“เอาชุดไหนดีนะ”
นิชาพึมพำถามตัวเองขณะที่กวาดสายตามองชุดคอสเพลย์ที่วางเรียงรายอยู่บนเตียงซึ่งเธอได้จัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ไม่ต่ำว่าสามสิบชุด เพื่อเอาใจมาเฟียหนุ่มให้เขาพึงพอใจ ซึ่งแต่ละชุดก็ดูเหมือนจะปิดอะไรไม่มิดเลย และใจเธอก็ยังไม่กล้าพอสำหรับการแต่งตัวด้วยชุดแบบนี้ เพราะเธอไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้มาก่อน อย่าว่าแต่แต่งตัวด้วยชุดพวกนี้เลย เธอยังไม่รู้เลยว่าการมีเซ็กส์จะต้องเริ่มต้นที่ไหนก่อน แต่เมื่อต้องทำหน้าที่นี้จริงๆ เธอก็ไม่มีเวลาคิดอะไรมากแล้ว นอกจากเดินหน้าอย่างเดียว
หญิงสาวถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความหนักอก กระทั่งในที่สุดสายตาก็มาหยุดอยู่ที่ชุดหนังรัดรูปสีดำแขนขายาวมีซิบตรงกลางสีเงินลากยาวตั้งแต่อกลงมาถึงเอว แถมมีหน้ากากหนังกับหูแมวติดมาด้วย ถือได้ว่าชุดนี้มิดชิดที่สุดในบรรดาชุดทั้งหมดที่เธอมี
“เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน”
หญิงสาวบอกกับตัวเองพร้อมกับหยิบชุดนางแมวสาวขึ้นมาเมื่อเวลานัดใกล้เข้ามาทุกที ถึงชุดดังกล่าวจะรัดรูปอวดสัดส่วนชัดเจนแต่ก็ไม่ได้เปิดเผยเนื้อตัวจนเกินงาม คิดได้ดังนั้นเธอก็ไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนมันในระยะเวลาอันรวดเร็ว
หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว เธอก็มายืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจ แค่มองเห็นสัดส่วนโค้งเว้าของตัวเองในกระจกก็ต้องหน้าแดงแล้วแดงอีก ไม่ใช่เพราะไม่เซ็กซี่น่ามอง แต่เป็นเพราะเธอเขินอายเกินกว่าจะไปปรากฎตัวให้ใครได้เห็นเธอในสภาพแบบนี้
ดวงตาคู่สวยเหลือบไปมองนาฬิกาบนหัวเตียงที่ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึงห้านาที เธอจำใจต้องสวมหน้ากากพรางหน้าแดงก่ำเอาไว้ แล้วเอาชุดคลุมหนังสีดำมาปกติดเรือนร่างเย้ายวนอีกชั้น ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจของการ์ดระหว่างที่เธอต้องเดินจากห้องนอนของตัวเอง ไปยังห้องที่มาเฟียหนุ่มได้นัดเอาไว้
ก๊อก… ก๊อก… ก๊อก…
สี่ทุ่มตรงไม่ขาดไม่เกิน เสียงประตูห้องนอนขนาดใหญ่ของมาเฟียหนุ่มดังขึ้น ปลุกคนที่กำลังนั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียงอ่านหนังสือเล่มใหญ่ให้หลุดจากเรื่องราวที่กำลังอ่านอยู่ ก่อนที่เขาจะปิดหนังสือแล้ววางมันลงบนโต๊ะเล็กๆ ใกล้หัวเตียง
“เข้ามาสิ”
เจ้าของห้องเอ่ยอนุญาตพร้อมกับยกน้ำขึ้นดื่มระหว่างรอหญิงสาวเปิดประตูเข้ามา
นิชาเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่ได้รับอนุญาต เธอมาหยุดยืนอยู่ตรงปลายเตียงพร้อมกับปลดชุดคลุมออก เป็นจังหวะเดียวกับที่มาเฟียหนุ่มหันมาพอดี ส่งผลให้ชายหนุ่มแทบจะหลุดพ่นน้ำในปากของตัวเองออกมายังดีที่เขากลืนมันลงคอได้ทัน ก่อนที่มันจะหลุดพรวดพราดเปียกที่นอน
“แต่งชุดอะไรของคุณ”
น้ำเสียงของเขาติดเข้มห้วนเล็กน้อย ขณะที่นัยน์ตาคู่คมกวาดมองชุดรัดรูปอวดสัดส่วนบนตัวเธอด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก
“ทำไมเหรอคะ ท่านไม่ชอบเหรอ”
เธอไม่ตอบคำถาม แต่กลับย้อนถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจ
‘หรือว่าเขาจะชอบให้เธอแต่งชุดคอสเพลย์ที่เปิดเผยเนื้อตัวมากกว่านี้’
นิชาพึมพำถามตัวเองในใจ พลางก้มมองสำรวจข้อบกพร่องของตัวเองท่ามกลางนัยน์ตาคู่คมที่มองมาด้วยความขุ่นเคือง
‘ยังมีหน้ามาถามอีกว่าไม่ชอบเหรอ นี่เธอคิดว่าฉันเรียกเธอมาทำอะไรกันแน่ นิชา’
โลแกนคำรามถามในใจ นี่เธอเห็นเขาเป็นคนหื่นจัดขนาดนั้นเลยหรือไงถึงได้เข้ามาหาเขาด้วยชุดแบบนี้ จากทีแรกที่ตั้งใจไว้ว่าจะเรียกมาพูดคุยถามถึงสารทุกข์สุกดิบตลอดระยะเวลาสิบปีที่เธอเรียนและใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยเพื่อให้เวลาเธอได้ปรับตัวเข้าหาเขา ก็เกิดเปลี่ยนใจอยากจะจับเธอมาสั่งสอนเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“มานั่งนี่สิ”
เขาตบลงบนที่นอนข้างๆ พร้อมกับออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง อยากรู้นักว่าถ้าเขารุกขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำยังไง
นิชารู้สึกกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ยอมเดินขึ้นเตียงแล้วนั่งลงข้างๆ เขา พร้อมกับหันมาเผชิญใบหน้าหล่อเหลาทำใจดีสู้เสือเข้าไว้
“แน่ใจแล้วเหรอที่จะทำเรื่องนี้”
จากที่วันแรกเห็นเธอเป็นเด็กสาวไร้เดียงสาอ่อนต่อโลก โลแกนก็ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เมื่อเห็นชุดที่เธอสวมใส่อยู่ตอนนี้ หรือว่านี่จะเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ
“ค่ะ”
“งั้นก็เริ่มกันเลย”
เขาพูดพร้อมกับเอนหลังพิงกับหัวเตียงในท่าสบายๆ ปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายรุก ซึ่งดูเหมือนว่าเธอยังคงงงๆ กับท่าทางของเขา
“เริ่มยังไงคะ”
หญิงสาวย้อนถามพลางจ้องใบหน้าหล่อเหลาอย่างต้องการคำตอบ เพราะเธอยังไม่เคยมีประสบการณ์เลยไม่รู้จะเริ่มต้นที่ตรงไหนก่อนดี แต่คำตอบที่ได้รับก็ทำให้เธอต้องขมวดคิ้วยุ่งอีกครั้ง
“ตามใจคุณเลย จะเริ่มจากไหนก็เชิญ”
‘เอาไงดีวะนิชา’
หญิงสาวพึมพำถามตัวเองด้วยความคิดหนัก พยายามอย่างยิ่งที่จะทบทวนบทเรียนการทำรักกับผู้ชายที่เธอเคยศึกษาผ่านอินเตอร์เน็ตมาก่อนหน้านี้ กระทั่งเธอต้องระบายยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงขั้นตอนแรก
‘เริ่มด้วยการจูบก่อนก็แล้วกัน’
คิดได้ดังนั้นเธอก็ขยับตัวมาใกล้ๆ ร่างสูงใหญ่ แล้วค่อยๆ ยื่นใบหน้างดงามเข้าไปใกล้ใบหน้าหล่อเหลาช้าๆ ขณะที่หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
แต่แล้วความกังวลใจก็ถาโถมเข้ามาอีกครั้งเมื่อริมฝีปากอวบอิ่มแตะลงบนปากหยักได้รูปเบาๆ เพราะเธอไม่เคยมีประสบการณ์จูบกับใครมาก่อน เลยไม่รู้ว่านอกจากเอาริมฝีปากแตะกันแล้วต้องแช่ไว้นานแค่ไหน หรือแค่แตะๆ ไปแบบนั้น
โลแกนที่คอยลุ้นอยู่ว่าเธอจะทำอะไรกับเขา รู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งริมฝีปากของเธอแตะลงบนริมฝีปากของเขาก็ยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงราวกับเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะลองเสียตัวเป็นครั้งแรก ทั้งที่เขาผ่านประสบการณ์บนเตียงกับสาวๆ มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
สัมผัสไร้เดียงสา แผ่วเบากำลังทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กหนุ่มอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะตื่นเต้นกว่าครั้งที่เขาลองมีอะไรกับผู้หญิงครั้งแรกเสียอีก แต่เพียงไม่นานเขาก็ต้องขมวดคิ้วยุ่งเมื่อจู่ๆ เธอก็ถอนริมฝีปากออกโดยที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรมากไปกว่าแนบริมฝีปากชิดกัน
“เป็นไงคะ จูบของฉันพอใช้ได้ไหม”
นิชากลั้นใจถามด้วยความอยากรู้ เก็บซ่อนความรู้สึกเขินอายเอาไว้เพราะอยากเช็กความพึงพอใจของเขามากกว่า ทว่าคำตอบที่เธอได้รับกลับทำให้เธอรู้สึกหน้าชาไปทั้งแถบ
“ว่าไงนะ! นี่เรียกว่าจูบสำหรับคุณแล้วอย่างนั้นเหรอ”
“ค่ะ”
เธอยืนยันเสียงหนัก มองเขาด้วยดวงตาใสแป๋วไม่เข้าใจน้ำเสียงที่เข้มห้วนของเขา ส่งผลให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกขุ่นหนักกว่าเดิม
‘นี่เธอคิดจะแกล้ง หรือเล่นอะไรกันแน่ ห๊ะ! นิชา’
เขาอยากจะตะคอกถามเธอดังๆ แต่ก็เลือกที่จะเก็บเสียงอันทรงพลังไว้แล้วจับร่างบางพลิกให้นอนหงายลงบนเตียง ก่อนที่เขาจะขึ้นมาคร่อมร่างของเธอเอาไว้
“มานี่ เดี๋ยวผมสอนให้เอง”
‘แต่งตัวยั่วมาขนาดนี้ ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะอ่อนประสบการณ์และไร้เดียงสาทำอะไรไม่เป็นหรอก อย่ามาหลอกกันเสียให้ยาก!’