SOMEBODY12:คิดแย่งแฟนรุ่นพี่

1960 Words
[AKIN : SAID] ผมขับรถมาส่งจัสมินที่หอพักของเธอ ตอนนี้ประมาณสี่ทุ่มผมเองก็บอกให้ลิซมาด้วยเพราะเวลาขับรถกลับผมไม่มีเพื่อนคุยแต่เธอบอกว่าขี้เกียจเลยขอนอนรออยู่ที่ห้อง จัสมินถอดหมวกกันน็อกคืนให้ผมผมกำลังจะเลี้ยวรถกลับแต่เธอก็จับมือผมเอาไว้ก่อน ทำให้ผมต้องถอดหมวกกันน็อกออกเมื่อเห็นว่าเธอน้ำตาคลอเหมือนจะร้องไห้ เป็นไรวะกูแม่งยังไม่ได้ทำอะไรน้องเลยนะเว้ย “เป็นไรจัส?” ผมดับเครื่องมอไซต์แล้วหันหน้าไปคุยกับเธอตรงๆ เพราะเป็นห่วงเมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลยทำไมถึงร้องไห้ได้ล่ะ หรือว่าเมื่อกี้ผมขี่รถเร็วจนทำให้เธอกลัวเหรอ ผมก็ไมได้ขี่เร็วขนาดนั้นป่ะความเร็บก็ปกติ จัสมินบีบมือผมแน่นทำให้ผมมองมือของเธอที่กุมมือผมเอาไว้ ผมเอื้อมมือข้างหนึ่งไปลูบผมเธอเบาๆ เป็นการปลอบใจก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรแต่ผมแม่งโคตรไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้เลยว่ะเพราะมันทำให้ผมทำตัวไม่ถูกและไม่รู้ว่าจะปลอบยังไงด้วย คือถ้าเป็นลิซก็ว่าไปอย่างเพราะเธอเป็นเมียผมไงจะง้อแบบไหนก็ได้ แต่กับคนอื่นผมก็ไม่รู้ต้องทำยังไง “พี่คิณณ์ขึ้นไปส่งหนูที่ห้องได้มั้ยคะ?” ผมนิ่งไปเพราะมันคงดูไม่เหมาะถ้าหากว่าผมจะขึ้นห้องไปกับเธอ อีกอย่างถ้าเกิดว่ามีคนรู้จักผมเอาไปพูดให้ลิซฟังเธอก็คงเข้าใจผมผิดอีก พอเห็นว่าผมไม่ได้พูดอะไรจัสมินก็ปล่อยมือที่จับมือผมไว้ เธอปาดน้ำตาตัวเองออกแล้วยิ้มให้ผมเหมือนไม่อยากให้ผมต้องคิดมากหากว่าผมจะไม่ขึ้นไปส่งเธอ “หนูเข้าใจค่ะว่าพี่คิณณ์กลัวพี่ลิซจะเข้าใจผิด งั้นไม่เป็นไรค่ะขับรถกลับดีๆ นะคะ” จัสมินเดินหันหลังจะเดินเข้าหอ ผมเห็นอย่างนั้นก็อดเป็นห่วงไม่ได้เลยเดินไปขนาบข้างกับเธอเพื่อที่จะไปส่ง ก็ไม่รู้ว่าตัวเองแม่งคิดห่าไรถึงจะไปส่งน้องที่ห้องอาจจะเป็นเพราะว่าเห็นเธอร้องไห้แล้วรู้สึกเป็นห่วงก็ได้ ก้็แค่ไปส่งหน้าห้องคงไม่เป็นไรมั้ง อีกอย่างลิซคงไม่รู้เรื่องนี้หรอก “เดี๋ยวพี่ไปส่ง” จัสมินหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจก่อนที่เธอจะเผลอกระโดดกอดผมแน่นไม่ยอมปล่อย และผมก็ปล่อยให้เธอกอดเพราะคิดว่ามันเป็นแค่การกอดกันเหมือนพี่น้องเท่านั้น จัสมินผละออกจากผมแล้วหน้าแดงขึ้นมา เธอก้มหน้ามองมือตัวเองอย่างเขินๆ ที่เผลอกอดผมแน่นเกินไป "ขะ...ขอโทษค่ะ หนูแค่ดีใจไปหน่อยที่พี่คิณณ์จะขึ้นไปส่ง" "อ่า ไม่เป็นไรครับ" [AKIN : SAID END] ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหนพอตื่นขึ้นมาก็ตีสี่แล้ว พี่คิณณ์นอนกอดฉันอยู่ข้างๆ เขาเข้ามานอนตั้งแต่เมื่อไหร่ฉันยังไม่รู้สึกตัวเลย ฉันยิ้มให้กับร่างสูงที่นอนหลับอยู่ข้างๆ ฉันตอนนี้ ฉันซุกหน้าเข้าไปแนบอกพี่คิณณ์แต่แล้วก็ได้กลิ่นน้ำหอมแปลกๆ จากตัวเขามันไม่ใช่กลิ่นที่เขาใช้ประจำ และถ้าจำไม่ผิดกลิ่นน้ำหอมนี่มันของจัสมินชัดๆ เลย เพราะมันคือกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงและจัสมินก็ใช้กลิ่นน้ำหอมนี้อยู่ เวลาที่เธอเข้ามากอดฉันฉันก็จะได้กลิ่นนี้เสมอ ฉันมองหน้าพี่คิณณ์แล้วความรู้สึกกังวลก็เริ่มก่อตัวขึ้นมา แต่ฉันก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรเพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะต้องปลุกเขาให้ตื่นมาอธิบายให้ฉันฟัง ถ้าฉันปลุกเขาขึ้นมาถามตอนนี้มันคงทำให้เขาไม่พอใจแน่ๆ บางทีกลิ่นน้ำหอมของจัสมินที่ติดตัวเขาอาจจะเป็นเพราะเขาให้จัสมินซ้อนท้ายแล้วจัสมินก็กอดเอวเขาเอาไว้ก็ได้ ฉันพยายามพูดปลอมใจตัวเองไม่ให้คิดฟุ้งซ่านไปไกล ฉันพลิกตัวเล็กน้อยทำให้พี่คิณณ์ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขาตื่นเลยนะ ฉันก็แค่นอนไม่หลับแล้วเท่านั้นเอง “นอนไม่หลับเหรอลิซ?” ความมืดที่บดบังใบหน้าของอีกฝ่ายเอาไว้ทำให้ฉันมองไม่เห็นแววตาที่เขาใช้มองฉันเลย แต่มันก็ไม่ได้มืดจนมองไม่เห็นกันหรอกนะ เพราะแสงไฟจากด้านนอกห้องมันส่องเข้ามาในช่องล่างของประตู พี่คิณณ์กระชับอ้อมกอดฉันให้แนบชิดกับเขามากกว่าเดิม “พี่คิณณ์กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?” “นานแล้ว พี่ไม่อยากปลุกลิซเพราะเห็นว่าเหนื่อยมาทั้งวัน” พี่คิณณ์เอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียงทำให้เราสามารถมองเห็นหน้ากันและกันได้ชัดขึ้น ใบหน้าที่แสดงความเมื่อยล้าของคนตรงหน้ามันทำให้ฉันไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถาม เพราะกลัวว่าเราจะทะเลาะกันเดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันไม่เชื่อใจเขาเพราะบางทีมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ไง “พรุ่งนี้ลิซไม่มีเรียนใช่ป่ะ?” “ค่ะ” พี่คิณณ์อมยิ้มเล็กน้อยแล้วยื่นหน้าเข้ามาจูบปากฉันเบาๆ รู้มั้ยว่าการกระทำของเขามันทำให้ฉันแลปกใจมาก พี่คิณณ์ไม่ใช่ผู้ชายขี้อ้อนเลยนะ แต่นี่เขากำลังอ้อนฉันอยู่ นี่ไปทำอะไรผิดมาแล้วมาอ้อนปลอบใจฉันหรือเปล่า คนอย่างพี่คิณณ์น่ะเหรอจะมาอ้อนฉันดูยังไงก็เหมือนไม่ใช่เขาเลย “พรุ่งนี้พี่ลางานน่ะกะว่าจะอยู่กับลิซทั้งวัน” ได้ยินอย่างนั้นฉันก็ยิ้มอย่างดีใจที่วันนี้มาถึง พี่คิณณ์ยอมลางานเพื่อที่จะมาอยู่กับฉันแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันได้แต่ขอให้เขาพาฉันไปเที่ยวแต่เขาก็เลือกงานมาตลอด แต่วันนี้เขากลับเลือกฉันและจะอยู่กับฉันทั้งวัน ฉันบอกแล้วไงว่าเขามาอ้อนแปลกๆ ถ้าถามว่าดีใจมั้ยมันก็ดีใจอยู่หรอกที่เขาทำแบบนี้ แต่บางทีมันก็แปลกๆ ไง ก็อยากถามนะว่าแอบไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่าแต่ฉันก็เลือกที่จะไม่ถามเหมือนเคย เพราะความกลัวเลยทำให้ฉันเลือกที่จะเงียบ “ขอบคุณนะคะที่รัก” "พูดน่ารักแบบนี้อยากให้พี่จัดหนักป่ะครับ" "เดี๋ยวค่ะพี่คิณณ์" พี่คิณณ์ไม่รอให้ฉันได้ปฏิเสธอะไรก็ปิดโคมไฟหัวเตียงแล้วลุกขึ้นมาคร่อมตัวฉันเอาไว้ก่อนที่มือของเขานั้นจะล้วงเข้ามาในสาบเสื้อของฉัน พอมือของของเขาสัมผัสผิวเนื้อที่ทรวงอกของฉันมันก็ทำให้ฉันขนลุกขึ้นมาก่อนที่นิ้วเขานั้นจะเขี่ยยอดอกฉันเล่นให้เสียวจนแอ่นอกรับกับสัมผัสที่เขามอบให้ "แม่งไม่ต้องนอนแล้วเว้ยคืนนี้" [JASMIN : SAID] ฉันนอนยิ้มให้กับเพดานห้องอย่างมีความสุข มันเป็นวันที่ทำให้ฉันอยากหยุดเวลาเอาไว้แค่นี้ ถ้าโลกมีแค่ฉันกับเขามันก็คงจะดีไม่น้อยเลย ฉันหันไปมองรูปพี่ลิซที่ฉันแอบถ่ายเอาไว้ตั้งนานแล้ว ครั้งแรกที่เห็นพี่ลิซฉันชอบเธอมาก เพราะเธอเป็นคนสวยและเก่ง เธอมีดีทุกด้านจนผู้ชายในมหาลัยต่างรุมจีบเธอเยอะมาก รู้มั้ยว่าฉันชอบพี่ลิซมากเลยนะติดตามเธอทุกช่องทางเลยล่ะเพราะฉันอยากเป็นเหมือนเธอ อยากเก่งเหมือนเธอ อยากสวยเหมือนเธอ อยากเป็นที่ยอมรับเหมือนเธอ ฉันก็เลยเอาเธอมาเป็นไอดอลในดวงใจของฉัน สักวันฉันจะต้องทำให้ได้เหมือนเธอ และมันก็เป็นเรื่องที่บังเอิญมากที่ทำให้เราได้สนิทกันมากยิ่งขึ้น เพราะตอนแรกฉันพยายามที่จะเข้าหาพี่ลิซทุกทาง พยายามขอถ่ายรูปกับเธอแต่เธอก็คงจะจำฉันไม่ได้เพราะมันผ่านมาหลายปีแล้ว ที่ฉันเรียนคณะเดียวกับพี่ลิซก็เพื่อที่จะได้เจอกับพี่ลิซและได้ตามติดชีวิตของเธอ เรียกได้ว่าฉันเป็นแฟนคลับของเธอเลยก็ได้ จนกระทั่ง... “ลิซแกรู้จักยัยรุ่นน้องมอหกที่มาขอถ่ายรูปกับแกป่ะ?” ฉันที่กำลังจะเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ก็ต้องชะงักเท้าค้างไว้เมื่อได้ยินเพื่อนของพี่ลิซพูดถึงฉัน ฉันแอบหลบอยู่หลังต้นไม้ที่ทั้งสองคนนั่งคุยกันอยู่ ฉันอยากรู้ว่าพวกเธอจะพูดถึงฉันว่าอะไร ฉันอยากให้พี่ลิซจำฉันได้นะ การที่คนที่เราปลื้มจำเราได้มันเป็นอะไรที่ดีใจมากเลยนะ “จะไปรู้จักได้ยังไงฉันไม่ได้เป็นอะไรกับน้องเขานี่” “เหมือนนางอยากจะใกล้ชิดแกมากเลยนะ ฉันสังเกตมาสักพักหนึ่งแล้วว่าเธอพยายามที่จะทำเลียนแบบแกทุกอย่างอ่ะ” ฉันหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินเพื่อนพี่ลิซพูดแบบนั้น การที่ฉันเลียนแบบพี่ลิซมันผิดตรงไหนฉันก็แค่อยากเก่งเหมือนเธออยากเป็นเหมือนที่เธอเป็น สายตาที่เพื่อนพี่ลิซพูดถึงฉันนั้นเหมือนกำลังดูถูกฉันมากเลยนะ “ฉันก็คือฉันไม่มีใครมาเลียนแบบได้หรอก” พี่ลิซหัวเราะเหมือนเธอคิดว่าฉันไม่สามรถเป็นเหมือนเธอให้ คำพูดของเธอรู้มั้ยว่ามันทำให้ฉันเสียใจมากเลยนะ เพราะฉันชื่นชอบเธอมากพอเะอพูดเหมือนเรื่องของฉันเป็นเรื่องตลอดแบบนี้มันก็เจ็บใจยังไงไม่รู้ “อยากเป็นฉันมากแค่ไหนยังไงก็เป็นไม่ได้ เพราะอะไรรู้ป่ะ?” “...” “คนเรามันเป็นเหมือนกันไม่ได้หรอก ให้ตายยังไงก็เป็นไม่ได้” ฉันกำรูปพี่ลิซที่ตัวเองหยิบขึ้นมาดูจนมันยับไม่เป็นท่า ไอ้คำพูดของเธอในวันนั้นมันทำให้ฉันนั่งร้องไห้เกือบเดือน ฉันชื่นชมเธอด้วยความรัก และนับถือเธอเป็นไอดอลของฉัน สร้างเพจให้มีคนติดตามเธอมากมาย เป็นแฟนคลับที่ตามดูเธอมาตลอดเพราะฉันหวังว่าสักวันจะเป็นเหมือนเธอให้ได้ เพราะเธอทั้งเรียนเก่ง กิจกรรมก็ดีเด่น ไหนจะฐานะที่ร่ำรวย หน้าตาที่สวยจนทำให้ผู้ชายเข้ามารุมจีบ แต่สุดท้ายสิ่งที่ฉันได้รับคือคำพูดที่ทิ่มแทงใจฉัน ตั้งแต่นั้นมาฉันก็พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งใจเรียน สมัครคัดเลือกหลีดคณะ และฝึกฝนตัวเองให้เก่งและแกร่งมากขึ้น มาดูกันว่าเด็กคนนี้คนที่พี่ลิซเคยดูถูกเอาไว้จะเทียบและเอาชนะเธอได้หรือเปล่า คำพูดที่เธอเคยดูถูกฉันเอาไว้ฉันจะทำให้เธอได้เป็นคนได้ลิ้มลองมันเองว่าความรู้สึกเหมือนไม่เหลือใครมันเป็นยังไง [JASMIN : SAID END]
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD