ตอนที่ 5

1563 Words
รถเก๋งคันงามของจักรินเลี้ยวเข้าไปจอดในโรงแรมม่านรูดที่ใกล้กับสถานบันเทิงที่สุด “ให้ผมช่วยอุ้มคุณผู้หญิงไหมครับ” พนักงานรูดม่านรีบเสนอหน้ามาสอบถามเพราะต้องการทิป “อย่าเสือก ฉันจัดการเองได้” “ครับ” พนักงานหน้าเจื่อนและรีบถอยออกไป จักรินอุ้มร่างของเดือนกันยาที่ไม่มีสติออกจากรถ เดินตรงไปยังห้องที่เปิดประตูรออยู่ “แล้วห้ามให้ใครมากวนฉัน เข้าใจไหม” พนักงานยิ้มกริ่มด้วยความดีใจที่จักรินยื่นแบงก์ร้อยให้ “ครับผม ขอบคุณครับ” จักรินอุ้มเดือนกันยาหายเข้าไปภายในห้องแล้ว แม็กซิมัสเพิ่งจะมาถึง เขารีบวิ่งเปิดม่านหาผู้ชายคนนั้นที่เขารู้เพียงว่าชื่อจัก “เมื่อกี้มีผู้ชายพาผู้หญิงไม่ได้สติเข้ามา สองคนนั้นอยู่ห้องไหน” “ไม่ทราบครับ” “งั้นนายก็จะติดคุกไปด้วย เพราะผู้ชายคนนั้นลักพาตัวเมียฉันมา” พนักงานเริ่มหน้าเสีย “จริงหรือครับ” “ใช่ นายอาจจะติดคุก ข้อหาสมรู้ร่วมคิด” แม็กซิมัสขู่เพิ่ม “ผม...ผมไม่รู้ไม่เห็นด้วยนะครับ ผู้ชายคนนั้นพามาเอง” “งั้นก็รีบบอกว่าห้องไหน เร็วเข้า” ด้วยความหวาดกลัวทำให้พนักงานจำต้องชี้ไปยังห้องที่จักรินอุ้มเดือนกันยาเข้าไป “ห้องนั้นครับ” แม็กซิมัสมองตามนิ้วของพนักงานไป “หมดหน้าที่นายแล้ว จะไปไหนก็ไป” “เอ่อ...ไม่ให้ผมไปช่วยหรือครับ” “ฉันคนเดียวก็เหลือเฟือแล้วล่ะ” ชายหนุ่มก้าวตรงไปยังห้องเป้าหมาย ภายในห้องจักรินวางร่างของเดือนกันยาที่ถูกวางยานอนหลับลงบนเตียง จากนั้นก็ยืนมองร่างอรชรด้วยสายตาหื่นกระหาย “วันนี้...พี่จะกินให้หนำใจเชียวน้องเดือนคนสวย” จักรินปลดกระดุมเสื้อออกและสลัดทิ้ง ก่อนจะกระโจนขึ้นไปบนเตียง “พี่รู้...น้องเดือนยังซิง” ชายหนุ่มไล้นิ้วมือไปตามแก้วนวลใสของเดือนกันยาพลางมองอย่างลุ่มหลง “พี่จักคนนี้จะเป็นคนเปิดบริสุทธิ์น้องเดือนเอง” เสียงหัวเราะของจักรินเต็มไปด้วยความพึงพอใจ กระดุมเม็ดที่ใกล้ลำคอระหงที่สุดถูกปลด มือของจักรินสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น เขารอคอยที่จะได้ครอบครองเดือนกันยามานาน แต่ก็พลาดทุกรอบเพราะหญิงสาวระวังตัว แต่ครั้งนี้เขาทำสำเร็จ “พรุ่งนี้เช้า น้องเดือนก็จะไม่ขัดใจพี่จักคนนี้อีก” ใบหน้าเกือบจะหล่อของจักรินโน้มลงไปหา จรดปลายจมูกลงบนแก้มนวล “แค่แก้มยังหอมขนาดนี้ แล้วที่อื่นล่ะ” จักรินอดใจไม่ไหวอีกแล้ว เขากระชากสาบเสื้อของเดือนกันยาแรงๆ จนกระดุมสามเม็ดบนกระเด็นไปคนละทิศละทาง เสื้อซับสีขาวสะอาดคือปราการด่านต่อไป แต่มันก็บางเกินกว่าจะปกปิดลวดลายของบราเซียร์ที่เดือนกันยาใส่ได้ มือของจักรินยกขึ้นกำลังจะแตะลงไปบนก้อนเนื้อสงวน แต่ประตูห้องถูกเคาะแรงๆ เสียก่อน “ใครวะ” “ผมเองครับ” จักรินเข้าใจว่าเป็นพนักงาน “กูสั่งมึงแล้วไงว่าอย่ามารบกวน กูจะขึ้นสวรรค์” “พอดีมีเหล้าอภินันท์จากทางโรงแรมมามอบให้น่ะครับ” “กูไม่เอา มึงไสหัวไปเลย แล้วอย่ามารบกวนกูอีก” “ดื่มแล้ว เวลาขึ้นสวรรค์จะสนุกกว่าตอนไม่ได้ดื่มนะครับ” จักรินชะงักลังเล ก่อนจะหลงกล “ไอ้นี่แม่งน่ารำคาญ” เขาก้าวลงจากเตียง เดินไปกระชากประตูให้เปิดออก “ส่งมา...” จักรินพูดได้แค่นั้นคำอื่นๆ ก็ชะงักติดแหง็กอยู่ที่ลำคอทั้งหมด ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างเมื่อเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่หลังบานประตูเต็มสองตา “พี่...พี่แม็ก...!” ไม่ใช่แค่จักรินคนเดียวหรอกที่ตกใจ เพราะแม็กซิมัสเองก็ตกใจไม่ต่างกันเลย เมื่อไอ้ผู้ชายชื่อจักที่เขาไล่ตามมาคือน้องชายต่างมารดาของตนเอง “เป็นนายไปได้ยังไง จักริน?” จักรินต้องรวบรวมสตินานเลยทีเดียวกว่าจะสามารถพูดคำอื่นออกมาได้ “พี่แม็กออกจากคุกมาได้ยังไง หรือว่าแหกคุกออกมา” แม็กซิมัสแค่นยิ้มหยัน มองน้องชายด้วยสายตาดุดัน จนจักรินต้องหลบสายตา “คุกไม่ได้มีไว้ขังฉัน นายก็รู้อยู่เต็มอกนี่ จักริน” “เอ่อ...ผมไม่รู้” แม็กซิมัสส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะมองข้ามศีรษะของจักรินที่ตัวเล็กกว่าเขาเกือบฟุตไปยังเตียงสีขาวสะอาดกลางห้อง ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งนอนหลับสนิทอยู่ “ครั้งนั้นนายรอดคุก แต่ครั้งนี้นายอาจไม่รอดนะจักริน ถ้านายยังไม่รีบออกไปจากที่นี่ซะ” “ผม...ผมจะนอนกับแฟนมันผิดตรงไหนล่ะครับ” “แฟน? แล้วทำไมต้องมอมยา” “พี่แม็กรู้” จักรินตกใจ หน้าตาซีดเผือด เขาไม่เคยชอบขี้หน้าแม็กซิมัส แถมยังเกลียดชังอีกต่างหาก เกลียดตามที่มารดาสั่งสอน แต่เขาไม่กล้าพอที่จะปะทะกับพี่ชายต่างมารดาคนนี้สักครั้ง “ออกไปจากที่นี่ซะ ไปก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจแจ้งตำรวจ” จักรินหันไปมองเดือนกันยาที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเสียดาย แต่ก็ไม่กล้าหือกับพี่ชาย “ผมไปก็ได้ แต่พี่แม็กห้ามแตะต้องผู้หญิงของผมเด็ดขาด เพราะผมกับเธอกำลังจะแต่งงานกัน” แม็กซิมัสไม่ได้ให้คำตอบ เขายิ้มหยันน้อยๆ ที่มุมปาก และนั่นก็ยิ่งทำให้จักรินไม่พอใจ “ถ้าพี่แม็กแตะต้องเดือนกันยา ผมคนนี้แหละจะส่งพี่แม็กกลับเข้าไปในคุกอีกครั้ง” “เดือนกันยา?” แม็กซิมัสชะงัก จะมีผู้หญิงสักกี่คนนะที่ใช้ชื่อนี้ หัวใจของแม็กซิมัสกระตุกแรงจนร่างใหญ่สั่นไหวเลยทีเดียว หล่อนอาจจะเป็นผู้หญิงคนนั้น ชายหนุ่มถลาเข้าไปหยุดที่เตียง จ้องมองผู้หญิงที่นอนหลับใหลเพราะฤทธิ์ยาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เขาจดจำหล่อนได้ จดจำหล่อนได้เป็นอย่างดี สองมือข้างลำตัวกำแน่นเป็นหมัด กรามแกร่งที่เต็มไปด้วยหนวดเคราขบจนเป็นสันนูน เขาหันมาจ้องหน้าน้องชายด้วยสายตาลุกเป็นไฟ “นายไม่มีสิทธิ์แตะต้องเธอ ไอ้จักริน!” เปรี้ยง! กำปั้นของแม็กซิมัสกระแทกเข้าเต็มเบ้าตาของจักริน ร่างของผู้เป็นน้องกระเด็นหงายหลังล้มลงไปกับพื้นอย่างหมดสภาพ แม็กซิมัสตามเข้าไปจะต่อยอีก แต่จักรินร้องขอเสียก่อน “พี่แม็ก...อย่าทำผม...ผมน้องชายของพี่นะ พี่แม็กอย่า...” กำปั้นที่กำลังจะซัดลงบนใบหน้าของจักรินอีกครั้งชะงักค้างอยู่กลางอากาศ จักรินมองหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะโทสะของพี่ชายต่างมารดาด้วยความหวาดกลัว เขาไม่เคยเห็นแม็กซิมัสเกรี้ยวกราดขนาดนี้มาก่อนเลย และไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้แม็กซิมัสเดือดร้อนแค่ไหน แม็กซิมัสก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายของเขา แต่ครั้งนี้...มันเพราะอะไร? “ไปให้พ้น! ไปสิไอ้จักริน!” แม้จะเสียดายในตัวของเดือนกันยา แต่ชีวิตของเขาสำคัญกว่า จักรินรีบลุกขึ้นและวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิตเลยทีเดียว แม็กซิมัสค่อยๆ หมุนตัวกลับมามองหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงอีกครั้ง มองด้วยความรู้สึกมากมายที่ยากจะอธิบายออกมาได้ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้มองหล่อนเช่นนี้ ร่างสูงทรุดลงนั่งบนขอบเตียง และก็ไม่ลืมที่จะตวัดผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเกือบเปลือยให้กับหล่อน หลังกลับจากเรียนต่อที่อเมริกาเขาก็แอบตามเดือนกันยาเงียบๆ โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว ตามอยู่นานจนกระทั่งกำลังจะเดินเข้าไปหาและสารภาพว่าตัวเองเป็นใคร แต่โชคร้ายที่ต้องติดคุกเสียก่อน ดวงตาคมกวาดมองไปตามดวงหน้าสวยหวานของนางฟ้าในหัวใจด้วยความชื่นชม เขายังจดจำดวงตากลมโตสีดำขลับเป็นประกายสดใสนั้นได้เป็นอย่างดี แค่ได้จองมองหัวใจแห้งแล้งของเขาก็ชุ่มฉ่ำราวกับได้รับหยาดฝน “เดือนกันยา...” แม็กซิมัสไล้แก้มนวลด้วยนิ้วมือใหญ่แผ่วเบา ผิวของหล่อนเนียนนุ่มน่าสัมผัส เขาหัวใจเต้นแรงจนต้องรีบชักมือกลับมา ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่ชอบผิวที่เนียนนุ่มแบบนี้หรอก และก็ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะปล่อยโอกาสแบบนี้ให้หลุดรอดเงื้อมมือไป แต่ไม่ใช่กับเขา “เธอจะปลอดภัย เดือนกันยา” แม้จะบอกตัวเองให้ละสายตาจากดวงหน้างามสักแค่ไหน แต่สายตาเจ้ากรรมกลับไม่เชื่อฟังเลย จากแก้มนวลตอนนี้มันเลื่อนไปหยุดนิ่งอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อของเดือนกันยาเสียแล้ว ความรู้สึกบางอย่างที่ขาดหายไปนานทำให้เขาอึดอัดจนต้องขยับขาออกกว้าง ไม่เคยมีริมฝีปากของผู้หญิงคนไหนน่าหลงใหลชวนให้จุมพิตอย่างนี้มาก่อนเลย สมองที่ไม่ค่อยหมกมุ่นกับเรื่องทางเพศนัก ยามนี้ดื้อดึงสุดจะควบคุม ตัณหาราคะที่พยายามเก็บซ่อนเอาไว้ทำให้เขาอึดอัดและปวดร้าว เขาไม่เคยมีความรู้สึกทางเพศกับผู้หญิงคนไหนมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย ต้องการหล่อนจนตัวร้อนผ่าวเจียนระเบิด “บ้าฉิบ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD