“สุขสันต์วันเกิดนะปุย ขอโทษที่ปีนี้ขุนไม่ได้อยู่ด้วย” วันนี้เป็นวันเกิดครบ 21 ปี ของปุยฝ้ายแต่ ทว่า..คู่หมั้นของเธอได้เพียงโทรมาอวยพรและส่งของขวัญมาให้ เขาและเธอเรียนคนละจังหวัดขุนพลจะมีเวลาน้อยลงเพราะเขาต้องเรียนรู้กิจการที่บ้านในฐานะผู้สืบทอดกิจการคนต่อไป เขามีความฝันอยากจะเรียนสถาปัตย์แต่ต้องล้มเลิกเพราะต้องเรียนบริหารเพื่อตามใจมารดา
MUNG DOWN : สุขสันต์วันเกิดครับคนสวย
Nahathai : ขอบคุณค่ะ
MUNG DOWN : ขอให้เราได้เป็นแฟนกัน
Nahathai : อยากตายก็ลองดู
วิชญ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เขาพยายามหยอดปุยฝ้ายทุก ๆ วัน ถ้าวันไหนเขาไม่เจอก็มักจะโทรและแชทมาทุกวันจนทั้งคู่เริ่มคุยกันมากขึ้นทางด้านปุยฝ้ายเธอก็เริ่มพูดคุยและดูผ่อนคลายเวลาเจอวิชญ์และเพื่อน ๆ ของเขามากขึ้น
“มึงคิดว่า ผู้หญิงอย่างปุยฝ้ายชอบอะไรว่ะ” วิชญ์พยายามหาของขวัญวันเกิดให้เธอ…โดยปรึกษาเพื่อน ๆ ในกลุ่ม
“ก็พวกกระเป๋า เครื่องสำอางแบรนด์เนมไร้งี้ง่ายจะตาย” อินดี้เสนอตามที่เขาให้ของขวัญผู้หญิงที่เคยตามจีบ
“แต่กูว่าบัดดี้กูไม่ใช่ผู้หญิงแนวนั้นว่ะ…กูเดาใจไม่ออก” ต้นไผ่เท่าที่เขาดูนิสัยใจคอของบัดดี้สาวเธอค่อนข้างจะเดาใจยากและดูไม่ติดหรูอะไร
“เฮ้ออ…กูก็จนปัญญาว่ะ” วิชญ์ก็หมดหนทางที่จะเอาใจเธอเช่นกัน
“มึงก็ไปถามเพื่อนเค้าสิ อยู่คอนโดเดียวก่ะมึง บร่ะไอ่นี่! ฉลาดแค่เรื่องเรียนเรื่องหญิงโง่นัก” เจเจได้ทีก็เหน็บเพื่อนมันคือเรื่องจริงวิชญ์ไม่เคยเข้าหาผู้หญิงคนไหนมาก่อนและต้องมาทำอะไรแบบนี้ ขนาดน้ำผึ้งแฟนสาวของเขาเธอเองที่เป็นฝ่ายมาจีบเค้าก่อน
“ไอ่เชี้ย…เจ” วิชญ์กระตุกยิ้มเบา ๆ ที่มุมปาก
“ห่ะ!…ชอบตุ๊กตาไอ้เจ้าการ์ตูนตัวสีฟ้า” วิชญ์อดหัวเราะในความชอบที่เหมือนเด็กไม่น่าเชื่อว่า ยัยหน้าจืด ของเขาจะแอบมีนิสัยและมุมนี้ เขาได้เข้าไปถามเต้ยที่คอนโดดักรอเธอหน้าล็อบบี้
“เอ้อ....เราช่วยแค่นี้แหละ” เต้ยไม่อยากจะสนับสนุนวิชญ์เพราะเธอรู้ว่าปุยฝ้ายมีคนรักและหมั้นกันแล้วจึงไม่ได้เชียร์หรือให้ความหวังใดใดกับเขา ในวันนั้นเขาโดดเรียนในช่วงเช้าเพื่อไปห้างสรพพสินค้าหาซื้อไอ้เจ้าตุ๊กตาสีฟ้าตัวโปรดของยัยหน้าจืด
“ผู้หญิงอะไร ไม่ชอบเงินทองของมีค่ากระเป๋าเสื้อผ้าเครื่องสำอง” ระหว่างที่ขับรถเขายังแปลกใจและพึมพำก่ะตัวเองว่าต้องลงทุนทำอะไรแบบนี้ เพื่อเอาใจสาวที่เห็นเขาทีไรต้องหนีกระเจิงกลัวเขายิ่งกว่าผีสาง
@อพาร์ตเมนต์ปุยฝ้าย
รถทรงสปอร์ตสีดำหรูราคามูลค่าไม่ต่ำกว่าสิบล้านบาทสีดำสนิทจอดอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของปุยฝ้าย เนื่องจากตุ๊กตาตัวใหญ่มากเขาไม่สามารถขับบิ๊กไบค์และเอามาได้จึงใช้รถยนต์ที่แม่บังคับให้เอามาเรียน เพราะแม่ไม่ชอบให้วิชญ์ขับมอเตอร์ไซด์
วิชญ์ : ลงมาหาหน่อย
ปุยฝ้าย : ปุยไม่สะดวก
วิชญ์ : งั้นวิชญ์ขึ้นไปนะ
ปุยฝ้าย : เข้ามาได้ไงนายไม่มีคีย์การ์ด
เธอดัดสายทิ้งและมองลงมาแต่วิชญ์รอมีคนเดินออกมา และอุ้มตุ๊กตาตัวยักษ์เดินสวนเข้ามาข้างในแบบง่าย ๆ สักพักเขาก็เดินมาเคาะประตูหน้าห้องเธอปุยฝ้ายคิดว่าเป็นกิ๊กและเธอก็เดินมาเปิดให้
“วิชญ์!” เจ้าของห้องตกตะลึงถึงกับถลึงตาโตมองมาที่คนที่เอาแต่ใจวันนี้เขาไม่ได้ใส่เสื้อชอป เขาใส่ชุดไปรเวทดูหล่อสมกับเป็นตัวเขาร่างสูงอุ้มตุ๊กตาตัวโปรดของเธอ ขนาดของมันใหญ่กว่าปุยฝ้ายเป็นสองเท่าและเอามายื่นให้ปุยฝ้ายยิ้มอย่างหลงลืมตัวและรีบหุบรอยยิ้มนั้นไว้เพื่อเก็บอาการ
“ขึ้นมาได้ยังไงใครอนุญาต” ปุยฝ้ายบ่นวิชญ์และไม่ยอมรับเจ้าตุ๊กตา
“ของขวัญวันเกิดครับ” วิชญ์รีบเอาตุ๊กตาดันตัวคนร่างบางและเดินเข้ามาจนเธอถอยหลังและยืนอยู่ในห้องอย่างถือวิสาสะ
“นี่อย่าเข้ามานะ” ปุยฝ้ายดุและพยายามดันเจ้าตุ๊กตาและวิชญ์ออก
“มันหนักขอวางหน่อยได้มั๊ย” ที่จริงตุ๊กตาไม่ได้หนักแต่เขาแกล้งเพื่ออยากเข้ามาหาเธอที่ห้องสายตาคมดำขลับสำรวจในห้อง เขาเดินวนดูแบบไม่แยแสเจ้าของห้องภายในห้องของเธอสะอาดเป็นระเบียบทุกอย่างถูกจัดเรียงไว้อย่างดีปุยฝ้ายเป็นคนที่เจ้าระเบียบและสะอาดมากในห้องมีแต่หนังสือตำราเรียน
“ขอบคุณนะสำหรับของขวัญ ปุยจะเอาวางไว้ตรงนี้ละกัน” เธอรีบพลักคนตัวโตเพื่อให้เขากลับไป
“หิวข้าวยังไม่ได้กินอะไรเลยไปซื้อของมาเหนื่อยไม่มีแรงแล้ว” เขาออดอ้อนทำหน้าจ๋อยเพราะเขารีบไปหาซื้อของขวัญให้เธอและไม่ได้แวะทานข้าวเลย คนเจ้าเล่ห์เดินไปนั่งที่โซฟาในห้องอย่างอารมณ์ดีทำตัวสบายเหมือนกับว่าเป็นห้องของตัวเอง
“หิวก็กลับไปกินสิคะ ข้างล่างมีร้านอาหารตามสั่งลงไปได้เลย” ปุยฝ้ายเหลืออดก่ะความหน้ามึนของเค้าเธอไล่ให้เขาออกไป
“อืม…ต้มมาม่าให้วิชญ์หน่อยสิ อยากกินฝีมือคนสวย” เขาอ้อนและเอามือลูบท้องทำหน้าตาเศร้า ๆ ร่างบางถอนหายใจเดินไปหยิบมาม่าผักและไข่ในตู้เย็นมาต้มให้เขา สักครู่ก็เดินมาเสิร์ฟที่โต๊ะพร้อมกับน้ำเปล่าส่งกลิ่นหอมฟุ้งน่ารับประทาน
“รีบกินแล้วรีบกลับนะ” ปุยฝ้ายไล่เขาวิชญ์ที่ตอนนี้หิวมากจึงไม่พูดซดมาม่าหมดชามในเวลาไม่นาน “อร่อยดีแฮ่ะ วันหลังต้องมาฝากท้องที่นี่บ่อย ๆ แล้ว” เขายิ้มหวานหยิบชามและแก้วน้ำไปล้างให้เธอ เพื่อที่เขาจะได้มีข้ออ้างอยู่นาน ๆ
“เชิญค่ะ” ปุยฝ้ายเปิดประตูและไล่เขากลับแต่ไม่เป็นผลเขาไม่สนเดินไปเปิดทีวีแล้วทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาตัวเดิมกดมือถือเล่นและลงรูปตุ๊กตาสีฟ้าตัวโปรดของเธอ ปุยฝ้ายเหลืออดกับพฤติกรรมที่เอาแต่ใจและความหน้ามึนของเขาเป็นที่สุด
“ง่วงจังของงีบสักครู่นะ” พูดจบเขาก็หลับตาพริ้มและนอนที่โซฟาตัวเดิมอย่างสบายตัว
ผ่ามมาหนึ่งชั่วโมงปุยฝ้ายได้มาปลุกและนั่งลงข้าง ๆ เขาวิชญ์ตื่นขึ้นมาและลุกมานั่งข้างเธอ เขาจ้องมองใบหน้าสวยแล้วเอามือมาจับเส้นผมหนุ่มที่บังหน้าสวยมาคล้องที่ใบหูปุยฝ้ายสะดุ้งและปัดมือหนาออกปากหยักยกยิ้มสายตาแพรวพราวมองเธอแบบเสือกำลังจะกินเหยื่อ
“ก็ผมมันบังไม่รำคาญเหรอ” เขาหัวเราะชอบใจที่ปุยฝ้ายทำหน้างอคิ้วงามขมวดจนเป็นปม
“ไม่ต้องมายุ่ง กลับได้แล้ว”
“วิชญ์มีข้อเสนอ…หลังจากนี้ไปถ้าวิชญ์ทำไม่ได้ สัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับปุยอีก” เขามีแผนร้ายในใจที่คิดทบทวนมาแล้วก่อนที่จะมาหาเธอ
“ว่ามาสิ” ปุยฝ้ายรอฟังอย่างตั้งใจเธอคิดว่าน่าสนใจถ้าหากแลกกับการที่เขาจะไม่มาวุ่นวายอีก
“วิชญ์จะมาอยู่ที่นี่....” เขากระตุกยิ้มสายตาจ้องมองหน้าเธออย่างเจ้าเล่ห์
“พูดอะไรบ้าบอ…ไม่ได้!” ปุยฝ้ายไม่ยอมรับข้อเสนอบ้า ๆ นี้อย่างเด็ดขาด เขาดูถูกตัวเธอมากเกินไปแล้ว
“คิดอะไรทะลึ่งนะเรา…ฮ่ะ ๆ ๆ” วิชญ์หัวเราะลั่นชอบอกชอบใจที่เธอทำหน้าเหวอกับข้อเสนอ
พิเรนทร์นี้
“ไม่....ยังไงก็ไม่ได้!” เธอส่ายหน้าหัวแทบหลุดไม่ยอมรับข้อเสนอนี้คิดยังไงเธอก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ฟังวิชญ์ให้จบนะ…วิชญ์จะมาอยู่กับปุยแค่สิบวัน และจะไม่ทำอะไรที่ไม่ดีหรือล่วงเกินปุยฝ้ายภายในสิบวันนี้แน่นอน ถ้าทำไม่ได้ปุยจะฆ่าหรือจะแจ้งตำรวจวิชญ์ก็ยอมถือว่าวิชญ์แพ้” แววตามุ่งมั่นของวิชญ์จริงจังเหมือนตอนที่เขาบอกชอบเธอมันเป็นแววตาที่ดูแล้วจริงใจไม่เสแสร้ง
“แล้วยังไง…” ปุยฝ้ายถามหนุ่มวิศวะต่อ
“วิชญ์คิดมาดีแล้วปุย….ถ้าเราไม่ได้คบกันจริง ๆ อย่างน้อยขอให้วิชญ์ได้ใช้เวลานี้อยู่กับปุยครั้งสุดท้าย” ปุยฝ้ายใช้ความคิดอย่างหนักมันจะเสี่ยงเกินไปไหมที่ยอมให้เขาเข้าใกล้เธอมากมายขนาดนี้
“เราจะไว้ใจคนแบบนี้ได้จริง ๆ เหรออย่าหลงกลนะ” ร่างบางทบทวนคำตอบในใจเธอไม่อยากจะให้เขาวนเวียนอยู่ใกล้เธอแบบนี้อีก มันคงจะดีถ้าใช้เวลาแค่สิบวันตามที่เขาขอทุกอย่างอาจจะจบลงด้วยดีชีวิตสงบในรั้วมหาวิทยาลัยที่เธออยากจะมีเพื่อแลกกับมันอีกทั้งเธอเองก็มั่นคงในความรักที่มีต่อคู่หมั้นหนุ่มอย่างขุนพลเสมอ
“ปุยกลัวเราเหรอ ไม่กล้าล่ะสิ…งั้นเราจะตามปุยแบบนี้ทุกวัน ห้ามหนีห้ามหลบล่ะ” เขาท้าทายและขู่ว่าจะตามเธอและหนักกว่านี้ถ้าเธอไม่รับข้อเสนอ
“ได้! แค่สิบวันนะ หลังจากนั้นเราจะไม่เป็นแม้แต่คนที่รู้จักกัน
“เอาสิ…” วิชญ์เอามือมาจับมือนิ่มเช็คแฮนด์เขาจะต้องทำให้เธอชอบเขาให้ได้ ภายในระยะเวลาสิบวันนี้เขาสู้จนขาดใจใช้ความเจ้าเล่ห์ล่อให้เธอใจอ่อนและจะจีบยัยหน้าจืดให้ติดให้ได้