bc

ข้าขอนอนสักงีบเถิด

book_age12+
71
FOLLOW
1K
READ
HE
lighthearted
mythology
secrets
like
intro-logo
Blurb

ในสามภพภูมิ สี่คาบสมุทร หกดินแดน

ล้วนมีเทพผู้มีฤทธิ์เดชกล้าแกร่ง เซียนผู้หลุดพ้น มนุษย์วีรบุรุษ และปีศาจดุร้าย

ทว่า หลิวฟางซวง กลับแหวกทุกขนบธรรมเนียมอันพึงมีของเผ่าสวรรค์

เป็นเทพธิดาซึ่งขึ้นชื่อเรื่องขี้เกียจเป็นงานหลัก นอนหลับเป็นงานอดิเรก

ด้วยเหตุนี้เมื่อโดนโทษทัณฑ์ให้ลงมาใช้กรรมบนโลกมนุษย์เป็นเวลาห้าร้อยปี

นางจึงเผลอรับเด็กน้อยสามคนมาเลี้ยงดูหวังจะช่วยลดโทษให้เบาลง

คนหนึ่ง คือมนุษย์ผู้กินของวิเศษเข้าไป

อีกคนหนึ่ง คือครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจงูขาว

ส่วนคนสุดท้าย คือครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพมังกร

เทพธิดาแสนเอื่อยเฉื่อยต้องมารับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงจำเป็น

โดยที่ไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่าที่มาของบทบาทนี้จะมีเบื้องหลังอันยิ่งใหญ่

นางเห็นชีวิตอันสงบสุขของตนกำลังจะถูกทำลาย จึงทำได้เพียงร้องตะโกนว่า...

"ข้าขอนอนสักงีบเถิด!"

chap-preview
Free preview
ภพชาติที่หนึ่ง : เทพธิดาผู้แสนเกียจคร้าน
ภพชาติที่หนึ่ง เทพธิดาผู้แสนเกียจคร้าน “อาซวง...” เสียงเล็กที่ร้องเรียกมาพร้อมกับแรงสะกิดบนไหล่บาง ปลุกให้ผู้ที่กำลังจมอยู่ในห้วงนิทราอันแสนสุขกดหัวคิ้วเข้าหากันน้อยๆ ริมฝีปากอวบอิ่มสีเปลือกลี่จือ[1] ขยับพลางครางออกมาอย่างขัดใจ “อื้อ...” “ท่านอาซวง ท่านอาซวง” ครานี้มิใช่แค่การสะกิด ทว่ายังพ่วงมาด้วยการเขย่าไหล่พลางส่งเสียงร้อนรนเป็นพิเศษ หลิวฟางซวงซึ่งยังเหลือเค้าความงัวเงียสะบัดมือออกหนหนึ่ง เด็กชายร่างเล็กวัยเจ็ดขวบที่มาปลุกก็ถูกคลื่นพลังไร้รูปผลักจนหล่นตุ้บลงไปกองบนพื้นหญ้า “อย่ามากวนใจข้า ข้าขอนอนหลับอีกสักงีบ” นางกล่าวจบก็พลิกตัวนอนตะแคง หันหนีไปอีกทางอย่างไม่ใส่ใจ เตียงไม้ขนาดใหญ่ปูรองด้วยขนแกะนุ่มสบายคล้ายก้อนเมฆาบนสรวงสวรรค์เสียสี่ส่วน แสงแดดรำไรสาดผ่านร่มไม้อุ่นนวลกำลังพอดี สายลมยามชุนเทียน[2] เย็นสบายพัดพาเอากลิ่นมวลบุปผาที่กำลังเบ่งบาน ส่งความฟุ้งหอมละมุนละไมเกลี่ยผ่านหมู่แมลงที่โอบล้อม อา... หากนอนจำศีลสักประเดี๋ยวก็คงครบห้าร้อยปี ร่างอรชรคิดพลางซุกใบหน้าลงกับหมอนนิ่มมากขึ้น หากพอเคลิ้มใกล้ผล็อยกลับ ก็ถูกเสียงเดิมกวนใจขึ้นมาอีกหน “ท่านอาซวง! อาจูกับอาหลงทะเลาะกันอีกแล้ว!” หลิวฟางซวงมินำพาต่อน้ำเสียงร้อนรนของเด็กชายที่แว่วอยู่ข้างหู ดวงตายังคงปิดสนิทขณะที่โบกมือไปมาในอากาศอย่างเกียจคร้าน “เขาอยากจะตีกันก็ปล่อยให้เขาตีกันไป” ว่าแล้วก็เตรียมนอนต่อ... “ท่านอาซวง! อาจูกลายร่างเปลี่ยนเป็นงูแล้วขอรับ!” “ก็ปล่อยให้เปลี่ยนไป” “อะ...อาหลงปะ...แปลงเป็นมังกรแล้ว!” “ก็ดีแล้วนี่” นางพึมพำเสียงเนือย “เขาจะพ่นไฟแล้ว จะพ่นไฟแล้ว!” คนพูดพยายามตะเกียกตะกายปีนขึ้นเตียงมาปลุกนางอีกครั้งด้วยความตื่นตระหนก ทว่าผู้ถูกปลุกกลับอ้าปากหาวพร้อมกับร่ายเวทมนตร์เพิ่มความสูงของเตียงให้มากขึ้นอีกครึ่งผิง[3] ความสูงที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ร่างเล็กๆ หล่นตุบลงบนพื้นซ้ำรอยเดิม ความเจ็บที่ระบมมากกว่าเดิมทำเอาน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างน่าสงสาร มู่หรงอู่ลุกขึ้นยืนก่อนจะลูบก้นที่เจ็บป้อยๆ ครั้นแหงนหน้ามองขาเตียงที่พุ่งสูงขึ้นไปอย่างน่าอัศจรรย์ก็อ้าปากค้าง ในสุดแดนพงไพรแห่งนี้มีเพียงเด็กน้อยสามคนกับท่านอาหญิงซึ่งได้รับหน้าที่จากท่านผู้เฒ่าให้มาดูแลพวกเขาต่อ ดังนั้นหลังจากนี้พวกเขาจึงมีท่านอาหญิงเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียว ตัวเขาหรือก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ถ้าหากท่านอาหญิงไม่ยอมไปห้ามปรามหงหยางจูกับอี้เฟิงหลงแล้วไซร้ มีหวังผืนป่าแห่งนี้... เด็กชายจินตนาการภาพในหัวแล้วลอบกลืนน้ำลาย ทันใดนั้นเองเสียงแหวกผ่านอากาศก็ดังกึกก้องขึ้น มู่หรงอู่หันขวับไปมองยังทิศทางดังกล่าวก่อนจะกรีดร้องเสียงหลง “ว้ากๆๆ!” โครม! ต้นไม้ที่หักโค่นล้มระเนระนาดปลุกให้หญิงสาวขี้เซาเปิดเปลือกตาขึ้นมาครึ่งหนึ่ง เห็นหางแหลมยาวที่เต็มไปด้วยเกล็ดขาวโบกสะบัดแหวกผ่านอากาศก็ยกมือปิดปากหาว อา... หงหยางจูตัวใหญ่ขึ้นอีกแล้ว หลิวฟางซวงหยัดกายจากท่านอนขึ้นมานั่ง เตรียมร่ายมนตร์ให้เตียงหดเล็กลงเหมือนเดิม ทว่ากลับหยุดมือเมื่ออุณหภูมิรอบกายร้อนระอุขึ้นอย่างกะทันหัน “นี่มัน...” ฟู่! ฉับพลันเปลวเพลิงจากมังกรดำร่างใหญ่ที่พ่นออกมาจากปากเผาผืนป่าพังพินาศไปแถบหนึ่ง ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนของมู่หรงอู่ที่วิ่งหนีวิถีของไฟที่แผดเผาได้ทันอย่างหวุดหวิด “อ้ากๆๆ! ท่านอาซวงช่วยข้าด้วย!” เทพธิดาสาวยกมือเสยเรือนผมดำขลับดั่งเส้นไหมล้ำค่าให้พ้นจากใบหน้าเรียวรูปไข่ทรงมน ดวงตาที่ลืมขึ้นอย่างเต็มที่เผยให้เห็นนัยน์ตาสีอำพันแวววาว งดงามประดุจหยาดน้ำค้างทองคำสะท้อนแสงตะวัน หญิงงามผู้มีอายุยืนยาวกว่าหมื่นปีเพ่งสมาธิไปที่ปลายนิ้วมือขวาทั้งห้า ยามที่สะบัดออกไปก็เกิดเป็นสายลมวูบใหญ่ พัดเอาเปลวไฟที่ลุกไหม้ให้ดับมอดลงทั้งหมดในคราวเดียว นางมองภาพเบื้องหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปากที่หาวหวอดอีกครั้ง หลับอีกสักหน่อย... ประเดี๋ยวค่อยตื่นมาเก็บกวาด [1] ลี่จือ (**) หมายถึง ลิ้นจี่ [2] ชุนเทียน (**) หมายถึง ฤดูใบไม้ผลิ [3] 1 ผิง มีค่าเท่ากับ 3.3 เมตร

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook