กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
โลเวลล์ ดาร์ตัน เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เขาเป็นผู้กุมบังเ**ยนคนสำคัญเจ้าของอาณาจักรดาร์ตัน ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมสุดหรูระดับหกดาว และโรงแรมในเครือมากกว่าสามสิบแห่งทั่วโลก ด้วยวิสัยทัศน์การเลือกสถานที่ตั้งอันสะดวกสบาย ซึ่งมักจะใกล้กับเส้นทางคมนาคมและระบบขนส่งสาธารณะ เดินทางไปมาสะดวก บรรดานักท่องเที่ยวจึงมักเลือกพักโรงแรมในเครือดาร์ตัน นอกจากนั้นโรงแรมดาร์ตันยังให้การบริการระดับพรีเมียม ผู้คนมากมายย่อมพร้อมจ่ายเพื่อให้ได้รับบริการที่คุ้มค่า
โลเวลล์สามารถนำพาธุรกิจขึ้นมาผงาดเป็นอันดับต้น ๆ ของอังกฤษด้วยวัยเพียงสามสิบสามปี ชายหนุ่มมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน และความฉลาดอย่างหาคนเทียบได้ยากกับการตัดสินใจอันเฉียบขาด เขาจึงสามารถนำพาธุรกิจให้ยิ่งใหญ่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแบบทุกวันนี้ มิหนำซ้ำนอกจากความสำเร็จเรื่องหน้าที่การงาน เขายังเป็นชายหนุ่มผู้มีหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร คิ้วคมเข้ม แพขนตายาวงอน จมูกโด่งเป็นสันรับกับโครงหน้าชัดเจน เรียวปากสีชมพูระเรื่อดูสุขภาพดี โดยเฉพาะนัยน์ตาสีน้ำทะเลนิ่งลึก ดูน่าค้นหา ร่างกายสมส่วนด้วยความสูงร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร และเนื่องจากออกกำลังกายเป็นประจำ รูปร่างของเขาถึงได้ทำให้สาว ๆ ค่อนประเทศต่างน้ำลายหก
เขาเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟกต์ เพียบพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะเข้าขั้นมหาเศรษฐีแสนล้าน แค่ชายหนุ่มยิ้มมุมปากก็สามารถทำให้หญิงสาวมากมายเก็บเอาไปเพ้อฝัน แต่เขากลับไม่ชอบยิ้ม ด้วยภาพลักษณ์โหด ดิบ เถื่อน ก็ส่งเสริมให้เขายิ่งดูน่าค้นหา สาว ๆ เกือบค่อนประเทศอยากเป็นผู้หญิงของเขา แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม เพราะอย่างน้อย นั่นยังทำให้พวกเธอเหล่านั้นได้ชื่อว่าเคยควงเขา
อย่างไรก็ดี โลเวลล์ไม่เคยควงผู้หญิงคนเดิมซ้ำเกินสามเดือน มิหนำซ้ำผู้หญิงที่ชายหนุ่มควงยังต้องทำสัญญาข้อตกลงก่อนจะขึ้นเตียงกับเขา โดยพวกเธอจะต้องไม่ล้ำเส้นที่เขาขีดไว้ ไม่อย่างนั้นชายหนุ่มจะสลัดทิ้งอย่างไม่ไยดี ให้พูดก็คือ เขาใช้ผู้หญิงเปลืองพอ ๆ กับเปลี่ยนรองเท้า สาเหตุนั้นอาจเพราะหวงความโสด ไม่ชอบการผูกมัด
บางคนบอกว่าเขาเย็นชาเกินไป แต่ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจชายหนุ่มเป็นคนเฉียบขาดอย่างมาก คำสั่งย่อมต้องเป็นคำสั่ง และละเอียดถี่ถ้วน สายตาของชายหนุ่มราวกับเรดาร์ คล้ายจะฆ่าคนได้ ดังนั้นลูกน้องของเขาส่วนใหญ่จึงหวาดกลัวชายหนุ่มจนไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าสบตา
“แต่งงาน มัมจะให้ผมแต่งกับใครครับ ผมยังไม่เจอคนถูกใจเลย” ชายหนุ่มส่งเสียงถามคู่สนทนาปลายสาย สีหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าตอนที่ราคาหุ้นตก
(ก็ลูกมัวแต่เสเพลไปวัน ๆ แบบนี้ผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนจะมาสนใจลูกล่ะ มัมอยากอุ้มหลานแล้วนะลูก มัมแก่แล้ว มัมอยากให้ลูกมองหาผู้หญิงที่เหมาะสมมาเป็นสะใภ้ มัมไม่ยอมให้ลูกเอ้อระเหยลอยชายแบบนี้ไปวัน ๆ แน่ ถ้าลูกหาเองไม่ได้ มัมจะเป็นคนจัดการให้ลูกเอง) มาดามนันทิชาขู่ ด้วยคิดว่าจะให้ลูกชายหาเอาเอง ย่อมเป็นไปไม่ได้แน่
“มัมยังไม่แก่สักหน่อย อย่าบ่นมากเลยครับ เดี๋ยวตีนกาขึ้น เรื่องแต่งงานผมพร้อมเมื่อไหร่จะมีเอง มัมไปเที่ยวให้สบายใจ ไม่ต้องกังวลนะครับ ถึงวันที่ผมมีแล้วจะรีบแจ้งทันทีครับ แต่มัมก็รู้ดีว่า ผมจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่ผมไม่ได้รักเด็ดขาด แค่นี้นะครับ งานผมยุ่งมากเลย บายครับมัม” โลเวลล์รีบพูดตัดบทวางสาย ด้วยรู้ดีว่าถ้าถือสายนานกว่านี้อีกนิดจะต้องโดนบ่นยาวเป็นหางว่าว ชายหนุ่มทำหน้าเอือมระอา
ฝ่ายมาดามนันทิชาได้แต่ร้องเรียกชื่อลูกชายไปตามสาย (โลเวลล์… พูดกับมัมให้รู้เรื่องก่อนลูก) ทว่าเขาตัดสายเธอทิ้งไปเสียก่อนแล้ว
น่าตีจริง ๆ ลูกคนนี้
“เฮ้อ… ทำยังไงดีคะคุณ ลูกชายตัวแสบของคุณพูดกันยังไม่รู้เรื่องก็วางสายซะแล้ว” เธอหันไปพูดกับสามี คู่สนทนากลับเพียงยกยิ้มพลางจิบกาแฟอย่างอารมณ์ดี
“คุณก็ปล่อยลูกไปก่อน ลูกพร้อมก็มีเองละ ไป! เดี๋ยวผมพาไปชอปปิง คุณจะได้อารมณ์ดี” ปีเตอร์พูดปลอบใจ พลอยนึกย้อนไปถึงสมัยก่อน ช่วงที่เขายังไม่เจอนันทิชา เขาก็เสเพลแบบโลเวลล์ เพราะเกิดมาในตระกูลร่ำรวย เขาจึงทำตัวอยู่เหนือกฎทุกอย่างที่คนปกติเขาทำกัน แต่พอเขาได้สบตานันทิชา ปีเตอร์ถึงกับลืมหายใจและพยายามทุ่มเทเพื่อเอาชนะใจเธอ จนเธอใจอ่อนยอมแต่งงานกับเขา จากนั้นก็มีลูกชาย เขาคิดว่าโลเวลล์คงเหมือนเขา ถ้าเมื่อเจอผู้หญิงคนนั้น คนที่ทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เจ้าลูกชายจะหยุดชีวิตแบบนี้เองโดยไม่ต้องบังคับ
มาดามนันทิชาได้แต่ค้อนให้สามีอย่างงอน ๆ “ใช่สิ! ตอนคุณยังเป็นหนุ่มคุณก็เป็นแบบนี้นี่” ถึงกระนั้นในใจกลับคิดว่า ปล่อยไว้คงไม่ได้การ เดี๋ยวจะหาลูกสาวเพื่อนมาให้ดูตัวดีกว่า
“บ้าฉิบ!!” โลเวลล์สบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย หลังจากวางสายจากมาดามนันทิชา ชายหนุ่มนั่งพิงพนักเก้าอี้หนังราคาแพง วางเอกสารในมือลงบนโต๊ะ เขาใช้นิ้วเคาะปากกากับโต๊ะเป็นจังหวะ คิ้วหนาได้รูปขมวดเข้าหากัน
ทำไมมัมจะต้องเป็นกังวลกับเรื่องแต่งงานของเขามากขนาดนี้นะ อยู่แบบนี้ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เงินทองมีให้ใช้ชาตินี้กับอีกสิบชาติก็ไม่รู้จะหมดหรือเปล่า มันก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ ไม่น่ามากดดันเขาเรื่องแต่งงานเลย ให้ตายสิ! ชีวิตนี้จะขออยู่เป็นโสดไปจนตายเลยไม่ได้หรือไร เขาแค่อยากใช้ชีวิตให้คุ้มที่สุด ครั้นคิดถึงปาร์ตี้ฟองสบู่กับน้อง ๆ หนู ๆ นุ่งน้อยห่มน้อย ชายหนุ่มก็คึกคักแล้ว นอกจากนั้นเพื่อนสนิททั้งสองคนของเขายังไม่ได้แต่งงาน แล้วจะให้เขาแต่งก่อนเพื่อนได้อย่างไร
แบบนี้มันไม่แฟร์กับเขาเลย