“อยากช่วยเรื่องอื่นไม่ได้หรือไง เรื่องนั้นให้คนของนายดูด้วยก็ได้”
ร็อกไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไรด้วย เขาเดินออกจากบ้านไปแล้ว สตีฟมองตามหลังเพื่อนด้วยรอยยิ้มก่อนหุบลงช้า ๆ เมื่อนึกได้ว่า ร็อกไม่ใช่คนจะยอมทำตามอะไรง่าย ๆ เรื่องแข่งรถแล้วแพ้นี่ก็เช่นกัน หากร็อกจะไม่ยอมทำตามเสียอย่าง ตนจะไปทำอะไรได้
อย่าบอกนะว่าร็อก ศิงขริน โรเจอร์ถูกใจเชลยขึ้นมาแล้ว
ไม่เสียแรงที่นำเรื่องของธาราทิพย์ไปคุยเกริ่นให้ฟังบ่อย ๆ ในวงเหล้าก่อนหน้านี้
คิดพร้อมกับที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าของสตีฟอีกครั้ง
ธาราทิพย์กำลังคิดหนัก เธอรู้ตัว รู้สถานการณ์ของตัวเองดีขึ้นแล้วว่าไม่ได้เมาจนเดินไปหลับในห้องของใคร แต่เธอถูกวางยาจนหมดสติและถูกพาตัวมาไว้ที่ไหนสักแห่งเพื่อไม่ให้ไปทำลายงานแต่งงานที่กำลังจะจัดขึ้น
แต่แล้วจะเป็นใครกันล่ะ
งานของใครที่เธอถูกห้ามไม่ให้ไป
ศัตรูของเธอไม่ได้มีแค่คู่รักสารส้มแค่นั้นหรอกนะ
หญิงสาวครุ่นคิดเดี๋ยวเดียว ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อนึกอะไรได้
หรือจะเป็นอาภาศรี
คิดได้อย่างนั้นแล้วก็เดือดพล่าน ๆ ราวกับน้ำในหม้อใบใหญ่ที่มีน้ำเต็มจนล้นปรี่ออกมาด้วยแรงของไฟในเตา
เธอพลาดงานแต่งห่วย ๆ ของปฏิภาณกับอรนุชที่อาจจัดแบบไร้รสนิยมนั่นได้ แต่เธอจะพลาดงานแต่งงานของบอสและอาภาศรีไม่ได้เด็ดขาด
แต่เดี๋ยวนะ สองงานนี้จัดวันเดียวกันเลยนี่นา
แล้วใครกันที่เล่นตลกกับเธอแบบนี้
จะเป็นยายสารส้มหรือยายอาภาศรี?
แล้วผู้ชายหน้าฝรั่งที่พูดไทยชัดและคล่องกว่าเธอนั่นก็ยังบอกว่าจะปล่อยให้เธอกลับบ้านได้ แต่ต้องให้เลยวันที่สิบสี่ไปก่อนเท่านั้น เขามีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับเธอ
ธาราทิพย์เกิดและเติบโตมาก็เพื่ออยู่ทำลายล้างคนไม่รู้หรืออย่างไร
เธอต้องออกไปจากบ้านบ้า ๆ นี่ให้ได้เลย ไม่เชื่อก็คอยดู คิดหมกมุ่นกับการหาทางกลับบ้านอยู่อึดใจเดียว ประตูห้องที่เธอพักอยู่ก็ถูกกระชากเปิดโดยไม่มีการบอกหรือขออนุญาตแต่อย่างใด
“นายให้เอาชุดมาให้เธอเปลี่ยน”
หญิงสาวที่ใบหน้าบอกบุญไม่รับตะโกนมาจากหน้าประตูห้อง พร้อมกับวางชุดที่ว่านั่นลงที่พื้นห้องด้วยท่าทางกระแทกกระทั้น
“ฝากบอกนายเธอด้วยว่าใจบุญจริง ๆ พ่อคุณ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้นะก็ช่วยปล่อยฉันออกไปจากที่นี่ได้แล้ว”
หญิงสาวคนนั้นไม่ได้สนใจฟังที่เธอพูดด้วยซ้ำ เหมือนสมองรับแต่คำสั่งของเจ้านายของเจ้าหล่อนแต่เพียงผู้เดียว บอกต่อจากเมื่อครู่ว่า “เปลี่ยนชุดแล้ว นายให้เชิญออกไปรับทานอาหารที่ข้างนอก”
“อ้อ ยังดี นึกว่าจะให้กิน ให้นอน ให้ทำทุกอย่างในห้องนี้เลย”
“หรือเธอต้องการแบบนั้นก็ได้นะ ฉันจะไปบอกนายให้”
คนถูกกักอิสรภาพหัวเราะฮ่าที่ไม่ได้หมายความว่าตลกเลยสักนิด กลอกตาใส่แล้วคว้าชุดเดินลับหายเข้าไปยังประตูเล็กที่ภายในห้องนั้นพอจะคาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นห้องน้ำส่วนตัว
เข้าไปอยู่ในห้องน้ำแล้วธาราทิพย์ก็ยกเสื้อผ้าที่ได้รับมา ชูขึ้นเสมอใบหน้าพร้อมด้วยอาการโมโหนิด ๆ
นี่เห็นเธอเป็นอะไร จะให้ใส่ผ้านุ่งแบบนี้กับเสื้อเชิ้ตเนี่ยนะ
จงใจแกล้งกันใช่ไหม
สรุปความด้วยตัวเอง หญิงสาวขยับมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มแบบที่ไม่ใช่รอยยิ้มในทางที่ดีเท่าไรนัก แล้วจึงนำชุดนั่นขึ้นมาเปลี่ยนในนาทีต่อมา
ชายกลุ่มที่นั่งคุยกันอยู่นั้นพากันเงียบไปในพริบตาเมื่อหญิงสาวที่ถูกร็อกอุ้มมาเมื่อคืน กำลังเดินกรีดกรายเข้ามาในนี้แล้ว
ร็อกตะโกนเรียกคนของตนเองเสียงเขียวทีเดียว “ปราง”
หญิงสาวเจ้าของชื่อมะปรางลากเสียงขานรับหวานจ๋อย “ขาคุณร็อก”
“ไม่ได้เอาชุดให้คุณเขาเปลี่ยนหรอกหรือ”
“ให้ไปแล้วนี่คะ” มะปรางบอกแล้วอ้าปากค้างเมื่อมองไปยังหญิงสาวแปลกหน้าในบ้านของนาย พบว่าออกมาในชุดดัดแปลงจากผ้านุ่งจนดูเซ็กซี่ไม่น้อย
“ฉันไม่เคยใส่ผ้าถุง นุ่งไม่เป็น”
“ก็เลย...มาแบบนี้?” สตีฟถามอ้าปากค้างไว้จนเจมี่ต้องยื่นมือมาตบให้หุบกลับเข้าที่ดังเดิม
“แบบนี้คืออะไร”
ธาราทิพย์ถามพร้อมขยับร่างกายในชุดผ้าผืนยาวลายไทยที่ถูกเธอดัดแปลงให้มันเป็นชุดเกาะอกที่พองออกนิด ๆ ไม่ได้เน้นสัดส่วนนัก เน้นอวดผิวเนินอกที่เนียนนุ่มน่าสัมผัสนั้นแทน
ชายหนุ่มทั้งหมดแทบละสายตาจากเธอไม่ได้ ยกเว้นก็เพียงแค่ ร็อก ศิงขริน โรเจอร์ คนเดียวเท่านั้น ที่มองแล้วเบือนหน้าหนีไปยังอีกทางทันที หญิงสาวเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ว่างท่ามกลางชายหนุ่มที่หุ่นสูสีพอฟัดพอเหวี่ยงกันแทบทั้งโต๊ะ ยกเว้นเธอที่บอบบางอยู่คนเดียวเพราะเป็นผู้หญิง มองสบตาทุกคนที่โต๊ะด้วยท่าทีมั่นใจอย่างที่เป็นตัวเองมาตลอด
“สวยมากครับ” เจมี่ชมก่อนเป็นคนแรก
“เกร๋” อีกคนกระดกลิ้นชมสุดใจขาดดิ้นตามไป
“ขอบคุณค่ะ แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าคุณ” เธอเน้นคำ ตามองจิกไปยังร็อก แล้วค่อยปรายตามองทางคนอื่น ๆ พูดต่อจากนั้น “และพวกคุณจะไม่ขังฉันไว้ รู้หรือเปล่าว่าการกักขังคือการเบียดเบียนอิสรภาพของเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะผู้หญิงด้วยแล้วคุณไม่ควรทำแบบนี้เลยนะ เป็นคดีความฉันก็ไม่ยอมความเด็ดขาด ต่อให้คุณถือสัญชาติอื่นก็เถอะ ฉันไม่สนหรอก”