CHAPTER 4

1341 Words
CHAPTER 4  “อย่าฝืน” น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นริมใบหูข้างซ้าย ไม่หนักแน่นและก็ไม่แผ่วเบาจนเกินไปแต่กับมีอนุภาพมากพอที่จะปลุกความเลอะเลือนของตัวฉัน น้ำเสียงนี้... เสี้ยวใบหน้าฉันก็รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร เขาก็คือคนที่ฉันเจอเป็นคนสุดท้ายเมื่อคืนก่อนจะหมดสติลงไป ในเมื่อเกมส์อยู่ตรงนี้ก็ไม่ต้องเสียเวลาคาดเดาว่าฉันอยู่บนเตียงของใคร อยู่ในห้องของใครถ้าไม่ใช่เขา “ฉันไม่เป็นอะไร” เห็นท่าไม่ดีฉันจึงรีบขยับตัวผละออกจากการพิงแผงอกของเกมส์ทว่ากับไม่เป็นดั่งที่ตัวเองคิดไว้เมื่อมีอุปสรรคใหญ่เข้ามาขวาง นั่นก็คือสองมือใหญ่สอดใต้แขนฉันเข้ามาประสานมือกันวางบริเวณหน้าท้องของตัวเอง “ควรรู้ตัวเอง เลิกอวดเก่ง” “ฉันไม่ได้...” พอจะเถียงอาการปวดหัวก็แทรกเข้ามาทำให้ฉันต้องหยุดพูด หยุดดิ้นทันทีพยายามกลืนอาการพวกนี้เท่าไหร่สงสัยร่างกายของฉันก็ต้องแพ้ นาทีนั้นร่างกายของฉันก็ลอยขึ้นจากการถูกยกให้ขยับตัวขึ้นไปนั่งบนตักของเกมส์ “นายจะทำอะไร” “กลัวก็อย่ากร่างให้มันมาก” “ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น” พึ่งเจอกันไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงใครเขานั่งตักกันบ้างแถมยังเป็นบนเตียงอีก “ปากเธอมันวอนไงขิม” ให้ตายสิฉันพึ่งเคยเจอผู้ชายหยาบคายได้ถึงขนาดนี้ก็วันนี้และไอ้หน้าตาเหวี่ยงหาเรื่องตลอดเวลานี่มันปั้นขึ้นหรือไง “กินยา” ไม่รู้ว่าเกมส์เอามืออีกข้างออกไปจากหน้าท้องฉันเมื่อไหร่รู้อีกทีก็ตอนนี้ที่ฝ่ามือใหญ่ถูกยื่นมาตรงหน้า มียาพาราสองเม็ดฉันจึงไม่ลังเลรีบหยิบเข้ามาใส่ปากเพราะไม่อยากโดนหาว่าเรื่องมากและก็คว้าแก้วน้ำในมือของเกมส์ที่ถูกยื่นส่งมาตรงหน้าอีกครั้ง “ทีนี้ก็ปล่อยได้แล้ว” “ถ้าลุกไหวก็ไปอาบน้ำ เสื้อในตู้” “ขอนอนก่อน” ฉันไม่ไหวหรอก ลุกก้าวลงจากเตียงต้องล้มเอาหน้ากระแทรกพื้นแน่นอนจึงเลือกตอบเลี่ยงแบบนี้ ไม่อยากให้ใครสมน้ำหน้ากับสภาพของตัวเองไปมากกว่านี้แล้ว ร่างกายที่มีแค่เสื้อกล้ามแสนบางไม่รู้ว่าเสื้อนักศึกษาหายไปไหนแต่กระโปรงก็ยังอยู่แสดงว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง หรือไม่ฉันก็คงถูกเกลียดเข้าไส้ “ปล่อยมือสิ” ถึงมีแค่มือเดียวก็สามารถรั้งตัวของฉันได้ถ้าเกมส์ออกแรงแต่ครั้งนี้เขาปล่อยอย่าง่ายดาย ไม่มีการเหนี่ยวรั้งใดๆ ฉันจึงคลานออกมามุ่งหน้าไปด้านข้างที่เดิมของตัวเอง “แน่ใจนะว่า...” ฉันหันหน้าไปสบตากับเกมส์ซึ่งเป็นคู่สนทนาคนเดียวที่มีอยู่ ไม่รู้ว่าคำตอบเมื่อกี้ฉันตอบไม่หนักแน่นหรอถึงทำให้คนเยือกเย็นอย่างเขาย้ำอีกครั้งมันผิดวิสัยมากทว่าพอฉันใช้สายตาสำรวจการแต่งกายของเกมส์นั้นทำไม มีรอยเลือดจางๆ ตรงต้นขา เด่นชัดมากเพราะกางเกงของเกมส์เป็นสีขาว “เมนส์เธอ” เชี่ย... ดวงตาของตัวเองต้องเบิกกว้างแน่นอนซึ่งฉันรู้ดีว่าเวลาตัวเองตกใจจะเผลอทำหน้าน่าเกลียดมากประมาณไหนตอบเลยว่าอย่าให้ใครได้เห็นซึ่งตอนนี้มันคงไม่ทันแล้ว เห็นอีกจนได้สินะ ทำไมถึงมีเรื่องให้น่าอับอายต่อหน้าเกมส์ไม่เว้นว่างเลยสักนิด ผู้ชายตรงหน้าเป็นเจ้ากรรมนายเวรฉันหรือไงถึงได้มาคิดบัญชีรัวๆ ขนาดเว้นว่างไม่เจอกันตั้งหลายปียังมีเวรกรรมที่ต้องชดใช้ไม่จบไม่สิ้นสักทีเหรอ เรื่องอับอายอื่นๆ ยังพอรับได้แต่ทำไมต้องเป็นเรื่องนี้ด้วย อายกว่าอะไรทุกสิ่งอย่างก็คือไอ้เมนส์บ้าจะมาอะไรวันนี้ตอนนี้อีกทั้งยังไปเลอะกางเกงราคาแพงตัวนั้น กางเกงที่มันไม่ใช่ตัวละร้อยสองร้อยและลางสังหรณ์ของฉันก็เริ่มทำงานเด่นชัดว่ายังไงก็ต้องเป็นฝ่ายชดใช้ให้กับเกมส์อย่างไม่มีข้อแม้แม้แต่นิดเดียว “นายรีบไปเปลี่ยนสิ” “เปลี่ยน?” ยังมาทำหน้างงอีก จะทรมานคนป่วยเหรอ “ใช่ เปลี่ยนเป็นตัวอื่นส่วนตัวนี้จะซักให้ใหม่” สำหรับฉันนั้นจะซักให้ = ไม่ซื้อตัวใหม่ให้ ไม่รู้ว่าเกมส์จะรู้การลองหยั่งเชิงของฉันหรือเปล่า ถ้าเขาตอบว่าอืมหรือเข้าไปเปลี่ยนง่ายๆ ซึ่งนั้นก็แปรได้ว่าฉันไม่ต้องเสียเงินซื้อกางเกงให้ใหม่แต่ถ้าไม่เป็นดั่งที่คาดหวังก็จงเตรียมเงินจ่ายได้เลย เงินเก็บทั้งเนื้อทั้งตัวให้ธนาคารสามหมื่นอาจจบลงเพียงแค่กางเกงตัวเดียวให้ตายสิ! “ซักไหว?” “ไหวสิ ทิ้งไว้นานเดี๋ยวคราบ... ฝังลึก” ผู้หญิงทุกคนย่อมรู้ดีว่าคราบเมนส์มีฤทธิ์ขนาดไหน เปื้อนมากๆ ต้องแช่น้ำนานกว่าจะหลุดออกยิ่งถ้าผ้าเป็นสีขาวเหมือนกับกางเกงของเกมส์ก็ยิ่งต้องแช่นาน “อ้อ...” เยส! เกมส์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สายตาเย็นชานั้นก้มมองกางเกงที่เปื้อนแป๊บเดียวก็เงยขึ้นมาสบตากับฉันที่กำลังส่งยิ้มให้เขาด้วยความรู้สึกผิด “รีบๆ เปลี่ยนนะ เดี๋ยวซักให้ตอนนี้เลย” “ไม่ไหวก็นอนอย่าอวดดี” “อ้าวแล้ว...” “เดี๋ยวแช่ให้ตื่นค่อยซัก” พูดแล้วเกมส์ก็เดินหลีกหายไปทางห้องข้างๆ ส่วนฉันก็รีบยกตัวเองรื้อผ้าห่มใช้สายตาสำรวจพบว่ามันไม่ได้เปื้อนผ้าปูบนเตียงใหญ่นี้แต่จะให้นอนต่อยังไง ต้องลงไปซื้อผ้าอนามัยสิจะนอนทั้งแบบนี้เดียวก็เปื้อนอีก ว่าแล้วฉันก็พยายามลุกขึ้นจากเตียงทั้งที่มึนๆ ไข้ทับฤดูใช่ไหม ปวดหัวจัง... “ทำไมยังไม่นอน” “อุย...” เกมส์เปลี่ยนกางเกงเรียบร้อยแต่ก็ยังเป็นยีนขาดๆ แตกต่างกันก็แค่สีที่ตอนนี้เป็นสีดำ ใบหน้าหล่อดูหัวเสียเล็กน้อยจากดูเหวี่ยงอยู่แล้วตอนนี้เพิ่มไปอีกเท่าตัว “ถามว่าทำไมยังไม่นอน” ไม่ว่าเปล่ามือใหญ่ยื่นมาจับต้นแขนของฉันไว้เพื่อกันฉันล้ม “นอนไม่ได้” “ทำไม?” คิ้วของเกมส์ขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยก่อนที่จะเบี่ยงสายตาไปทางเตียงนอน “เตียงก็ว่างนอนได้ไม่คัน เธอนอนมาแล้วนิ” รู้ว่าเตียงว่าง ฉันไม่ได้ตาบอดไหม “เดี๋ยวเลอะ” คราวนี้หวังว่าคงเข้าใจในสิ่งที่ฉันพยายามสื่ออกมานะ “เลอะ?” “ก็...” “อ้อ...เข้าใจเข้ากลัวเปื้อนเตียง” “อื้ม” ฉันยอมรับแบบตรงๆ ไม่อ้อมโลกด้วยคำพูดอะไรอีกแล้วเนื่องจากร่างกายไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่นัก ดูจากสภาพไม่รู้ยืนแบบนี้จะร่วงลงพื้นเมื่อไหร่ “ยืนไหวมั้ย?” น้ำเสียงของเกมส์เข้ามาในโสตการรับรู้อีกครั้งแต่ฉันก็ไม่ได้ตอบ เกมส์ก็เลยพูดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งต่อจากประโยคเมื่อกี้ “ไม่ไหวก็นั่งลง นั่งตรงพื้นนั่นแหละ” พอฉันนั่งลงแป๊บเดียวก็เห็นเกมส์เดินเข้าไปอีกห้องแป๊บเดียวออกมาด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่พับครึ่งจำนวนสองผืน เขาเอามันปูตรงเตียงอย่างเรียบร้อยจากนั้นก็หันตัวมาพยุงฉันลุกขึ้น “นอนลงไปเลย ไม่เปื้อนหรอก” “ขอบคุณนะ” ด้วยความที่ร่างกายแสนอ่อนแรงเหลือเกินฉันจึงหลับตาลงช้าๆ ทว่าประโยครั้งท้ายก่อนที่เกมส์จะออกจากห้องทิ้งท้ายทำเอาใบหน้าเห่อร้อนออกทันใด “ผ้าอนามัยคงไม่ใช้แบบสอดใช่มั้ยจะได้ไม่ซื้อมา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD