SOMEBODY 23
******************************
พอเรียนเสร็จฉันก็เดินมารอพี่คิณณ์ที่หน้าคณะเพราะเขาบอกฉันว่าจะมารับแต่พอเดินลงมาก็เห็นชินต์นั่งรออยู่ที่โต๊ะหินอ่อน เขากำลังกดเล่นมือถืออยู่
ฉันเดินไปหยุดตรงหน้าทำให้เขาเงยหน้ามามองแล้วเก็บมือถือเข้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นยืนยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อที่จะถือของให้
แต่ฉันไม่ได้ยื่นหนังสือให้เขาหรอกนะ ของแค่นี้ฉันถือเองได้และฉันก็ไม่ชอบให้เขามาทำแบบนี้ด้วย ไม่ต้องมาทำเหมือนว่าเรายังเหมือนเดิมต่อกันเพราะมันทำให้ฉันเจ็บ
เมื่อก่อนตอนที่ฉันต้องการ เขาหายไปไหน พอฉันไม่ได้ต้องการเขาแล้วก็กลับเข้ามาอย่างนั้นเหรอ คิดอะไรของเขาอยู่
ชินต์มองผ่านฉันไปทักทายเพื่อนๆ ของฉันทั้งที่เขาก็ไม่ได้รู้จักเลย ฉันเม้มปากที่เขาทำตัวเหมือนว่าเราสนิทกันเหมือนเมื่อก่อน ทั้งที่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย
เวลาเหล่านั้นมันผ่านมานานแล้ว ฉันแทบจะลืมมันไปหมดแล้ว อีกอย่างเขาก็รู้ว่าฉันมีแฟนอยู่แล้วเขาไม่น่าจะทำตัวสนิทกับฉันแบบนี้เลย
ให้เขาเว้นระยะห่างระหว่างเรามันยังจะดีกว่าอีก
ต่อให้ฉันอยากให้เขากลับมายังไงแต่ฉันก็ไม่ได้อยากให้เขาทำแบบนี้ ทำเหมือนเดิมเหมือนตอนที่เรามีความรู้สึกดีๆ ให้กัน
“นายกลับไปได้แล้ว ฉันให้แฟนมารับแล้วล่ะ” ฉันยืนกอดอกตั้งใจจะพูดประชดให้เขาสำนึกว่าตอนนั้นเขาไม่น่าทำตัวห่างเหินจากฉันเลย เขาจะได้รู้สึกผิดที่ทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ใจแบบนี้
ฉันที่แสนดีและอ่อนโยนในตอนนั้นตอนนี้กลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ไม่นึกถึงใครนอกจากตัวเอง เขาทำให้ฉันสร้างตัวตนนี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเอง
เมื่อก่อนฉันก็เป็นคนที่น่ารักคนหนึ่งนะเป็นคนอ่อนโยนเหมือนกัน แต่พอถูกทำลายความรู้สึกจากคนที่รักมันก็ทำให้ฉันสร้างตัวตนนี้ขึ้นมา ตัวตนที่เอาแต่ใจตัวเอง ต้องได้ในสิ่งที่ตัวเองอยากได้
“เขาไม่มาแล้วล่ะ”
ชินต์พูดเหมือนรู้ว่าพี่คิณณ์กำลังจะมารับฉันแต่ดันมีเหตุที่ทำให้เขามารับฉันไม่ได้ ฉันมองหน้าเขาไม่เชื่อก่อนจะกดโทรหาพี่คิณณ์แต่เขาไม่รับสาย
ทำให้ฉันจ้องหน้าชินต์เพื่อที่จะถามว่าเขารู้ได้ยังไงว่าพี่คิณณ์จะไม่มารับฉันแล้ว พอเห็นว่าเขาไม่พูดอะไรฉันก็จะไปหาพี่คิณณ์เองแต่ก็ถูกชินต์คว้ามือเอาไว้ก่อน
“ไม่ต้องลงทุนวิ่งไปหรอกนะเดี๋ยวฉันพาไป”
“...” ชินต์เปิดประตูรถให้ฉันเข้าไปนั่ง เขาเอารถของตัวเองออกมารับฉันและฉันก็ยอมไปกับเขาง่ายๆ เพราะฉันเชื่อว่าเขาจะพาฉันไปหาพี่คิณณ์ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้มั่นใจว่าพี่คิณณ์จะไม่มารับฉัน
ชินต์พาฉันขับรถอ้อมหาลัยเขาบอกว่าพี่คิณณ์อยู่ที่นี่ เขามาที่นี่จริงแต่ไม่ได้มารับฉันเพราะชินต์เห็นว่าเขาไปรับคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน
ฉันแทบไม่อยากเขื่อหูตัวเอง และไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้ยังไงที่เลือกไปรับคนอื่นแล้วไม่มาหาแฟนตัวเอง
“นั่นไงแฟนเธอนั่งอยู่ตรงนั้น”
ชินต์จอดรถแล้วชี้ไปข้างหน้าเพื่อให้ฉันดูว่าตอนนี้พี่คิณณ์นั่งอยู่ที่รถของตัวเอง เขากำลังกดพิมพ์อะไรไม่รู้ลงในมือถือของเขา
เมื่อกี้ฉันโทรหาแต่เขากลับไม่ยอมรับสาย ไม่นานฉันก็เห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ พี่คิณณ์สวมหมวกกันน็อกให้เธอ
รอยยิ้มแบบนั้นและการกระทำของเขามันเหมือนวันแรกที่เขาทำให้ฉันเลย เห็นแบบนั้นแล้วมันก็ทำให้ฉันนิ่งไป
ก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องรู้สึกยังไงเหมือนกัน มันกี่ครั้งแล้วไม่รู้ที่ถุูกทำลายความรู้สึกแบบนี้ เจ็บนะแต่ก็ยังบอกตัวเองว่ายังไหว
“จะเข้าไปทักป่ะล่ะจะได้พาไป”
“ไม่ต้อง” ฉันร้องห้ามต่อให้ไปหาเขาตอนนี้มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรหรอก มีแต่จะทำให้เขาหาเรื่องทะเลาะกับฉันแล้วบอกว่าฉันมันงี่เง่าอีก
สุดท้ายคนที่ผิดมันก็เป็นฉันอีกตามเคย ชินต์ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปพี่คิณณ์ตอนสวมหมวกกันน็อกให้ผู้หญิงที่เขามารับเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานว่าเขาได้นอกใจฉันยังไง ฉันไม่ได้ห้ามและปล่อยให้ชินต์ทำไป
พี่คิณณ์ไม่ได้เหมือนเดิมกับฉันอีกต่อไปแล้ว ความรักที่คิดว่ามันจะเป็นความรักที่สวยงามมันกลับมาทำร้ายฉันเป็นครั้งที่สอง
ทำไมนะเวลาที่ฉันคิดที่จะเปิดใจรักใครมันจะต้องจบลงแบบนี้ทุกทีเลย หรือว่าฉันไม่เหมาะที่จะมีความรักอย่างนั้นเหรอ
เรื่องของฉันกับชินต์ก็เหมือนกันพอเรามีความรู้สึกดีๆ ให้กันกำลังจะไปกันได้ด้วยดีพ่อก็ให้เขาไปทำงานให้พ่อแล้วหลังจากนั้นเขาก็หายไปจากฉันเลย
ชินต์ที่ฉันรู้จักไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว ตอนนั้นฉันเสียใจมากเลยนะกว่าจะทำใจเรื่องของเขาได้มันทรมานมาแค่ไหนรู้หรือเปล่า
พอได้เริ่มมีรักครั้งใหม่ก็คิดว่ารักครั้งนี้จะสวยงามเพราะพี่คิณณ์ทำทุกอย่างเพื่อฉัน แต่ยิ่งเราคบกันนานเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเปลี่ยนไปจนกลายเป็นว่าอะไรที่เคยเป็นฉันก็ผิดไปหมดเลย
“ฉันไม่อยากให้เขาเห็นฉัน แค่ขับรถตามเขาไปก็พอ”
“เจ็บไม่พออีกเหรอลิซ?”
คำถามของชินต์ทำให้ฉันต้องหันไปมองหน้าเขา คำว่าเจ็บไม่พอของเขามันรวมถึงเขาด้วยหรือเปล่าที่เคยทำให้ฉันเสียใจมาก่อนหน้านี้
ฉันเคยคิดนะว่าชินต์จะเป็นผู้ชายที่ดูแลฉันได้เพราะเขาเป็นทุกอย่างให้ฉัน เขาไม่เคยให้ใครมารังแกฉันเลย
เขาบอกว่าจะอยู่กับฉันตลอดไป แต่แล้วพอเขาเข้าไปทำงานกับคุณพ่อเขาก็เปลี่ยนไปจากพี่ชินต์ที่แสนดีและโรแมนติกกลับกลายเป็นผู้ชายที่เย็นชาไร้หัวใจ
พอมีความรักครั้งใหม่ฉันก็ต้องมาเจอแบบเดิมอีก หรือว่าชีวิตนี้ฉันเหมาะที่จะอยู่คนเดียว
“ถ้าคิดว่ามันไปไม่ได้ต่อให้เธอดื้อรั้นที่จะไปต่อแม่งยังไงก็ไปต่อไม่ได้ในเมื่อทางข้างหน้ามันเป็นทางตัน”
“...”
“ที่ฉันมาวันนี้ฉันแค่อยากให้เธอได้รู้ว่าผู้ชายที่เธอกำลังคบอยู่เขาเป็นคนยังไง แล้วเธอก็ควรจะกลับบ้านไปหาครอบครัวเธอได้แล้วนะ”
เพราะอย่างนี้สินะเขาถึงยอมมารับฉัน ยอมเข้าใกล้ฉัน ยอมพูดกับฉัน เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องงานเขาก็คงไม่มาทำแบบนี้หรอก
ยิ่งเขาพูดให้ฉันกลับไปหาพ่อกับแม่ฉันก็ยิ่งไม่อยากไป บางทีนี่อาจจะเป็นแผนที่เขาวางไว้เพื่อให้ฉันกลับบ้านก็ได้
“...”
“ฉัน...” เหมือนชินต์อยากจะพูดอะไรออกมาแต่แล้วเขาก็เงียบไป ถ้าพูดยากขนาดนั้นก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะเพราะฉันเองก็ไม่อยากฟังคำที่เขาจะพูดเพื่อทำให้ฉันเสียใจไปมากกว่านี้แล้วเหมือนกัน
“ที่ผ่านมานายเคยรักฉันบ้างมั้ยชินต์?” ฉันถามออกไปตรงๆ อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้
ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะไม่ได้รักเขาแล้วก็ตามแต่ฉันก็อยากจะรู้ว่าที่ผ่านมาเขาเคยรักฉันบ้างหรือเปล่า
ที่เขาทำดีกับฉันดูแลฉันเขาคิดยังไงกับฉัน แล้วถ้าเขารักฉันทำไมจะต้องทำเย็นชากับฉันด้วย ในใจของเขามีฉันอยู่ในนั้นบ้างหรือเปล่า
“เวลาที่นายมองหน้าฉันมันมีคำว่ารักบ้างหรือเปล่าชินต์?”
“ฉัน...ฉันจะไปส่งเธอที่หอแล้วกันนะ”
เขาเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามของฉัน นั่นมันยิ่งตอกย้ำให้ฉันรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ได้คิดอะไรกับฉันเลย ไอ้ความรู้สึกบ้าๆ ที่เกิดขึ้นมาฉันคิดไปเองทั้งนั้น
ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วว่าเขามันเป็นคนไร้หัวใจ เขามันรักใครไม่เป็นหรอก ชีวิตของเขาก็คงจะมีแต่คำว่าบุญคุณสินะที่จะต้องทำหน้าที่ตอบแทนครอบครัวของฉัน
ที่ผ่านมาที่เขาทำดีกับฉันดูแลฉันมันไม่ใช่เพราะความรัก ฉันหลงเข้าข้างตัวเองอยู่ได้ตั้งนาน
[CHIN : SAID]
ผมจอดรถที่หน้าหอพักของลิซ ลิซหันมามองหน้าผมแต่ผมเลือกที่จะไม่หันไปมองหน้าเธอ ไม่อยากเห็นสายตาที่เธอมองผมเหมือนเธอผิดหวังในตัวผมมากแค่ไหน
ผมรู้ว่าถ้าผมทำแบบนี้มันจะทำให้เธอเจ็บแต่ผมก็เลือกที่จะทำเพราะผมรู้หน้าที่และรู้ขอบเขตของตัวเองว่าเข้าใกล้เธอได้มากน้อยแค่ไหน
ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมทำผิดกับเธอมากพอแล้ว และที่ผมต้องมาหาลิซในวันนี้มันเป็นเพราะหน้าที่ที่ต้องทำ พ่อของเธอคือเจ้านายผมท่านสั่งให้ผมมาดูแลลิซซึ่งผมก็ต้องทำ
มันเป็นหน้าที่ที่ลูกน้องอย่างผมปฏิเสธไม่ได้ ผมรู้ว่าถ้ากลับมาหาเธออีกครั้งมันอาจจะทำให้เธอต้องเจ็บและเสียใจก็ได้ แต่ผมก็ยังทำ
ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำไง เพราะครอบครัวของลิซมีบุญคุณกับผมมาก
เรื่องของผมกับลิซมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ผมไม่อาจเอื้อมไปคว้าดาวหรอก เธอมันอยู่บนฟ้าต่อให้เธอจะมีใจให้ผมแต่ผมก็ไม่สามารถคว้ามันได้
ใครๆ ก็บอกให้ผมต้องเจียมตัวอย่าใฝ่สูงจนเกินตัวไปเพราะถ้ามันตกลงมามันจะเจ็บเอาได้ ก็รู้ว่าตัวเองแม่งโคตรไม่คู่ควรกับเธอแต่อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้รักเธอแค่นั้นก็พอ
ตั้งแต่ที่ผมเข้ามาทำงานในบ้านของลิซผมก็เริ่มตีตัวออกห่างจากเธอ เพราะเป็นคำสั่งของนาย
จริงอยู่ที่ผมกับลิซสนิทกันมาตั้งแต่เด็กเพราะผมอาศัยอยู่บ้านเดียวกับเธอ พ่อแม่ผมถูกรถชนตายนายก็เลยเก็บผมมาเลี้ยง บุญคุณของท่านผมไม่เคยลืม
เพราะถ้าไม่ได้ท่านชีวิตของผมก็ไม่ต่างจากขอทานอยู่ตอนนี้ นายบอกให้ผมเลิกใกล้ชิดกับลิซเพราะลิซเริ่มโตเป็นสาวแล้วอีกไม่นานก็เข้าเรียนมหาลัยท่านไม่อยากให้ลิซคิดกับผมมากกว่านี้แล้ว
ผมยอมให้ลิซเกลียดจนขอย้ายออกไปจากบ้าน เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะตัดเธอให้ขาด ไม่เคยมีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงเธอ ทุกวันนี้ผมก็ยังคงคิดถึงเธอภาพเธอไม่เคยจางหายไปไหนเลย
เธอยังคงอยู่ในใจผมตอนนี้
ต่อมาได้ไม่กี่เดือนลิซก็กลับบ้านพร้อมด้วยผู้ชายคนหนึ่งที่เธอเปิดตัวว่าเป็นแฟน
ในวินาทีนั้นใจผมแม่งโคตรเจ็บแต่ก็ทำเป็นยิ้มแสดงความดีใจด้วยทั้งที่ตัวเองเจ็บแทบตายแต่ทำอะไรไม่ได้ ผมอยากเป็นคนที่ยืนข้างเธอ อยากเป็นทุกอย่างให้เธอ
แต่ก็เป็นได้เท่านี้จริงๆ เมื่อเธอบอกว่าเธอรักผู้ชายคนนั้นมากและจะอยู่กับเขา จะให้กูทำไงได้ล่ะนอกจากยิ้มแล้วเจ็บคนเดียว
เมื่อก่อนลิซเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย น่ารัก อ่อนหวาน กลับเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ใจ เรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ ต้นเหตุทั้งหมดมันคงมาจากผม
ผมทำให้เธอเปลี่ยนไป ถึงแม้อยากจะเข้าไปคุยด้วยแต่ร่างกายมันสั่งการไม่ให้ก้าวขาออกไป ในหัวมันคิดแค่ว่ามึงควรอยู่ในที่ของมึงแล้วทำใจเรื่องของลิซซะ
เมื่อหลายวันก่อนนายเรียกผมไปพบแล้วบอกให้ไปดูแลลิซและทำให้ลิซเลิกกับแฟนของเธอให้ได้
ความจริงแล้วผมไม่เห็นด้วยหรอกนะที่จะทำให้ลิซเสียใจ แต่ก็ปฏิเสธงานนี้ไม่ได้ ถึงผมอยากจะได้ลิซคืนผมเองก็ไม่ได้เลวพอที่จะทำลายความสุขของเธอหรอก
ผมดีใจมากที่นายไว้ใจให้ผมทำงานนี้และคอยอยู่ใกล้ชิดลิซให้มากที่สุดเพื่อที่จะให้แฟนของเธอเข้าใจผิดแล้วเลิกกัน
แค่เห็นสายตาเศร้าๆ ของลิซที่มองภาพแฟนของเธอสวมหมวกกันน็อกให้ผู้หญิงคนอื่นผมก็อดสงสารเธอไม่ได้ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากที่ผมดันไปเห็นแฟนของเธออยู่กับผู้หญิงคนอื่น
ผมไม่ได้อยากทำร้ายเธอด้วยวิธีนี้แต่ก็ต้องทำในเมื่อมันเป็นคำสั่งที่ได้รับมอบหมายมาแบบนี้ รู้ป่ะตอนที่เห็นเธอเจ็บผมแม่งโคตรอยากเจ็บแทนเธอเลยว่ะ
ผมไม่อยากให้เธอรู้สึกไม่ดี ไม่อยากให้เธอเจ็บ ไม่อยากให้เธอร้องไห้ อะไรก็แล้วแต่ที่มันไม่ดีผมยินดีรับมันมาจากเธอหมดเลย
ผมขอแค่อย่างเดียวขอให้เธอมีความสุขในทุกๆ วัน พูดไปแม่งเหมือนน้ำเน่าแต่มันคือเรื่องจริงที่ผมรู้สึกอยู่ตอนนี้
“ฉันไปแล้วนะ” ลิซพูดขึ้นแล้วลงจากรถไป
ผมอยากจะรั้งเธอเอาไว้แล้วดึงเธอเข้ามากอดไม่อยากปล่อยเธอไปอีกแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่มองแผ่นหลังของเธอหายเข้าไปในหอพัก
เจ็บในใจที่ตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากมองดูคนที่รักเดินจากไปแบบนี้
“ขอโทษนะลิซ”
[CHIN : SAID END]