เช้า
สไมล์ตื่นขึ้นก่อนจะตกใจเมื่อเห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียงที่ไหนก็ไม่รู้
“ที่ไหนวะเนี้ย! ตายแล้ว!”
สไมล์รีบลุกขึ้นคว้ากระเป๋าเตรียมจะเดินออกจากห้อง เธอค่อยๆเปิดประตูมองซ้ายมองขวาก่อนจะออกจากห้องไป
“ว๊ายยยย”
สไมล์ชนเขากับเพทายที่ยืนกอดอก เธอตกใจมากที่เห็นเขา แสดงว่านี่คงเป็นคอนโดของเขาซินะ แล้วทำไมจำอะไรไม่ได้เลย ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนเมาจนพูดอะไรออกไปหมดแล้วนะ ตายแน่!
“ไง คอแข็งมากไม่ใช่เหรอ สภาพดูไม่ได้” เพทายเอ่ย
“ฉันไม่ได้บอกว่าคอแข็งสักหน่อย”
“หึ!”
“ฉันขอตัวนะ อ๊ะ!”
สไมล์ถูกเพทายรั้งแขนเอาไว้ ก่อนที่จะดันหลังเธอชนกำแพงแล้วใช้แขนแกร่งค้ำยันโอบไว้
“คะ…คุณจะทำอะไร”
“แค่นี้ถึงกับเสียงสั่นเลยหรือไง เมื่อวานตอนต่อหน้าพ่อแม่ฉันเธอบอกเองว่าไม่ได้มีอะไรเสียหายนิ ฉันก็เริ่มอยากจะคิดแบบเธอแล้วนะ ไม่เสียหาย!” เพทายเอ่ย
“เอ่อ….”
สไมล์เริ่มรู้สึกว่า ที่ไอยูบอกเพทายเป็นคนนิ่งๆ พูดน้อย มันไม่ใช่ล่ะ ไม่เห็นเขาจะนิ่งเลยสักนิด
“เอ่อ…ทำอะไรกันครับ คุณสไมล์!!!”
เสียงของคิมเลขาคนสนิทของเพทายที่เข้ามาเวลาเดิมเพื่อมาปลุกเพทายไปทำงานก็ตกใจเมื่อเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันในคอนโด
สไมล์มองเห็นคิมที่ตกใจแล้วนึกถึงคำที่ไอยูบอกว่าทั้งคู่อาจเป็นคู่ขากัน หากเธอเข้าใกล้เพทาย คิมต้องหึงบ้างแหละ หรือเพทายต้องกลัวคิมเข้าใจผิดแล้วรีบดีดเธอบ้าง
“หิวข้าวจังว่าที่สามี”
สไมล์คล้องแขนเข้ากับคอของเพทายก่อนเอ่ยขึ้น ทำเอาคิมเบิกตากว้างและเพทายขมวดคิ้วเบาๆ
“เมื่อคืนฉันอุ้มเธอกลับมาหัวฟาดกับประตูหรือไง สมองกลับเหรอ” เพทายเอ่ย
“ก็คุณมาปลุกฉันไปกินข้าวไม่ใช่หรือไง ไปเถอะกินข้าวกัน คุณเลขาคิม สั่งอาหารเช้าของคุณเพทายให้หน่อยนะคะ” สไมล์เอ่ย
“ยัยนี่!”
พูดจบสไมล์รีบวิ่งเข้าห้องอีกห้องซึ่งคนละทางกับที่เพทายยืนขวาง ซึ่งนั่นคือห้องนอนของเขา เธอเข้าไปโดยไม้รู้ตัว
“คุณทายกับเธอ…”
“คิดอะไรของนาย ฝากสั่งมื้อเช้าให้ที ฉันไปจัดการยัยนั่นก่อน”
เพทายเอ่ยก่อนเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง เมื่อมาถึงพบว่าสไมล์กำลังอาบน้ำ นี่ยัยนี่กล้าดียังไงใช้ที่นี่ราวกับบ้านตัวเอง
“ใครให้เธอเอาเสื้อผ้าฉันมาใส่?”
“ขอยืมก่อน เดี๋ยวซักมาคืน”
“ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว!”
สไมล์รีบออกจากห้องของเพทายก่อนเจอเลขาคิมกำลังจัดโต๊ะ เธอโบกมือลาเขาก่อนรีบออกจากคอนโดทันที
สไมล์รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อคืน ซึ่งไอยูดูถูกใจไม่น้อย และบอกเธอว่าอาทิตย์หน้าจะจัดงานแต่งขึ้น ให้เธอสนิทกับเพทายเข้าไว้
วันรุ่งขึ้น เพทายกลับเข้าบ้านก่อนจะขมวดคิ้วเพราะเห็นสไมล์กำลังทำอาหารอยู่กับแม่ของเขา
“อ้าวลูกชาย อยู่กินข้าวกับแม่ก่อนนะ น้องกำลังช่วยแม่ทำพอดี” ไอยูเอ่ย
“ผมให้คิมจองโต๊ะที่ร้านอาหารไว้แล้วครับ”
“คุณ ดูนี่ คุณอาบอกว่าคุณชอบกินใช่มั้ย ฉันทำเองนะ น่ากินมั้ย”
“อย่า!”
เพทายปัดสิ่งที่อยู่ในมือของสไมล์ออกจากตัวก่อนที่อาหารที่เธอตั้งใจทำจะหล่นลงบนพื้น เธอเพียงแค่ต้องการจะให้เขาชิมเท่านั้น
เพล้ง!!!! อาหารถ้วยเล็กสำหรับชิมตกลงพื้นแตกต่อหน้าทั้งสามคน สไมล์ที่เป็นคนทำก็ถึงกับทำหน้าเสีย ถึงเธอจะแค่ถูกจ้างมาก็ตาม แต่ก็อุตส่าห์ทำ ทำไมเขาต้องหยาบคายแบบนี้
“ตายแล้ว!!!” ไอยูเอ่ยพรางหยิบผ้ารีบช่วยสไมล์เช็ดอาหารที่ร้อนๆที่หกจากถ้วยเปื้อนขาของเธอทันที สไมล์ที่อึ้งและเสียความรู้สึกไม่น้อยก็ได้แต่ก้มลงบอกให้ไอยูหยุด เธอทำเองได้
“ไม่เป็นไรค่ะคุณอา หนูทำเองดีกว่าค่ะ”
สไมล์รับเดินออกจากตรงนั้นไปที่ห้องน้ำ เธอเปลี่ยนสรรพนามที่เรียกไอยูตามที่บอกใครๆว่าเธอคือลูกสาวเพื่อนของพ่อเพทาย และเธอก็ไม่มีแม่มาตั้งแต่เล็กๆ วันนี้การได้ทำอาหารกับไอยูเธอกลับรู้สึกดีมาก และเธอตั้งใจทำมาก
ไม่คิดว่าเพทายจะทำแบบนี้ รอยอาหารที่เปรอะเปื้อนพื้นกพลังถูกแม่บ้านทำความสะอาด ก่อนที่ไอยูผู้เป็นแม่จะเอ่ยขึ้น
“น้องช่วยแม่ทำหมูตุ๋นอันนี้มาตั้งแต่เช้ามืด เพียงเพราะน้องอยากทำอาหารที่ลูกชอบเป็น ลูกทำไมใจร้ายทำกับน้องขนาดนี้ น้องแค่อยากให้ชิม ต้องปัดแรงแบบนี้เลยหรือไง” ไอยูเอ่ย ซึ่งที่เธอพูดตอนนี้คือความจริงไม่ได้โดหก สไมล์มาตั้งแต่เช้ามืดจริง มาขอให้ไอยูสอนทำอาหารที่เพทายชอบจริงๆเพื่อทำให้เขาในวันที่ต้องไปอยู่ด้วยกัน
“ผมไม่ชอบเธอนี่ครับแม่”
“ไม่ชอบ? ลูกไม่ได้มีอะไรเกลียดกัน ต่อให้ไม่ชอบ เขาไม่ได้ทำร้ายอะไรลูก ลูกก็ไม่เห็นต้องใจร้ายนิ”
“ผมบอกแล้ว ว่าถ้ายังดึงดันให้แต่งกับผม บางทีเธออาจจะโดนมากกว่านี้ก็ได้นะครับ”
“ลูกพูดอะไรออกมา ลูกจะทำอะไรน้อง น้องไปทำให้ลูกเดือดร้อนหรือไง งานแต่งแม่ก็จะจัดให้เงียบๆ ไม่เชิญใคร”
“ยกเลิกไปเลยน่าจะดีกว่านะครับ”
พูดจบเพทายก็เดินออกจากครัวไปเพื่อไปหาวีผู้เป็นพ่อและคุยงานกับเขา
ไอยูที่หงุดหงิดกับลูกชายก็ยืนกอดอกกรอกตาไปมาพรางถอนหายใจไม่น้อย
“ให้มันได้แบบนี้ซิลูกชายเจ๊ยู!! โอยยยแม่ละปวดหัว”
สไมล์ที่ล้างรอยเปื้อนจนหมดก็เดินถอนหายใจออกมา เจอเพทายที่ยืนกอดอกอยู่ทางเข้าครัว สไมล์ชะงักฝีเท้าเล็กน้อยก่อนยืนนิ่งๆ
"ดูเธอพยายามดีนะ" เพทายเอ่ย
"หลบหน่อยค่ะ ฉันจะเข้าไปหาคุณอา" สไมล์เอ่ย
"ไหนบอกมาซิ ว่าเธอเข้ามาที่บ้านนี้เพราะอะไร!!"
"โอ๊ยคุณเพทาย ฉันเจ็บนะ!" สไมล์ร้องขึ้นเมื่อถูกเพทายคว้าแขนแล้วบีบเต็มแรง แต่เธอต้องเอาตัวรอดให้ได้ เธอรับปากรับงานของไอยูและรับเงินเธอมาแล้ว ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องทำงานนี้ให้จบ
"ถ้าเธอยังดึงดันที่จะแต่งงานกับฉัน ฉันจะทำให้เธอเห็นว่าเธอคิดผิด และเผลอๆเธออาจจะกลัวผู้ชายไปเลยตลอดชีวิตก็ได้!"
พูดจบเพทายสะบัดมือของสไมล์ออกก่อนเดินออกไป กระทั่งถึงวันที่แต่งงาน ทั้งคู่ทำพิธีเรียบง่ายแค่สวมแหวนและจดทะเบียนสมรสเท่านั้น สไมล์ที่ยืนมองตัวเองที่ใส่ชุดเจ้าสาวราคาแพงในกระจก ชีวิตนี้เธอคงไม่มีโอกาศได้เห็นตัวเองในแบบนี้แน่ๆ ผู้หญิงจนๆแบบเธอ บ้านติดหนี้หัวโตแบบนี้ ใครจะอยากใช้ชีวิตคู่ด้วย แม้แต่เพื่อนเธอยังไม่มีสักคนด้วยซ้ำ
"สวยจัง"
สไมล์มองแหวนที่มือตัวเอง มันเป็นแหวนเพชรน้ำงามราคาหลักสิบล้าน ซึ่งเธอแปลกใจไม่น้อยว่าทำไมไอยูถึงไว้ใจให้เธอสวมแหวนราคาแพงมากขนาดนี้ หากเธอหนีไปพร้อมแหวนนี่ เธอคงรวยและสบายไปทั้งชาติแน่ๆ หรืออีกนัยยะไอยูอาจจะแค่ต้องการความสมจริงก็ได้
"คุณเพทาย!"
สไมล์ชะงักทันทีที่เห็นเพทายเดินเข้ามา สีหน้าเขาเรียบนิ่งในชุดสูทรสีขาวชุดเจ้าบ่าว ตอนนี้จบงานแต่งเรียบร้อยแล้ว เธอแยกตัวเข้ามานั่งพักในห้องเพราะนี่มันก็แค่งานแต่งสมมติเท่านั้น เธอคงไม่ต้องไปนั่งฉลองอะไรกับคนอื่นๆ
"ไงละว่าที่เมีย ไม่ซิ เธอแต่งกับฉันแล้วนี่ คงเป็นเมียได้แล้วซินะ!"
"โอ๊ย! คุณเพทาย ฉันเจ็บ!"
"เป็นงานแต่งที่ตลกดีนะว่ามั้ย ไม่มีญาติเมียมาสักคน เธอถูกที่บ้านไล่ออกจากบ้านหรือไง"
"เราจะแต่งกันแค่ปีเดียว มันไม่ได้สำคัญอะไรนิ" สไมล์เอ่ย
"เธอคิดว่าเธอจะอยู่กับฉันได้ถึงปีหรือไง ฝันอยู่หรือเปล่า"
"เอาเถอะ วันไหนฉันทนไม่ได้ ฉันจะหย่าให้คุณเอง" สไมล์เอ่ย
"จะได้เกินสองเดือนหรือเปล่า หึ!"
พูดจบเพทายก็เดินออกจากห้องไป ไอยูและวีเตรียมบ้านให้ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตเหมือนกับคู่แต่งงานอื่นๆ เพทายก็เอาแต่นั่งดื่มกับคิมเลขาคนสนิทไม่ได้สนใจเจ้าสาวอย่างสไมล์สักนิด กระทั่งช่วงค่ำที่ทั้งหมดนั่งดื่มกันที่บ้านที่เป็นเรือนหอของเพทาย
"ไอ้ทาย ทำไมมานั่งนี่ แล้วเจ้าสาวไปไหนล่ะ" พลอยดาวผู้เป็นพี่สาวเอ่ยขึ้น
"ไม่รู้ซิ ไม่ได้สนใจ"
"ไอ้บ้า นั่นเจ้าสาวนะ เลิกดื่มแล้วไปเข้าหอได้แล้วไป!" พลอยดาวเอ่ยพรางดึงแก้วออกจากมือของเพทายแล้วดันหลังน้องชายให้เดินขึ้นห้อง
"คุณทายครับ" คิมเอ่ย
"ไว้เช้าฉันโทรหา เตรียมงานให้พร้อม" เพทายเอ่ย
"เดี๋ยวนะ เพิ่งแต่งงาน พรุ่งนี้จะไปทำงานแล้วหรือไง!" พลอยดาวเอ่ย
"ก็แค่แต่งงาน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่"
"ได้มึงเป็นผัวนี่หายนะชัดๆ การแต่งงานมันคือวันสำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิง มึงนี่มัน!!"
"บ่นกว่าแม่อีก กลับไปได้แล้ว กูจะขึ้นนอนแล้ว"
พูดจบเพทายก้เดินขึ้นห้องพร้อมกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง วันที่เขาไม่คิดว่าจะมีก็เกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจ พลอยดาวเองที่ไม่รู้ว่านี่คือแผนของพ่อและแม่เธอก็ด่าน้องชายซะเต็มที่ ที่ไม่ดูแลเจ้าสาว
เพทายที่เดินเข้าห้องนอนมา เจอสไมล์ที่กำลังถอดชุดเจ้าสาวก็กระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังเธอเต็มแรง
"ว๊าย!!!! คุณเพทาย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ มากอดฉันทำไม!"
สไมล์เอ่ยพรางพยายามดิ้นให้หลุด เธอรับงานของไอยูมาแค่เพื่อเปลี่ยนเพทายและพิสูจน์ว่าเขาเป็นเกย์หรือไม่ เธอจะมาเสียท่าเพทายแบบนี้ไม่ได้ เธอจะมามีอะไรกับเขาไม่ได้นะ
"ทำไม อยากแต่งกับฉันไม่ใช่หรือไง แต่งแล้วก็เป็นเมียฉันซิถึงจะถูก!"
"อื้ออออ คุณเพทาย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!!"เพทายกดจูบสไมล์อีกครั้งก่อนจะผลักเธอล้มลงนอนกับเตียง
"ทำไม เดี๋ยวฉันจะสนองเธอให้การแต่งงานวันนี้มันสมบูรณ์ไง!!!"
"กรี๊ดดดดดดดคุณเพทาย ปล่อยนะ!!!!"
ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นก่อนที่เพทายจะชะงักแล้วเป็นจังหวะให้สไมล์รีลุกขึ้นไปเปิดประตู ปรากฏว่าเป็นเลขาคิมคนสนิทของเพทาย
"คุณทายครับ ลืมมือถือไว้ครับ" เลขาคิมเอ่ยพรางส่งมือถือให้เพทาย
"คุณเลขา ช่วยดูเจ้านายคุณหน่อยนะ เมามากแล้ว ฉันขอตัวไปหาคุณอาก่อน" สไมล์รีบวิ่งออกจากห้องทันที เพทายสบถออกมาอย่างหงุดหงิดจนเลขาคิมเอ่ยขึ้น
"เมื่อกี้คุณทายกับคุณสไมล์..."
"ช่างเถอะ! ไปดูที ยัยนั่นไปหาแม่ฉันจริงๆมั้ย" เพทายเอ่ยพรางรับโทรศัพท์จากมือเลขาคนสนิท
"ได้ครับ"
สุดท้ายคืนนั้นสไมล์ก็รอดพ้นจากเพทาย เธอไปนอนอีกห้องเมื่อบอกไอยูว่าเธอถูกเพทายแกล้งและเขาเมา ไอยูจึงให้เธอนอนอีกห้อง แต่คืนนั้นทุกคนก็กลับออกไปทั้งหมด เหลือเพียงแค่แม่บ้าน บอดี้การ์ดและเพทายกับสไมล์เท่านั้น