SOMETHING 24
***********************
โฟร์ไม่พูดเปล่าแต่เขายังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนลมหายใจของเขารินลดต้นคอฉัน นั่นมันยิ่งเพิ่มความเสียวสันหลังให้ฉันเพิ่มขึ้นไปอีก
นี่ก็ถอยหนีจนหลังชิดพนักหัวเตียงอยู่แล้ว อยู่ดีๆ ฉันก็เริ่มกลัวเขาขึ้นมา
โฟร์ใช้มือทั้งสองข้างกดไหล่ฉันให้นอนราบไปกับเตียงก่อนจะจับขาฉันแยกออก ฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูก มันรวดเร็วจนฉันเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัวไม่คิดว่าโฟร์จะรุกหนักขนาดนี้
“โฟร์ฉันไม่สนุกด้วยนะ”
ฉันดันหน้าอกของอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ยอมให้เขาได้ก้มลงมาจูบฉันอย่างที่เขาอยากจะทำ
โฟร์กระตุกยิ้มมุมปากเหมือนว่าตัวเองอยู่เหนือกว่า ใช่สิ! ก็เขามันเป็นผู้ชายนี่ จะข่มเหงผู้หญิงยังไงก็ได้ในเมื่อผู้หญิงไม่มีทางสู้แรงผู้ชายได้อยู่แล้ว
ฉันน้ำตาคลอเมื่อเขากำลังจะลุกล้ำฉันมากกว่านี้ ถ้าเขาจีบฉันจริงๆ บอกเลยว่าเขาจะได้แค่ตัว เพราะฉันจะไม่มีวันรักผู้ชายที่ข่มเหงฉันแน่ๆ ไม่มีวัน เราจกลงกันแล้วว่าจะไม่ล้ำเส้นกันแต่สิ่งที่เขากำลังทำมันกำลังล้ำเส้นของฉันอยู่
“ผู้ชายเป็นแบบนี้เหมือนกันทุกคนหรือเปล่า ชอบข่มเหงผู้หญิงทั้งที่ไม่ยินยอม”
“...”
“ถ้าคิดว่าสนุกก็ทำไป แต่นายจะไม่มีวันได้ใจฉัน” โฟร์นิ่งไป เหมือนเขาจะไม่สนุกกับสิ่งที่กำลังทำอยู่แล้ว
เขาลุกออกจากตัวฉันก่อนจะพยุงร่างฉันให้ลุกขึ้นตามเขาไปด้วย ฉันปาดน้ำตาตัวเองทิ้งเมื่อมันไหลออกมา
ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องร้องไห้ด้วย มันแค่รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกที่โฟร์มาทำกับฉันแบบนี้ เพราะมันยิ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่เข้ามาหาฉันก็หวังแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดที่จะจริงจังกับฉันเลย
เพราะงี้ไงฉันถึงอยากอยู่คนเดียว
“ขอโทษ” โฟร์พูดแต่เขาไม่ได้หันหน้ามามองฉันตรงๆ หรอกนะ
ฉันรู้ว่าเมื่อกี้เขาไม่คิดที่จะทำจริงๆ หรอก แค่ทำให้ฉันกลัวก็เท่านั้น แต่ฉันไม่ชอบให้เขาทำแบบนี้มันเหมือนไม่ให้เกียรติกัน ถ้าจะอยู่ห้องด้วยกันมันควรที่จะเชื่อใจกันและไม่ทำร้ายกันจริงมั้ย
“เลิกเล่นเป็นเด็กได้แล้วนะโฟร์ อย่าเอาความรักของคนอื่นมาล้อเล่นแบบนี้ ฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องสนุกหรอก”
โฟร์หันกลับมามองฉันที่นั่งมองเขาอยู่ก่อนแล้ว เขาส่ายหน้าเหมือนว่าฉันพูดอะไรผิดไปจากที่เขาคิดเอาไว้ ก่อนที่จะพูดความในใจของเขาออกมา
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น” แววตาของโฟร์ดูจริงจังขึ้นมาทันที เขายกมือขึ้นชกที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองเหมือนเขาอัดอั้นตันใจกับเรื่องอะไรบางอย่างที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกัน “ถ้าฉันทำให้เธอรักฉันไม่ได้อย่ามาเรียกฉันว่าโฟร์เลย”
“...”
“นี่จริงจังนะเว้ย” ฉันก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนี่ ทำไมต้องร้อนตัวด้วย ถ้าเขาจะจีบฉันแบบจริงจังฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่เขาจะต้องไม่ใช้วิชามารแบบเมื่อกี้จีบฉัน เพราะมันไม่เข้าท่าบอกเลย “นี่รันถ้าฉันจีบเธอติดเธอจะยอมเป็นแฟนฉันหรือเปล่า?”
“มะ...ไม่รู้” เล่นมาถามแบบนี้ฉันจะตอบว่ายังไงล่ะ เขาไม่คิดบ้างเลยหรือไงว่าฉันจะเขินหรือเปล่า
นี่ก็อายมากเลยนะที่เขาบอกว่าจะจีบฉันอ่ะ คือไม่เคยมีผู้ชายคนไหนบอกว่าจะจีบฉันเลยส่วนมากแค่เข้ามาขอเบอร์ขอไลน์ไรงี้เอง
“ฉันจะเริ่มจีบเธอแล้วนะ”
“ทำไมถึงอยากจีบฉัน?”
ในเมื่อหนีไม่พ้นฉันก็อยากถามเหตุผลของเขาหน่อยแล้วกันว่าเขาคิดอะไรถึงอยากจีบฉันขึ้นมาทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นมีทีท่าว่าเขาจะชอบฉันเลยสักนิด หรือเขากำลังทำประชดใครอยู่หรือเปล่า
บอกเลยนะว่าฉันไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ของใคร และฉันก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่มีแฟนแล้วอย่างเขาด้วย ฉันไม่อยากมีปัญหาระหว่างที่อยู่ที่นี่
แค่นี้ฉันก็เจอปัญหามาเยอะพอแล้ว
“มันต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?”
“ก็ถ้าไม่มีเหตุผลแล้วจะจีบฉันไปเพื่ออะไรล่ะ?” ฉันเองก็ไม่รู้ว่าโฟร์คิดอะไรอยู่ เขานิ่งไปเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง หรือไม่ก็กำลังคิดหาคำตอบเพื่อให้ฉันพอใจที่สุด
ถ้าจะคิดนานขนาดนี้ฉันไม่อยากรู้แล้วก็ได้ แต่บอกก่อนเลยว่าฉันจะไม่มีวันหลงรักเขาอย่างแน่นอน แค่นี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าเขาไม่ได้จริงใจกับฉันเลย
“ที่ฉันจีบเธอก็เพราะ...เพราะเธอไม่มีใคร” เขาหันมามองสบตากับฉัน
วูบหนึ่งที่ฉันสังเกตเห็นว่าแววตาของเขาดูมุ่นมั่นตั้งใจในสิ่งที่พูดมาก และสิ่งที่เขาพูดมานั่นคือความจริงทั้งหมด ฉันเชื่อว่าเขาไม่ได้โกหกเพราะแววตาของเขามันกำลังสื่อกับฉันอยู่
“อีกอย่างเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ฉันตามหา”
“...”
“เธอไม่คิดเหรอว่าการที่เราได้มาเจอกัน ได้มาอยู่ด้วยกันมันอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มันคือพรหมลิขิต”
ฉันคิดว่าเขาดูละครน้ำเน่ามากไปแล้วล่ะ ก็ถ้าฉันไม่คิดที่จะย้ายห้องเราสองคนก็คงไม่ต้องมาเจอกันแบบนี้หรอก อีกอย่างมีหอพักบ้าที่ไหนที่ยอมให้นักศึกษาชายกับหญิงพักอยู่ห้องด้วยกัน หมดทั้งโลกคงมีแค่มหาลัยฉันเท่านั้นแหละ
“เธอเองก็ยังไม่มีใคร ฉันเองก็ยังไม่มีใครเหมือนกัน”
“อาจจะมีแค่ฉันคนเดียวก็ได้ที่ยังไม่มีใคร” ฉันพูดแขวะคนตรงหน้าอย่างห้ามไม่ได้
กล้าพูดออกมาได้ยังไงว่าตัวเองยังไม่มีใครแล้วไอ้ที่ไปนั่งกินชาบูด้วยกันเธอคนนั้นเป็นแม่เขาเหรอ เอาพระทั้งโลกมาพูดฉันยังไม่เชื่อเลย อย่างที่บอกว่าเขาหล่อชนิดที่ว่าไม่รู้จักคำว่าโสด
“ฉันโสดนะ” ฉันอยากจะเบ้ปากแล้วมองบนใส่จริงๆ เลย นี่ถ้าไม่กลัวว่าภาพลักษณ์จะเสียฉันทำไปนานแล้ว ถ้าคนอย่างเขาโสดคนอย่างฉันคงขึ้นคานไปแล้วสามชาติ “ไม่เชื่ออ่ะดิ เอามือถือฉันไปเช็กก็ได้นะว่าฉันได้คุยกับใครหรือเปล่า”
“ไม่ต้องอ่ะ”
ฉันเมินหน้าหนีไปทางอื่น ถ้าเขาคุยจริงเขาจะเหลือหลักฐานเอาไว้ให้ผู้หญิงอีกคนของเขาจับได้เหรอ พวกเจ้าชู้มักจะไม่เหลือหลักฐานเอาผิดตัวเองได้ ถ้าเขาจะมุ่งหน้าจีบฉันเขาก็คงไม่ปล่อยให้แชทที่เขาคุยกับสาวๆ เอาไว้ให้ฉันเห็นหรอก
“เธอเห็นเหมือนฉันเห็นหรือเปล่ารันนี่” โฟร์มองไปทั่วห้องเหมือนเขามองเห็นบางอย่างที่ฉันมองไม่เห็น
ฉันไม่ใช่คนกลัวผีหรอกนะแต่เขาเล่นมาพูดแบบนี้มันก็ขนลุกยังไงไม่รู้ ฉันเขยิบเข้าไปใกล้โฟร์พร้อมกับกอดแขนเขาเอาไว้อย่างลืมตัว เวลาแบบนี้ไม่ใช่เวลามาเล่นตัวหรอกนะ
“นายมองเห็นอะไรอ่ะ?”
“โลกใบนี้กลายเป็นสีชมพูจ๊ะ”