกล้ำกลืนความเจ็บช้ำไว้ในอก นางเดินเข้าไปสวมกอดลูก กล่าวปลอบใจเสียงอ่อนๆ “ชีวิตคู่ เราต้องรู้จักอดทน เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นแกนโลก ไม่มีใครทนเราได้หากเราไร้เหตุผล ต้องค่อยๆ ปรับ ถนอมความรู้สึกดีๆ ไว้ วันหน้าดีม่าจะรู้ว่าที่แม่บอกคือสิ่งถูกต้อง”           จะให้เธอทนเพื่อ? เมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนเธอไร้ค่า เขาส่งใบหย่า!! ให้เธอ เหมือนกับเป็นการบอกกลายๆ           แล้วจะให้เธอทนเพื่ออะไร เขาเหยียดหยามเธอ จนสุดที่จะทน!!           “แด๊ดไม่อยู่เหรอคะ?” นัชชาวีรีบยกมือเช็ดน้ำตา ทางที่ดีเธอควรหาที่ปรึกษาและตลบหลังอาเธอร์ ให้เขารู้สึกผิดบ้าง           สาวใหญ่ผ่อนลมหายใจช้าๆ ลักษณะแบบนี้ นัชชาวีมีเรื่องในใจแน่นอน ลูกสาวตัวน้อยที่วิ่งตามเธอต้อยๆ บัดนี้เธอเติบใหญ่และมีครอบครัวของตัวเอง ทั้งที่เมื่อก่อนนัชชาวีจะเปิดอกคุยกับเธอ แต่เดี๋ยวนี้ลูกมีความลับ ปิดบังไว้ไม่ยอมให้เธอช่วยตัดสินใจ อารมน้อยใจนีรนาทเลยผลักบุตรสาวไปหาสามี           “อยู่ในห้องทำงานนั่นแหละ!” เสียงมารดาแข็งๆ นัชชาวีจับจุดได้ แต่เธอกำลังร้อนใจเลยรีบโผไปหาบิดา ไม่ได้สนใจเหมือนเดิม           สายตาเป็นห่วงมองตามไปจนลับตา นีรนาทถอนใจเฮือก เธอทรุดนั่งพร้อมกับหยดน้ำตาที่ค่อยไหลอาบแก้ม เธอทำทุกอย่างเพื่อลูก แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่สนใจ สิ่งไหนที่ดีเธอทูนให้ลูกได้หมด...ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอไม่คิดว่า ‘มาริน’ จะบกพร่อง เขาเหมาะสมกับนัชชาวีที่สุด ในบรรดาลูกหลานคนร่ำรวย ที่เธอเคยพบเจอ ก็อกๆ           “แด๊ด!! ดีม่ามีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ” เสียงเคาะประตูดังๆ พร้อมกับใบหน้าหงอยๆ ของบุตรสาว เธอวิ่งพรวดผ่านประตูห้องทำงานเข้ามา สองมือเกาะขอบโต๊ะ และละล่ำละลักเสียงหอบเหนื่อย           “ดีม่า!! ลูกมาได้ยังไง?” ดิมิทรีถลาลุก หนุ่มใหญ่วิ่งออกจากที่ออกไปสวมกอดบุตรสาว พร้อมกับกวาดตามองนัชชาวีตั้งแต่หัวจรดเท้า เพื่อหาความทุกข์ร้อนที่เธออาจต้องแบกรับไว้           หญิงสาวแอบเบ้ปาก หากมาดีๆ มีหรือจะได้มา อาเธอร์ให้คนคุมเธอเหมือนเป็นนักโทษ พอสบช่องหนีได้ เธอก็เผ่นแนบแบบไม่รีรอ           “มาแท็กซี่ค่ะ” เธอตอบพร้อมกับฉีกยิ้ม สอดมือโอบกอดเอวหนาของบิดาไว้ แนบใบหน้ากับแผงอกแน่นตึง พร้อมกับชะอ้อนเสียงหวาน “ดีม่าคิดถึงแด๊ดที่สุดในโลก แด๊ด...ให้ดีม่านอนค้างที่นี่สักคืนได้ไหมคะ”           แม้จะไม่ใคร่พอใจ ไอ้หนุ่มนั่นปล่อยให้บุตรสาวท่านเดินทางมาด้วยรถสาธารณะ แต่เมื่อนัชชาวีมาอยู่ใต้ปีก มีหรือเขาจะยอมคืนง่ายๆ “ได้สิ!! ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ดีเสียอีก เราไม่ได้เจอกันมาเป็นเดือน...คืนนี้ต้องฉลองใหญ่!! หรือ... ดีม่าจะอยู่ยาวเลยก็ได้นะ แด๊ดเคลียร์ให้เอง”           คำพูดของบิดากระทบใจเธอจนเจ็บแปลบ!! เขาผลักไส เสือกไสเธอกลับมาอยู่ในอ้อมกอดพ่อ แม่นี่ เธอกลับมาเลยได้ใช่ไหม?           “ค่ะ ดีค่ะ ดีม่าจะอยู่ที่นี่ ดีม่าไม่กลับไปบ้านนั้นแล้ว” หญิงสาวรีบซุกหน้ากับอกบิดา ซ่อนรอยน้ำตาที่รื้นออกมา มือเรียวรัดเอวหนาของดิมิทรีแน่นๆ เธอขอความเข้มแข็งจากท่านเพิ่มความกล้าให้ตัวเอง           หนุ่มใหญ่กระตุกยิ้มมุมปาก ดูเหมือนว่าไอ้หนุ่มนั้นจะยอมทำตามคำขอ ของเขา ลูกสาวคนเดียวเขาเลี้ยงได้ จะจับใส่ตะกร้า ล้างน้ำสะอาด ให้กลิ่นคาวๆ หลุดออกไปให้หมด ให้นัชชาวีกลับมาเป็นลูกสาวสุดรักของเขาเหมือนเดิม           ความน้อยใจ ความเสียใจ บวกกับการเข้าใจผิด ผู้หญิงหัวดื้ออย่างนัชชาวี เลยเลือกที่จะกลับไปซุกอกบิดา...หลบพักเลียแผลใจ หลังจากกลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิม เธอจะตอบโต้ให้อาเธอร์รู้สึก!! เขาปล่อยเพชรล้ำค่าหลุดมือไป คฤหาสน์มาริน...           “อะไรนะ ดีม่าหายไปตั้งแต่บ่าย...แต่ไม่มีใครคิดจะบอกผม!!” อาเธอร์ลุกพรวดพลาด เขากรรโชกเสียงเคร่ง หลุดการควบคุมตัวทุกกรณี เมื่อหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาหายตัวไป           “ดีม่าไม่ได้หายไปไหนหรอกน่า... คนของเราตามเธอทันที่หน้าบ้านของเธอเอง” วิคเตอร์ตอบเสียงเพลียๆ เขารู้ว่าอาเธอร์กำลังร้อนใจ ‘เมียหายทั้งคน’ ผู้ชายคนไหนล่ะที่จะทนอยู่เฉยๆ ได้           “แด๊ด!! ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้ ผมจะได้ไปรับเธอกลับ” ชายหนุ่มเดินวนกลับไปกลับมา หล่อนหนีไปแบบนี้คงไม่ยอมกลับง่ายๆ แน่           “ลูกกักเธอไว้แบบนี้ มันไม่ดีหรอกนะ ไม่มีใครอยากอยู่ในกรง แม้แต่นก...ปล่อยเธอสักพักดีกว่าไหม?” ประสบการณ์ตรงตัว มันเคยเกิดขึ้นกับตัวเอง บีบบังคับมากไป ไม่มีใครชอบ อีกฝ่ายจะดิ้นสุดแรงเพื่อต่อต้าน แล้วก็จะเจ็บทั้งคู่ “อ่อนลงบ้าง ปล่อยให้น้องได้ตัดสินใจเอง อย่าบีบดีม่านักสิ” ท่านเตือนด้วยความหวังดี แต่กลับได้รับค้อนคมๆ จากภรรยาแทน จนต้องส่งยิ้มประจบ           “ผมรู้ครับแด๊ด แต่เรากำลังมีปัญหากัน ดีม่าหนีไปแบบนี้ เธอคงไม่ยอมกลับง่ายๆ แน่” อาเธอร์ทรุดตัวลงนั่ง เสียงเขาแฝงความอ่อนล้า มันล้าทั้งร่างกายและหัวใจ ยามไม่มีนัชชาวีอยู่ใกล้ๆ           “แม่ว่านะอาเธอร์ ลูกควรไปตามดีม่าเร็วๆ การทอดเวลาให้นานขึ้น ในสายตาผู้หญิงกลับคิดว่าตัวเองถูกทิ้ง!!” ประสบการณ์ตรงตัวเช่นกัน ทิฆัมพรออกความเห็นในแบบผู้หญิง สามี ภรรยาทะเลาะกัน หากปล่อยเวลาให้นาน เท่ากับทำให้ผู้หญิงเกิดความวิตก อาจจะคิดอะไรโง่ๆ และตัดสินใจแบบไร้การตรึกตรอง เพราะอารมณ์ล้วนๆ           โบราณถึงว่าไว้ หากทะเลาะให้ปรับอารมณ์รีบหันหน้ามาคุยกันให้รู้เรื่อง ที่สำคัญห้ามก้าวเท้าออกจากประตูบ้าน มันจะเหมือนสายป่านที่ขาดเพราะคมมีด ถูกเฉือนขาดออกจากกัน ไหนจะทิฐิ ไหนจะความเข้าใจผิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD