SOMEBODY03:หวงที่แปลว่าไม่หวง

2685 Words
[AKIN : SAID] ผมขี่รถมาที่อู่เพราะมีงานค้างตั้งแต่เมื่อวาน ปกติแล้วผมไม่ชอบให้งานค้าง เวลามีงานผมก็มักจะทำให้เสร็จวันต่อวัน แต่เป็นเพราะเมื่อวานเป็นงานวันเกิดไอ้มินทร์ก็เลยต้องกลับก่อน ผมก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ ผมรู้นะว่าลิซเองก็น้อยใจที่ผมไม่มีเวลาให้เธอ แต่ผมก็อยากให้เธอเข้าใจในสิ่งที่ผมทำ ก็ที่ต้องทำงานอยู่แบบนี้มันเป็นเพราะไม่อยากให้ใครมาดูถูกและผมก็อยกทำให้เธอสบายด้วย “ถ้าพี่ไม่มีเวลาให้ลิซ ลิซจะโกรธพี่หรือเปล่า?” “ไม่ได้โกรธค่ะ ก็แค่น้อยใจเท่านั้นเพราะว่าหนูอยากได้เวลาจากพี่คิณณ์บ้าง” “แต่พี่ก็อยากให้ลิซรู้นะว่าที่พี่ทำน่ะ มันเป็นเพราะพี่ไม่อยากให้ลิซลำบากที่เลือกพี่” “เพราะแบบนี้ไงคะที่ทำให้หนูพยายามเข้าใจในสิ่งที่พี่ทำ” “อืม ดีแล้วที่เข้าใจเพราะพี่เองก็ไม่อยากให้ลิซโกรธพี่ไง” ผมเดินเข้ามาในอู่ก็เห็นผู้หญิงที่เอารถมาซ่อมเมื่อวานยืนถือดอกไม้ช่อใหญ่อยู่ การแต่งตัวน่ารักเหมือนเด็กน้อยทำให้ผมอดเอ็นดูเธอไม่ได้ ก็นะ กูชอบผู้หญิงน่ารักนี่หว่า แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ยังมีแค่ลิซคนเดียวมาตลอด เรื่องผู้หญิงก็อาจจะมีเข้ามาบ้างแต่ผมก็ไม่ได้จริงจังอะไร ก็แค่คุยๆ เพื่อเรียกลูกค้าเท่านั้น แต่ถ้าจะให้นอกใจลิซน่ะไม่เคยมีอยู่ในหัวหรอก “มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ?” เธอหันกลับมาผมถึงจำได้ว่าเป็นน้องผู้หญิงที่ผมไปเจอตอนที่เธอรถเสียกลางทางแล้วขอติดรถผมมาที่นี่ด้วย ผมก็นึกว่าเป็นน้องอีกคนซะอีก เพราะมองจากด้านหลังเหมือนกันมาก “อ้าวน้องนั่นเอง วันนี้น่ารักนะเราไม่เหมือนวันก่อนมอมแมมไปหมด” “หนูเอานี่มาให้ค่ะ” เธอยื่นช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาตรงหน้าผม ผมรับมาอย่างงงๆ พอเธอเห็นอย่างนั้นก็รีบอธิบายเหมือนกลัวว่าผมจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอมาจีบผมหรือเปล่า ผมยังไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอก “หนูอยากขอบคุณที่ช่วยหนูวันนั้นค่ะพี่...” “พี่ชื่อคิณณ์ครับ” “อ่าค่ะ พี่คิณณ์หนูชื่อจัสมินนะคะ” เธอก้มหน้ามือพื้นตลอดเวลาที่พูดกับผม พอเห็นอย่างนั้นผมก็เผลอยื่นมือไปจับปลายคางของเธอเพื่อให้เงยหน้ามามองผม และก็เห็นว่าเธอหน้าแดงลามไปถึงใบหู อาการแบบนี้ผมเห็นมาเยอะแล้วล่ะ ลิซเองก็เป็นบ่อยๆ เวลาที่เราจะมีอะไรกัน แต่เมื่อกี้ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยหรือเปล่าก็แค่บอกชื่อตัวเองเท่านั้น “เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมก้มหน้าพูดกับพี่ตลอดเลยล่ะ?” “ปะ…เปล่าค่ะ” “ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่ต้องก้มหน้าแล้วนะครับ เงยหน้าพูดกับพี่ก็ได้พี่ไม่ดุนะ” จัสมินมองหน้าผมแล้วยิ้มให้ เหมือนว่าการที่ผมทำแบบนี้มันทำให้เธอเขินอายหนักมากกว่าเดิม แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ก็เห็นว่าเป็นน้องคนหนึ่งเท่านั้น “คิณณ์มึงอ่อยผู้หญิงอีกแล้วนะเว้ย” คำพูดกวนตีนของไอ้มินทร์ทำให้ผมผละออกจากจัสมินทันที ที่จริงผมก็ไม่ได้อ่อยอะไรเธอเลยนะ การที่เราเฟรนลี่กับลูกค้ามันเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่ไง ถ้าเธอถูกใจก็อาจจกลับมาใช้บริการที่อู่เราอีก แล้วเมื่อกี้ผมก็แค่ยืนคุยกับน้องเฉยๆ ยังไม่ได้อ่อยอะไรเลยด้วยซ้ำ “เหลือๆ มาให้กูบ้าง” “อ่อยเชี่ยไรนี่น้องที่กูไปช่วยตอนรถเสีย น้องก็แค่มาขอบคุณเท่านั้นเว้ย” “เออ ให้มันจริงเหอะมึง ไม่ใช่คนแรกนี่ที่คุยใกล้ชิดแบบนี้” “ไอ้สัส กูก็ไม่ได้เหี้ยขนาดนั้นหรือเปล่าล่ะ” ผมพาจัสมินออกมานั่งข้างนอกและไปหยิบน้ำมาให้เธอ วันนี้เธอมาเอารถแต่รถของเธอผมยังซ่อมไม่เสร็จ เธอบอกว่ารอได้ทั้งๆ ที่ผมก็ให้เธอกลับไปก่อนถ้าเสร็จแล้วจะโทรเรียกอีกที แต่เธอก็ไม่ยอมไง ไอ้ที่ผมต้องรีบมาทำงานที่อู่จนไม่ได้ไปส่งลิซที่มหาลัยก็เพราะเรื่องนี้แหละ ผมต้องมาจัดการรถของจัสมินก่อนเพราะเมื่อวานผมได้บอกเธอว่าวันนี้ก็เสร็จแล้ว “นั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพี่เข้าไปซ่อมรถให้” “ได้ค่ะ” ผมกลับเข้ามาทำงานของตัวเองต่อจนเสร็จ แต่พอเดินไปหาจัสมินก็เห็นว่าเธอฟุบหน้ากับโต๊ะ เธอคงรอนานจนเผลอหลับไป ผมเดินเข้าไปสะกิดไหล่เธอแต่เธอก็ไม่ตื่นทำให้ผมต้องยื่นหน้าเข้าไปกระซิบเรียกข้างหูเธอและเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอเงยหน้าขึ้นมาพอดี ทำให้จมูกของผมชนเข้าที่แก้มนุ่มๆ อย่างจัง จัสมินสะดุ้งตกใจทำให้ผมต้องรีบผละออกจากเธอทันที ผมกลัวว่าเธอจะไม่พอใจที่ผมถึงเนื้อถึงตัวเธอง่ายแบบนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจนะเมื่อกี้มันเป็นอุบัติเหตุเท่านั้น นี่ถ้าเธอไปบอกอาจารย์ผมคงงานเข้าแน่ล่ะ ผมรีบขอโทษเธอทันที “โทษที พี่แค่จะเรียกเราน่ะ” “มะ...ไม่เป็นไรค่ะ” เธอยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองอย่างแก้เก้อ ผมเองก็ไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน พอนึกขึ้นได้ว่าจะมาบอกเธอว่ารถซ่อมเสร็จแล้วผมก็ยื่นกุญแจรถให้เธอ “พี่ซ่อมเสร็จแล้วนะค่าใช้จ่ายไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพี่ออกให้เองเป็นการไถ่โทษที่เมื่อกี้ทำล่วงเกินกับน้อง” คนตัวเล็กส่ายหน้าปฏิเสธเหมือนไม่ยอมให้ผมทำอย่างนั้น คือผมก็ไม่ได้ใจดีอะไรหรอกนะ เพียงแต่ผมไม่ชอบเอาเปรียบใครเท่านั้นเอง ถ้าเมื่อกี้ทำให้น้องตกใจผมก็ต้องรับผิดชอบ เพราะถ้าทำให้ลูกค้าไม่พอใจผมก็กลัวว่าจะเสียลูกค้าไง “เมื่อกี้ขอโทษจริงๆ นะ” “ไม่เป็นไรค่ะพี่คิณณ์ เรื่องแค่นี้เอง” เธอยื่นเงินมาให้ผมซึ่งมันเยอะกว่าค่าซ่อมรถของเธอ พอผมไม่ยอมรับเงินเธอก็คว้ามือผมแล้วยัดเงินให้ก่อนจะเดินไปที่รถทันทีเหมือนกลัวว่าผมจะเอาเงินคืนเธอ ไม่ใช่แค่จัสมินหรอกนะที่ทำแบบนี้ ผู้หญิงคนอื่นก็ทำผมก็เลยไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ “มันเยอะกว่าค่าซ่อมรถนะ” “เป็นทิปไงคะ และห้ามเอาคืนหนูด้วยนะคะ” “ขอบคุณครับ” “เอ่อ...พี่คิณณ์คะ” “ครับ?” “ถ้าหนูจะขอมาหาพี่คิณณ์บ่อยๆ ได้หรือเปล่าคะ?” ผมเลิกคิ้วทันที ทำไมจะต้องมาหาผมบ่อยๆ คือรถของเธอก็ซ่อมเสร็จแล้วป่ะ พอเห็นว่าผมทำหน้างงเธอก็ก้มหน้ามองมือตัวเองแล้วพูดเพื่อให้ผมรู้จุดประสงค์ของเธอ “หนูอยากรู้จักพี่คิณณ์น่ะค่ะ” “อ่า มาดิแต่พี่ไม่แน่ใจนะว่าจะว่างหรือเปล่านะ” ไม่ใช่แค่จัสมินคนแรกหรอกนะที่อยากรู้จักผม เพราะผู้หญิงที่มาให้ผมซ่อมรถให้ก็พูดเหมือนกับเธอเลย ผมก็เลยไม่ได้คิดอะไร เพราะบางคนไม่มาก็มี บางคนก็มาตามตื๊อซะผมต้องขอลางานหนีไป แต่ผมก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ อย่างที่บอกนั่นแหละว่าผมสนใจแค่ลิซเท่านั้น แต่ก็อาจจะมีคุยเล่นบ้างแต่ลิซเองก็รู้เหมือนกันไง “ขอบคุณนะคะ” พูดจบจัสมินก็ขับรถออกไป ผมยืนยิ้มก่อนจะกลับเข้ามาทำงานต่อแต่แล้วก็ถูกเพื่อลากเข้าไปหลังร้านเหมือนจะถามว่าผู้หญิงเมื่อกี้เป็นใครทำไมผมดูสนิทด้วยขนาดนี้ ผมเองก็บอกมันไปแล้วนะว่าเป็นแค่่ลูกค้าที่มาซ่อมรถเฉยๆ และที่สนิทกันก็เพราะผมช่วยเธอเอาไว้พอดี เธอก็เลยซื้อดอกไม้มาตอบแทนก็เท่านั้นเอง “อะไรของมึงวะ ไม่ทำงานหรือไง” “น้องลิซของมึงเนี่ยตัวจริงป่ะ นี่ถ้าไม่ใช่กูจะขอนะ” มินทร์มันทำหน้าจริงจังขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงแวะเวียนมาหาผมหลายคน ผมบอกแล้วไงว่าผมน่ะมีแค่ลิซคนเดียวแต่ก็มีบ้างที่มีคนมาคุยด้วย ผมก็แค่คุยส่งๆ ไปเท่านั้นไม่ได้จริงจังอะไร แล้วเมื่อกี้ที่มันพูดนี่คือพูดเล่นหรือจริงจังวะ ไอ้สัสถ้าลิซไม่ใช่ตัวจริงแล้วกูจะคบกันนานขนาดนี้ป่ะ มันคงเห็นว่าผมทำดีกับผู้หญิงทุกคน ก็ถ้าไม่ทำแบบนั้นลูกค้าจะมาใช้บริการเยอะแบบนี้ป่ะล่ะ ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วเพราะถือว่ามันเป็นแค่งานเท่านั้น ถ้าลูกค้าติดใจมันก็เป็นเรื่องที่ดีไง ถึงผมจะเป็นคนแบบนี้แต่ผมก็ไม่เคยนอกใจลิซนะ ผมยังซื่อสัตย์กับเธอ อาจจะมีบ้างที่หวั่นไหวให้คนอื่นและเกือบทำให้เธอเสียใจแต่นั่นมันก็แค่เกือบไง “มึงก็มีผู้หญิงเยอะแยะ ให้กูสักคนดิคิณณ์” “จะเป็นใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ลิซ” “แต่กูเห็นว่ามึงไม่ได้สนใจลิซเท่าไหร่นะ” “อย่ายุ่งกับลิซ!!!” ผมตะเบ็งเสียงใส่หน้ามันอย่างไม่สบอารมณ์ ผมไม่ชอบให้มันมาพูดแบบนี้ถึงจะรู้ว่ามันพูดเล่นก็ตาม แต่ผมไม่ชอบไง ไม่ชอบคือไม่ชอบเข้าใจป่ะ มันจะพูดเรื่องผู้หญิงคนไหนแม่งพูดได้นะเว้ยแต่อย่ามาพูดเรื่องของลิซ เพราะผมแม่งหวง ลิซเป็นผู้หญิงของผมและผมก็ไม่คิดที่จะมีใครนอกจากเธอ เรื่องผู้หญิงมันก็มีบ้างที่เข้ามาหาผมแต่ผมก็เลือกที่จะไม่เล่นด้วย เพราะคนรักกันก็ควรที่จะซื่อสัตย์ต่อกันจริงป่ะ ไม่อย่างนั้นจะคบกันได้ไง เรื่องแบบนี้ผมบอกลิซมาตลอดว่าต่อให้ผมจะไม่มีเวลาให้เธอแต่ผมจะไม่วันนอกใจเธอเด็ดขาด รู้ว่าเธอจะต้องน้อยใจที่ผมเลือกงานมากกว่าที่จะอยู่กับเธอ แต่ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อความสบายของเธอป่ะ ลิซถูกเลี้ยงดูมาแบบคุณหนูเธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ผมไม่อยากให้เธอลำบากกับผมก็เลยต้องหาเงินเลี้ยงดูเธอไง “กูก็แค่พูดแซวหรือเปล่าวะ เห็นช่วงนี้สาวๆ มาติดเพียบ” “แต่กูไม่เล่น เพราะลิซคือผู้หญิงของกู” “แม่งโหด” มันรู้ว่าผมไม่ชอบให้มันพูดแต่มันก็ชอบพูดเพื่อให้ผมโมโหเล่น เพื่อนผมมักจะรู้ดีว่าผมเป็นคนยังไง ถ้าใจดีก็คือดีจนใจหาย แต่ถ้าร้ายก็อย่าได้สะเออะเข้ามาใกล้ไม่อย่างนั้นเละ เมื่อก่อนผมเคยเป็นนักมวยมาก่อนชนะน็อกมาก็เยอะ เพราะงั้นอย่ามีเรื่องกับผมดีกว่า แต่ที่ผมต้องเลิกเป็นนักมวยก็เพราะลิซขอเอาไว้ เวลาที่ผมกลับเข้าห้องไปแล้วเธอเห็นว่าผมมีแผลฟกช้ำที่หน้าเธอก็ใจไม่ดี ผมไม่อยากทำให้เธอไม่สบายใจก็เลยเลิกแล้วหันมาทำงานอย่างอื่นแทน อย่างเป็นช่างซ่อมรถ เด็กส่งของ ทำงานที่ร้านเหล้า อะไรที่ได้เงินผมแม่งทำหมด สำหรับตัวผม ผมไม่ใช่ผู้ชายที่โรแมนติกหรือพูดจาหวานๆ เอาใจเมีย และไม่ค่อยมีเวลาให้คนที่รักก็ตาม แต่ที่ผมทำก็เพื่ออนาคตของเราสองคน ผมยอมทำงานหนักรับงานทุกอย่างที่ได้เงินก็เพราะไม่อยากให้คนที่ผมรักต้องมาลำบากกับผม ให้ผมลำบากคนเดียวก็พอ แค่เห็นเธอมีความสุขผมก็มีความสุขแล้ว แต่ถ้าลิซคิดที่จะเลิกกับผมเพียงเพราะผมไม่มีเวลาให้ เรื่องนี้ผมก็เข้าใจและจะยอมเลิกให้ เพราะที่ผ่านมาแฟนเก่าผมนับสิบคนที่เราต้องเลิกรากันเพราะพวกเธอทนไม่ได้ที่ผมไม่มีเวลาให้ ถามว่าผมได้ง้อหรือเปล่า ผมง้อนะแต่พวกเธอไม่เข้าใจเราก็ไปกันไม่ได้ เรื่องแฟนน่ะจะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญกับผมก็คือเงินเท่านั้น ไลน์! เสียงข้อความไลน์ดังขึ้น ผมเปิดอ่านเมื่อรู้ว่าเป็นลิซที่ส่งเข้ามา ที่เธอไม่โทรหาแต่เลือกที่จะส่งข้อความมาแทนเป็นเพราะเธอรู้ว่าผมกำลังทำงาน เวลาที่เธอโทรมาทีไรเราไม่ได้คุยกันหรอกเพราะผมยุ่งมาก ผมก็เลยบอกเธอว่าถ้ามีเรื่องอะไรให้ไลน์มาแทนถ้าผมว่างแล้วผมจะตอบหรือไม่ก็โทรกลับไปเอง ALISA_Liz : วันนี้หนูอยู่ซ้อมหลีดเลิกดึกนะคะ เท่านั้นแหละผมก็ยกหูโทรหาเธอทันที ผมไม่ค่อยชอบให้ลิซกลับหอดึก เพราะเธอเป็นผู้หญิง รถเธอก็ไม่มีถ้าไม่มีผมก็ไม่รู้ว่าเธอจะกลับยังไง รอสายได้ไม่นานเธอก็กดรับและกรอกเสียงใสๆ เข้ามาในสาย [ค่ะพี่คิณณ์] “เลิกตอนไหน?” [ไม่แน่ใจค่ะเพราะต้องอยู่ซ้อมหลีดรุ่นน้อง น่าจะไม่เกินตีหนึ่งมั้งคะ] ทีแรกก็นึกว่าจะเบาใจไปได้บ้างนะที่ลิซผ่านพ้นปีหนึ่งมาได้ เพราะช่วงนั้นคือเธอกลับดึกทุกวันเพราะต้องซ้อมเต้นหลีดอะไรไม่รู้ แล้วนี่ขึ้นปีสามยังต้องมาซ้อมรุ่นน้องต่ออีก [ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเพื่อนหนูอาสาไปส่งให้] “อืม ถึงห้องแล้วโทรหาพี่ด้วย” ผมกำลังจะวางสายแต่แล้วก็มีเสียงผู้ชายลอดเข้ามาในสายซะก่อนทำให้ยกหูฟัง ปกติแล้วผมไม่ใช่ผู้ชายหึงหวงอยู่แล้ว ถ้าคิดจะคบกันก็ควรเชื่อใจกันและกัน ผมน่ะไว้ใจลิซแต่ไม่ไว้ใจผู้ชายคนอื่นที่เข้าหาเธอ เธอเองก็เป็นผู้หญิงที่สวยและเซ็กซี่ ไม่แปลกที่จะมีคนมารุมจีบเหมือนที่ผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่ที่เห็นเธอยืนตากฝนอยู่คนเดียวไง [ลิซรถเราเต็มแล้วอ่ะไม่มีที่นั่ง...อ้าวเหรอทำไงอ่ะ...เอางี้หอพักเธออยู่ใกล้ๆ งั้นเธอก็นั่งตักเราก็ได้แป๊บเดียว...เอางั้นเหรอแล้วแม็กจะขับรถถนัดมั้ยอ่ะ...สบายมากเราเซียน] เซียนเรื่องไรวะเรื่องขับรถหรืออย่างอื่น พอได้ยินแบบนั้นผมคิดว่าผมคงให้เพื่อนของเธอไปส่งไม่ได้แล้วล่ะ จริงอยู่ที่ผมไม่ค่อยใส่ใจลิซแต่พอเห็นอย่างนั้นผมก็หวงของผมเหมือนกัน ยอมเสียงานสักวันดีกว่าเสียเมียให้คนอื่นคาบไปแดกว่ะ “เออลิซเดี๋ยวพี่ไปรับเอง” [AKIN : SAID END]
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD