เร็วสุดคือพรุ่งนี้ ช้าสุดก็ไม่เกินพรุ่งนี้

1506 Words
บทที่ 10 เร็วสุดคือพรุ่งนี้ ช้าสุดก็ไม่เกินพรุ่งนี้ ชายหนุ่มทั้งสองที่กำลังโต้คารมกันอยู่หันไปมองต้นเสียงที่อยู่ทางด้านหลังของปฐพี “คุณพ่อ” ปฐพีหมุนตัวไปหาบิดา แต่เจตนาของเขาคือจงใจปิดบังใครบางคนไม่ให้ท่านได้เห็นมากกว่า “ออกมาทำไมครับ ยังไม่ถึงเวลาซะหน่อย” “ยายแอลบอกว่าลูกกำลังสนใจใครบางคนอยู่ พ่อก็เลยอยากเห็นบ้าง” “ไม่มีหรอกครับคุณพ่อ แอลมันเลอะเทอะ เข้าไปข้างในกันดีกว่าครับ” ประมาณกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อดูให้แน่ใจ แต่ก็ไม่เห็นใครจะสวยถูกโฉลกแม้แต่คนเดียว ลูกสาวเขาคงแกล้งหยอกจริง ๆ นั่นแหละ “ก็ได้” เขากับลูกชายมีสเป็กเรื่องผู้หญิงคล้าย ๆ กัน ถ้าเขามองแล้วไม่เข้าตาก็สบายใจได้ เมื่อบิดาหมุนตัวเดินกลับไปตามทางเดิน ปฐพีก็รีบทำมือส่งสัญญาณให้หญิงสาวกลับไปได้ แล้วรีบเดินตามหลังบิดากลับเข้าไปในบ้าน การกระทำของเขาสร้างความงุนงงสงสัยให้กับทุกคน โดยเฉพาะกับวรวุธและสุภัครพี เพราะก่อนหน้านี้เขายังไม่มีท่าทีว่าจะยอมง่าย ๆ “คุณไค สวัสดีครับ” “สวัสดีครับคุณปฐพี” “ขอบคุณนะครับที่มาร่วมงานวันเกิดของลูกชายผม” “ด้วยความยินดีครับคุณประมาณ คุณลุงฝากของขวัญมาแสดงความยินดีด้วยนะครับ” ไค เคนชิน ผายมือไปทางเลขาสาวที่ถือกล่องของขวัญสองกล่องมาร่วมงาน “ขอให้มีความสุขมาก ๆ และขอให้ปีนี้เป็นปีทองอีกปีของคุณปฐพีนะครับ” “ขอบคุณสำหรับของขวัญและคำอวยพรนะครับ หลังจากวันนี้เราคงได้เจอกันบ่อยขึ้น” ปฐพีกล่าวเป็นนัยแอบแฝง เขาต้องไปเจออีกฝ่ายแน่นอน เร็วสุดคือพรุ่งนี้ ช้าสุดก็ไม่เกินพรุ่งนี้เช่นกัน เพราะเขามีเรื่องร้อนใจที่อยากขอความร่วมมือจากอีกฝ่ายนั่นเอง “ด้วยความยินดีครับ” แม้จะแปลกใจกับคำพูดของอีกฝ่าย แต่ไคก็ไม่ได้แสดงออกไปมากกว่ายิ้มรับ เขาคุยกับเจ้าภาพอีกไม่กี่ประโยคก็ถูกเชื้อเชิญให้เข้าไปในงาน จึงใช้โอกาสนี้สำรวจการทำงานของพนักงานที่โรงแรมไปด้วย เขาสั่งให้เลขาสาวคนเก่งไปลองชิมรสชาติของอาหาร ขณะที่กำลังยืนอยู่นั้นก็เห็นพนักงานโรงแรมกำลังยกถาดเครื่องดื่มมองมาทางนี้พอดีจึงกวักมือเรียก มองป้ายชื่อที่หน้าอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นระดับหัวหน้า “เป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เขาถามขณะหยิบเครื่องดื่ม “มีนิดหน่อยครับ ผมตั้งใจจะเขียนรายงานให้ผู้จัดการทราบในวันพรุ่งนี้ครับ” วรวุธคิดว่าปัญหาที่เกิดไม่จำเป็นต้องรายงานถึงผู้บริหารระดับสูง จึงตอบเลี่ยง ๆ อย่างสุภาพ “มีเรื่องอะไรรายงานมา จะได้แก้ไขเฉพาะหน้าไปก่อน” “ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอกครับ ผมแก้ไขเรียบร้อยแล้ว” ถึงอย่างไรเขาก็ยังเห็นว่าเรื่องนี้ไม่สมควรเดือดร้อนถึงระดับผู้บริหาร เพราะพวกเขาคงไม่เห็นใจพนักงานระดับล่างแบบพวกตน ผู้บริหารหนุ่มหรี่ตาเย็นยะเยือกมองอีกฝ่าย รู้สึกว่าหัวหน้างานคนนี้จงใจกันเขาออกจากเรื่องนี้ มันยิ่งทำให้เขาอยากรู้ “บอกผมมาว่าเกิดอะไรขึ้น” ไม่ใช่เพราะอยากเอาชนะ แต่เพราะเป็นเรื่องขององค์กรต่างหาก เมื่อถูกคาดคั้นมากขึ้น หัวหน้าพนักงานฝ่ายจัดเลี้ยงอย่างวรวุธจึงยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้แก่เจ้านาย คิ้วเข้มของชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นขมวดมุ่นด้วยความเคร่งเครียด แม้ไม่แน่ใจว่าการกระทำของปฐพีนั้นคืออะไร ระหว่างจำสุภัครพีได้ว่าเป็นหลานสาวที่ถูกพ่อของเขาขับไล่ออกจากบ้าน หรือสนใจเธอในทางชู้สาว หรืออาจจะเป็นทั้งสองอย่าง “คุณทำถูกแล้ว พรุ่งนี้ให้ส่งรายงานถึงผมโดยตรงเลยนะ” เขารู้สึกว่าเรื่องนี้คงไม่จบง่าย ๆ เมื่อนึกถึงคำพูดแปลก ๆ ของปฐพีตอนที่ทักทายกันเมื่อสักครู่ “ครับท่าน” “ไปทำงานได้แล้ว” “ครับ” วรวุธโค้งศีรษะแล้วเดินแยกจากไป โรงพยาบาล สุภัคมองลูกสาวด้วยความสงสัย เธอแปลกไปจากทุก ๆ วันจนเขารู้สึกได้ “มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าลูก เล่าให้พ่อฟังได้นะ” “ไม่มีอะไรนี่จ๊ะ ก็แค่เครียดเพราะพยาบาลบอกว่าพ่อไม่ค่อยกินข้าวเลย แบบนี้เมื่อไหร่เราจะได้กลับไปอยู่บ้านกันล่ะ” จะให้บอกได้อย่างไรว่าเพิ่งไปเจอพี่น้องต่างบิดาของแม่มา ถ้าพูดออกไปพ่ออาจจะเครียดหนักจนทรุดลงไปอีกก็ได้ “พยาบาลคนไหนเนี่ย ขี้ฟ้องจริง ๆ เลย พ่อกินข้าวเก่งขึ้นตั้งเยอะยังบอกว่าพ่อไม่ยอมกินอีกเหรอ” “ก็หนูอยากให้พ่อกินเก่งกว่านี้อีกหน่อย จะได้มีเรี่ยวแรงมากขึ้น” “ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปเถอะนะลูก” บิดาจับมือของลูกสาวแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนให้เธอ “ทีนี้บอกพ่อได้หรือยังว่ามีเรื่องอะไรให้ทุกข์ใจ” เธอโกหกเขาไม่ได้หรอก เขาเป็นพ่อเธอมายี่สิบปี ต่อให้หลายปีให้หลังมานี้จะทำหน้าที่ของพ่อได้แย่มาก ๆ แต่เขาก็ยังรู้สึกถึงความผิดปกติของเธอได้ “ไม่มีอะไรนี่จ๊ะ พ่ออย่าสงสัยหนูเลย” “อย่าโกหกพ่อเลยครีม พ่ออยู่กับหนูมายี่สิบปีแล้วนะ สุขสันต์วันเกิดนะลูกสาวของพ่อ” คำอวยพรของพ่อทำให้ลูกสาวมองท่านด้วยสายตาแปลกใจ ก่อนจะคลี่ยิ้มละมุน ยกมือขึ้นพนม “ขอบคุณค่ะพ่อ หนูนึกว่าพ่อจำไม่ได้ซะอีก” “พ่อจะลืมวันเกิดของลูกสาวพ่อได้อย่างไรกัน” เมื่อก่อนตอนที่แม่ของเธอยังอยู่ เมื่อถึงวันวาเลนไทน์ทีไรบ้านของเขาจะมีเค้กก้อนเล็ก ๆ และอาหารอีกสองสามอย่างเตรียมเอาไว้เสมอ เพราะมันเป็นวันเกิดของหญิงสาวอันเป็นที่รักคนนี้ “ปีนี้ยี่สิบเต็มแล้วนะ พ่อหวังอย่างมากว่าลูกสาวของพ่อจะเจอแต่เรื่องดี ๆ นับจากนี้เป็นต้นไป” “ถ้าอย่างนั้นหนูขอพ่อเป็นของขวัญชิ้นแรกของหนูได้ไหมจ๊ะ รักษาสุขภาพให้ดีแล้วเข้ารับการผ่าตัดนะจ๊ะพ่อ หนูเสียแม่ไปแล้ว หนูไม่อยากเสียพ่อไปอีกคน อยู่เป็นขวัญกำลังใจให้หนู ร่วมงานรับปริญญาของหนู ร่วมงานแต่งงานของหนู และอยู่เลี้ยงลูกของหนูนะจ๊ะพ่อ” หญิงสาวอ้อนวอนขอแล้วโน้มลงไปกอดร่างที่นอนทอดอยู่บนเตียง สุภัคลูบศีรษะของลูกสาวที่นอนแนบอยู่บนอก ใช่ว่าเขาไม่อยากอยู่กับเธอ แต่เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ต่างหาก เขาเค้นเอาความจริงกับหมอที่รักษาจนรู้ว่าร่างกายของเขานั้นทรุดโทรมมาก รักษาไปก็มีแต่ยืดอายุออกไปได้นิดหน่อยเท่านั้น เต็มที่ไม่น่าจะเกินหนึ่งปี ถ้าปาฏิหาริย์มีจริงก็คงอยู่ได้ถึงห้าปี แล้วเขาจะรักษาให้เสียเงินมากมายไปทำไม สู้ตาย ๆ ไปซะจะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ลูกจะดีกว่า “ลูกครีม” หญิงสาวผละจากอกอุ่นของบิดา “จ๋าพ่อ” “ฟังพ่อนะลูก ฟังแล้วคิดตาม คิดตามแล้วจงยอมรับความจริง อย่ารั้นอย่าดันทุรัง รับปากพ่อได้ไหมลูก” พ่อพูดให้เธอกลัวอีกแล้ว แต่เธอก็พยักหน้ารับโดยดี “จ้ะพ่อ ครีมจะพยายาม” “โรคของพ่อมันรักษาไม่หาย แล้วยังมีโรคแทรกซ้อนอีกหลายโรค หมอบอกพ่อหมดแล้วว่า การผ่าตัดไม่ได้ทำให้พ่อหายจากโรคที่กำลังเป็นอยู่ ก็แค่ยืดอายุความตายของพ่อออกไปอีกแค่นิดหน่อยเท่านั้น คงอยู่ไม่ถึงวันที่เห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝาด้วยซ้ำ ดังนั้นพ่อจึงตัดสินใจที่จะไม่ผ่าตัด แต่พ่อสัญญาว่าพ่อจะเชื่อฟังหมอ จะกินยาตามที่หมอสั่งและอยู่กับลูกให้นานที่สุดเท่าที่พ่อจะทำได้ ฉะนั้นลูกไม่ควรสิ้นเปลืองกับเรื่องที่ไม่เห็นผลนะ เก็บเงินไว้สร้างอนาคตดีกว่า” “ใครบอกว่าไม่เห็นผลจ๊ะพ่อ หนูศึกษามาพอสมควร พี่สาวของเพื่อนหนูคนหนึ่งเป็นคนไม่ดูแลเอาใจใส่สุขภาพ กินไม่เลือก ไม่เชื่อฟังสิ่งที่หมอแนะนำ แต่เขาก็อยู่ได้ถึงหกปี ส่วนลุงของเพื่อนอีกคนหนึ่งผ่าตัดไปแล้ว ทำตามที่หมอแนะนำ รักษาสุขภาพตัวเองอย่างดี เขาอยู่มาได้ตั้งสิบห้าปี.. พ่ออาจจะเป็นเหมือนลุงของเพื่อนหนูก็ได้ เข้าผ่าตัดเถอะนะจ๊ะพ่อ” หญิงสาวหว่านล้อมบิดาด้วยเหตุผล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD