วันต่อมา
มะลิตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อไปใส่บาตรจากนั้นก็ไปเข้าเวรเช้าต่อที่แผนกผู้ป่วยหญิง กำลังเดินเข้าไปในแผนกก็เจอหมอต้นเดินออกมาพอดี
"อ้าว พี่ต้นกำลังจะออกเวรเหรอคะ"
"ใช่จ้ะ พี่ง่วงมากเลย ว่าจะไปหากาแฟร้อนๆ ดื่มสักหน่อย"
"งั้นมะลิขอตัวก่อนนะคะ"
"จ้ะ ไปเถอะ พี่ก็จะกลับแล้วเหมือนกัน" ส่งยิ้มให้มะลิแล้วเดินออกไป
ด้านมินกำลังวุ่นอยู่กับการจัดร้านกาแฟของตัวเองกับพนักงานอีกสองคน เพราะใกล้เวลาที่ร้านจะเปิดแล้ว ถึงจะเป็นร้านเล็กๆ แต่เธอก็ภูมิใจที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก มินกำลังเช็ดทำความสะอาดแก้วอยู่ตรงเคาร์เตอร์ ลูกค้าคนแรกก็เดินเข้ามาพอดี
"คุณครับผมขอเอสเพรสโซ่ร้อนๆ ที่หนึ่งครับ"หมอต้นเอ่ยขึ้น
"ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ คุณลูกค้า" มินพูดทั้งที่ยังหันหลังอยู่
"ครับ" เดินไปหาโต๊ะนั่งที่อยู่มุมหนึ่งของร้าน สายตาก็กวาดไปทั่วร้านปกติเขาจะดื่มอีกร้านหนึ่งแต่วันนี้ร้านปิดเขาเลยต้องมาร้านนี้
มินจึงรีบลงมือชงกาแฟด้วยตัวเองเพราะให้พนักงานอีกสองคนออกไปชื้อของช่วยกันเพื่อเอามาเติมในร้าน พอชงเสร็จมินก็ยกไปเสิร์ฟให้ที่โต๊ะด้วยตัวเอง
"ได้แล้วค่ะ จะรับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ" พูดพลางยกแก้วกาแฟลงวางบนโต๊ะ
"ผมขอเค้กอีกสักชิ้นหนึ่งก็ได้ครับ" เงยหน้าขึ้นมามองหน้ามิน
พอหมอต้นเห็นหน้ามินก็หยุดมองไม่ได้ เหมือนกับต้องมนต์สะกด เพราะเธอทั้งสวยและน่ารัก จนมินเริ่มประหม่าทำตัวไม่ถูกที่อยู่ๆ ก็ถูกผู้ชายแปลกหน้ามองไม่ยอมละสายตา
"คุณจะรับเค้กอะไรดีคะ"
"เอ่อ ผมขอเป็นเค้กนมสดก็แล้วกันครับ"
"ขอโทษค่ะ ทางร้านเราไม่มี"
"เอ่อ แล้วมีเค้กอะไรบ้างครับ"
"มีเค้กช็อคโกแลต กับวนิลาค่ะ"
"งั้นผมเอาเค้กช็อคโกแลตก็แล้วกันครับ" ยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม
"ค่ะ " เดินตรงไปที่ตู้เก็บเค้กแล้วหยิบเค้กช็อคโกแลตที่ตัดเป็นชิ้นออกมาใส่ในจานเล็กๆ แล้วยกไปเสิร์ฟให้หมอหนุ่ม
"มาแล้วค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ"
"ขอโทษนะครับ ร้านนี้เพิ่งเปิดเหรอครับ ทุกอย่างยังดูใหม่อยู่เลย"
"ใช่ค่ะ เพิ่งเปิดมายังไม่ถึงปีเลย"
"อ่อ เหรอครับ" พยักหน้ารับรู้แล้วทานเค้กกับกาแฟต่อ
มินเห็นพนักงานสองคนเดินถือของที่ให้ออกไปชื้อเดินเข้ามาในร้านพอดี เธอจึงรีบเข้าไปช่วยถือแล้วเอาไปเก็บช่วยกันที่เคาร์เตอร์
"ครบหมดตามที่สั่งให้ชื้อแล้วใช่ไหมจ้ะ"
"ครบหมดแล้วค่ะ พี่มิน" ขิงเอ่ยขึ้นที่เรียกเจ้านายตัวเองว่าพี่เพราะมินอยากให้เป็นกันเองมากขึ้น
"เก็บตังครับ" หมอต้นหันไปตรงเคาร์เตอร์
"ครับ"เอส พนักงานชายอีกคนจึงรีบเดินไปที่โต๊ะของหมอหนุ่มทันที พอคิดเงินเสร็จกำลังจะเดินกลับไปทำงานของตัวเองต่อ แต่ถูกเรียกเอาไว้ก่อน
"เดี๋ยวก่อนครับ ไม่ทราบว่าผู้หญิงสวยๆ คนนั้นชื่ออะไรเหรอครับ" หันไปมองทางมิน
"ชื่อพี่มินครับ เป็นเจ้าของร้าน" เอสเอ่ยขึ้น
"ขอบคุณครับ ไว้ผมจะมาอุดหนุนใหม่" หันไปมองหน้ามินแวบหนึ่งแล้วเดินออกจากร้านไป
"ครับ"
ด้านภาคินกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงริมสระบัวมองออกไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายน้ำตาคลอเบ้า
"คุณคินไปทำกายภาพกันเถอะค่ะ" น้อยเอ่ยขึ้น
"ผมไม่อยากทำ จะไปไหนก็ไปไม่ต้องมายุ่ง"
"งั้นทานผลไม้ก่อนก็ได้ค่ะ" วางจานผลไม้ไว้บนโต๊ะ
"ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงออกไป!" ตวาดเสียงดัง
"ค่ะ พี่ไปเดี๋ยวนี้แหละ" รีบออกไปจากตรงนั้นทันที
พอน้อยออกไปภาคินก็หันไปปัดจานผลไม้แรงๆ จนตกแตกกระจายเกลื่อนพื้น เพื่อระบายความเก็บกดที่อยู่ข้างใน กำมือแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดปูนอย่างเห็นได้ชัด น้อยได้แต่มองอยู่ห่างๆไม่กล้าเข้าไปใกล้ จึงรีบวิ่งไปบอกอัมพรกับสุวัตรที่อยู่ในบ้าน ปกติจะเรียกมินแต่มินไปที่ร้านตั้งแต่เช้าแล้ว
อัมพรกับสุวัตรทราบเรื่องก็รีบมาที่บ้านหลังเล็กด้วยความร้อนใจ เห็นภาคินนั่งหันหลังอยู่ และเศษจานแตกกระจายเต็มพื้น อัมพรจึงเดินเข้าไปปลอบด้วยการกอดและลูบหัวเบาๆ
"คินเป็นอะไรไหนบอกแม่มาสิ อย่าเก็บไว้คนเดียวเลยนะลูก"
"ผมอยากตายครับแม่ ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม" กอดอัมพรไว้แน่นน้ำตาไหลอาบแก้ม
"อยู่เพื่อแม่กับพ่อและน้องยังไงล่ะ เราทุกคนรักลูกมากนะรู้ไหม"
"ครับผมรู้ ผมแค่ไม่อยากเป็นภาระให้ใครจะต้องมาดูแลอีกแล้ว"
"ไม่มีใครเป็นภาระใครทั้งนั้นแหละ ขอให้ได้อยู่ดูแลกันไปตลอดชีวิตก็พอแล้ว แม่ขอแค่นี้แหละ" พูดพลางน้ำตาคลอเบ้า
"ผมเป็นห่วงสวนส้มครับ"
"ไม่ต้องห่วงหรอกลูกคนงานเขาทำตามที่ลูกสั่งไว้ทุกอย่างแล้ว"
ภาคินไม่ตอบหรือพูดอะไรอีก แต่กลับสวมกอดอัมพรไว้แน่นเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้ตัวเอง เพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ ส่วนสุวัตรได้แต่ยืนมองปล่อยให้อัมพรปลอบลูกชายไป ยิ่งนับวันภาคินก็ยิ่งเกรี้ยวกราดและอารมณ์ร้อนขึ้นทุกวันไม่เหมือนเมื่อก่อน
ตอนเย็นของวันถึงเวลาเลิกงานมะลิเก็บของเสร็จกำลังจะเดินออกไปจากแผนก ไอซ์ก็เดินเข้ามาพอดี
"อ้าว มะลิจะกลับแล้วเหรอ"
"ใช่จ้ะ"
"แล้ววันนี้มีนัดกับหมอต้นเหรอ"
"เปล่าจ้ะไม่มีขอตัวก่อนนะ" เดินผ่านหน้าไอซ์ออกไป
ไอซ์ได้แต่มองตามหลังมะลิที่เดินออกไปด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะเธออยากรู้ความสัมพันธ์ของหมอต้นกับมะลิให้มากกว่านี้
ด้านมะลิพอไปถึงหอพักก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดพยาบาลสีขาวเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาว พร้อมกับกระเป๋าสะพายบ่าสีดำใส่ของเล็กน้อย และไม่ลืมการ์ดที่เขียนข้อความข้างในเตรียมไว้กับคุกกี้อีกหนึ่งกล่องเพื่อเอาไปฝากภาคิน
มะลิออกมายืนรอมินตรงหน้าโรงพยาบาล ไม่นานรถเก๋งสีดำของมินก็แล่นมาจอดตรงหน้ามะลิ มินจึงเรียกมะลิให้ขึ้นรถ จากนั้นก็แล่นรถออกตรงไปยังบ้านพงษ์ไพศาลที่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก ระหว่างทางทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย
"เป็นไงบ้างเหนื่อยไหมวันนี้" มินเอ่ยถามขึ้น
"ก็เหนื่อยเป็นปกตินั้นแหละ แล้วมินล่ะ"
"ฉันเพิ่งเข้าร้านวันนี้เป็นวันแรกเอง หลังจากที่ไปเที่ยวทะเลมา"
"แล้วลูกค้าเยอะไหม"
"ก็เรื่อยๆ ไม่ถึงกับเยอะอะไรหรอก"
"งั้นเหรอ ฉันว่าจะไปอุดหนุนร้านเธอสักหน่อย" ส่งยิ้มให้มิน
"ก็ไปสิ ฉันจะบริการเธอเป็นอย่างดีเลยล่ะ" มินพูดปนหัวเราะ
"เจ้าของร้านออกตัวซะขนาดนี้ ไม่ไปคงไม่ได้แล้วล่ะ" มะลิพูดยิ้มๆ
"จ้ะ แม่พยาบาลคนสวย" หันมาส่งยิ้มให้มะลิ
มินขับรถไปเรื่อยๆ ไม่นานก็มาถึงบ้านจึงเลี้ยวเข้าไปจอดตรงลานจอดรถภายในบ้าน พอรถจอดสนิททั้งคู่ก็ลงมาจากรถ มินพามะลิตรงเข้าไปในบ้านหลังใหญ่เพื่อไปพบพ่อกับแม่ ก่อนที่จะไปที่บ้านหลังเล็ก แต่กลับไม่เจอใครเลยสักคน มินจึงไปถามป้าชุ่มแม่ครัวใหญ่
"ป้าค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ไปไหนเหรอคะ" เดินเข้าไปในครัว
"ไปอยู่เป็นเพื่อนคุณคินที่บ้านหลังเล็กค่ะ"
"มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าคะ "
"จะว่ามีก็มีนะคะ"
"หมายความว่ายังไงคะ มินไม่เข้าใจ"
"คือคุณคินไม่เอาใครเลยค่ะตอนนี้นอกจากพ่อกับแม่ แกอาละวาดใหญ่เลยนะคะ จะทำกายภาพให้ก็ไม่ยอมให้ทำค่ะ" ป้าชุ่มพูดเสียยืดยาว
"โธ่ พี่คิน งั้นมินขอตัวไปดูพี่คินก่อนนะคะ"เดินออกจากห้องครัวไป
"ค่ะ"
"มะลิไปบ้านหลังเล็กกันเถอะ พ่อกับแม่ฉันอยู่ที่นั้น" เดินนำหน้ามะลิออกไป
มะลิเดินตามหลังมินไปตามทางเดินที่แยกออกมาจากบ้านหลังใหญ่ เดินไปไม่กี่เมตรก็ถึงบ้านไม้ชั้นเดียวถึงจะไม่ใหญ่มากแต่ก็น่าอยู่
"คุณพ่อคุณแม่ค่ะ พี่คินล่ะคะอยู่ไหน"มินเดินเข้าในบ้านเจออัมพรกับสุวัตรนั่งอยู่ตรงโซฟากลางบ้าน
"อยู่ข้างในห้องจ้ะ" อัมพรเอ่ยขึ้น
"สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า" มะลิยกมือไหว้
"สวัสดีจ้ะ หนูมะลิใช่ไหม"อัมพรรับไหว้
"ใช่ค่ะ "
"โตเป็นสาวแล้วสวยขึ้นเยอะเลย จริงไหมคะคุณ" หันไปถามสามีตัวเอง
"ใช่สวยขึ้นเยอะเลย เมื่อก่อนยังร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่เลย" สุวัตรพูดพลางหัวเราะ
"แม้พ่อกับแม่ชมมะลิกันใหญ่เลยนะ ทีกับลูกตัวเองไม่เคยชม"
"จะไปหาพี่ไม่ใช่เหรอก็ไปสิ" อัมพรเอ่ยขึ้น
"มาพอดีเลย พี่คินจะไปไหนเหรอคะ " ภาคินเคลื่อนวีลแชร์ออกมาจากห้องพอดี
พอมะลิเห็นสภาพของภาคินก็อดที่จะสงสารไม่ได้เพราะสภาพของเขาตอนนี้ต่างจากเมื่อหลายปีก่อนมาก หน้าตาไม่สดใสเหมือนอมทุกข์อยู่ตลอดเวลา แววตาแข็งกระด้างปนเศร้า แล้วก็ผอมซูบลงและที่ทำให้ยิ่งน่าเห็นใจมากไปกว่านั้นก็คือขาทั้งสองขาที่เดินไม่ได้อีกแล้ว
"มาค่ะ มินช่วยไปตรงริมสระบัวกันดีกว่า" เข็นพี่ชายตัวเองออกไปจากตัวบ้านแล้วไปหยุดตรงริมสระ โดยที่มะลิเดินตามไปติดๆ
"มะลิเข้ามาสิ " มินเรียกมะลิให้เข้าไปหาภาคินใกล้ๆ
"สวัสดีค่ะ พี่คิน" ยกมือไหว้พร้อมกับส่งยิ้มให้
ภาคินหันมามองหน้ามะลิแล้วหันกลับไปทางเดิม โดยไม่ตอบรับหรือพูดอะไรสักคำ แต่ความสวยสดใสของมะลิทำให้ภาคินชะงักไปชั่วครู่หนึ่งเหมือนกัน มะลิหุบยิ้มลงทันทีที่ภาคินทำอย่างกับเธอเป็นธาตุอากาศไม่มีตัวตน
"พี่คินรู้ไหมคะ ว่ามะลิเป็นพยาบาลอยู่โรงพยาบาลประจำอำเภอเรานี้เอง" มินพูดขึ้นทำลายความเงียบ
ภาคินเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาอะไรกับใครทั้งนั้น จนมินหันไปมองหน้ามะลิแล้วก็ไปสะดุดตากับของฝากที่มะลิถืออยู่ในมือ เธอว่าจะถามตั้งแต่อยู่ในรถแล้วแต่ก็ลืมไป
"นั้นของฝากพี่คินใช่ไหม"
"ใช่จ้ะ คุกกี้กล่องนี้ฉันตั้งใจเอามาฝากพี่คิน" หันไปมองหน้าภาคินที่เอาแต่นั่งนิ่ง
"มาเดี๋ยวฉันจะเอาไปใส่จานมาให้พี่คินดีกว่า ฝากพี่คินด้วยนะมะลิ" รับกล่องคุกกี้แล้วเดินเข้าไปในบ้าน
"พี่คินชอบดอกบัวเหรอคะ" เดินไปยืนอยู่ข้างๆวีลแชร์
"ฉันจะชอบหรือไม่ชอบอะไรมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย แล้วเลิกเรียกฉันว่าพี่ได้แล้ว ฉันไม่ใช่พี่เธอ" พูดด้วยน้ำเสียงกระด้าง
มะลิได้ยินอย่างนั้นก็หน้าเจื่อนลง ไม่รู้ว่าภาคินคิดอะไรถึงได้พูดแบบนั้นออกมา เหมือนต้องการสร้างกำแพงกั้นไว้ไม่ให้ใครเข้าถึงได้
"มาแล้วค่ะ พี่คินลองชิมหน่อยนะคะ มะลิอุตส่าห์ชื้อมาฝาก" มินถือจานใส่คุกกี้เดินเข้าพร้อมกับหยิบคุกกี้ยื่นไปป้อนภาคินถึงปาก
"พี่ไม่อยากกิน" เบือนหน้าหนีไปทางอื่น
"ก็ได้ค่ะ ไม่ทานก็ไม่ทาน" มองหน้าพี่ชายตาละห้อย
"หนูมะลิอยู่ทานข้าวเย็นกับพวกเราก่อนนะ แล้วค่อยกลับ" อัมพรเดินเข้ามา
"จะดีเหรอคะ หนูเกรงใจค่ะ"
"ไม่ต้องเกรงใจหรอก"อัมพรเอ่ยขึ้น
"คุณแม่พูดถูกค่ะ จะเกรงใจอะไรเราเป็นเพื่อนกันนะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งเอง" มินส่งยิ้มให้มะลิ
"เดี๋ยวแม่กับพ่อกลับไปบ้านใหญ่ก่อนนะ ตามสบายนะ หนูมะลิ"
"ค่ะ"
"พี่ขอตัวก่อนก็แล้วกัน" พูดจบภาคินก็เคลื่อนวีลแชร์หายเข้าในห้อง
มินจึงชวนมะลิไปนั่งคุยกันตามประสาผู้หญิงตรงโซฟากลางบ้านเล็กด้วยกันอย่างสนุกสนาน จนน้อยเดินเข้ามาพอดี
"พี่น้อยค่ะ วันนี้พี่คินอาละวาดอีกแล้วใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะ ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับพี่เลย"
"อดทนหน่อยนะคะ พี่น้อยลองดูไปก่อนเผื่อพี่คินจะอารมณ์เย็นลงบ้าง"
"ค่ะ" รับคำแล้วเดินออกไป
"มะลิฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะเดี๋ยวมา"มินเอ่ยขึ้น
"จ้ะ ตามสบาย" มะลินั่งทานของว่างต่อ
โครม! เสียงดังออกมาจากห้องภาคิน มะลิจึงรีบลุกแล้วเดินเข้าไปข้างในห้องทันที สิ่งที่เห็นตรงหน้าภาคินนอนกองอยู่กับพื้นพยายามจะลุกขึ้นด้วยตัวเอง
"มาค่ะ มะลิช่วย" จับพยุงตัวภาคินขึ้น
"เธอจะมาช่วยฉันทำไม" จ้องหน้ามะลิ
"มะลิเต็มใจช่วยค่ะ แล้วพี่คินจะนั่งตรงไหนคะ"
"ที่เตียง"
มะลิจึงพยุงตัวภาคินไว้ค่อยๆขยับถอยหลังไปที่เตียงโดยที่เธออยู่ตรงด้านหน้าภาคิน จนขามะลิไปชนเข้ากับขอบเตียง และด้วยความที่ตัวภาคินหนักทำให้เธอรับน้ำหนักไม่ไหว จึงทำให้ตัวภาคินล้มลงมาทับตัวเธอ ลงไปนอนบนเตียงอย่างแรง ทำให้ริมฝีปากหนาหยักของภาคินจูบเข้าไปที่แก้มของมะลิเต็มๆ มะลิเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จากนั้นทั้งคู่ก็มองสบตากันโดยไม่ได้นัดหมาย
"มะลิเธออยู่ไหนอะ"เสียงมินเรียกอยู่ข้างนอกห้อง
มะลิจึงรีบขยับตัวเองออกมาจากตัวภาคิน แล้วพยุงให้ภาคินนั่งลงบนเตียงตามที่เขาต้องการ
"อ้าว! อยู่นี้เอง" มินเดินเข้ามาในห้อง
"พอดีพี่คินตกวีลแชร์ฉันก็เลยเข้ามาช่วยพยุงขึ้น" พูดพลางแก้มแดงไปด้วย
"เอาอีกแล้วนะคะพี่คิน บอกแล้วว่าจะทำอะไรให้เรียก ดื้อจริงๆ พี่ชายคนนี้"
"ออกไปได้แล้ว พี่อยากอยู่คนเดียว" มองหน้ามะลิแวบหนึ่ง
"ก็ได้ค่ะ นี้ก็จะเริ่มมืดแล้ว เดี๋ยวมินจะเรียกพี่น้อยให้มาช่วยเตรียมตัวอาบน้ำเลยนะ ไปมะลิออกไปข้างนอกกัน" หันไปมองมะลิที่เอาแต่ยืนก้มหน้าอยู่
มะลิเดินตามหลังมินไปที่บ้านหลังใหญ่ นั่งคุยกันไปสักพักก็ได้เวลารับประทานอาหารเย็น ระหว่างอยู่ในโต๊ะอาหารมินก็ตักโน้นนั้นนี้ใส่ไปในจานของภาคินจนเต็มจานไปหมด
"มินพอได้แล้วพี่ทานไม่หมดหรอก"
"ค่ะ พี่คินตักเพลินไปหน่อย" ส่งยิ้มให้พี่ชาย
"แม่ว่าเปลี่ยนจากตักให้พี่คินเปลี่ยนมาตักให้มะลิดีกว่าไหม ดูสิไม่ยอมตักสักทีไม่รู้จะเกรงใจอะไรนักหนา" อัมพรเอ่ยขึ้น
"ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้า"
"มาฉันตักให้เธอเอง" มินตักแกงใส่จานให้มะลิทันที
"ขอบใจจ้ะ" ตักข้าวเข้าปาก
หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จมะลิก็เตรียมตัวจะกลับหอพักของตัวเองในโรงพยาบาล พอเปิดกระเป๋าออกก็เจอการ์ดที่ตัวเองตั้งใจจะเอาให้ภาคินยังอยู่ในกระเป๋าอยู่ จึงรีบเดินตามหาภาคินจนไปถึงบ้านหลังเล็ก ก็เห็นภาคินนั่งอยู่ข้างนอกพอดี เธอจึงเดินเข้าไป
"พี่คินพอดีมะลิมีของจะให้ค่ะ"
"อะไรของเธออีกฉันนึกว่ากลับไปแล้ว"
"นี้ค่ะ" ยื่นการ์ดไปให้ภาคิน
"ฉันไม่อยากได้"
"รับไปเถอะค่ะ มะลิตั้งใจทำให้เลยนะคะ"
"รับก็ได้ พอใจหรือยังกลับไปได้แล้ว" ยอมรับการ์ดจากมะลิเพื่อตัดรำคาญ
"อย่าลืมเปิดอ่านด้วยนะคะ มะลิกลับก่อนล่ะ สวัสดีค่ะ" ยกมือขึ้นไหว้แล้วเดินออกไป
พอมะลิออกไปภาคินก็ถือการ์ดเข้าห้องไป แต่ยังไม่ยอมเปิดอ่าน ส่วนมะลิเดินไปถึงหน้าบ้านมินก็ออกมาพอดี จากนั้นทั้งคู่ก็ขึ้นรถแล่นออกไปจากบ้าน ระหว่างก็คุยกันไป
"เธอไปไหนมาเมื่อกี้ฉันเห็นเธอเดินมาจากทางบ้านหลังเล็ก " มินถามขึ้นตามองทางข้างหน้า
"ฉันก็ไปเดินเล่นแถวๆ นั้นแหละ"
"จริงอะ ฉันนึกว่าแอบไปหาพี่คิน" มินพูดหยอกมะลิ
"จะบ้าเหรอ" พยายามเก็บอาการเขินไว้
"แม้ไม่ต้องเขินหรอก ฉันรู้ว่าเธอชอบพี่คิน"
"เปล่าสักหน่อย ไม่ได้ชอบ"
"ก็ได้ฉันไม่เถียง แต่ถ้าวันไหนพี่คินชอบมะลิขึ้นมาฉันเชียร์เต็มที่เลยแหละ ถ้าเธอไม่รังเกียจคนพิการนะ"
"รังเกียจอะไรกัน เธอก็รู้ว่าฉันอยากเป็นพยาบาลเพราะอะไร"
"ฉันรู้ คงไม่มีใครเข้าใจคนไข้เท่ากับหมอพยาบาลแล้วล่ะ " มินหันไปส่งยิ้มให้มะลิ
มะลิพยักหน้ารับแล้วก็นั่งเงียบไปตลอดทาง นึกถึงภาพที่ริมฝีปากของภาคินจูบเข้าไปที่แก้มของเธอเต็มๆ อดที่จะเขินอายขึ้นมาไม่ได้ ไม่นานรถก็แล่นไปส่งเธอถึงที่หน้าหอพัก รอจนรถมินลับตาไปมะลิจึงเดินเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัว เสร็จก็ไปล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับตาลง
ด้านภาคินนอนอยู่บนเตียงกำลังจะหลับตาลง ตาก็เหลือบไปเห็นการ์ดที่มะลิให้วางตรงโต๊ะหัวเตียง จึงหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน
ไม่ว่าพี่คินจะเจอกับปัญหาหรืออุปสรรค อะไรก็ตามที่เข้ามาในชีวิตของพี่ตอนนี้ มะลิขอให้พี่สู้ต่อไปนะคะ อย่าเพิ่งท้อ หวังว่าสักวันจะมีปฏิหาริย์ที่ทำให้พี่กลับมาเดินได้อีกครั้ง
สู้ๆ นะคะ จากมะลิ
พออ่านจบภาคินก็เอาการ์ดวางไว้ที่เดิม ปิดไฟหัวเตียงแล้วนอนราบลงไปกับเตียงหลับตาลง แต่ในหัวกลับมีภาพใบหน้าของมะลิลอยเข้ามา กลิ่นหอมๆจากแก้มของมะลิยังคงติดอยู่ตรงปลายจมูกของเขาอย่างตรึงใจ