SOMETHING 9
*********************
ฉันกลับเข้ามาในห้องด้วยความรู้สึกมึน งง และสับสนในเวลาเดียวกัน หรือว่าเมื่อกี้ฉันเมาแดดแล้วหูฝาดได้ยินว่าโฟร์จะจีบฉัน มันเป็นเรื่องที่ฉันไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น แสดงว่าไอ้ที่เขาพูดเมื่อคืนนี้คือการพูดจีบฉันเหรอ ทำไมฉันไม่รู้เลยล่ะว่าการแสดงออกของเขาคือการจีบผู้หญิง
ดูยังไงมันก็เหมือนพวกโรคจิตมากกว่า
ฉันว่าเขาอาจจะเข้าใจอะไรผิดก็ได้ หรือบางทีเขาอาจจะกำลังสับสนกับตัวเองอยู่เลยพูดอะไรออกไปโดยไม่คิดให้ดีซะก่อน แล้วอย่างนี้ฉันจะวางตัวยังไงเวลาที่อยู่กับเขา ไม่เอาแล้ววันนี้ฉันคงอยู่ห้องไม่ได้แล้วล่ะ การที่อยู่ห้องกับคนที่บอกว่าจะจีบเรานี่มันรู้สึกอึดอัดมากเลยนะ
ฉันหยิบไอโฟนขึ้นมาเพื่อที่จะต่อสายไปหาพี่อรุณแต่ปรากฏว่าพี่อรุณปิดเครื่อง ทำอะไรของเขาอยู่นะเวลานี้ดันมาปิดเครื่อง ถ้าไม่ออกจากห้องตอนนี้แล้วโฟร์เข้ามาจะทำยังไงดีล่ะ
คือฉันยังไม่พร้อมที่จะเจอเขาตอนนี้ ไม่อยากพูดกับเขาตอนนี้ด้วย คิดสิคิด คืนนี้ฉันจะไปนอนที่ไหนดี ไปเช่าโรงแรมอยู่ก่อนเหรอ เงินก็ไม่มีอีก จะมีใครที่ฉันพอจะพึ่งได้อีกมั้ยนะ
“รัน” ฉันหันขวับไปที่หน้าห้องก็เห็นว่าโฟร์มายืนอยู่ที่หน้าห้องแล้ว ทำไมเขามาไวอย่างนี้เนี่ย ฉันยังไม่ได้ทำใจที่จะเผชิญหน้ากับเขาเลยนะ ให้เวลาฉันได้หายใจหน่อยก็ดีนะ “เมื่อกี้เธอวิ่งหนีทำไม?”
ใช่! เมื่อกี้พอโฟร์บอกว่าจะจีบฉัน ฉันก็วิ่งหนีออกมาทันที ขืนอยู่ตรงนั้นอีกแค่นาทีเดียวฉันต้องเป็นลมแน่ มันยังไม่ทันได้ตั้งตัวที่จะมีคนมาขอจีบแบบนี้
ที่ผ่านมาก็มีคนออกตัวจีบฉันเยอะแยะนะ แต่เขาก็ไม่ได้ออกตัวแรงขนาดนี้ไง อีกอย่างคนที่จะจีบฉันก็ดนมาเป็นรูมเมทที่ฉันจะต้องอยู่ห้องกับเขาเป็นปีเลย
คนที่เข้ามาจีบฉันก็จะขอเบอร์บ้างล่ะ ขอไลน์บ้างล่ะไม่เคยมีใครมาพูดขอจีบฉันตรงๆ เลกสักครั้ง แต่นี่โฟร์กลับบอกอย่างหน้าตาเฉยว่าจะจีบฉัน ไม่ไหวอ่ะถ้าฉันอยู่ใกล้เขาฉันจะต้องหวั่นไหวให้เขาได้ไม่ยากแน่ๆ เขามีแฟนอยู่แล้วฉันไม่อยากเป็นมือที่สาม ดูก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้เจ้าชู้มากแค่ไหน
“ปะ...ปวดฉี่” แก้ตัวไปเรื่อย ฉันพยายามที่จะไม่มองหน้าโฟร์ และตอนนี้ก็ไม่รู้ด้วยว่าเขากำลังทำสีหน้ายังไง อีกอย่างฉันเองก็ไม่อยากรู้หรอกฉันอยากให้เขาออกจากห้องไปให้เร็วที่สุด เร็วได้เท่าไหร่ยิ่งดี โปรดอย่าเดินเข้ามาหาฉันเลย “นายไม่มีเรียนหรือไงทำไมถึงกลับเข้ามาที่ห้องอีก”
“มาซ่อมราวผ้าให้เธอไง” เสียงฝีเท้าของโฟร์ที่เดินใกล้เข้ามาทำให้ฉันยกมือห้ามเขาเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้ฉัน
ฉันยอมเงยหน้าขึ้นมองเขาก็เห็นว่าเขาทำหน้างงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำมาเป็นงงที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะเขานั่นแหละ เล่นมาพูดอะไรไม่รู้ บางทีฉันก็คิดว่าเขาอาจจะแค่พูดเล่นก็ได้แต่ถึงจะพูดเล่นฉันก็ไม่ชอบให้เขาพูดมันออกมา เพราะมันทำให้ฉันวางตัวลำบากเวลาที่เราต้องอยู่ด้วยกัน
“ห้องน้ำอยู่ทางนั้นไม่ใช่ทางนี้” ฉันชี้ไปที่ห้องน้ำ โฟร์หัวเราะในลำคอก่อนจะนั่งลงที่เตียงของฉันแล้วโน้มหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนทำให้ปลายจมูกของเราชนกันเล็กน้อย ฉันสะดุ้งจะขยับตัวออกแต่โฟร์ก็รั้งเอวฉันเอาไว้ไม่ให้ขยับหนีเขาไปไหน “จะ...จะทำอะไรน่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ได้จะทำอะไร” ร่างสูงยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่ทำอะไรหน้าเขามันฟ้องซะขนาดนี้ ไหนจะมือที่โอบเอวฉันเอาไว้อีก มือไวใจถึงจริงนะรูมเมทของฉัน “ฉันก็แค่บอกเธอเอาไว้เธอจะได้ไม่ไปมีคนอื่นก่อนไง”
“ทำไมถึงอยากจีบฉันล่ะ?” ในเมื่อหนีไม่พ้นก็ถามไปตรงๆ นี่แหละ ฉันเองก็อยากรู้ว่าทำไมเขาถึงอยากจีบฉันทั้งๆ ที่เรารู้จักกันยังไม่ทันข้ามวันด้วยซ้ำ ทำไมถึงเลือกที่จะเป็นฉันทั้งๆ ที่เขาก็มีผู้หญิงของเขาอยู่แล้ว หรือเขาคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงใจง่ายแค่โดนเขาหว่านเสน่ห์ให้แค่นี้ฉันก็หวั่นไหวไรงี้เหรอ
ขอโทษทีฉันไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ก็อาจจะจริงที่มีหวั่นไหวบ้าง แต่ฉันคงไม่หูหนวกตาบอดเลือกคนที่ไม่เอาถ่านมาเป็นแฟนหรอกนะ เห็นฉันเป็นแบบนี้ฉันเองก็เลือกเหมือนกัน ต่อให้เขาจะเรียนหมอโปรไฟล์ดีแต่นิสัยตรงข้ามแบบนี้ฉันก็ไม่เอาเด็ดขาดเลย
“...” เขาเงียบ
“ชอบฉันเหรอถึงอยากจีบฉัน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกในเมื่อเราเพิ่งรู้จักกัน อ้อ! อีกอย่างวันนี้ฉันก็เห็นว่านายไปส่งแฟนที่คณะฉันด้วยไม่ใช่เหรอ อย่ามาทำนิสัยไม่ดีลับหลังแฟนตัวเองแบบนี้เลยนะ ฉันไม่เล่นกับนายด้วยหรอก”
พอเห็นว่าฉันเดาทางเขาถูก เขาก็ผละออกจากฉันก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปนั่งที่เตียงของตัวเอง ไปต่อไม่ถูกเลยล่ะสิ ฉันไม่ได้โง่เหมือนนางเอกในละครน้ำเน่านะ ฉันเองก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ผู้ชายอย่างเขาฉันเจอมาเยอะแล้วฉันถึงรู้ทันไงว่าเขาคิดที่จะทำอะไร
“อยากได้เธอมันไม่ยากหรอกรันนี่” จากที่เงียบไปนานโฟร์ก็พูดขึ้นมา น้ำเสียงของเขาเหมือนมั่นใจมากว่าฉันจะคล้อยตามเขาได้ง่ายๆ “เอาเป็นว่าเธอก็ทำตัวสบายๆ แล้วกัน คิดซะว่าวันนี้ฉันไม่ได้พูดอะไรให้เธอเข้าใจผิด”
“...” ไอ้ที่ว่าอยากได้ฉันมันไม่ยากเขาหมายถึงอะไร หมายถึงตัวหรือว่าหัวใจ ไม่ว่าจะอะไรก็ช่างเถอะเขาจะไม่มีวันได้มันไปทั้งสองอย่างนั่นแหละ ยิ่งเขาพูดแบบนี้ฉันก็ต้องยิ่งระวังตัวเองให้มากขึ้น คนอย่างเขาไม่มีทางได้ฉันไปครอบครองแน่ๆ
“ช่วงบ่ายเพื่อนฉันจะเข้ามาซ่อมราวผ้าให้ถ้าเธออยู่ที่นี่อาจจะเสียงดังหน่อยนะ ฉันเองก็ไม่ว่างด้วยเธอน่าจะออกไปข้างนอกดีกว่าเพราะเพื่อนฉันคนนี้ฉันเองก็ไม่ค่อยไม่ใจมันเท่าไหร่”
อ้าว! ทำไมมาพูดให้ฉันกลัวแบบนี้ ถ้าไว้ใจไม่ได้แล้วจะให้เข้ามาทำทำไมล่ะ เผื่อยังไงเพื่อนของเขาเอากล้องวงจรปิดไปติดไว้ที่ห้องน้ำเพื่อแอบดูฉันล่ะยุ่งเลยนะ
แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเขาอาสาจะทำให้ แค่ให้เขาช่วยทำให้ก็รบกวนเขาอยู่แล้ว ฉันพยักหน้าตอบก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายเพื่อที่จะออกไปข้างนอก
“งั้นประมาณเย็นๆ ฉันค่อยเข้ามาแล้วกัน เพื่อนนายคงไม่อยู่แล้วใช่มั้ย?” โฟร์มองดูกระเป๋าสะพายเหมือนอยากจะถามอะไรแต่ก็เงียบไป ฉันมองเขาอย่างงงๆ ว่าเขามีอะไรจะพูดกับฉันหรือเปล่า เขาละสายตาจากกระเป๋าฉันก่อนจะเงยหน้ามามองฉันที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว “มีอะไรหรือเปล่า?”
“แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหน?”
“แถวๆ นี้ล่ะ คงไม่ไปไหนไกลหรอก”
“ไปนั่งเรียนกับฉันมั้ย พอดีวิชาที่ฉันเรียนเป็นแค่ภาคทฤษฏีไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก” อะไรของเขา ไหนบอกให้ฉันทำตัวสบายๆ ไง แต่ที่เขาทำอยู่มันทำให้ฉันอึดอัดนะไม่รู้ตัวหรือไง
อีกอย่างฉันก็ไม่อยากไปนั่งเรียนกับเขาเพื่อให้คนอื่นเอาไปพูดนินทาลับหลังได้ว่าฉันแย่งแฟนคนอื่น แฟนเขาก็เรียนอยู่คณะฉันด้วยฉันไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนรุ่นเดียวกัน
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันกะว่าจะไปดูเขาแข่งบาสกันในมหาลัยหน่อยอ่ะ” วันนี้รู้มาว่าจะมีการแข่งขันบาสเกตบอลของคณะฉันกับคณะเกษตร ก็ที่เชียร์ขอตัวไปซ้อมนั่นแหละ แต่พอโฟร์ได้ยินฉันพูดแบบนั้นเขาก็ทำหน้าบึ้งใส่เหมือนไม่พอใจที่ฉันจะไปดูบาส “ฉันไปก่อนนะ”
“ทีอย่างนี้รีบจังเลยนะเธออ่ะ” ฉันหันกลับไปมองโฟร์ก็เห็นว่าเขายืนกอดอกจ้องฉันอยู่ ไอ้สายตาที่มองมาที่ฉันเหมือนจะบอกว่าฉันมันเป็นผู้หญิงที่แรดยังไงไม่รู้ “จะรีบไปหาเพื่อนเหรอ?”
“อื้อใช่” ที่จริงก็กะว่าจะไปดูเชียร์แข่ง แต่ตอนนี้ไม่อยากไปแล้วอ่ะเพราะมันไกล ฉันก็เลยกะว่าจะหาไรกินแถวนี้หรือไม่ก็เข้าร้านค่าเฟ่ตากแอร์เย็นๆ ตอนค่ำๆ ค่อยกลับเข้าห้อง “แต่คิดว่าไม่ไปแล้วล่ะมันไกลอ่ะ อาจจะเข้าร้านคาเฟ่ข้างล่างหอนั่งตากแอร์เล่นแถวนี้”
“โอเค งั้นฉันไปเรียนก่อนนะ” จากที่ทำหน้าบึ้งก็ยิ้มออกมาเมื่อฉันบอกว่าไม่ไปดูบาสแล้ว อะไรของเขาเป็นไบโพล่าร์หรือไงอารมณ์เปลี่ยนทุกนาทีเลยจริงๆ
“จ๊ะ” โฟร์กำลังจะเดินออกไปเขาก็หยุดชะงักก่อนจะหันมาหาฉันอีกครั้ง คราวนี้เขาทำสีหน้าจริงจังมาก เหมือนมีเรื่องสำคัญจะพูดกับฉัน “มีอะไรหรือเปล่า?”
“ถ้ามีผู้หญิงมาถามว่าเธอเป็นอะไรกับฉันให้เธอตอบว่าไม่ได้เป็นอะไรกันนะ”
มันก็ต้องตอบแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ฉันกับโฟร์ไม่ได้เป็นอะไรกันจะให้ฉันตอบว่าเป็นหรือไง เขาก็พูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้นะ ฉันไม่มีทางขุดหลุมฝังตัวเองอย่างแน่นอน
“คือให้เธอตอบว่าไม่รู้จักฉัน หรือไม่ก็ทำหน้างงแล้วไม่ต้องตอบก็ได้”
“ทำไมล่ะ ก็ตอบไปว่าเป็นเพื่อนกันแค่นั้นก็ได้นี่นา”
“เพื่อนก็ไม่ได้” คราวนี้เขาทำเสียงเข้มเป็นเชิงออกคำสั่งให้ฉันทำตามที่เขาบอก ฉันพยักหน้าอย่างงงๆ เหมือนตัวเองเข้าใจแต่ที่จริงก็ไม่เข้าใจ เอาเถอะมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร และคิดว่าคงไม่มีใครมาถามหรอก ฉันไม่ได้ไปไหนมาไหนกับโฟร์จะมีผู้หญิงมาถามแบบนั้นได้ยังไง “รับปากแล้วนะ”
“อื้อ จะไปเรียนไม่ใช่เหรอ” โฟร์พยักหน้าแล้วเดินออกไป ฉันวิ่งไปที่หน้าประตูก่อนจะตะโกนขึ้นตามหลังเขา “ตั้งใจเรียนนะ”
เขาหันกลับมายิ้มให้ฉันก่อนจะเข้าลิฟต์ไป ฉันพ่นลมหายใจออกมาเหมือนว่าตัวเองเหนื่อยทั้งที่ก็ไม่ได้ออกกำลังอะไรเลย โฟร์เป็นบุคคลที่ฉันเข้าใจเขายากมาก เวลาที่พูดกับเขายังงงๆ อยู่เลยว่าเราสองคนพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า
เพราะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรแล้วจะทำอะไร