ตอนที่ 15 ลินิน (1)

1176 Words
บาร์แห่งหนึ่ง “ไงคะ รอนานไหม” ลินินที่เพิ่งมาถึงเดินเข้ามากอดทักทายภากรที่ลุกขึ้นยืนต้อนรับ “นั่งก่อนสิครับ ผมสั่งอาหารที่คุณชอบไว้รอแล้วนะ ทานอะไรมาหรือยัง” ภากรถาม “ยังค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ยังรู้ใจฉันไม่เปลี่ยนเลย” เธอยิ้มหวานก่อนจะนั่งลงข้างๆ เขา มีดนตรีเปิดคลอเบาๆ โต๊ะทุกโต๊ะแบ่งสัดส่วนการนั่งอย่างชัดเจนทำให้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว บาร์แห่งนี้เขาและลินินมักจะมาด้วยกันบ่อยๆ ตั้งแต่สมัยไปเรียนต่อโทที่ฝรั่งเศส แล้วมีโอกาสกลับมาบ้างในช่วงซัมเมอร์ มิตรภาพอันยาวนานของพวกเขายังคงมีอยู่ แม้ว่าพักหลังจะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยก็ตาม “แล้วตกลงมันยังไงกันคะ เรื่องของคุณกับยัยภา มาลงเอยแบบนี้ได้อย่างไร?” ลินินเข้าเรื่องทันที ภากรวางแก้วค็อกเทลของตัวเองลงกับโต๊ะก่อนจะถอนหายใจยาว ท่าทางที่ดูไม่สู้ดีของเขาทำให้หล่อนแอบยิ้ม อย่างน้อยชายหนุ่มก็ไม่ได้ยินดีและเต็มใจที่จะแต่งงานกับชัยรัมภา “คือว่า…เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะ…” ภากรเริ่มเราเรื่องทั้งหมดให้ลินินฟัง ด้านชัยรัมภา เธอไปรับต้นกล้ามาจากบ้านของหมวดเรย์ สองแม่ลูกพากันกลับมาที่บ้านเพื่อเตรียมตัวเก็บข้าวของย้ายเข้าไปที่เรือนหอ แม้เธอจะไม่ได้ต้องการให้มีเรือนหอแยกเพราะเต็มใจที่จะอาศัยอยู่ที่บ้านหลังปัจจุบันที่ภากรและบิดามารดาอาศัยอยู่ด้วยกัน หากแต่คงเดชก็ไม่ยอม และยืนยันที่จะซื้อเรือนหอหลังนี้ให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน ครืดๆ มีข้อความไลน์เด้งเข้ามา ชัยรัมภาจึงหยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นข้อความจากภากร เขาส่งรูปของตัวเองที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงนัวเนียกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาให้ แม้ว่าในภาพจะเห็นหน้าเขาและอีกฝ่ายไม่ชัด แต่หล่อนก็จำได้ว่าผู้ชายในรูปคือภากรไม่ผิดแน่ หญิงสาวเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าตามเดิม แม้จะรู้สึกหน่วงๆ ในหัวใจด้วยอีกไม่กี่วัน เขาก็จะมาเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฏหมายของหล่อนแล้ว ดูท่าชีวิตคู่ของเธอ คงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเสียใจเท่านั้นสินะ “แม่ครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ต้นกล้าที่เห็นว่าจู่ๆ มารดาก็หยุดเดินเอ่ยถาม “เปล่าจ้ะ แม่ไม่เป็นไรจ้ะ” “แต่แม่ร้องไห้…” เด็กชายยังถามต่อ ต้นกล้าเม้มปากแน่น มองมารดาด้วยความรู้สึกสงสาร อาจเพราะยังเด็กมาก จึงไม่เข้าใจโลกของผู้ใหญ่ แต่ต้นกล้าก็พอจะมองออกว่าช่วงเวลาไหนที่แม่ของเขากำลังเสียใจ “ตายละ ฝุ่นเข้าตาแม่ล่ะมั้งเนี่ย ไม่มีอะไรหรอกจ้ะต้นกล้า แม่สบายดี” เธอยังยืนยันคำตอบเดิม หญิงสาวรีบปาดน้ำตาที่ไหลลงมาทิ้งเพราะไม่อยากให้ลูกชายต้องเป็นกังวลมากไปกว่านี้ เธอก็แค่ต้องอดทนเท่านั้น ถ้ำเป็นไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ โฟกัสแค่ว่ามารดาและลูกชายจะได้มีชีวิตที่สุขสบาย ทุกการกระทำที่ทำให้ต้องเสียใจของภากรก็จะไม่เป็นผลต่อเธอ “ภา…” “เชฟ!” หล่อนตาโตด้วยความตกใจ ที่หน้าบ้านของชัยรัมภา เชฟกอร์ดอนมานั่งรอเธอได้ร่วมชั่วโมงแล้ว พอเห็นหญิงสาวกำลังเดินมา เขาก็รีบลุกขึ้นยืนและเอ่ยเรียก “มาได้ยังไงกันคะ มีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า” “ฉันมา…ถามเรื่องนี้น่ะ” เชฟกอร์ดอนเปิดรูปภาพในไลน์กลุ่มร้านที่ชัยรัมภาส่งเข้าไปให้ทุกคนเมื่อตอนเย็น มันคือภาพการ์ดงานแต่งงานของเธอกับภากร ที่ทางผู้จัดงานส่งเข้ามาให้ “เธอจะแต่งงานเหรอ” เขาถามน้ำเสียงกังวล หญิงสาวได้แต่ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะพยักหน้ายอมรับในโชคชะตาที่โหดร้ายนี้ นอกจากหล่อน…คงไม่มีใครอีกแล้วบนโลกที่ต้องแต่งงานเพื่อหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในครอบครัว ยิ่งคิด… ก็ยิ่งรู้สึกไร้ศักดิ์ศรี “เธอมีแฟนด้วยเหรอ เมื่อไหร่กันล่ะ ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย” เป็นครั้งแรกที่เชฟกอร์ดอนพูดคุยและเอ่ยคำถามกับเธอมากมายเช่นนี้ ที่ผ่านมาเธอคิดว่าเขาเป็นคนดุและเข้าถึงยากจึงไม่ค่อยกล้าคุยด้วยนัก แม้ในหลายๆ ครั้ง เขาจะดูใจดีกับเธอก็ตามที “มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวค่ะ ต้องขอโทษด้วยที่ฉันคงบอกเชฟไม่ได้ แต่ว่า…ฉันจะยังทำงานเหมือนเดิมนะคะ ถ้าผ่านพ้นช่วงงานแต่งไปสักพัก ฉันก็จะกลับไปทำงานค่ะ ถ้าเชฟยังให้โอกาส…” “เรื่องนั้นฉันให้โอกาสเธออยู่แล้ว แต่ว่าเรื่องแต่งงาน…” เชฟกอร์ดอนยังไม่ละความพยายาม เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมหล่อนถึงแต่งงานปุบปับแบบนี้ “ยังไงก็เรียนเชิญเชฟมาเป็นเกียรติในงานแต่งของฉันด้วยนะคะ ฉันเชิญทุกคนเลย แล้วก็…แล้วก็ไม่ต้องห่วง…” พูดยังไม่ทันจะขาดคำ น้ำตาของหล่อนก็รินไหลออกมาอีกครั้ง ภาพที่ภากรนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นมันยังติดตา ทำไมชีวิตของหล่อนต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมถึงจะต้องแต่งงานกับผู้ชายใจร้าย ที่ไม่เคยแม้แต่จะให้เกียรติเธอเสียด้วยซ้ำ เธอที่กำลังจะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา ทำไมเขาถึงกล้าส่งรูปตัวเองกับผู้หญิงมาเยาะเย้ยแบบนี้กัน! ชัยรัมภาท้อแท้ในโชตชะตาของตัวเองเหลือเกิน แค่เริ่มต้น ยังรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้ ต่อไป ชีวิตหลังแต่งงานของเธอคงเต็มไปด้วยความทุกข์แสนสาหัส “แม่ครับ…” ต้นกล้าเริ่มเบะปากตาม เชฟกอร์ดอนเห็นท่าไม่ดี ร่างสูงเขยิบเข้ามาใกล้หญิงสาวก่อนที่มือหนาจะยกขึ้นและยื่นมาเช็ดน้ำตาออกให้อย่างอ่อนโยน “ยัยบ้า จะแต่งงานหรือจะไปออกรบ ร้องไห้ทำไมฮะ” “นั่นสิคะ ฉันจะร้องไห้ทำไม ฮึก…” แม้ปากจะตอบรับไปแบบนั้น หากแต่น้ำตามันกลับไม่หยุดไหล ต้นกล้าโผเข้ากอดขามารดาเอาไว้ ขณะที่เชฟกอร์ดอนไม่อาจทนมองน้ำตาของคนตรงหน้าได้อีกต่อไป จึงเอื้อมมือไปดันศีรษะของหล่อนให้โน้มมาข้างหน้าเพื่อซบกับไหล่กว้างของตัวเอง “ฮืออออ” ต้นกล้าร้องไห้เสียงดังลั่น “ฮึก…” ชัยรัมภาสะอื้นไห้เบาๆ ‘คนบ้า ถ้ามีผู้หญิงคนอื่นอยู่แล้ว แล้วจะมาจูบฉันทำไมกัน!’ หล่อนคิดในใจ ยิ่งคิด น้ำตาก็ยิ่งไหล ในสายตาของภากร หล่อนคงไร้ค่ามากเสียจนเขาคิดว่าอยากจะจูบเมื่อไหร่ก็ได้ หรือทิ้งขว้างยังไงก็ไม่เป็นไรสินะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD