บทที่ 2: โมโหหวง

1307 Words
การมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ อย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ทีแรก เสือหมอกต้องการให้ทุกคนใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ ทำตัวเสมือนเป็นพ่อค้าที่มาหาของจากทางภาคเหนือลงไปขายที่บางกอก ต่อให้เป็นการปลอมตัวก็ตาม กระนั้นเขาก็ต้องระมัดระวังอยู่ดี เพราะนอกจากพวกเขาที่รู้ดีแก่ใจว่าตนเป็นพวกเสือ ก็ยังมีหัวหน้าหมู่บ้านและลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านอย่างฟ้าฮ่ามที่รู้เรื่องนี้อีกด้วย เรื่องนั้นไม่ค่อยน่ากังวลสักเท่าไรนัก เพราะเขามีบุญคุณกับหัวหน้าหมู่บ้านผู้เป็นบิดาของฟ้าฮ่าม ด้วยครั้งหนึ่งได้เคยช่วยชีวิตของอีกฝ่ายให้รอดพ้นจากการถูกทางการจับ เนื่องจากจะเดินทางเข้าบางกอก เอาใบชากับใบยาสูบ แต่กลับถูกพวกตำรวจรถไฟกลั่นแกล้งรังแกด้วยการขอตรวจสินค้า แล้วยัดเยียดข้อหาว่าเขาต้องฝ**นซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายลักลอบเข้าไปขายด้วย ถ้าวันนั้นเสือหมอกกับพวกพ้องไม่ได้ตั้งใจที่จะปล้นรถไฟขบวนนั้น ด้วยการแฝงตัวเป็นผู้โดยสารและเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด พ่อของฟ้าฮ่ามก็คงจะต้องถูกยัดเยียดข้อหาและเข้าตะรางไปนานแล้ว แต่เพราะการปล้นของเสือหมอก จึงทำให้เรื่องที่หัวหน้าหมู่บ้านถูกยัดเยียดคำกล่าวหาถูกลืมสิ้นไป พวกตำรวจรถไฟมัวแต่หวาดกลัวเสือหมอก โจรที่ขึ้นชื่อที่สุดในภาคกลางจนทำอะไรไม่ถูก เรื่องราวโกหกหลอกลวงที่เกิดขึ้นจากคนของภาครัฐรังแกชาวบ้านทั้งหมดจึงยุติลงแต่เพียงเท่านี้ หากแต่ว่าการกระทำนั้นกลับเป็นบุญคุณอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะนอกจากที่สามารถเดินทางต่อไปขายสินค้าในบางกอกได้แล้ว ยังรู้ด้วยอีกว่าเสือหมอกตั้งใจสร้างสถานการณ์เพื่อช่วยเหลือตน ไม่อย่างนั้น ของของตนคงถูกปล้นเอาไปหมดแล้ว และสุดท้ายก็สามารถที่จะเดินทางกลับไปหาครอบครัวได้ บุญคุณครั้งนี้ใหญ่ยิ่ง ผู้นำหมู่บ้านแอบมากระซิบกระซาบกับเสือหมอกเอาไว้ว่าถ้าหากวันหนึ่งเดือดร้อน ก็ให้นึกถึงเขาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก็ไปพึ่งพาได้ จึงเป็นที่มาของการย้ายแหล่งกบดานมาอยู่ที่นี่ ส่วนฟ้าฮ่ามนั้นก็มารู้เรื่องราวของเสือหมอกจากปากของพ่อในภายหลัง ต่อมาหลังจากนั้น จึงได้ต้อนรับขับสู้เสือหมอกในทุกครั้งที่มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนยังแผ่นดินของเขา มีบุญคุณกับสองพ่อลูกนี้อย่างไร เสือหมอกก็ไม่อาจจะวางใจคนนอกที่ไม่ใช่พวกพ้องของตนเองได้ เขายังคงต้องระแวดระวังไว้เป็นอย่างดีเหมือนเคย อันที่จริงแล้ว เรื่องคนนอกคนอื่นไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลสักเท่าไร จะมีก็แต่คนนอกที่ชื่อว่า… “อีนิ่มนวลมันขอลงไปด้วยน่ะพี่” …นั่นละ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเขาล่ะ เสือหมอกได้แต่ขมวดคิ้วจนแทบจะผูกกันเป็นปม เขาได้ยินลูกน้องมาบอกกับเขาด้วยประโยคนี้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ในฐานะพ่อค้าคนกลาง พวกเขาก็ต้องพากันเที่ยวลงจากดอยไปที่ตลาดด้านล่าง แสร้งทำเป็นว่าไปตระเวนหาสินค้าที่น่าสนใจเอาไปขายที่บางกอก แต่จริงๆ แล้ว พวกเขาไปสืบหาข้อมูลของทางการที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาต่างหาก “พี่…เอายังไงดี ฉันรำคาญมันเต็มแก่แล้ว พอรู้ว่าพวกเราจะต้องลงไปข้างล่างทีไร มันก็มาเซ้าซี้ขอตามติดไปด้วยทุกที ฉันแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ฉันอยากจะเอามันลงไปให้จบๆ มันจะได้เงียบปาก แต่ก็กลัวว่าพี่จะเคืองเลยไม่ยอมให้มันไปด้วย มันก็มาตามเซ้าซี้ฉันไม่อยู่ทุกวี่วันอย่างนี้ เห็นหน้ามัน ไม่ทันเอ่ยปาก ฉันก็ปวดหัวแล้ว” ถึงขั้นขึ้น ‘อี’ ทั้งยังเรียก ‘มัน’ เท่านี้ก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าเจ้าของชื่อสร้างความวุ่นวายและน่ารำคาญใจให้มากเพียงใด “ถ้าอย่างนั้นก็เอามันลงไปด้วยแล้วกัน” เขาตัดสินใจในบัดดล “พี่แน่ใจนะ จะไม่มาเคืองฉันทีหลังใช่ไหม” เสือหมอกถอนหายใจ มองหน้าลูกน้อง ก่อนจะมองเลยไปด้านหลังที่มีนิ่มนวลยืนรอขอคำตอบอยู่ “ไม่เคือง ให้ไปด้วยก็แล้วกัน จะได้เลิกตอแยเซ้าซี้” “ได้พี่ เอ้า! แม่นิ่มนวล พี่หมอกเขาให้ลงไปด้วยได้นะ ไปเตรียมตัวไป” “เย่!” เสียงร้องดังด้วยความดีใจหลุดออกจากริมฝีปากสีกุหลาบ บ่งบอกให้รู้ว่าคนที่กำลังยืนรอของคำตอบนั้นดีใจเพียงใด “ขอบคุณนะจ๊ะพี่หมอก ขอบคุณพี่ด้วยที่เป็นธุระให้ ฉันเรียกไปเตรียมตัวก่อนนะ” หญิงสาวตะโกนกลับมา ก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน แต่งเนื้อแต่งตัวให้เรียบร้อยเพื่อเต็มตัวลงไปเที่ยวที่ร้านตลาดด้วยความลิงโลดสุดฤทธิ์ เสือหมอกมองตามแล้วก็นึกหงุดหงิดระคนเอ็นดู นิ่มนวลคงจะเบื่อกับการที่ต้องขลุกอยู่แต่ในบ้านทั้งวี่ทั้งวัน ถึงก่อนหน้าจะเคยอยู่มา แต่ตอนนั้นมันไม่ได้มีตลาดหรือที่ไหนให้ไปนี่นา ไม่เหมือนกับที่นี่ที่หล่อนรู้ดีอยู่แก่ใจว่าด้านล่างดอยมันมีอะไรที่น่าสนใจอยู่ ไม่แปลกเพราะหล่อนเป็นผู้หญิง ทั้งยังเพิ่งจะแตกเนื้อสาวมาไม่นาน ย่อมอยากไปเที่ยวเล่นเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เรื่องนั้นเสือหมอกเข้าใจดี แต่พอเอ่ยปากให้อนุญาตไปเพียงครั้งหนึ่ง กลายเป็นว่าทุกครั้งที่มีธุระต้องลงไปที่ตลาด ก่อนจะตามไปด้วยทุกครั้ง ไม่ว่าใครก็ตามที่ลงไป แม้ไม่มีเขา หล่อนก็ไป แรกๆ ก็สร้างความรำคาญใจ แต่พอหล่อนมีวัตถุดิบกลับมาหุงหาอาหารแจกจ่ายให้กับทุกคนในก๊กกันเป็นประจำ ไม่ว่าใครจะอยากกินอะไร ก็ทำให้ได้หมด กลายเป็นว่าการที่หล่อนติดสอยห้อยตามไปด้วย เป็นเรื่องที่สมควรทำเสียแล้ว วันนี้ก็เช่นกันที่นิ่มนวลตามพวกลูกน้องของเสือหมอกลงไปอีก เขาไม่ได้ตามลงไปด้วยเพราะมีธุระที่จะต้องพูดคุยกับผู้นำหมู่บ้านชาวเขา แต่ก่อนจะลงไป ลูกน้องคนสนิทของเขาก็กระเช้าให้เขาต้องหัวเสีย “พี่ไม่ไปด้วย ระวังนะ นิ่มนวลมันจะมีผัว ตอนนี้ชาวบ้านร้านตลาดพูดถึงมันเป็นเสียงเดียวกันว่างามแต๊งามว่า ลงไปทีไร มีหนุ่มน้อยใหญ่มาติดพันมันกันเกรียว” ฟังแล้วก็หงุดหงิดไม่ใช่น้อย ทั้งหงุดหงิดลูกน้อง แล้วก็หงุดหงิดนิ่มนวลด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่เขาไม่เข้าใจตัวเอง รู้เพียงแต่ว่าพอได้ยินอย่างนั้น ก็เกิดเป็นห่วงหญิงสาวขึ้นมา “คอยดูแลมันให้ดีๆ อย่าให้มีปัญหา ข้าขี้เกียจมาตามล้างตามเช็ด” “ขี้เกียจมาตามล้างตามเช็ด หรือว่าหวงมันกันแน่พี่?” “เอ็งอย่ามาคุยอะไรไร้สาระ จะไปไหนก็รีบไป มันค่ำมืดแล้วจะอันตราย” ทำได้แค่ปั้นหน้าเข้ม ว่าเสียงดุไปเท่านั้น ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด เดี๋ยวลูกน้องของเขาจะมาแซวให้ได้หัวเสียอีก แต่คำพูดของลูกน้องเขาก็ทำให้เสือหมอกอดคิดไม่ได้เลยว่าบางที…เขาอาจจะรู้สึกอย่างที่อีกฝ่ายว่ามาก็ได้ หวงเหรอ? ไม่หรอก…เขาแค่เป็นห่วงนิ่มนวลก็เท่านั้น เป็นผู้หญิงนี่นะ เห็นไม่ต่างจากน้องจากนุ่ง จะทำอะไรหรือไปไหนก็ย่อมห่วงเป็นธรรมดา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD