“โอ๊ย! ท่านจะรีบลากข้าออกมาทำไม แล้วนี่ได้คุยกับจางหลี่กวงหรือยัง” ชิงหรูถูกลากขึ้นมาในรถม้าที่จอดรออยู่แล้ว
หลังจากเฉิงจื่อหานเข้าไปแทรกการสนทนาระหว่างเกาชิงหรูกับเฉิงเยว่เทียน คนหน้าถมึงทึงก็ลากนางออกมาโดยไม่สนสายตาคนในงาน ไม่รู้ว่าโกรธผู้ใดมา
หรือจางหลี่กวงพูดจาไม่ถูกหู แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเฉิงจื่อหานผู้นี้ รักและเทิดทูนนางเอกของเรื่องเป็นที่สุด ไม่มีทางที่จะโกรธนาง
“เจ้าตั้งใจให้ข้าไปพบหลี่เอ๋อร์ใช่หรือไม่”
“ก็ใช่น่ะสิ ข้า-”
“เป็นจริงอย่างที่ข้าคิด เจ้ามันสตรีแพศยา!” กำปั้นใหญ่ทุบผนังรถม้าอย่างแรง ทำเอาชิงหรูสะดุ้งโหยง ในใจนึกเคืองเล็กน้อย ทั้งที่เปิดโอกาสให้อยู่ด้วยกันแล้วยังมาว่านางอีก
“ท่านด่าข้าหรือ คนอุตส่าห์ช่วย”
“หึ ช่วยอันใด มิใช่ว่าเจ้ากันให้หลี่เอ๋อร์ออกห่างเจ้ารอง แล้วเจ้าจะได้หว่านเสน่ห์ใส่น้องชายข้าหรือ นี่หากข้าไม่ไปพบเข้า คงจะพากันไปถึงไหนต่อไหน!”
“หา!” เหตุใดจึงกลายเป็นนางที่อยากพูดคุยกับองค์ชายรองเสียได้
“แม้ข้าจะไม่เต็มใจ แต่เจ้าได้ชื่อว่าเป็นชายาของข้า เจ้าไม่มีสิทธิไปยุ่งเกี่ยวกับชายอื่น แม้จะพูดคุยก็ไม่ได้! โดยเฉพาะกับเจ้ารอง ข้าจะไม่มีทางให้น้องน่าชังนั่นมาหยามหน้าข้าได้อีก”
“...”
“จากนี้ข้าสั่งห้าม ห้ามเจ้าสนทนากับชายอื่น เฉียดกายเข้าใกล้ก็มิได้”
“ท่านบ้าไปแล้วหรือ” ท่าทีแบบนี้ไม่ใช่แล้ว ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นทำให้นิยายที่นางแต่งแน่ๆ ต่อไปจะยึดติดกับนิยายมากไม่ได้แล้ว
“หน้าที่ของเจ้าคือทำตามคำสั่ง มิฉะนั้นข้าวของเงินทองที่ข้าให้เจ้าไป เจ้าจะไม่ได้มันอีก และข้าจะเรียกคืนให้หมด! พรมในเรือนเจ้า ข้าก็จะนำไปให้ม้ารองนอน”
“นะ นี่ท่านคิดจะใช้เรื่องเงินขู่ข้าหรือ”
“ในเมื่อเจ้าอยู่ในฐานะพระชายาแล้วรักษาหน้าให้ข้ามิได้ ข้าจะให้เจ้าอยู่อย่างทาส ทำงานแลกข้าว หรือไม่ก็...”
“อะไร อึก” เกาชิงหรูขยับถอยหลัง เมื่อสวามีใช้สายตาเจ้าเล่ห์ไล่มองร่างกายของนางอย่างไม่ปกปิด นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบไปดูประตูรถม้าเพื่อหาทางหนีทีไล่
“จะใช้ร่างกายของเจ้าเข้าแลก ข้าก็ไม่ว่าอันใด”
“ไอ้คนลามก เงินเพียงไม่กี่ตำลึง ข้าหาเองได้!” เกาชิงหรูกอดอก จ้องหน้าชายหนุ่มเขม็ง คิดจะให้นางเอาตัวเข้าแลกเงินหรือ หากไม่ชั่วจริงคงคิดไม่ได้
“เช่นนั้นก็เอาเงินที่ข้าให้คืนมา”
“คืนแน่! รอก่อนเถิด” เสียงหวานสั่นเล็กน้อย เฉตามองทางอื่น ในใจนึกหวั่นว่าจะเอาเงินจากที่ไหนไปคืนอีกฝ่าย
ยามได้มานางก็นำไปใช้สารพัดอย่าง ตอนนี้เหลือไม่ถึงครึ่งกระมัง
“ท่าทางเช่นนี้ไม่มีสินะ เอาเป็นว่าคืนนี้เจ้าอยู่ปรนนิบัติข้าแล้วกันข้าจะยกเงินนั่นให้ ลงสิ รถม้าหยุดพอดี” มุมปากกระตุกยิ้มร้าย สตรีเช่นนางจะเอาปัญญาที่ไหนหาเงิน พอแต่งงานแล้ว
ก็เป็นอันต้องแบมือขอสามีทั้งนั้น
ยังอาจหาญกล้าพูดเช่นนั้นออกมาอีก
“ไอ้คนชั่ว ชั่วได้ใจจริงๆ”
ตุ๊บ! เพราะอดไม่ได้ เกาชิงหรูจึงยกกำปั้นทุบอกอีกฝ่ายไปทีหนึ่ง ก่อนจะวิ่งลงรถม้าไป ทิ้งให้คนถูกทำร้ายนั่งหัวเราะอยู่บนรถม้า
“หึๆ แรงเท่ามด”
ขาเรียวก้าวฉับๆ มาถึงเรือน ก็รีบไปเปิดถุงเงินดู เฉิงจื่อหานพูดถึงเพียงนั้นนางจะหามาคืนเขาให้หมด จะไม่ยอมให้เขานำเรื่องนี้มาขู่ได้อีก
“นี่สินะ เขาถึงบอกว่าผู้หญิงต้องมีงานทำ” แม้ว่าจะมีสามีรวยแค่ไหน แต่การใช้เงินตัวเองก็สบายใจที่สุดแล้ว
ร่างเล็กกระแทกก้นลงบนเตียงนุ่ม กอดอกคิดว่าจะหาเงินมาคืนอีกฝ่ายอย่างไรดี และแล้วในหัวก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา
“นี่ขอรับ วันนี้จะมีนักเล่านิทานมาที่ลานว่างท้ายตลาดนะขอรับ เชิญไปดูกันได้” มือป้อมยื่นกระดาษที่ขีดเขียนคำเชิญ ให้กับคุณหนูคุณชายที่เดินผ่านไปผ่านมาในตลาด
“น่ารักเสียจริง เอาไว้ข้าจะแวะไปนะ”
“ขอรับคุณหนูคนงาม” เสี่ยวฉียื่นแก้มให้สตรีผู้นั้นบีบ ก่อนจะยิ้มหวาน เดินไปเชิญชวนคนอื่นๆ ต่อ เกาชิงหรูเห็นดังนั้นถึงกับหัวเราะให้กับเด็กชาย
หลังจากที่นางตัดสินใจได้ว่าจะใช้ความช่างเพ้อช่างฝันของตัวเองให้เป็นประโยชน์ โดยการเป็นนักเล่านิทานเต็มตัว วันนี้ได้ไปขอเสี่ยวฉีมาเป็นผู้ช่วยตัวน้อย และดูจะเป็นไปได้ด้วยดี เพราะมีแต่คนเอ็นดูเด็กชายตัวน้อย
“พี่ชิงชิงไปเตรียมตัวเถิดขอรับ ทางนี้ข้าจะจัดการเอง”
“ขอบใจมากเสี่ยวฉี ข้ารีบไปก่อนนะ” เกาชิงหรูกลับไปเตรียมตัวที่ลานว่าง วันนี้นางเตรียมการมาเป็นอย่างดี คิดว่าจะเล่านิยายรักตามแบบฉบับของคนช่างฝัน
สตรีในห้องหออย่างไรก็ต้องชื่นชอบเป็นแน่
“แม้ไม่เห็นใบหน้า แต่รูปร่าง ผิวพรรณนางยังดูเด็กอยู่เลยนะ จะสนุกหรือ”
“นั่นสิ” คุณหนูในห้องหอสองนางกำลังนั่งซุบซิบกัน ทันทีที่เห็นว่าคนที่จะมาเล่านิทานเป็นสตรี และแม้อีกฝ่ายจะสวมหมวกปิดบังใบหน้าทั้งหมด ก็ดูออกว่าเป็นเพียงเด็กสาว
“มิต้องกังวลไปเจ้าค่ะ ข้ามิได้คิดเงิน เอ๊ะ!” ชิงหรูอุทานเสียงหลง เมื่อคนที่พึ่งเดินเข้ามาคือจางหลี่กวงและนางกำนัลคนสนิท
เช่นนี้คงต้องดัดเสียงด้วยกระมัง
“เช่นนั้นก็เริ่มเล่าเถิด ข้าอยากฟังเต็มทน”
“จะ เจ้าค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า...” เกาชิงหรูรอมาพักใหญ่แล้ว และคิดว่าคงไม่มีผู้ใดมาเพิ่มจึงเริ่มเล่าเรื่อง แม้จะมีคนมาเพียงสิบคน แต่ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี
การเล่าเรื่องเป็นไปอย่างเข้มข้น แน่นอนว่าแฟนคลับนิยายจีนโบราณอย่างนาง ไม่พ้นจะเล่าเรื่องราวในยุคสมัยนั้น อีกเหตุผลเพราะผู้คนที่มาฟังก็อยู่ในยุคสมัยเดียวกัน ย่อมทำให้ผู้ฟังเข้าถึงได้ง่าย
แต่ระหว่างที่ชิงหรูกำลังเล่าเรื่องอยู่นั้น ก็เห็นว่านางกำนัลคนสนิทของจางหลี่กวงมาสะกิดผู้เป็นนาย ก่อนที่ทั้งคู่จะลุกเดินออกไปพูดคุยกับใครบางคน แม้จะเอียงหน้ามอง แต่ก็เห็นเพียงมือที่สวมแหวนเท่านั้น
ใครกันนะ!