3

1807 Words
“ฮึ แม่ เหลียนฮวา เจ้าน้ำตา ปะ เป็นเจ้าที่ครางเสียงหวาน และโน้มศีรษะข้าไปกอด มิหนำซ้ำยังกัดใบหู หัวไหล่อย่างจมเขี้ยว สุดท้ายยังเกือบทำให้ข้าเป็นไอ้ด้วน หลังจากที่เจ้าใช้ปากทำรัก และคิดจะกัดงูยักษ์ข้าทิ้ง” หยวนรุ่ยฟงจำได้ว่าถูกจับจูงขึ้นรถม้าได้ไม่นาน แล้วนางไปทำสิ่งที่น่าขยะแขยงกับเขาตั้งแต่เมื่อใด อีกอย่างผู้ชายคนนี้เรียกนางว่า เหลียนฮวา เจ้าน้ำตา ! (แม่ดอกบัวขาวเจ้าน้ำตา) คำเรียกนี้ช่างประชดประชันนางยิ่งนัก “หากข้าพลั้งพลาด ทำเรื่องเหล่านั้น คงเพราะถูกวางยา และท่านกลับฉวยโอกาสข่มเหง ทะ ท่านหยามเกียรติข้า” “แม่นางน้อย ตบมือข้างเดียวมันดังเสียเมื่อใดกัน อีกอย่างเมื่อครู่ ข้านอนนิ่งๆ ซึ่งล้วนเป็นเจ้าที่เดี๋ยวโยกตัวขึ้นลง เดี๋ยวโน้มตัวมาจูบข้า ตำราอุ่นเตียงนั่น เจ้าก็พลิกดูจนฉีกขาดไปหลายหน้า อ่อ...ลึงค์ไม้ก็เช่นกัน เป็นเจ้าที่คิดจะยัดมันเข้าปากข้าด้วย ดีที่สร่างเมาทัน ไม่เช่นนั้น ข้าคงตายในสภาพอนาถไปแล้ว!” หยวนรุ่ยฟงไม่อาจทนฟังสิ่งใดได้อีก ในโลกนี้มียาสั่งชนิดใดกันถึงทำให้นางปล่อยกายปล่อยใจ และตกเป็นของคนแปลกหน้า อย่างบ้าระห่ำเช่นนี้ “เรื่องนี้จะต้องไม่แพร่งพรายออกไปให้ผู้อื่น รู้มากกว่านี้” นางเอ่ยจบ คนตัวโตก็โบกมือไปมา “เฮ้อ เจ้ามาจากที่ใดกัน ถึงได้ตื้นเขิน ชายหญิงหลับนอนอย่างมีความสุข เป็นสิ่งที่ใครเขาก็ทำกัน แม้มิใช่สามีภรรยา แต่โลกนี้ผู้คนทำการค้าผ่านกลีบสวาทและมะเส็งของบุรุษ จนเป็นเถ้าแก่ก็มากมาย” “ทะ ท่าน... เป็นท่านที่ทำให้ข้าชิงชังนัก” “เฮอะ นอกจากความงาม ข้าคงนึกชอบเจ้าหรอกนะ พูดราวกับว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้าข้า มีสิ่งอื่นมัดใจบุรุษได้อีก” คนผู้นี้ทำให้หยวนรุ่ยฟงโกรธจัด ถึงกระนั้นนางยังร้อนวูบวาบไปทั้งร่าง แม้สติกลับคืนมาทีละน้อย แต่ยังมึนงง และร่างกายปวดเมื่อยไปหมด ที่สำคัญนางตกเป็นของเขาแล้วหรือไม่ ภาพในหัวเรือนรางเหลือเกิน...นางต้องทำบางสิ่งให้สำเร็จ นั่นคือการรอดพ้นจากหายนะครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาเคี้ยวกระดูกนาง แทรกความใหญ่โตเข้าไป และดูเหมือนว่าเป็นนางที่ขึ้นนั่งทับแก่นกายเขาอยู่หลายหน แต่คนผู้นี้ ก็เป็นฝ่ายจัดแจงท่าทางให้นาง คอยสอนให้นางเป็นฝ่ายมอบความสุขให้แก่เขา คนเจ้าเล่ห์ ทั้งน่าไม่อาย รู้ว่านางถูกพิษจากการวางยา และยังอ่อนด้อยประสบการณ์ แต่ชักจูงให้นางต้องตกเป็นของเขา “ข้าจะไม่ให้อภัยท่าน...” “ดี ข้าเองก็จะไม่ให้อภัยตนเอง ที่ดูไม่ออกว่า เจ้าไม่ใช่โสเภณี และยังอ่อนด้อยเรื่องเอาอกเอาใจบุรุษ มิหนำซ้ำ ยังละโมบ เห็นแก่ตัวและขึ้นสวรรค์เพียงผู้เดียว สมชื่อ เหลียนฮวา เจ้าน้ำตาอย่างที่สุด!” หยวนรุ่ยฟงไม่อยากบ้าจี้เชื่อตามคำพูดเขา แต่พอมองไปยังแก่นกายของชายหนุ่ม ก็เห็นชัดว่ามันยังแข็งขัน และหัวปลายหยักผงกไปมา ท้าทายสายตานาง โอ้ พิษร้ายแรงที่อยู่ในร่างกายคงยังไม่คลายออกไปหมด นางถึงร้อนฉ่าขึ้นมาอีกหน สองแก้มร้อนผ่าว ลำคอแห้งผาก และหัวใจเต้นไหวรุนแรง ยิ่งสูดลมหายใจลึกๆ กลิ่นกายของบุรุษก็ทำให้นางต้องหนีบสองขาเข้าหากัน “ใต้เท้ามีสุราสักป้านที่รสชาติรุนแรง และทำให้ข้าลืมทุกอย่างได้หรือไม่” “แม่นางน้อย เจ้าจะดื่มเพื่อการใด” หยวนรุ่ยฟงยิ้มหวานหยด และบอกเขา “หากข้าเมา เวลานอนกับท่าน จะได้ไร้ความรู้สึก เช่นนี้ท่านก็ไม่เรียกว่าขืนใจข้า แต่เป็นข้ายินยอม และต้องการมีประสบการณ์แสนบัดซบ ที่ได้หลับนอนกับชายแปลกหน้า ซึ่งเพิ่งพบกันครั้งแรก เมื่อสร่างเมา ข้าจะลืมไปทั้งหมดว่าเกิดสิ่งใดขึ้น” “ฮึ ลงไปจากรถม้าข้าเดี๋ยวนี้ หากเจ้าจะใช้คำพูดเช่นนั้น” หญิงสาวยิ้มเยาะ และเป็นฝ่ายโผเข้าไปกอดเขา “ดื่มสุราแล้ว ข้าจะดื่มท่านให้หนำใจ” “ฮ่าๆ ๆ เจ้ากำลังเสียสติ” เขาบอกนาง และฝ่ามือเรียวสวยตบลงบนใบหน้าหล่อเหลาที่หยาบกระด้างด้วยความสะใจ “ใช่ และข้าจะไม่มีวันเสียใจ ที่ได้ทำเรื่องระยำนี้บนรถม้า สตรีไม่ได้อ่อนแอทุกคน และอย่าด้อยค่า ไป๋เหลียนฮวา ดอกนี้เด็ดขาดเด็ดขาด” หญิงสาวพูดจบ นางก็บดริมฝีปากของตนกับเขา รสชาติจืดชืด ไร้สิเน่หา แต่นางไม่ได้สนมันสักนิด ยามนี้ขอเพียงแค่ร่างกายได้ขับพิษออกมา นั่นคือสิ่งที่นางปรารถนทำให้สำเร็จ! รุ่งเช้าของวันใหม่ เสียงเข้มๆ ของแม่ทัพหนุ่มสั่งการทหารรับใช้ของเขา “ป้อนน้ำแกงนางเสีย อย่าให้มีมารหัวขนตามมาเป็นอันขาด สิ่งบัดซบทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพราะข้าขาดความยับยั้งชั่งใจ จงมอบเงินให้นางสามหมื่นเหวิน และส่งไปยังที่ๆ นางต้องการ ไม่ก็หาบ้านดีๆ ให้สักหลัง เลือกที่อยู่ห่างจากแม่เล้าและคนพวกนั้น นางจะได้ไม่คิดตื้นเขิน กลับมาแขวนป้ายให้ทหาร หรือผู้ชายคนใดเย่ออีก อ่อ... หากนางขาดเหลือ หรือต้องการสิ่งใด ก็จัดหาให้อย่างดี แล้วเบิกเงินส่วนของข้าใช้จ่ายตามสมควร ส่วนเงินรายปี ให้พ่อบ้านมาตรวจสอบดูความเป็นอยู่นางอีกครั้ง หากมีชีวิตอยู่ ก็มอบให้นางเป็นครั้งๆ ไป” สิ่งที่เขาสั่ง ฟังแล้วไม่ต่างจากการรับอนุคนใหม่ แต่คงเป็นอนุที่อุ่นเตียงเพียงครั้งเดียว ก็ถูกเฉดหัวทิ้งให้ไปอยู่ในที่ไกลแสนไกลห่างหูห่างตาเขา จากนั้นทหารหญิงพยุงร่างหยวนรุ่ยฟงลงจากรถม้า และพาไปส่งที่จุดพักม้า ในตอนแรกที่หยวนรุ่ยฟงและแม่นมจางพามา “น้องสาว เจ้าต้องการพักที่นี่จริงๆ หรือ...” ทหารหญิงคนหนึ่งเอ่ยถาม เห็นว่าหยวนรุ่ยฟงอ่อนแรง และนางยังไม่มีแรงตอบคำถามใด “เฮ้อ ดูเหมือนนางถูกหลอกมาขาย และยังเป็นสตรีบริสุทธิ์ ไม่เคยผ่านการเรียนรู้เรื่องรับแขกเสียด้วยซ้ำ” ทหารหญิงนางหนึ่งกล่าว และใช้หลังมือวัดอุณหภูมิที่หน้าผากหยวนรุ่ยฟง จากนั้น อิงเสียผู้เป็นรองแม่ทัพหญิง มองหยวนรุ่ยฟง และถอนหายใจกับเจ้านายของตน ที่ยามเมาเมื่อใด ต้องก่อเรื่องขาเตียงหักเสียทุกครั้งไป แต่นับว่าดี หม่าอี้เซียนไม่เคยยุ่งกับทหารหญิง แม้แต่สตรีที่แขวนป้ายในค่ายทหาร เขาก็ไม่แยแส แล้วเหตุใดหนอขณะที่เดินทางมาถึงเมืองนี้ เขากลับเรียกขบวนขนสาวงามที่ไปรับใช้ทหารหนุ่มให้หยุดรถ หรือเป็นเพราะสวรรค์ลิขิตเรื่องนี้เอาไว้แล้ว “น้ำแกงป้องกันการตั้งครรภ์เล่า รองแม่ทัพอิง ต้องให้นางดื่มหรือไม่ ดูสภาพแล้ว ย่ำแย่ไม่น้อย” อิงเสียเห็นใจสตรีด้วยกัน หญิงสาวผู้นี้ผิวขาวราวกับไข่มุก ร่างกายบอบบาง ทรวดทรงองค์เอว นับว่ายั่วยวนมาก เช่นนี้นางเลยถูกแม่ทัพหนุ่มเคี้ยวกระดูกไปทั้งร่าง “ป้อนนางเสีย ป้องกันไว้ย่อมดีที่สุด หากเกิดปัญหาภายหน้า อาจยุ่งยากก็เป็นได้” อิงเสียบอก และทหารหญิงสองคนช่วยกันบีบปากหยวนรุ่ยฟง แต่เป็นตอนนั้นที่หญิงสาวลืมตาขึ้น ก่อนจะมีเลือดไหลออกจากจมูกนาง “โอ้ นางจะตายหรือไม่รองแม่ทัพอิง” “ยั้งมือก่อน ช่วยนางเช็ดเลือด และนำยาหอมออกมา พร้อมยาเม็ดควบคุมพลังหยิน เร็วเข้า ให้นางกินเดี๋ยวนี้” อิงเสียสั่ง แต่หยวนรุ่ยฟงปฏิเสธ เมื่อครู่นางถูกคนชั่วย่ำยี แม้นางจะท้าทายเขาก่อน แต่อีกฝ่ายไม่ออมมือสักนิด มาถึงยามนี้นางถึงรู้ว่าตนช่างโง่เขลาในการรับมือบุรุษ “แม่นางกินยาของข้าเสีย ทุกอย่างล้วนเป็นของกองทัพ เรียกว่ายาวิเศษก็ได้ ช่วยขับพิษร้าย ปรับพลังหยิน และทำให้เจ้าทนต่อความเจ็บปวดต่อสิ่งที่เกิดขึ้น” หยวนรุ่ยฟงหัวเราะหึๆ นางมองอิงเสีย และทหารหญิงทั้งสองคน ทั้งหมดไม่ได้แสดงเจตนาร้ายต่อนางสักนิด “คนผู้นั้นที่ข่มเหงข้า เขาคือใคร” หญิงสาวกัดฟันกรอดๆ ถามด้วยใจเป็นเดือดเป็นแค้น “แม่ทัพหม่า เขาเพิ่งได้รับตำแหน่งแม่ทัพพิทักษ์แคว้น อันที่จริงเขามิได้คิดข่มเหงแม่นาง คงต้องโทษนังแม่เล้าชั่วมากกว่าที่เล่นละครตบตาผู้อื่น อีกอย่างเหตุใดแม่นางถึงได้ขายตัวมาทำเรื่องที่เป็นภัยต่อตนเอง หรือถูกบังคับมา” หยวนรุ่ยฟงนิ่งเงียบ นางคือลูกสาวเจ้ากรมโยธา เรื่องนี้สมควรให้จบลงโดยไว และเงียบที่สุด “ขอบคุณพี่สาวทุกท่าน... ขะ ข้าไม่เป็นไรแล้ว จากนี้ข้าดูแลตนเองได้” เอ่ยแล้ว หยวนรุ่ยฟงก็จับถ้วยน้ำแกงระงับการตั้งครรภ์ และจ่อเข้าที่ปากของตน “น้องสาว ดูเหมือนร่างกายเจ้าไม่พร้อมดื่มมันตอนนี้ น้ำแกงของกองทัพปรุงด้วยสมุนไพรที่ส่งผลต่อประสาท และร่างกายมากเกิน รอให้เจ้าพักฟื้นสักสองถึงสามชั่วยาม จากนั้นค่อยกินยาในขวดนี้แทนก็แล้วกัน” อิงเสียเห็นใจหยวนรุ่ยฟง จึงมอบยาประจำสกุลตนให้อีกฝ่าย แน่นอนนางเป็นสตรี ทั้งยังไม่เคยออกเรือน แต่การอยู่ในกองทัพ ที่มีบุรุษมากมาย หากวันใดพาลพลั้ง นางกลัวว่าตนจะตั้งครรภ์ จึงพกยาพวกนี้เอาไว้ใช้หากเกิดเหตุฉุกเฉิน “ขอบใจพี่สาว ข้าจะกินมันเมื่อร่างกายดีขึ้น” และก่อนที่อิงเสียกับทหารหญิงจะก้าวจากไป หยวนรุ่ยฟงก็ถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ต่อบุรุษที่สร้างมลทินให้แก่นาง “แม่ทัพผู้นั้น แซ่หม่า แล้วชื่อเขาเล่า... บอกให้ข้าทราบได้หรือไม่” อิงเสียถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก และตอบ “หม่าอี้เซียน บุตรชายคนโตของใต้เท้าหม่า (หม่าเทียน) แห่งสำนักตรวจสอบแผ่นดิน” เมื่อได้ยินชื่อแซ่เต็มๆ ของชายหนุ่ม หยวนรุ่ยฟงก็เก็บสิ่งนี้ไว้ในสมองของนาง ราวกับเป็นบุคคลที่นางจะกัดเขาไม่ปล่อย จนกว่าชาตินี้จะตายกันไปข้างหนึ่ง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD