ตอนที่5

1278 Words
ตอนที่ 5 เหนืออินทรี “ถ้ามึงกล้า มึงก็ยิงเธอสิ” คำพูดของอินทรีทำเอายี่หวาถึงกับเบิกตากว้าง ความกลัวถูกแทนที่ด้วยความโมโห เธอยกมือขึ้นชี้หน้าด่าอินทรีอย่างลืมตัว “อ้าวคุณ พูดออกมาได้ไง ชีวิตฉันมีค่านะ!” “ถ้าจะพูดจาแบบนี้เก็บปากไว้กินข้าวเถอะ เฮ้ อย่ากระชากแขนฉันแรงได้ไหม รู้บ้างไหมว่าฉันเสียค่าครีม ค่าสปา ค่าขัดผิวไปตั้งเท่าไรถึงจะได้ผิวแบบนี้มา” ด้วยความที่อารมณ์ยังคุกรุ่นอยู่ ยี่หวาจึงพาลหันมาตวาดชายชุดดำที่จับตัวเธอเป็นตัวประกันด้วยความหงุดหงิดเช่นกัน ทุกคนต่างหันมองยี่หวาเป็นตาเดียว ใครจะไปคิดว่าหญิงสาวร่างบอบบาง หน้าตาสะสวยเวลาโมโหจะน่ากลัวได้ขนาดนี้ แม้กระทั่งอินทรี ผู้ที่ไม่เคยหวั่นไหวต่อสตรีคนไหนยังเผลอแสดงสีหน้าตกใจไปด้วยเลย “พอกันที พวกนายอยากทำอะไรกันก็เชิญแต่อย่าเอาฉันเข้าไปเกี่ยวด้วย” ยี่หวาพูดออกมาด้วยท่าทางจริงจัง และไม่ลืมหันไปชี้หน้าอินทรีอีกครั้ง “ส่วนนาย ห้ามมาบอกให้ใครยิงฉันอีก” “…” ทุกคนเงียบกริบ ต่างพากันคิดห่วงหญิงสาวในใจเนื่องจากเธอกล้าชี้หน้าด่าอินทรีถึงสองรอบ แต่พอมองไปยังอินทรี กลับชวนให้ฉงนเนื่องจากอินทรีกำลังยกยิ้มมุมปากแทนที่จะเกรี้ยวกราด ระหว่างที่สถานการณ์กำลังตกอยู่ในความมึนงง ยี่หวาเลยเดินกลับไปทางรถของตัวเอง ความหงุดหงิดของเธอตอนนี้ทำให้เธอลืมความกลัวทุกอย่างไปหมด ในใจเพียงแค่คิดว่าอย่าให้ได้เจอผู้ชายอย่างอินทรีอีกเลย แต่ทันใดนั้นเองนายอนุชา และลูกพี่ใหญ่ของฝ่ายที่บุกมาช่วยอนุชาก็ขับรถเข้ามาด้วยความไวเพื่อรับลูกน้องที่เหลือของตัวเองแล้วหนีออกไป “เฮ้ย!! ขึ้นมา” ลูกน้องของอินทรีเห็นอย่างนั้นจึงรีบยิงสกัดแต่ทุกคนยังระวังหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงกลาง นั่นเลยทำให้ค่อนข้างยากต่อการสกัดคนพวกนั้น ปัง ปัง! ฝ่ายของชายชุดดำเองก็ยิงตอบโต้กลับมา โดยไม่สนใจหญิงสาวเลยแม้แต่น้อยจนกระทั่งคนของอินทรีถูกยิงไปอีกสองคน อินทรีรีบวิ่งฝ่ากระสุนเข้าไปหายี่หวาที่กำลังนั่งลงกับพื้นแล้วก้มหน้าลง ปิดหูตัวเอง อินทรีดึงร่างบางที่กำลังสั่นเทาเข้าหาตัว เขาดันศีรษะของเธอให้แนบชิดแผงอกก่อนจะยกปืนขึ้นเล็งไปยังอีกฝั่งเพื่อจะยิงตอบโต้คนพวกนั้น มือบอบบางค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปสัมผัสท่อนแขนของชายหนุ่ม “ฮึก หยุดยิงได้ไหม” ความกลัวกลับมาอีกครั้งเมื่อยี่หวาได้ยินเสียงปืน ตัวเธอสั่นเทาเนื่องจากความกลัวเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นเท่าตัว เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เสียงดังจากปืนที่กำลังโต้ตอบกันทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก รู้สึกไร้เรี่ยวแรงคล้ายจะเป็นลมแม้แต่จะกรีดร้องออกมา เธอยังไม่มีแรงจะทำเลยด้วยซ้ำ อินทรีมองร่างสั่นเทาในอ้อมกอด แล้วจึงลดปืนลงพร้อมทั้งหันไปทำสัญญาณให้ฝ่ายของตัวเองหยุดยิง นั่นเลยเป็นการเปิดโอกาสให้ฝ่ายชายชุดดำพากันขับรถพานายอนุชาหนีออกไป “ให้ตามไปไหมครับคุณอินทรี” “อือ” อินทรีตอบรับลูกน้องทั้งที่สายตายังคงมองหญิงสาวในอ้อมกอดอยู่ “เดี๋ยว” “ครับคุณอินทรี” ลูกน้องของอินทรีรีบหันมาตอบเจ้านาย ตั้งใจรอฟังคำสั่ง “บอกให้ป้ากุหลาบเตรียมห้องรับรองไว้ด้วย” ลูกน้องของอินทรีเลิกคิ้วขึ้น แล้วถามย้ำอีกครั้ง “ห้องรับรองเหรอครับ” “กูพูดไม่เคลียร์รึไง” “เคลียร์ครับ เดี๋ยวผมรีบแจ้งป้ากุหลาบให้นะครับ” ป้ากุหลาบเป็นแม่บ้านของอินทรีซึ่งเธอทำงานดูแลอินทรีมาตั้งแต่อินทรียังเด็ก เธอจึงเป็นคนที่อินทรีค่อนข้างไว้ใจและอนุญาตให้สามารถเข้าออก บ้านของอินทรีได้ตลอดเวลา “เธอลุกไหวไหม” “อือ” ยี่หวาพยักหน้า แล้วพยายามยันตัวลุกขึ้นยืนแต่ไม่ทันยืนขึ้น เธอก็ทรุดลงอีกครั้ง โชคดีที่อินทรีประคองไว้ได้ทัน “โอ๊ย!” “เหอะ ไหนว่าไหว” ดวงตากลมโตเหลือบมองเจ้าของถ้อยคำเยาะเย้ยเล็กน้อย เธอผลักแขนอินทรีออกแต่ก็เป็นเธอเองอีกที่ต้องรีบคว้าแขนเขาไว้อีกครั้งเพราะรู้สึกหน้ามืด คล้ายจะเป็นลม “ถ้าไม่ไหว ก็อย่าทำเก่ง” “ปล่อยค่ะ ฉันจะกลับบ้าน” พรึบ ร่างบางถูกอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว อินทรีก้มลงมองใบหน้าสวยที่ทำท่าจะโวยวายออกมาด้วยแววตาเรียบนิ่ง เพียงเท่านั้นคนขี้วีนถึงกับปิดปากลง รู้สึกราวกับมีรังสีบางอย่างทำให้เธอไม่กล้าโวยวายออกมา “หึ” อินทรีแค่นหัวเราะ แล้วอุ้มหญิงสาวเดินกลับไปยังรถของตัวเอง ตอนแรกที่ยี่หวายอมเงียบเพราะแอบกลัวสายตาของชายหนุ่ม และคิดว่าเขาคงอุ้มไปส่งยังรถของเธอแต่กลับไม่เป็นอย่างนั้นเมื่อเขาวางเธอลงบนเบาะข้างคนขับบนรถจิ๊บคันใหญ่ “คุณจะพาฉันไปไหน ปล่อยนะ” “ดูสภาพตัวเองด้วย เดินแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว” “แต่...” “ฉันไม่เอาเธอไปฆ่าหรอก” “เรื่องอะไร ฉันต้องเชื่อคนที่บอกให้คนอื่นยิงฉันด้วย” ดวงตาคมเหลือบขึ้นมองใบหน้าสวย อินทรีขยับตัวมาใกล้ยี่หวาแล้วใช้แขนแกร่งทั้งสองข้างคร่อมตัวเธอเอาไว้ “พูดด้วยท่าทางแบบนี้อีกแล้วนะ” ยี่หวาขยับตัวออกห่างชายหนุ่ม ความใกล้ชิดระหว่างเขาและเธอทำให้หญิงสาวรู้สึกประหม่าเล็กน้อย มือเรียวบางดันแผงอกแกร่งไว้เพื่อไม่ให้เขาเข้ามาใกล้กว่าเดิม แต่เมื่อได้สัมผัสกับความกำยำภายในของเขา เธอจึงรีบดึงมือออกแล้วแกล้งโวยวายแทน “ท่าทางอะไรของคุณ” “ท่าทางเหมือนเมียกำลังน้อยใจผัว” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดทำนองนี้ออกจากปากชายหนุ่มอีกครั้ง แก้มใสแดงระเรื่อ หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงขึ้นเมื่อใบหน้าหล่อเลื่อนเข้ามาใกล้ “ถอยไปเลย คุณกำลังละเมิดสิทธิ์ฉันนะ” ยี่หวารวบรวมกำลังที่เหลือเพียงน้อยนิดของตัวเองแล้วผลักอกอินทรีออกห่างจากตัว ครั้งนี้อินทรียอมถอยออกแต่กลับขู่เธอเสียงเข้ม “อย่าคิดลงจากรถ ถ้าฉันไม่อนุญาต” “นี่คุณ คุณไม่มีสิทธิ์...” “เฉยเถอะ เธอกลับบ้านไปสภาพนี้คนเดียวไม่ไหวหรอก” “อีกอย่าง พวกนั้นอาจจะย้อนกลับมาจับตัวเธอก็ได้นะ” สิ่งที่อินทรีพูดนั้นมีเหตุผล เหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ยังคงสร้างความหวาดกลัวให้หญิงสาวอยู่ เธอยังจับต้นชนปลายเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ด้วยซ้ำ และตอนนี้ดูเหมือนว่าข้อเท้าของเธอจะได้รับบาดเจ็บอีกด้วย “ฉันจะแจ้งตำรวจ” ยี่หวาโพล่งออกไป ถึงแม้ว่าอินทรีจะไม่มีทีท่าว่าจะทำร้ายเธอแต่อย่างน้อยเธอควรหาอะไรเพื่อปกป้องตัวเองหน่อยก็ยังดี คำพูดของยี่หวาไม่ได้ทำให้อินทรีกลัว มิหนำซ้ำเขายังอำนวยความสะดวกให้เธออีก อินทรีเดินอ้อมมานั่งฝั่งคนขับแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ยี่หวา “โทรสิ แล้วบอกให้มาที่ไร่อินทรี” ——————
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD