ชลธารกลับเข้าบ้านมาในตอนเย็นและเห็นคนที่เขาเก็บมานั่งเรียบร้อยที่โซฟาดูรายการในทีวีอย่างตั้งใจ พัทธดนย์ไม่สนใจการเข้ามาของชลธารสักนิด และเหมือนว่ารายการในทีวีจะมีอะไรน่าสนใจกว่า
"ไอ้ชล แกมานี่ทีดิ๊" พินทุอรกวักมือหยอย ๆ เรียกลูกชายที่กำลังยกน้ำเย็นดื่มอึก ๆ หน้าตู้เย็น
"อะไรแม่" ชลธารวางขวดน้ำบนโต๊ะแล้วเดินไปหาแม่ที่หลังครัว
"แกไปเก็บคนบ้าที่ไหนมาวะ ทำตัวประหลาดสุด ๆ"
"เขาทำไรล่ะ? ก็ดูปกติดีนี่"
"ปกติบ้านแกสิ กินข้าวเหนียวก็ใช้ช้อนส้อม ส้มตำก็ไม่เคยกิน ปลาร้าก็ไม่รู้จัก หน้าก็นิ่งยังกะหุ่นปูนปั้น แถมนั่งดูทีวีไม่ขยับเขยื้อนไปไหนทั้งวัน นี่เหรอที่ปกติ" พินทุอรดึงหูลูกชายมากระซิบ
"เหรอ อืมม" ชลธารพยักหน้ารับฟังแม่แล้วชำเลืองมองไปยังคนที่นั่งดูทีวีอย่างตั้งใจมาก ทั้งที่รายการในทีวีคือละครซิทคอมไร้สาระช่วงเย็น
"แม่ว่าแกพาเขาไปส่งตำรวจเถอะว่ะ เผื่อมีโรงบาลไหนแจ้งคนป่วยหาย" พินทุอรเสนอความเห็นด้วยสีหน้าจริงจังมาก
"เอาน่าแม่ เขาไม่เพี้ยนขนาดนั้นหรอก ปล่อยเขาอยู่บ้านเราไปก่อนเถอะ" ชลธารแบ่งรับแบ่งสู้ ถึงจะรู้สึกว่าพัทธดนย์ทำตัวแปลกประหลาด แต่ก็ไม่อยากปล่อยไปตอนนี้ เพราะอาจจะคิดสั้นฆ่าตัวตายอีก และเรื่องนี้เขาก็ไม่ได้บอกแม่
"แกแน่ใจนะ ว่าเขาจะไม่ทำอะไรบ้า ๆ ขึ้นมาอย่างปีนเสาไฟ จับหมาเป็นตัวประกันอะไรแบบนี้"
"แม่คิดมากไปแล้วน่า เขาไม่ได้ติดยาสักหน่อย คงไม่ทำอะไรบ้า ๆ แบบนั้นหรอก" ชลธารปลอบแม่ แต่ตัวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพัทธดนย์จะทำอะไรบ้า ๆ ขึ้นมาอีกไหม แต่ดูไม่เหมือนคนติดยาอะไร แถมดูไม่กังวลหรือเป็นโรคซึมเศร้าด้วย แค่นั่งนิ่งทำหน้าเรียบเฉยเท่านั้น แต่ก็นะ คนเงียบแบบนี้คิดอะไรอยู่ในใจนี่ไม่มีใครเดาออกเลย
"โอเคนะแม่ เดี๋ยวผมจะพาเขาไปเดินตลาดหาซื้อเสื้อผ้าใส่ จะใส่ของผมไปตลอดคงไม่ได้ ตลกน่าดู แล้วจะซื้อกับข้าวมาให้ด้วย"
"งั้นก็ตามใจแกละกัน" พินทุอรถอนใจกับลูกชายที่เป็นคนมองโลกในแง่ดีสุด ๆ
ชลธารหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่แล้วเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่น เขาทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วมองคนที่นั่งดูรายการทีวีอย่างตั้งใจ
"คุณพัท ไปตลาดกันเถอะ ผมจะซื้อเสื้อผ้าให้คุณใส่ ซื้อกับข้าวมากินด้วย"
"ผมไม่มีเงิน" พัทธดนย์ตอบมาทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากโฆษณาในทีวี
"รู้แล้วว่าไม่มีเงิน ผมจะซื้อให้ไง คุณจะใส่แต่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดของผมทุกวันไม่ดีมั้ง" ชลธารมองคนที่ใส่เสื้อยืดของเขาที่ดูคับไปนิดหน่อยกับกล้ามของคนสวมใส่ แถมกางเกงขาสั้นของเขายังดูคับและสั้นเต่อเมื่ออยู่บนร่างกายที่สูงกว่าเขา แต่เอ๊ะ! เมื่อเช้าเขาให้พัทธดนย์ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขายาวนี่หว่า หรืออาบน้ำแล้ว นี่ยังไม่มืดเลยนะเว้ย จะอาบอะไรเร็วปานนั้น
"ไปก็ได้ รอเดี๋ยว" พัทธดนย์บอกแล้วลุกเดินกลับเข้าไปในห้องนอน สักพักก็เดินออกมาในชุดเสื้อผ้าที่เขาใส่มาเมื่อวาน เสื้อเชิ้ตแขนสั้นกับกางเกงผ้าเนื้อดี ขาดแต่เสื้อสูทสีเดียวกับกางเกงที่ยังตากอยู่หลังบ้าน ซึ่งพินทุอรซักด้วยมือ ไม่ได้ยัดลงเครื่องซักผ้าเพราะกลัวทรงมันจะเสีย
ชลธารมองคนที่เดินออกมาจากห้องนอนเขาด้วยความชื่นชม พัทธดนย์ตัวสูงและมาดดีมาก เขายืนเต็มความสูง อกผาย ไหล่ผึ่ง หน้าเชิดนิด ๆ ท่าทางเชิดหยิ่ง ผมด้านหน้าถูกเสยขึ้นเปิดหน้าผาก คิ้วเข้มรับกับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ดูมั่นใจ ใบหน้าเรียบไร้ริ้วรอยใด ๆ แม้แต่หนวดก็ถูกโกนจนเกลี้ยงเกลา หมอนี่ไม่เหมือนคนมีปัญหาจนคิดสั้นฆ่าตัวตายเลยสักนิด เหมือนนักธุรกิจพันล้านมากกว่า โคตรจะเท่ เท่กว่าคุณเจนวัตรเจ้านายเขาด้วย
"มองอะไรนักหนา เสียมารยาท" พัทธดนย์หรี่ตามองคนตรงหน้าที่ยืนมองเขาตั้งแต่ออกมาจากห้องนอน
"มองไม่ได้หรือไง กลัวความหล่อกระเด็นหายเหรอ" ชลธารทำหน้าเซ็งและขอถอนคำชื่นชมเมื่อกี้ทั้งหมด ปากจัดไม่สมกับหน้าหล่อเลยแฮะ
"ทำไมต้องกลัว ผมหล่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว ไปได้แล้ว อย่าเสียเวลาให้มากนัก"
"ครับ ๆ ไปกันเถอะ" ชลธารเดินนำออกจากบ้านไปที่รถเขา นอกจากจะนิสัยประหลาดแล้วยังหลงตัวเองอีกแน่ะ
หลังจากขึ้นรถแล้วชลธารก็ขับรถพาคนประหลาดไปที่ตลาดนัดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่ไม่ไกลบ้านนัก ตลาดนัดแห่งนี้มีผู้คนนิยมมาเที่ยวจับจ่ายซื้อของกันมาก ด้วยสินค้าที่หลายหลากทั้งของกินของใช้สารพัดให้เลือกซื้อเลือกหา
"อะไรน่ะ? ตลาดนัดเหรอ? มีแต่ฝุ่น" พัทธดนย์เปรยออกมาเมื่อชลธารหาที่จอดรถได้และกำลังจะเปิดประตูลงไป
"ก็ตลาดนัดไง มีเสื้อผ้าขายตั้งเยอะ ของกินก็เยอะ จะให้ไปซื้อในห้างเหรอ มันแพงนะ" ชลธารท้วงออกมาแล้วเปิดประตูรถลงไป
พัทธดนย์มองคนที่ลงไปแล้วเขาจึงเปิดประตูรถเดินตามไป ตลาดนัดนี่คงเหมาะกับคนมีรายได้น้อยล่ะนะ แล้วตอนนี้เขาเองไม่มีเงินติดตัวเลย จะบ่นมากคงไม่ได้ และที่นี่อาจจะมีอะไรน่าสนใจมากกว่าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ก็ได้
ชลธารเดินนำไปทางแหล่งที่ขายของกินก่อน เพราะคนขายมักจะมาตั้งแผงกันตั้งแต่ทางเข้าตลาดกันเลย และเขาก็แวะที่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงคันหนึ่งที่กำลังทอดอะไรสักอย่างในกระทะและสร้างกลิ่นหอมชวนหิวได้มากโข
พัทธดนย์เดินตามชลธารไปที่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงที่มีคนมุงกันหลายคน เขาแทรกตัวตามชลธารเข้าไปดูของขายในถาดแล้วก็ชะงัก ก่อนจะรีบถอยออกมายืนห่าง ๆ รอชลธาร
"คุณพัท กินไหม อร่อยนะ" ชลธารยื่นถุงใสมาตรงหน้า แล้วอีกมือหนึ่งก็หยิบของในถุงใส่ปากเคี้ยว
"ไม่! ผมไม่กินหนอนนะ" พัทธดนย์ทำหน้าแขยงแล้วรีบถอยกรูด
"หนอนรถด่วนจากปล้องไม้ไผ่ สะอาด อร่อย โปรตีนสูงด้วย ไม่ลองชิมเหรอ" ชลธารยิ้มมุมปากเมื่อเห็นคนหน้านิ่งไร้อารมณ์มองรถด่วนทอดในมือเขาด้วยหน้าเรียบเฉย แต่แววตากลับดูตื่น ๆ
"ไม่! มัน.. น่า.." พัทธดนย์เม้มปาก จะบอกว่าน่าขยะแขยงก็คงไม่ดี เพราะมีคนซื้อกันหลายคน ดีไม่ดีเขาจะถูกรุมประชาทัณฑ์ในตลาดเอา
"งั้นกินนี่ไหม? อร่อยเหมือนกัน" ชลธารหยิบอีกถุงมายื่นให้
"ไม่! ผมไม่ใช่ปลานะ จะมากินตั๊กแตนทอด" พัทธดนย์ปฏิเสธเสียงแข็ง
"ไม่ใช่ตั๊กแตนสักหน่อย แมงสะดิ้งต่างหาก ไข่เต็มท้องอร่อยจะตาย โปรตีนก็สูงด้วย" ชลธารยิ้มแล้วโยนแมงสะดิ้งทอดใส่ปากด้วยความอร่อย
"กินอะไรประหลาด" พัทธดนย์หรี่ตาย่นจมูกมองถุงแมลงทอดที่ชลธารซื้อมากินเล่นด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่ ทำไมชาวบ้านถึงชอบกินของอะไรแบบนี้กันนะ มันน่ากินตรงไหนนี่
"ไม่ประหลาดสักหน่อย แมลงนี่คือแหล่งโปรตีนชั้นยอดทดแทนเนื้อสัตว์เลยนะ" ชลธารหัวเราะเมื่อเห็นคนหน้านิ่งเริ่มแสดงความรู้สึกออกมาทางสีหน้า แกล้งคนหน้านิ่งนี่ก็สนุกดีเหมือนกันแฮะ
พัทธดนย์เดินตามชลธารดูของกินไปเรื่อย ๆ ด้วยความแปลกใจนิดหน่อย ตลาดนัดแบบนี้มีของกินแปลก ๆ ที่เขาไม่เคยเห็นและไม่เคยกินเยอะมาก บางอย่างเขาก็เคยเห็นแค่ในหนังสือหรือในทีวี แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
"คุณพัท กินหนวดหมึกย่างไหม?" ชลธารถามแล้วแวะรถเข็นขายหมึกย่างน้ำจิ้มสุดแซ่บ
"หมึกย่างเหรอ มันดูไม่.."
"เอาน่า ๆ อย่าอนามัยนักเลย มีอะไรให้กินก็กินไปเถอะ" ชลธารซื้อหนวดหมึกย่างให้แม่ค้ารูดไม้ออก ราดน้ำจิ้มชุ่ม ๆ สองถุงแล้วส่งให้พัทธดนย์ถุงหนึ่ง
"กินก็ได้" พัทธดนย์จิ้มหนวดหมึกในถุงใส่ปากด้วยความเก้ ๆ กัง ๆ เพราะเดินไปด้วยกินไปด้วย ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยกินแบบนี้ เคยแต่เข้าร้านอาหารนั่งห้องแอร์กินหมึกนึ่งมะนาว หรือหมึกลวกน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ใส่มาในจานใบใหญ่
"อร่อยไหม?" ชลธารถามด้วยรอยยิ้มแล้วกินหมึกย่างในถุงของเขา
"ก็ใช้ได้ รสจัดดี อร่อยกว่าน้ำจิ้มซีฟู้ดในร้านกุ้งเผา" พัทธดนย์ตอบแล้วจิ้มหมึกชิ้นต่อไปในถุงใส่ปาก
"ว่ามะ ของตลาดนัดอร่อยกว่าในร้านดังตั้งเยอะ" ชลธารหัวเราะออกมาเมื่อเห็นคนหน้านิ่งอร่อยกับหนวดหมึกย่างที่เขาซื้อให้
พัทธดนย์มองคนที่หัวเราะข้างเขาแล้วแปลกใจนิดหน่อย ชลธารดูสนุกสนานและอารมณ์ดีได้ตลอดเวลา ทั้งที่ต้องทำงานหนักทั้งวัน และมาเดินเที่ยวตลาดนัดที่ทั้งร้อน ทั้งฝุ่น คนก็เยอะ แถมกลิ่นอาหารสารพัดกับเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังหนวกหูตลอดเวลา
"ปากเลอะหมดแล้วแน่ะ มือเปื้อนด้วย" ชลธารส่งผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้คนที่กินหมึกย่างจนหมดถุง และดึงถุงเปล่าในมือพัทธดนย์มาถือรวมกับของเขา
"ก็คุณให้ผมกินเอง" พัทธดนย์รับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปาก เช็ดมือแล้วยัดใส่กระเป๋ากางเกง
"อยากกินอะไรอีกไหม?" ชลธารถามด้วยรอยยิ้มแล้วเอาถุงขยะไปทิ้งลงถังขยะแถวนั้น
"ไม่รู้สิ ขอดูก่อน" พัทธดนย์กวาดตามองไปรอบ ๆ สองข้างทางเดินที่มีของกินเล่น ของว่าง ของทอด ยำสารพัด กับข้าวถุง เยอะแยะไปหมด
ชลธารอมยิ้มแล้วปล่อยให้พัทธดนย์เดินดูของกินจนแทบจะทุกร้านที่ผ่าน และเห็นเขาสนใจเกือบทุกอย่าง ยังกับไม่เคยเห็นไม่เคยกิน เหมือนเด็กเลยแฮะ
"ชลธาร นั่นอะไร?" พัทธดนย์ชี้ไปที่แผงปิ้งย่างร้านหนึ่ง ที่มีลูกชิ้น เต้าหู้ปลา ไส้กรอกคอกเทล บล็อกโคลี่ ข้าวโพดอ่อน เห็ดเข็มทองพันด้วยโบโลน่า และอีกหลายอย่าง ทุกไม้มีจำนวนไม่กี่ชิ้นและทาด้วยอะไรสักอย่างสีเข้ม ๆ ที่ไม่เหมือนน้ำจิ้มลูกชิ้นที่เขาเห็นจากแผงที่เดินผ่านมาเมื้อกี้
"หม่าล่า กินไหม มันจะเผ็ดหน่อยนะ"
"กิน ถ้ามันอร่อย" พัทธดนย์ตอบแล้วมองแม่ค้าทาน้ำจิ้มลงบนไม้ที่ปิ้งบนเตาและมีคนมาซื้อไปหลายคน มันก็คงอร่อยแหละนะ ไม่งั้นคงไม่ซื้อกันคนละสิบกว่าไม้หรอก เขามองชลธารที่ซื้อทุกแบบมากกว่าสิบไม้ใส่สองถุง และยื่นให้เขาถุงหนึ่ง ไม่ต้องให้แนะนำอะไร พัทธดนย์ดึงออกมาไม้หนึ่งแล้วใส่ปาก
"อืม เผ็ดเหมือนกันนะ แล้วกลิ่นนี่มัน.. แปลกจัง แต่ก็อร่อย"
"พริกหม่าล่า เป็นพริกเสฉวนของจีน คนกำลังนิยมกินกัน" ชลธารว่าแล้วดึงหม่าล่าจากถุงในมือพัทธดนย์ใส่ปากไม้หนึ่ง
"มากินของผมทำไม ของคุณก็มีนะ" พัทธดนย์ท้วงทั้งที่เคี้ยวเต้าหู้ปลาแล้วดึงถุงหนี
"นี่ผมซื้อให้แม่ต่างหาก แล้วคุณจะกินหมดเหรอนั่น ได้อิ่มก่อนกินข้าวเย็นพอดี"
"อืมม งั้นกินด้วยกันก็ได้" พัทธดนย์ยื่นถุงในมือให้ชลธารและแปลกใจตัวเองไม่น้อย นี่เขาเดินกินของที่ซื้อจากข้างทาง แล้วยังยอมกินร่วมถุงกับคนอื่นด้วยเหรอ ปกติเขาจะไม่กินจานส่วนตัวร่วมกับใครเลย เพราะมันคือมารยาท นอกจากจะเป็นอาหารที่กินร่วมกันโดยใช้ช้อนกลาง แต่ตอนนี้เขากลับยอมให้ชลธารกินหม่าล่าถุงเดียวกับเขา และไม้เสียบที่ชลธารกินไปแล้วก็อยู่รวมกันในถุงที่เขากำลังถือ
หลังจากหม่าล่าทำพัทธดนย์อิ่มเกินกว่าจะเป็นของรองท้อง แล้วเขาจะกินข้าวเย็นได้อีกไหมนี่ แต่คงไม่ต้องคิดมาก เมื่อชลธารซื้อกาแฟเย็นโปะวิปครีมแล้วโรยท็อปปิ้งด้วยของขบเคี้ยวกรุบกรอบจนพูนแทบจะมองไม่เห็นกาแฟยื่นส่งให้เขา
"แก้วนี้ราคาเท่าไหร่?" พัทธดนย์ถามแล้วตักท็อปปิ้งกับวิปครีมใส่ปาก แต่เมื่อได้ยินราคาที่ชลธารบอกแล้วเขาก็ยิ่งแปลกใจ เพราะกาแฟในมือเขามันอลังการมากกว่าที่เขาเคยกินในร้านกาแฟชื่อดัง แต่ราคาถูกมากกว่าครึ่ง นี่คนขายมีกำไรด้วยเหรอ ถึงจะรู้ว่าต้นทุนค่ากาแฟมันถูก แต่ท็อปปิ้งเยอะขนาดนี้มันก็มีต้นทุนไม่น้อย เผลอ ๆ อาจจะเยอะกว่าค่ากาแฟด้วยซ้ำไป
พัทธดนย์เดินตามชลธารไปซื้อของกินสำหรับมื้อเย็น รวมถึงผลไม้และขนมอีกหลายอย่าง และกว่าจะไปถึงโซนที่ขายเสื้อผ้าได้ก็ใช้เวลาไปมากโข
"เสื้อยืดนี่เอาไหม ผ้าดีด้วยนะ" ชลธารยื่นเสื้อยืดให้พัทธดนย์ดูตัวหนึ่ง เนื้อผ้ามันไม่นิ่มเหมือนเสื้อยืดยี่ห้อแพงในห้าง แต่มันก็หนาและไม่ย้วย สีก็โอเค ลายพิมพ์บนผ้าก็ใช้ได้
"ผมซื้อได้กี่ตัว?"
"กี่ตัวก็เอาเลยครับ ตามสบาย ผมจ่ายให้เอง"
"สายเปย์เหรอ?" พัทธดนย์หันไปเลือกเสื้อผ้าต่อ
"ผมเปย์ได้เฉพาะในตลาดนัดนี่แหละ" ชลธารหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำประชดของคนหน้านิ่ง
พัทธดนย์ชำเลืองมองคนกำลังหัวเราะแล้วเลือกเสื้อยืดไปสองสามตัว เสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงขายาว กางเกงขาสั้น รวมถึงกางเกงชั้นในอีกหลายตัว และรองเท้าแตะอีกคู่หนึ่ง
"จะซื้ออะไรอีกไหม หรือจะกลับบ้าน"
"พอแล้ว กลับบ้านกันเถอะ" พัทธดนย์บอกแล้วเงียบไป กลับบ้านเหรอ.. หึ บ้านที่เขาเคยอยู่มามันไม่ให้ความรู้สึกว่าเป็นบ้านสักนิด
"คุณพัท เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเงียบไปล่ะ?" ชลธารชำเลืองมองคนที่นั่งรถคู่มากับเขาด้วยความกังวลลึก ๆ คงไม่ได้คิดถึงเรื่องอยากจะฆ่าตัวตายขึ้นมาอีกนะ
"เปล่า ไม่มีอะไร" พัทธดนย์ตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉยแล้วหันไปมองสองข้างทางจนถึงบ้านของชลธาร