SOMEBODY 06
*************************
AKIN_KINN : อื้อไม่เป็นไรหรอก
AKIN_KINN : ดีขึ้นแล้วใช่ป่ะ?
0800001122 : ดีขึ้นแล้วค่ะ ถ้าไม่ได้พี่คิณณ์หนูก็คงหาทางออกไม่ได้
AKIN_KINN : พี่ก็แค่แนะนำแต่คนที่คิดได้ก็หนูไม่ใช่เหรอ
0800001122 : ถ้าไม่รังเกียจตอนบ่ายให้หนูได้ซื้อของเข้าไปขอบคุณนะคะ
0800001122 : พี่คิณณ์ดีกับหนูมากเลยค่ะ
AKIN_KINN : 555 ขนาดนั้นเชียว?
AKIN_KINN : มาดิตอนบ่ายพี่ว่างพอดี
ฉันอ่านมาถึงตรงนี้ที่พวกเขาคุยกันไว้เมื่อเช้านี้ แสดงว่าไอ้ขนมที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะคือของผู้หญิงที่อยู่ในไลน์พี่คิณณ์คุยด้วยสินัสินะ
แล้วที่พี่มินทร์พยายามจะบอกฉันก็คือมีผู้หญิงมาหาพี่คิณณ์ใช่มั้ย แต่เท่าที่ฉันอ่านมันก็ไม่ได้มีอะไรให้ต้องกังวลเลยนะเพราะพวกเขาไม่ได้คุยกันในทางที่ไม่ดี
ก็แค่ไลน์มาบอกขอบคุณที่พี่คิณณ์ช่วยเหลือเท่านั้น แบบนี้ฉันเจอมาเยอะแล้วล่ะ ตอนแรกก็ทะเลาะกันแต่หลังๆ มานี้ฉันก็เข้าใจ เพราะพี่คิณณ์ก็ตอบกลับไปส่งๆ แค่นั้น คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง
ฉันพยายามคิดในแง่ดีไม่ทำตัวเป็นแฟนงี่เง่าให้เขาเหนื่อยใจ
ไลน์!
ฉันกำลังเก็บมือถือของพี่คิณณ์ไว้ที่เดิมแต่แล้วก็มีเสียงไลน์ดังขึ้นมาซะก่อน ฉันมองซ้ายมองขวาว่ามีใครเดินมาทางนี้หรือเปล่า
แต่ก็ไม่เห็นใครฉันก็เลยเปิดอ่านอย่างเสียมารยาทถึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนเดิมนั่นเองที่ส่งข้อความมา และข้อความไลน์ที่เธอส่งมานั้นมันก็ทำให้ฉันเข้าใจผิดได้ไม่ยากเลย
0800001122 : รีบบอกให้หนูกลับเพราะแฟนพี่คิณณ์จะมาหาใช่มั้ยคะ
0800001122 : พี่คิณณ์นี่รอบคอบจังเลยนะคะ
นี่มันอะไรเนี่ย รอบคอบอะไรแล้วอะไรที่บอกว่าให้รีบกลับก่อนเพราะฉันจะมาที่นี่
ฉันกำมือถือพี่คิณณ์แน่นพยายามที่จะไม่คิดอะไรแล้วนะแต่พอเจอแบบนี้ฉันคิดว่าเราคงต้องคุยกันหน่อยแล้วล่ะว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
ฉันกำลังจะเดินออกไปหน้าร้านเพื่อที่จะไปถามพี่คิณณ์ให้รู้เรื่องแต่ผู้หญิงคนนั้นก็ส่งไลน์มาหาพี่คิณณ์อีกครั้ง
0800001122 : คืนนี้หนูรอพี่คิณณ์ที่เดิมนะคะ
รอที่เดิม?
ฉันกัดฟันตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้อารมณ์มันอยู่เหนือการควบคุมของตัวเอง ฉันเก็บมือถือของพี่คิณณ์เอาไว้ตามเดิมและเดินออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฉันอยากรู้ว่าไอ้ที่เดิมที่ผู้หญิงคนนั้นพูดถึงมันคือที่ไหน และอยากรู้ด้วยว่าเธอเป็นใคร ทำไมต้องทำแบบนี้ พี่คิณณ์เองก็เหมือนกันทำไมต้องทำอะไรลับหลังฉันแบบนี้ด้วย
ทำไมต้องทำให้ฉันเสียความรู้สึกแบบนี้ทั้งที่ฉันก็เชื่อใจเขามาตลอดเลย แสดงว่าพวกเขานัดเจอกันบ่อยใช่มั้ย
พี่คิณณ์เดินมาหาฉันที่เดินกลับมานั่งที่โต๊ะโดยไม่พูดอะไร ฉันมองหน้าเขาอยากจะถามถึงเรื่องแชทที่เขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น
อยากถามให้รู้เรื่องไปเลย ไม่อยากเก็บไว้คนเดียวแล้วคิดมากแบบนี้แต่แล้วมันก็ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้าฉันถามเขาออกมาเชื่อมั้ยว่าเราจะต้องทะเลาะกันแน่นอน
“คืนนี้พี่มีส่งของนะลิซจะให้พี่ไปส่งก่อนป่ะ?”
“เมื่อกี้หนูโทรบอกให้คนของคุณพ่อเอารถมาให้ค่ะ เพราะคืนนี้หนูจะไปกับพี่คิณณ์”
พี่คิณณ์ทำหน้างงที่คุณพ่อของฉันยอมเอารถของที่บ้านมาให้เขาใช้ เมื่อกี้ฉันโทรไปหาพ่อเพื่อที่จะขอยืมรถเอาไว้ใช้
ทีแรกพ่อก็ไม่ยอมหรอกเพราะพ่อไม่อยากให้พี่คิณณ์ใช้รถของเรา แต่ฉันก็โกหกไปว่าฉันจะเอาไว้ใช้เองพ่อก็เลยจะส่งคนขับรถมาให้ ฉันเป็นลูกคนเดียวพ่อแม่ก็เลยโอ๋เป็นพิเศษ
“ไหนบอกไม่ชอบไปทำงานกับพี่ไง?”
ทีแรกก็ไม่ชอบหรอกเพราะฉันไม่อยากนั่งรถไปส่งของที่นั่นทีที่นี่ทีมันลำบากมากเลยนะ แต่พอเห็นไลน์ของผู้หญิงคนนั้นความคิดฉันก็เปลี่ยนไป
ฉันแค่อยากรู้ว่าที่เดิมที่ผู้หญิงคนนั้นพูดถึงมันคือที่ไหน แล้วถ้าคืนนี้ฉันจะไปด้วยพวกเขาจะเจอกันยังไงฉันอยากรู้มากเลย
“ก็หนูจะไปอ่ะ” ฉันยืนเท้าเอวจ้องหน้าพี่คิณณ์อย่างไม่ยอม
ฉันเป็นคนที่มีเหตุผลนะเวลาที่จะทำอะไรฉันจะคิดแล้วคิดอีกคิดจนหัวแทบระเบิด และเรื่องนี้ฉันก็คิดดีแล้วเหมือนกันว่าฉันจะไป
ก็ให้มันรู้ไปสิว่าเขาคิดจะนอกใจฉันจริงๆ คนตรงหน้าถอนหายใจเหมือนรำคาญฉันแต่ก็ขัดฉันไม่ได้ก่อนจะเดินกลับไปทำงาน
รู้แหละว่าการที่ฉันทำแบบนี้มันทำให้เขามองว่าฉันมันงี่เง่าแต่ฉันก็จะทำเพราะฉันแค่อยากรู้ว่าเขาจะกล้านอกใจฉันจริงๆ น่ะเหรอ
พอเลิกงานพี่คิณณ์ก็เดินเข้าไปหลังร้านเพื่อที่จะไปเอาของ ทำให้ตอนนี้พี่มินทร์และพี่อ้อนมีเวลามาคุยกับฉัน พวกเขาเดินเข้ามาแล้วรีบบอกฉันทันทีกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้บอก และฉันก็รู้ด้วยว่าพวกเขาจะบอกอะไร
“ตอนบ่ายมีผู้หญิงมาหาไอ้คิณณ์มันน่ะ”
“ค่ะ”
“ไม่ตกใจเหรอ?”
“หนูรู้แล้วค่ะ” พี่มินทร์กับพี่อ้อนทำหน้าตกใจที่ฉันยังทำเป็นเฉยอยู่ได้ เพราะถ้าเป็นแฟนเก่าของพี่คิณณ์ป่านนี้โวยวายแล้ว
ฉันเองก็อยากโวยวายนะแต่ฉันอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครทำไมต้องนัดพี่คิณณ์ออกไปหากลางดึกแบบนั้นด้วย ก็เลยแกล้งทำเป็นไม่รู้นี่ไง
“ลิซ!!!”
พี่คิณณ์ตะโกนเรียกชื่อฉันเสียงดังเหมือนเขาโกรธอะไรมา เพื่อนๆ ของพี่คิณณ์ถอยมาหลบอยู่หลังฉัน
พี่คิณณ์โชว์มือถือของตัวเองขึ้นมาและหน้าจอของเขาก็โชว์ไลน์ของผู้หญิงคนนั้นที่ฉันเปิดอ่าน และฉันก็ลืมปิดมันเอาไว้ทำให้เขารู้ว่าฉันแอบอ่านไลน์ของเขา
“ทำแบบนี้พี่ไม่ชอบนะ”
“...” เขาต่อว่าฉันเสียงดังและต่อว่าฉันต่อหน้าเพื่อนๆ ของเขาด้วย
เขาหน้าแดงด้วยความโกรธมาก แค่นี้เขาต้องโกรธเป็นฝืนเป็นไฟขนาดนี้เลยเหรอฉันไม่ได้ไปฆ่าใครตายสักหน่อย ตอนที่เราคบกันใหม่ๆ
เขาก็เป็นคนบอกฉันเองว่าถ้าฉันอยากเช็คมือถือเขาตอนไหนก็ได้เพราะเขาไม่มีความลับกับฉัยอยู่แล้ว แล้วนี่อะไรกลับมาต่อว่าฉันเหมือนฉันทำผิดถึงไม่น่าให้อภัย
“อยากเป็นนักสืบมากหรือไงเราอ่ะ?” พี่คิณณ์ตวาดใส่ฉัน
เมื่อก่อนเขาบอกฉันเองว่าเขาไม่มีความลับอะไรอยู่แล้วอยากเช็คมือถือตอนไหนก็ได้แต่ตอนนี้กลับไม่ชอบให้ใครมาล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวของเขาถึงแม้ว่าเราจะเป็นแฟนกันแล้วก็ตาม
และเมื่อไม่นานมานี้เขาเดินมาพูดกับฉันขอให้เขามีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองบ้าง และฉันก็ยอมทำตามข้อตกลงของเขาโดยการไม่เช็คมือถือของเขาเลย แต่พอไม่เช็คมันก็เป็นแบบนี้ไงแล้วฉันผิดเหรอถ้าจะดูของแฟนตัวเองอ่ะ
“พี่คิณณ์ว่าหนูเหรอ?” ฉันพูดเสียงสั่นด้วยความตกใจและเสียใจด้วยที่เขาตวาดใส่ฉันแบบนี้
ก่อนที่เราจะคบกันเขาไม่เคยทำแบบนี้เลย เขาไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติกก็จริงแต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายจิตใจฉันแบบนี้ แล้วนี่ฉันผิดอะไร ทำไมอะไรๆ ฉันก็กลายเป็นคนผิดไปแล้ว
ถ้าฉันไม่ผิดฆ่าฉันให้ตายยังไงฉันก็ไม่ยอม คนที่ผิดมันเป็นพี่คิณณ์ต่างหากที่จู่ๆ ก็นัดเจอกับผู้หญิงกลางดึกแบบนี้โดยที่ไม่บอกฉัน
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมจะต้องไปเจอเธอคนนั้นมีปัญหาอะไรหรือเปล่าทำไมพี่คิณณ์ถึงต้องไปอยู่ปลอบใจหรืออยู่เป็นเพื่อน
ขนาดฉันเป็นแฟนของเขาแท้ๆ เขายังไม่เคยมีเวลาให้ฉันเลย ทำไมเขาเอาเวลาที่ควรจะมีให้ฉันไปให้คนอื่นแบบนี้
“เออ! มันเสียมารยาทเว้ย” อีกครั้งที่พี่คิณณ์ตะคอกใส่ฉันทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันมองคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของตัวเองที่มองฉันด้วยแววตากรุ่นโกรธ
“เฮ้ยคิณณ์มีไรคุยกันดีๆ ดิ” พี่มินทร์เข้ามาห้ามพี่คิณณ์ที่เสียงดังใส่ฉัน
ฉันมองหน้าเขาทั้งน้ำตาก่อนจะวิ่งหนีไป ได้ยินแต่เสียงของพี่มินทร์ที่เรียกฉันเอาไว้แต่ฉันก็ไม่คิดที่จะหันกลับไปหรอกนะ
ฉันโกรธพี่คิณณ์ที่ดุฉันเพราะผู้หญิงคนนั้น นี่ฉันก็งงเหมือนกันว่าตัวเองผิดอะไรทำไมต้องมาตะคอกใส่ขนาดนี้ด้วย
เพราะเธอแท้ๆ เลยที่ทำให้ฉันกับพี่คิณณ์ต้องทะเลาะกัน