ตอนที่ 1 (1)

1540 Words
เชียงราย จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทยทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างสามประเทศ ไทย ลาว พม่า หรือเรียกขานในนามดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ ช่วงนี้คาบเกี่ยวระหว่างปลายฝนต้นหนาวนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลมายังเมืองเหนือแออัดแม้กระทั่งในสถานีขนส่งกลางอำเภอแห่งหนึ่งทางทิศเหนือของจังหวัด นานกว่าหนึ่งชั่วโมงที่บุรุษไทยแท้อย่าง ‘สีหราช จอมธรรม’ กอดอกหน้าตาบึ้งตึงในรถฟอร์จูนเนอร์สีดำย้อมด้วยสีแดงของดินจากในไร่เนื่องจากเขาใช้มันเป็นพาหนะบุกน้ำลุยโคลนอย่างหนัก ต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องปลีกตัวจากงานในไร่เข้าเมืองก็เพราะผู้หญิงหน้าสวยที่นั่งอยู่เก้าอี้ตรงนั้นซึ่งเป็นว่าที่แม่ของลูก! ‘แม่อยากอุ้มหลานจะแย่แล้วนะสิงห์ ลูกคิดจะครองตัวโสดไม่มีเมียมาเชิดหน้าชูตาก็ตามใจแต่ไม่ว่าฟ้าถล่มหรือดินทลายลูกต้องมีหลานให้แม่อุ้มภายในปีนี้ ห้ามต่อรอง ห้ามเถียง!’ เหมือนท่านกำลังสั่งให้เขาไปซื้อกล้วยทอดในตลาดกลับมาให้กินที่บ้านยังไงยังงั้นแต่นี่มันไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ อย่างนั้นน่ะสิ! ให้ตายเถอะ ผู้ชายเสเพลใช้ชีวิตไปเรื่อยอย่างเขาเนี่ยนะจะเป็นพ่อคนได้ แค่คิดถึงหน้าลูกที่เหมือนตัวเองราวกับแกะก็ขวัญเสียจินตนาการง่ายดายว่าเด็กคนนั้นโตมานิสัยจะเป็นยังไง เด็กคนนั้นโตมาถ้าเป็นผู้ชายก็คงซนเที่ยวจีบสาวไปทั่วทำตาเจ้าชู้พอถูกด่าก็จะทำหน้าตาใสซื่อให้สำนึกว่าเจ้าหนูคัดลอกนิสัยนี้มาจากใคร ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงอ่อนนอกแข็งในเหมือนจะอ่อนหวานแต่เอาเข้าจริงๆ ก็ร้ายลึก ไม่นะ! เขาไม่อยากให้เด็กสองคนนี้ลืมตาดูโลกในเร็วๆ นี้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอยากขัดใจมารดาซะทีเดียว แค่อยากดึงเวลาออกไปก่อนเพื่อค้นหาผู้หญิงดีๆ สักคนที่พอจะคุมพฤติกรรมเขาได้และเป็นแม่ที่ดีของลูกได้ ตอนแรกมารดาเข้าใจเหตุผลนี้และรอ ร้อ รอ กระทั่งปีนี้อายุเขาจะสามสิบหกรอมร่อก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไป วันนั้นเขาร้องโอดครวญทำสีหน้าเหมือนคนกำลังจะขาดอากาศหายใจ ท่านจริงจังมากเกินไปทำให้เขารู้สึกกดดัน ‘โธ่ คุณแม่ครับ พูดง่ายเหมือนปอกกล้วยให้ลิงกิน แม่ของลูกนะครับ ไม่ใช่แม่พันธุ์วัวแม่พันธุ์ม้าตามท้องตลาดจะได้หาง่ายหาคล่องอยากซื้ออยากผสมพันธุ์เมื่อไหร่ก็ได้จ่ายเงินให้ก็จบ’ ‘ต๊าย! ฟังพูดเข้า!’ อกคุณนายจะแตก ยกมือทาบแทบไม่ทันฟาดเพียะลงกลางหัวไหล่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ‘แต่ก็เอาเถอะ อยู่มาจนปูนนี้แล้วแม่เชื่อว่าสิงห์ไม่มีปัญญาหาลูกสะใภ้ดีๆ มาให้แม่รับขวัญด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นวางใจได้ แม่จะหาผู้หญิงคนนั้นมาให้สิงห์ด้วยมือของแม่เอง’ ขนอ่อนบนกายสีแทนลุกเกรียวทั้งร่างโดยไม่ได้นัดหมายสยองสายตามาดมั่นของมารดา ‘ผมไม่ยอมรับผู้หญิงที่คุณแม่หามาให้โดยเด็ดขาดลูกเต้าเหล่าใครก็ไม่รู้จะให้มาเป็นแม่ของลูกผมได้ยังไง ไม่เอาหรอก ยังไงๆ ผมก็ไม่มีทางทำตามความต้องการของคุณแม่เด็ดขาด!’ ฝ่ามือหนักอัดแน่นด้วยแรงอารมณ์ของคุณนายตีลงกลางหัวไหล่เต็มแรงกัดฟันขบเขี้ยวไปมา ‘ตีทำไมครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ’ ‘เพราะไม่ใช่เด็กน่ะสิแม่ถึงตี ปีนี้สิงห์สามสิบหกแล้วนะอีกไม่กี่ปีก็สี่สิบ แฟนสักคนก็ไม่มีมาให้แม่เจอหน้าแล้วจะให้แม่วางใจได้ยังไงว่าตระกูลเราจะมีคนสืบสกุล แม่ไม่ยอมให้มาจบอยู่ที่สิงห์หรอกนะลูก’ ‘อีกตั้งสี่ปี’ สีหราชบ่นอุบอิบราวเด็กชายวัยสิบสองถูกดุไม่ใช่ชายฉกรรจ์วัยสามสิบหกถูกรบเร้าให้มีทายาท นาทีนี้ขัดใจอะไรคุณนายไม่ได้ต้องทำใจยอมรับอย่างเดียวเพื่อความสุขสบายของหูจะได้ไม่ต้องทนฟังเสียงบ่นลากยาวจากต้นปียันปลายปี เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นราวห้าเดือนก่อนหลังจากนั้นคุณนายพราวมุก ก็ใช้ชีวิตตามปกติเป็นสตรีอันดับหนึ่งแห่งไร่จอมธรรมให้คนในไร่เคารพรัก ท่านไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นอีกตบตาจนเขาเชื่อสนิทใจว่าท่านแค่พูดเล่นเฉยๆ ไม่คิดจริงจังจะหาผู้หญิงมาไว้บ้านให้เขาทำหลานน่ารักๆ ให้เลี้ยงสักคนสองคนจึงยิ้มได้และออกไปใช้ชีวิตหนุ่มโสดลั้นลาตามเดิม รักสนุกแต่ไม่ผูกพันกับผู้หญิงคนไหนเป็นเสือผู้หญิงที่สาวๆ เกือบครึ่งจังหวัดอยากมาทำความรู้จักบนเตียง จวบจนกระทั่งวันหนึ่งกลางเดือนตุลาคมโลกของหนุ่มโสดต้องพังครืนลงพร้อมกับหน้าดินในไร่จอมธรรมบางส่วนทรุดลงมาเมื่อมารดาโทรศัพท์สายตรงมาหาขณะกำลังเข้าไปดูแลคนงานในไร่ ‘แม่มีข่าวดีมาบอกจ้ะ มาแล้วนะว่าที่แม่ของลูกสิงห์ น้องชื่อม่านไหม อายุย่างยี่สิบสาม แค่ชื่อก็น่ารักน่าเอ็นดูแล้วใช่ไหมจ๊ะ สาวกรุงเทพตัวจริงสวยมากเชียวล่ะแม่ว่าสิงห์ต้องชอบน้องแน่ๆ’ ปิดท้ายประโยคด้วยเสียงหัวเราะสไตล์วัยรุ่นสุดน่ารัก ‘อิอิ’ จากนั้นก็กดวางสายทั้งที่เขายังอ้าปากค้างไม่ทันได้ประท้วงสักคำ! สีหราชส่ายหน้าไปมาหยิบแก้วกาแฟเย็นมาจิบสบายอารมณ์คอยลอบมอง ‘ว่าที่แม่ของลูก’ จากในตัวรถ มาถึงนานร่วมชั่วโมงแล้วแหละแต่ไม่ยอมลงจากรถคอยจับตามองผู้หญิงคนนั้นว่าจะแสดงอาการเหวี่ยงวีนอะไรออกมาหรือเปล่า สิบนาทีก็แล้ว สามสิบนาทีก็แล้วกระทั่งผ่านมาหนึ่งชั่งโมงเจ้าหล่อนก็ยังก้มหน้าก้มตาอ่านนิยายน้ำเน่าเล่มเล็กที่เคยเห็นบ่อยๆ ว่าวางขายในเซเว่นอีเลเว่น เงยหน้าจากหนังสือนิยายบ้างสิอยากเห็นหน้าจะแย่แล้วนะ จะไหวไหมเนี่ย อ่านนิยายจริงจังเชียวถ้าลูกคลอดออกมาคงไม่สอนลูกให้ทำตัวน้ำเน่าเหมือนนางเอกหัวอ่อนในนิยายเล่มละร้อยหรอกนะ หงุดหงิดชะมัด ละสายตาจากคนตัวบางมายังแก้วกาแฟหยิบแก้วขึ้นมาดูดหลอดแต่ข้างในกลับเหลือแค่น้ำแข็ง ไม่มีน้ำใดๆ ไหลขึ้นมาตามแรงดูด ให้มันได้อย่างนี้ สีหราชวางมันลงที่เดิมเปลี่ยนเป็นหยิบหมากฝรั่งมาเคี้ยวเล่น จอดรถขวางหน้าร้านป้าคนขายข้าวป้าเทียวเดินมาไล่เขายังไม่อยากไปก็คอยยัดเงินใส่มือ “คุณแม่คิดอะไรอยู่นะถึงอยากให้หลานมีปมด้อยถ้ารู้ว่าแม่ยอมตั้งท้องเพื่อแลกเงิน” สีหราชส่ายหน้าไปมาหันกลับมายังตำแหน่งเดิมคราวนี้นัยน์ตาเขาลุกวาวเพราะสาวเมืองกรุงเก็บนิยายใส่กระเป๋าเรียบร้อยและกำลังสอดส่องสายตามองรอบอาณาบริเวณราวกับมองหาบุคคลที่มารับตนเอง ดวงหน้าของสาวเมืองกรุงหวานจัดล้อมรอบด้วยเส้นผมดำสลวยยาวถึงกลางหลังดัดเป็นลอนใหญ่รับกับใบหน้าได้เหมาะเจาะ ปากนิด จมูกหน่อย นัยน์ตากลมโตไม่พึ่งบิ๊กอายเหมือนสาวสมัยใหม่ชื่นชอบ ผิวส่วนที่พ้นจากร่มผ้าขาวจัดราวกับเกิดมาทั้งชาติไม่เคยพบเจอแสงแดดจากธรรมชาติ มองจากมุมนี้หญิงสาวสวยโดดเด่นจากคนท้องถิ่นโดยสิ้นเชิงแม้ชุดที่สวมใส่จะไม่บ่งบอกว่ามาจากเมืองกรุง เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนเรียบร้อยไม่มีแฟชั่นขาดลุ่ยตามหัวเข่า รองเท้าผ้าใบเก่าทว่าสะอาด ให้ตายเถอะ นางฟ้าเมืองกรุงชัดๆ “ขาว สวย แถมยังอึ๋มอีกต่างหาก” ไม่ได้ตั้งใจจะลามกมองหน้าอกอย่างโจ่งครึ่มแต่จังหวะที่เจ้าหล่อนลุกขึ้นยืนแล้วสะพายเป้ข้างหลังทำให้เสื้อยืดของหล่อนรัดรูปเผยอะไรต่อมิอะไรให้เต็มสองตาแม้จะมีเสื้อขวางกั้นอยู่ก็เถอะ แม่สาวเมืองกรุงเดินไปทางอื่นเขากลัวจะคลาดสายตารีบลงจากรถทว่าต้องหยุดเพื่อรับโทรศัพท์ของมารดา เขากดรับสายเสียงเอื่อยๆ ดึงโทรศัพท์ออกจากหูแทบไม่ทันเมื่อเสียงคุณนายแว้ด “สวัสดีครับคุณแม่” ‘แม่บอกให้ไปรับหนูไหมตั้งแต่บ่ายสองแต่ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับถึงบ้านสักที สิงห์มัวแต่ไปเถรไถลที่ไหนฮะ เบิกตาดูนาฬิกาหน่อยสิอีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะมืดแล้วนะ’ เกือบสี่โมงเย็นแล้วรถราก็เริ่มจะหมดไม่รู้ป่านนี้สาวเมืองกรุงจะเป็นยังไงบ้าง “ถ้าห่วงกันขนาดนี้ทำไมคุณแม่ไม่มารับยัยนั่นเองล่ะครับ” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD