05 - ครั้งแรกของพัทธดนย์

2599 Words
          "อรุณสวัสดิ์" เสียงทักทายจากคนหน้านิ่งดังขึ้นเมื่อชลธารพลิกตัวและลืมตาตื่นในตอนเช้า           "อรุณสวัสดิ์ ตื่นเช้าจังนะ" ชลธารทักทายแล้วลุกเก็บที่นอนปิกนิกไปวางบนหลังตู้เสื้อผ้า หยิบผ้าเช็ดตัวจะไปอาบน้ำ และทุกการกระทำของเขาก็อยู่ในสายตาของคนที่นั่งเฉยบนเตียงนอนจนอดถามออกมาไม่ได้           "ตื่นแล้วไม่ไปอาบน้ำก่อนล่ะ จะมานั่งมองผมทำไม?"            "ให้คุณไปอาบก่อน คุณต้องไปทำงานเช้า ผมไม่ได้ไปไหน"           "อ๋อ โอเค ผมไปอาบก่อนก็ได้" ชลธารเกาหัวแล้วเดินออกจากห้อง           พัทธดนย์มองเจ้าของห้องที่ออกไปจากห้องแล้วเขาก็หันไปมองกองเสื้อผ้าที่ชลธารซื้อให้เมื่อคืน คนประหลาด มีความสุขกับการเดินตลาดนัด กินแมลงทอดที่ไม่น่าจะกินได้ ซื้อของกินตามรถเข็นที่ดูไม่สะอาดแถมเดินกินเหมือนเด็ก แล้วยังซื้อเสื้อผ้าให้เขาตั้งหลายตัว            ทำไมชลธารถึงมีความสุขกับเรื่องแค่นี้ล่ะ ทั้งที่ต้องทำงานหนักทั้งวัน แต่กลับซื้อของกินของใช้ให้เขามากกว่าเงินขั้นต่ำรายวันหลายเท่า แล้วเขาก็ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องหรือเพื่อนสนิทอะไร เพิ่งรู้จักกันแค่คืนก่อนนี่เอง           หรือนี่คือน้ำใจของมนุษย์ที่เขาไม่เคยมีให้ใครมาก่อน เพราะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กให้คิดถึงตัวเองก่อน และอย่าสนใจคนอื่นนอกจากคนนั้นจะมีผลประโยชน์ให้           พักใหญ่ชลธารก็เดินกลับเข้าห้องมาในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เขาเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วแต่งตัวใส่เชิ้ตสีอ่อน ผูกไท ใส่กางเกงจนเรียบร้อย และทุกการกระทำของเขาก็อยู่ในสายตาของคนที่นั่งบนเตียงตามเคย           "มองอะไรนักหนาน่ะ ไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้ออกไปกินข้าวเช้ากัน" ชลธารยื่นผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ให้           "อืมม" พัทธดนย์ลุกจากเตียงและถือผ้าเช็ดตัวเดินออกจากห้องไปอาบน้ำ พักใหญ่เขาก็กลับเข้ามาในห้องนอน เปลี่ยนใส่เสื้อยืดกับกางเกงขายาวที่ชลธารวางให้บนเตียง เสร็จแล้วจึงออกจากห้องไปที่ครัว และพบว่าชลธารตักข้าววางให้แล้ว           "วันนี้ไปเที่ยวที่ทำงานกับผมไหม อยู่แต่ในบ้านเบื่อแย่" ชลธารชวนคนนั่งกินข้าวไปเงียบ ๆ ช่างเป็นคนพูดน้อยจริง ๆ           "ไม่ไป จะอยู่ที่บ้าน" พัทธดนย์ตอบด้วยเสียงเรียบและหน้านิ่งตามเคย           "ตามใจละกัน แต่ถ้าเบื่อก็ออกไปเดินเล่นในหมู่บ้านก็ได้นะ มีสวนหย่อมอยู่ด้านในสุด มีเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งด้วย หรือจะไปซื้ออะไรมากินก็ได้ เดี๋ยวผมจะเอาเงินไว้ให้"           "ไม่ไป จะอยู่ที่บ้าน" พัทธดนย์ยืนยันคำเดิม           "โอเค ๆ ตามใจคุณเลย" ชลธารยอมแพ้ หลังกินข้าวเช้า ชลธารก็เก็บจานชามไปวางในอ่างล้างจานแล้วออกจากบ้านไปทำงาน ทิ้งพัทธดนย์ให้อยู่บ้านคนเดียวจนกว่าแม่เขาจะกลับมาตอนสาย ๆ           พัทธดนย์มองตามรถของชลธารขับออกจากบ้านไปจนลับตาแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอน หอบเสื้อผ้าที่ซื้อมาเมื่อคืนเดินไปหลังบ้าน เขาวางเสื้อผ้ากองลงบนพื้นแล้วเปิดฝาเครื่องซักผ้า ยัดเสื้อผ้าทั้งหมดลงไปแล้วปิดฝา...           แล้วมันทำยังไงต่อล่ะ? พัทธดนย์อ่านคำสั่งในการซักผ้าด้านบนใกล้ฝาปิดแล้วก็ไม่เข้าใจสักนิด มันต้องใส่ผงซักฟอกด้วยใช่ไหม แล้วผงซักฟอกอยู่ไหน แล้วมันใส่ตรงไหนของเครื่องซักผ้า ใส่เท่าไหร่ ใส่ตอนไหน ก็ในชีวิตนี้ไม่เคยซักผ้ามาก่อน มันจะสำเร็จหรือมันจะเละเทะกว่าเดิมล่ะ หรือจะรอแม่ชลธารกลับมาก่อนดีนะ           หลังจากยืนคิดอยู่นานพัทธดนย์ก็ยอมแพ้กับการซักผ้าและเดินกลับไปนั่งที่โซฟาเปิดทีวีดูรอพินทุอรกลับบ้าน ซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะไม่ทำให้บ้านของชลธารเละเทะเพราะเขา และจะเป็นการเพิ่มงานให้กับพินทุอรที่ต้องมาเก็บกวาดผลงานของเขา ดีไม่ดีจะไล่เขาออกจากบ้านด้วย ยังไงตอนนี้เขาก็อยู่บ้านคนอื่นนี่นะ           หรือกลับบ้านดี ไม่ล่ะ ถ้าคืนก่อนชลธารไม่ไปขวางเขาไว้ ป่านนี้เขาคงตายไปแล้ว และไม่ต้องสนใจหรือรับรู้เรื่องวุ่นวายอะไรอีก ไม่ต้องแต่งงาน ไม่ต้องทำงานน่าเบื่อ ไม่ต้องทำงานหาเงินเพื่อใครอีก แล้ววิญญาณเขาจะเป็นอิสระจริงไหมนะ           พัทธดนย์ได้ยินเสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านดังขึ้น พินทุอรคงกลับมาแล้วสินะ หลังจากออกไปขายขนมตั้งแต่เช้าตรู่ก่อนที่เขากับชลธารจะตื่นนอนด้วยซ้ำ           "คุณพัท กินข้าวเช้าหรือยัง?" พินทุอรทักทายเมื่อเข้ามาในบ้านและเห็นคนหน้านิ่งนั่งดูทีวีตรงโซฟา มุมเดิมของเมื่อวานเป๊ะ           "ผมกินข้าวกับชลธารแล้ว คุณขายขนมหมดไหม ขายดีหรือเปล่า?"           "หมดทุกวันนั่นแหละ ฉันทำไม่เยอะหรอก แค่พอขายในตลาดตอนเช้าเท่านั้น" พินทุอรตอบด้วยรอยยิ้ม           "ทำขนมใช้ต้นทุนเยอะไหม แล้วกำไรดีไหม?"           "ต้นทุนก็เยอะพอสมควรแหละ น้ำตาลแพงนะ มะพร้าวก็แพง กะทิก็แพง แต่กำไรก็ใช้ได้นะ อยู่กับไอ้ชลสองคนไม่ลำบากอะไร เงินเดือนไอ้ชลก็ผ่อนบ้านผ่อนรถไป"           "งั้นเหรอ" พัทธดนย์มองพินทุอรด้วยความไม่เข้าใจเท่าไหร่ เงินเดือนชลธารต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ และยังซื้อเนื้อซื้อผักมาให้แม่ทำกับข้าวด้วย เงินเก็บคงมีไม่มาก เพราะดูจากสภาพบ้านโล่ง ๆ แล้วคงประหยัดกันน่าดู แต่พินทุอรก็ดูมีความสุข           ผิดกับแม่ของเขาที่ต้องมีเงินใช้จ่ายเดือนละแสน น้องชายกับน้องสาวเขาอีกล่ะ ที่มักจะโทรมาขอให้เขาส่งเงินให้เรื่อย ๆ ทั้งที่เงินรายเดือนที่เขาให้ไปมันมากเกินพอสำหรับใช้จ่ายในประเทศที่ค่าเงินสูงกว่าประเทศไทยหลายเท่า สุชาวดียิ่งแล้วใหญ่ ทั้งที่บ้านเธอก็ร่ำรวย แต่ยังขอให้เขาพาไปชอปปิ้งซื้อของไร้สาระมากมาย แถมยังทำงานไม่ได้เรื่องแลกกับเงินเดือนสูงกว่าคนอื่น           เขาไม่ได้ต้องการให้สุชาวดีมาเป็นเลขาสักนิด แต่แม่เขาบังคับให้รับเธอมาเป็นเลขาและจะได้ดูแลเขาไปด้วย ทั้งที่เลขาเขาก็มีแล้ว แต่พอสุชาวดีเข้ามา เลขาเขาก็ถูกย้ายไปอยู่แผนกต่างประเทศแทน ไร้สาระจริง ๆ            "คุณพัท จะซักเสื้อผ้าเหรอ?" เสียงพินทุอรทักมาจากหลังบ้านทำให้พัทธดนย์ดึงความคิดกลับมา           "อ้อใช่ ผมจะซักเสื้อผ้าที่ซื้อมาเมื่อคืน แต่ผมใช้เครื่องไม่เป็น" พัทธดนย์ตอบแล้วลุกจากโซฟาเดินไปหลังบ้าน           "งั้นเดี๋ยวฉันซักให้นะ จะเอาของไอ้ชลมาซักด้วยเลย"           "ผมจะซักให้เอง คุณสอนผมใช้เครื่องซักผ้าก็พอ"           "เอ๋? จะซักเองเหรอ?" พินทุอรถามด้วยความแปลกใจ คนหน้านิ่งแถมท่าทางผู้ดี๊ผู้ดีจะมาซักผ้าเองเหรอ แล้วยังไม่เคยใช้เครื่องซักผ้าด้วย จะสำเร็จไหมเนี่ย เอาวะ อย่างมากก็ซักใหม่อีกรอบเท่านั้นแหละ           "ผมจะซักให้ รวมทั้งเสื้อผ้าของคุณกับชลธารด้วย"           "หา? เสื้อผ้าของฉันด้วยเหรอ ไม่ดีมั้ง มันมีชุดชั้นในด้วยนะ"           "ผมจะซักเองทั้งหมดนั่นล่ะ ผมไม่อยากนอนดูทีวีเฉย ๆ" พัทธดนย์ยืนยัน เขามาอยู่ที่บ้านนี้ ใช้น้ำใช้ไฟ กินข้าว ดูทีวี แล้วชลธารยังซื้อเสื้อผ้าให้ เขาต้องทำงานตอบแทนบ้าง ไม่งั้นมันคงรู้สึกไม่ดีถ้าจะรับฝ่ายเดียว เขาไม่ใช่คนที่ต้องรอรับความช่วยเหลือจากคนอื่นทั้งที่ยังทำอะไรได้           "โอเค ๆ งั้นรอเดี๋ยว" พินทุอรเกาหัวกับคนเอาแต่ใจแล้วเดินไปยกตะกร้าผ้าซักในห้องของเธอกับชลธารออกมา แล้วรื้อกางเกงชั้นในตัวใหม่ของพัทธดนย์ในเครื่องซักผ้าออกมาด้วย           "เอาออกมาทำไม?"           "ชุดชั้นในต้องแยกใส่ถุงซักนะ ไม่งั้นทรงมันจะโดนเครื่องซักผ้าปั่นจนเสีย"            "งั้นเหรอ" พัทธดนย์มองพินทุอรยกกล่องพลาสติกที่อยู่ไม่ไกลมาวางข้างเครื่องซักผ้า หยิบถุงตาข่ายออกมาแล้วยัดชุดชั้นในทั้งหมดลงไป รูดซิปปิดปากถุงแล้วโยนลงเครื่องซักผ้าพร้อมเสื้อผ้าทั้งหมด           "นี่คือผงซักฟอกนะ แล้วนี่คือน้ำยาปรับผ้านุ่ม" พินทุอรสอนให้คนประหลาดใช้เครื่องซักผ้า และเขาก็พยักหน้าหงึกหงักฟังวิธีใช้งานอย่างตั้งใจ พินทุอรเห็นแล้วแอบปาดเหงื่อ ดีที่ชลธารซื้อเครื่องซักผ้าระบบอัตโนมัติมา ซึ่งมันสามารถใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงในช่องน้ำยาปรับผ้านุ่มได้เลย ไม่ต้องรอให้ซักเสร็จแล้วมาเติมน้ำยาปรับผ้านุ่มทีหลังเหมือนเครื่องซักผ้าตัวเก่าที่อยู่บ้านต่างจังหวัดของเธอ           "โอเค แค่นี้ใช่ไหม แล้วรอจนมันซักเสร็จเอง ง่ายดีจังนะ" พัทธดนย์มองเครื่องซักผ้าที่เดินเครื่องเติมน้ำจนถึงระดับแล้วเริ่มซักตามโปรแกรมที่ตั้งไว้           "แค่นี้แหละ ง่ายใช่ไหมล่ะ" พินทุอรยิ้มแล้วกลับไปจัดการล้างถาดขนมต่อจนเสร็จ           พัทธดนย์ปล่อยเครื่องซักผ้าให้ทำงานของมันไปแล้วเดินไปดูพินทุอรเก็บกวาดห้องครัว           "นี่ใช้ทำขนมเหรอ" พัทธดนย์มองแป้งหลายแบบที่วางกองซ้อนกันที่ชั้นวางของมุมห้อง มีทั้งแป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งถั่วเขียว แป้งท้าว แป้งข้าวโพด แป้งสาลีก็มี น้ำตาลทราย น้ำตาลปึก น้ำตาลมะพร้าว แล้วยังมีพวกถั่วเมล็ดแห้งอีกหลายอย่าง ข้าวโพดดิบ แครอท รวมถึงผงวุ้นและสีผสมอาหาร ไข่ไก่และไข่เป็ดใส่แผง ถาดใส่ขนมสี่เหลี่ยม ถ้วยกระเบื้องใบเล็กอีกจำนวนมาก และพิมพ์สำหรับทำวุ้นรูปต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้พัทธดนย์เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก           เขาเคยกินขนมไทยหลายอย่าง แต่ไม่รู้ว่ามันทำยังไง และใช้วัตถุดิบหรืออุปกรณ์อะไรบ้าง เพราะทุกครั้งคือมันทำเสร็จเรียบร้อยพร้อมรับประทานได้เลย           "ใช่ ฉันใช้ทำขนมน่ะ ส่วนกะทิกับมะพร้าวจะมีคนเอามาส่งให้ตอนเช้ามืด"           "งั้นเหรอ"           "มาลองทำขนมกับฉันไหมล่ะ?" พินทุอรลองชวนแบบทีเล่นทีจริง เพราะคิดว่าผู้ดีอย่างพัทธดนย์คงไม่ทำแน่           "ผมทำได้เหรอ ผมไม่เคยทำเลยนะ"           "ทำขนมไม่ยากหรอก ถ้าตั้งใจทำ"           "งั้นสอนผมทำสักอย่างละกัน เอาแบบง่าย ๆ ก่อน จะได้ไม่เปลืองวัตถุดิบถ้าผมทำพลาด" พัทธดนย์บอกด้วยความรู้สึกสนใจจริง ๆ นี่มันต่างจากงานที่เขาเคยทำมาทั้งหมด งานธุรกิจที่ต้องคอยตรวจสอบการดำเนินงานอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อจะได้กำไรจากการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์โดยไม่ขาดทุนเสียก่อน และยังต้องระวังการทำงานแบบทุจริตของพนักงานอีกด้วย           "ทำวุ้นผลไม้ละกัน เมื่อคืนไอ้ชลซื้อเมลอนกับแก้วมังกรมานี่"           "ได้สิ ผมจะตั้งใจทำ"           พินทุอรเอาเมลอนมาผ่าและให้พัทธดนย์หั่นเป็นชิ้นเล็กใส่ชามไว้ แก้วมังกรก็หั่นชิ้นเล็กด้วย เธอมองคนที่จับมีดแบบไม่เคยจับมาก่อนแล้วแอบปาดเหงื่อ งานนี้เลือดสาดซะละมั้ง พลาสเตอร์ยายังมีเหลือไหมเนี่ย ยาล้างแผลกับสำลีล่ะ มีไหมวะ           "อ๊ะ!" พัทธดนย์สะดุ้งแล้วรีบชักมือออกจากแก้วมังกรที่กำลังหั่น มันลื่นนิดหน่อย มีดเลยพลาดเข้านิ้วจนได้           "มานี่เลย" พินทุรดึงมือพัทธดนย์ไปที่อ่างล้างจาน เปิดน้ำล้างแผลแล้วบีบเลือดออกจนหมด จากนั้นดึงเขามานั่งที่เก้าอี้ หาพลาสเตอร์ยาในกล่องยาสามัญประจำบ้าน โชคดีที่มันยังมีหลายชิ้น เธอจัดการทายาฆ่าเชื้อแล้วพันพลาสเตอร์รอบนิ้วพัทธดนย์จนเรียบร้อย           "ขอโทษครับ" พัทธดนย์มองแก้วมังกรที่หั่นไม่เสร็จ มองนิ้วตัวเองแล้วถอนหายใจ แค่หั่นผลไม้ยังทำไม่สำเร็จ น่าอายจริง ๆ           "ไม่เป็นไร ฉันจัดการต่อเอง เดี๋ยวคุณรอทำวุ้นเลยละกัน" พินทุอรยิ้มขำแล้วไปจัดการแก้วมังกรต่อจนเสร็จ            หลังจากหั่นผลไม้เรียบร้อย พินทุอรก็ให้พัทธดนย์เปิดแก๊สตั้งหม้อใส่น้ำ ใส่ผงวุ้น ใส่น้ำตาลทราย โยนใบเตยมัดปมลงไปแล้วคนจนเดือด ตักใบเตยออกทิ้ง แล้วเทวุ้นที่ทำเสร็จแล้วลงในพิมพ์รูปดอกไม้ที่ใส่เมลอนกับแก้วมังกรหั่นชิ้นเล็กลงไป           "แค่นี้เหรอ นี่เสร็จแล้วเหรอ?" พัทธดนย์มองวุ้นสีใสและมีสีเขียวของเมลอนกับสีขาวของแก้วมังกรด้านในด้วยความแปลกใจ วุ้นรูปดอกไม้สารพัดสีราคาแพงระยับจากร้านดังที่สุชาวดีซื้อมาให้เขากิน มันทำง่ายขนาดนี้เลยเหรอ แถมต้นทุนจริง ๆ ยังถูกมาก แล้วทำไมถึงขายกันแพงขนาดนั้น           "เสร็จแล้ว พอมันหายร้อนแล้วแช่ตู้เย็นกินแบบเย็น ๆ ก็อร่อย" พินทุอรบอกด้วยรอยยิ้ม           "งั้นแช่ตู้เย็นไว้กินตอนเย็นเถอะ ชลธารจะได้กินด้วย" พัทธดนย์หยิบถาดใส่วุ้นเดินไปที่ตู้เย็น เขาเรียงมันไว้ด้านหนึ่งแล้วปิดตู้เย็นไว้           "เครื่องซักผ้าเสร็จแล้วน่ะ ไปตากผ้ากันเถอะ"           พินทุอรบอกแล้วเดินไปที่เครื่องซักผ้าโดยมีพัทธดนย์ตามไปติด ๆ เธอดึงเสื้อผ้าที่ซักแล้วออกมาใส่ตะกร้า และพัทธดนย์ก็หิ้วตะกร้าผ้าไปที่ราวตากผ้าหลังบ้าน พินทุอรให้พัทธดนย์สะบัดผ้าก่อนใส่ไม้แขวนเสื้อ ส่วนเธอจัดการตากชุดชั้นในโดยหนีบไว้กับไม้แขวนชุดชั้นใน พักเดียวเสื้อผ้ากองโตก็ตากเสร็จเรียบร้อย           "หิวหรือยัง วันนี้กินอะไรดี?" พินทุอรถามคนที่ยืนปาดเหงื่อหลังตากผ้ากลางแดดจนเสร็จ หน้าพัทธดนย์แดงเพราะความร้อนจากแสงแดดที่เหมือนจะไม่เคยสัมผัสผิวหน้าเขามาก่อน ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นผู้ดีตัวจริงแน่ ไม่ใช่คนบ้าสติไม่ดีที่หลุดออกมาจากโรงพยาบาลแน่นอน พินทุอรมั่นใจ           "อะไรก็ได้ ข้าวเหนียวส้มตำแบบเมื่อวานก็ได้"           "กินก๋วยเตี๋ยวไก่ดีกว่านะ เดี๋ยวฉันไปซื้อให้"           "ตามใจคุณเลย ผมกินได้ทั้งนั้น" พัทธดนย์บอกแล้วเดินกลับเข้าบ้าน ตอนนี้นอกจากแมลงทอดแล้ว เขากินได้ทุกอย่างแหละ เพราะถ้าชลธารกับพินทุอรยังกินได้ เขาก็กินได้เหมือนกัน แล้วที่พินทุอรกับชลธารซื้อให้เขากิน มันอร่อยกว่าอาหารราคาแพงจากร้านดังเยอะเลย            
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD