บทที่ 2 ตอนที่ 1

1673 Words
“ค่ะคุณภาม หงส์...ยังทำงานอยู่เลยค่ะ” ‘ให้ผมไปรับนะ’ ปลายสายกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น คนฟังเหมือนจะหายเหนื่อยในบัดดล หลังจากต้องเผชิญงานหนักมาค่อนคืนแล้ว “วันนี้วันหยุด คุณภามพักผ่อนดีกว่าค่ะ บ้านอยู่ใกล้ๆ นี่เอง หงส์ก็เดินกลับทุกวันอยู่แล้ว” ‘ให้ผมไปรับดีกว่า...วันหยุด ไม่ได้เห็นหน้ากันตั้งสองวันเชียว’ “ก็ได้ค่ะ คุณภาม เอ่อ...สักเที่ยงคืนครึ่งนะคะ ตอนนี้หงส์ยังทำงานไม่เสร็จเลย” ‘โอเคครับ อีกสองชั่วโมงเจอกันครับ’ แล้วเขาก็วางสาย... ติรณากำโทรศัพท์เอาไว้อย่างลืมตัว เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่ไม่ค่อยจะปรากฏบ่อยนัก แต่เธอก็ไม่กล้าคาดหวังอะไรมาก เพราะรู้ตัวเองดีว่าควรอยู่ที่ตรงไหน... ภวัตเป็นผู้ชายแสนดี เขาอบอุ่น อ่อนโยน...คอยช่วยเหลือแนะนำเรื่องงานหลายอย่าง เมื่อสามเดือนก่อน เขาก็ช่วยให้เธอเลื่อนเป็นพนักงานประจำในแผนกจัดซื้อ ซึ่งเขาเป็นผู้จัดการ หลังจากก่อนหน้านี้เธอทำงานอยู่ในตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวได้สองปีเต็ม ซึ่งมันก็ช่วยให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นระดับหนึ่ง ได้เงินเพิ่มขึ้น มีสวัสดิการต่างๆ ครอบคลุม แม้จะต้องแลกกับข่าวเสียๆ หายๆ และเสียงซุบซิบนินทาจากพนักงานคนอื่นๆ แต่ติรณาก็ไม่เคยสนใจ คนพวกนั้น...ไม่ได้มาช่วยอะไร แถมยังคอยดูถูกดูแคลนกันด้วยซ้ำ เนื่องจากการแต่งตัวที่แสนธรรมดา สวมใส่เสื้อผ้าราคาถูกๆ ไร้รสนิยม และสิ่งที่พวกเขาเมาท์มอยกัน หลายครั้งเธอก็ไม่เข้าใจ กลายเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม ในแต่ละวันไม่เคยพูดจาปราศรัยกับใครมากไปกว่าเรื่องงาน แต่สำหรับภวัตเขาพิเศษ...เป็นคนที่เข้าใจ และไม่เคยดูถูกเธอเหมือนคนอื่นๆ แม้ฐานะทั้งทางสังคมและหน้าที่การงาน ช่างแตกต่างกันเหลือเกินก็ตาม แต่ความสุขทางใจ...เมื่อใกล้ชิดกันมากเข้า เป็นใครก็ย่อมโหยหา และอีกอย่างชายก็ไม่ได้มีพันธะ เขายังโสด เธอไม่ได้ทำผิดต่อผู้ใด เหมือนที่พ่อกับผู้หญิงคนนั้นทำกับแม่... เมื่อเช็ดล้างทำความสะอาดถ้วยชามและครัวเสร็จเรียบร้อย ติรณาก็หยิบอาหารที่เจ้าของร้านวางไว้ให้ใส่กระเป๋าสะพายหลังของเธอ จากนั้นก็ออกจากร้านไปล็อกประตูลูกกรงเหล็กขนาดใหญ่ เมื่อเอี้ยวตัวหันมองนอกถนน ก็พบว่ารถของภวัตกำลังเลี้ยวเข้ามาจอดตรงหัวโค้ง เลยร้านที่เธอทำงานอยู่ไปเล็กน้อย แล้วเขาก็โทร.หา “หงส์เห็นรถแล้วค่ะคุณภาม” เธอยิ้ม แล้วโบกมือให้เขา ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า พลางวิ่งกึ่งเดินไปที่รถ ก่อนจะเปิดประตูตรงที่นั่งด้านข้างคนขับ ชายหนุ่มที่รออยู่แล้วก็ส่งยิ้มหวานให้ ติรณารู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ภวัตมารับตน เขาและเธอไม่เคยมีส่วนตัวด้วยกันเลย ได้เจอกันเฉพาะเวลาอยู่ที่บริษัทเท่านั้น ความสัมพันธ์ก็อยู่ในสถานะต้องปกปิด เพื่อไม่ให้กระทบต่อหน้าที่การงานของกันและกัน “เหนื่อยไหม...เลิกดึกเชียว” เขาถาม พลางโยกเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งออกรถจากที่ตรงนั้น “หงส์ชินแล้วค่ะ” “แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง หิวหรือเปล่า” ชายหนุ่มหันไปถามคนนั่งข้าง “ไม่หิวค่ะ หงส์กินมาเรียบร้อยแล้ว” “ถ้างั้นไปนั่งดื่มกับผมหน่อยได้ไหม ไม่นานหรอก” เขาว่าโดยกำชับเรื่องเวลา เพราะรู้ดีเรื่องที่ติรณามีแม่ป่วยติดเตียง ต้องรีบกลับไปดูแล “เอ่อ...” ติรณาก้มหน้างุด กะพริบตาด้วยความลังเลใจ “แค่ครึ่งชั่วโมง...ผมยังไม่อยากกลับบ้านน่ะ ไปหาที่นั่งใกล้ๆ บ้านหงส์ก็ได้นะ” ภวัตยังคงไม่ละความพยายาม อย่างน้อยๆ เขาก็อยากให้เธอผ่อนคลายจากงานและความเหน็ดเหนื่อยบ้าง “ก็ได้ค่ะ...” หญิงสาวตัดสินใจ ทั้งที่ยังรู้สึกเป็นห่วงแม่ แต่ปกติแล้วหากมีงานเยอะเธอก็กลับบ้านสายเกือบตีหนึ่งตีสองก็เคย นี่เพิ่งจะเที่ยงคืน... และแม่ก็คงหลับสนิทไปแล้ว แค่เดี๋ยวเดียว...คงไม่เป็นไร เมื่อตกลงกันได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็หันมาพยักหน้าแล้วยิ้มให้ ก่อนจะขับรถไปจอดยังร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง เพื่อหาซื้อเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวสองสามอย่าง จากนั้นก็พาหญิงสาวไปนั่งที่สวนสุขภาพใกล้ๆ บ้านเธอ ซึ่งยังมีแสงสว่างจากหลอดไฟหลายดวง แม้จะเป็นช่วงดึกมากแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว “ถ้าหงส์มีเวลาว่างบ้างก็ดีนะ...ผมอยากพาหงส์ไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อ” ชายหนุ่มกล่าวพลางเปิดฝากระป๋องเบียร์แล้วยกขึ้นดื่ม แถวนี้ไม่มีร้านอาหาร หรือร้านนั่งดื่มเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะเป็นเขตชานเมือง ผู้คนจึงไม่ได้พลุกพล่าน ครั้นจะพาไปที่อื่นมันก็ไกลจากที่พักของหญิงสาว ส่วนเวลาอื่นเธอก็ไม่ว่าง แม้จะเป็นวันหยุดบริษัทก็ตาม ดังนั้นวิธีเดียวที่พอจะหาอะไรมานั่งดื่มกันเป็นการส่วนตัวก็คงมีทางเดียวนี้ “ขอโทษนะคะคุณภาม บางทีหงส์ก็ติดว่าคุณไม่ควรมาเสียเวลากับหงส์เลย...” ตลอดหนึ่งเดือนที่ชายหนุ่มขอคบหากันอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ว่าเธอไม่อึดอัด ไม่คิดมาก แต่เพราะความดีของเขาทำให้ไม่อาจหักห้ามความรู้สึกได้ เพราะเธอเองก็แอบชอบเขามาตั้งนานแล้ว ก่อนหน้าจะได้เป็นพนักงานประจำด้วยซ้ำ... แต่ที่ผ่านมาไม่เคยกล้าคิดอาจเอื้อมเท่านั้น...ด้วยความต่างกันทุกด้าน กลัวจะเป็นภาระให้กับเขา ที่สำคัญ...เธอยังมีพันธะอยู่กับคิมหันต์ แม้จะเป็นเพราะข้อตกลงบางอย่าง แต่เอาเข้าจริงเธอก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถหลุดพ้นจากเขาได้หรือเปล่า สิ่งที่กำลังทำอยู่มันดูเห็นแก่ตัวเหลือเกิน แต่มุมหนึ่งของหัวใจ...เธอก็อยากมีที่พักพิงให้กับชีวิตที่แสนจะเหนื่อยล้านี้บ้าง ก็เท่านั้น... “อย่าคิดมากสิ...ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนผมจะไม่รู้ว่าหงส์เป็นยังไง ที่ผมชอบหงส์ ก็เพราะหงส์เป็นแบบนี้แหละ” สีหน้าของเขายังเต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น พลางยื่นมาไปลูบศีรษะหญิงสาวเบาๆ อย่างให้กำลังใจ “ขอบคุณนะคะ แต่ถ้าวันหนึ่งคุณภามเหนื่อยที่ต้องคบกับผู้หญิงอย่างหงส์ ก็บอกได้เลย หงส์รู้ตัวดีว่าไม่ได้เหมาะสมกับคุณ” กระนั้นก็ยังอยากไขว่คว้าเอาไว้... “เราจะผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน...ผมอยากให้หงส์บอกผมมานะว่าเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่ จะได้จัดการให้ ถ้าไม่มีหนี้หงส์ก็ไม่ต้องลำบากทำงานหนักขนาดนี้แล้ว” “ไม่ได้หรอกค่ะ...แค่คุณดีกับหงส์มันก็มากพอแล้ว” หญิงสาวรีบปฏิเสธพัลวัน ด้วยสีหน้าตื่นๆ เธอผิดเองที่พลั้งปากพูดเรื่องหนี้สินกับเขา ทั้งที่ไม่ควรเลย “ให้ยืมก็ได้ ค่อยทำงานแล้วจ่ายคืน แต่ไม่ต้องไปทำที่ร้านอาหารแล้วนะ...เวลาที่เหลือจะได้ดูแลผมกับแม่ของหงส์” ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อม เพราะอยากยื่นมือเข้าไปช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของเธอบ้างด้วยใจจริง “ปัญหาของหงส์...ให้หงส์รับผิดชอบเถอะค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นแต่งงานกับผมนะ ภาระของภรรยาก็เท่ากับเป็นของสามีด้วย” เขากระดกเบียร์ในกระป๋องหมดแล้วก็วางลง พลางยิ้มหวานให้กับติรณา เธอเขินจนเฉไฉหันไปมองทางอื่น “เรา...เพิ่งคบกันได้แค่สามเดือนเองนะคะ อีกอย่างหงส์รู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับคุณเลย” เธอหันมองเขาด้วยแววตาเศร้า อยากขอบคุณเขาในช่วงเวลาที่ผ่านมา และบอกลา...เพราะสิ่งที่ได้รับมันมากเกินพอแล้ว ไม่อยากเป็นตัวถ่วงชีวิตให้ภวัตต้องมาเสียเวลากับตนนานไปกว่านี้... “แต่เรารู้จักกันมาสองปีแล้ว...รู้นิสัยใจคอกันพอสมควร ทุกอย่างมันต้องมีจุดเริ่มต้นเสมอ เวลาไม่ใช่เรื่องชี้วัดอนาคตนะหงส์ บางคนเจอกันแค่วันเดียวก็อยู่ด้วยกันได้ทั้งชีวิต บางคน...อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต กลับมาทิ้งกันไปในช่วงบั้นปลาย ถ้าเราไม่มีการเริ่มต้นเราก็ไม่มีวันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เหมือนตอนที่เราตัดสินใจคบกัน ทุกอย่างมันก็เริ่มขึ้นแล้ว และเราก็เห็นว่ามันไปต่อได้นะหงส์” ชายหนุ่มกล่าวอย่างมีเหตุมีผล ระหว่างเขากับเธอไม่ใช่เรื่องฉาบฉวย แต่ค่อยเป็นค่อยไป ตามลำดับความสัมพันธ์ที่ถูกที่ควร... “ขอบคุณมากนะคะคุณภาม...ขอบคุณที่ไม่เคยรังเกียจหงส์เลย” เธอกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ มีไม่กี่คนหรอกที่อยากจะเข้ามาเฉียดชีวิตเธอ และคนเหล่านั้นเธอก็ย่อมอยากรักษาเอาไว้ให้ถึงที่สุด “รังเกียจเรื่องอะไรกัน หงส์เป็นคนดี ขยัน มีความรู้ความสามารถ มีงานทำ กตัญญูมากๆ ด้วย” เจ้าของเสียงทุ้มร่ายยาว รอยยิ้มของเขาไม่เคยจางหายไปจากใบหน้า ในยามที่สายตาสบมองเธอ หญิงสาวแก้เขินด้วยการหยิบเอาน้ำแอปเปิลในขวดขึ้นมาเปิดดื่ม เธอไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์ เพราะต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย หากปล่อยให้ตัวเองเมา คงเสียงานเสียการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้ภวัตก็เข้าใจ สองหนุ่มสาวนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงเวลาที่เธอต้องกลับบ้าน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD