ภายในเรือนแห่งหนึ่งในจวนเสนาบดีหวง มีร่างของบุคคลสองคนสนทนากันด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
" ท่านว่านางจะกล่าวถึงเรื่อง ระหว่างเราหรือไม่ "
" ข้าไม่แน่ใจ แต่ถ้าข้าสันนิษฐานนางอาจจะ .... " คนผู้ที่ถูกถามยังตอบคำถามมิจบ เสียงแทรกก็เอ่ยดังขึ้น
" ข้าบอกท่านแล้วว่าให้กำจัดนางเสียตั้งแต่วันแรก จะได้มิยุ่งยาก "
" เอาเถอะ อย่างไรนางก็หนีไม่พ้นโทษอาญา ยิ่งอยู่กับท่านแม่ทัพด้วยล่ะก็.." เขาเอ่ยตอบกลับอีกครา โดยไม่ยี่หระกับสิ่งที่กำลังสนทนากันสักเท่าไหร่นัก
" ข้าก็ยังไม่วางใจ "
" ข้ารู้ ๆ แล้วข้าจะมาใหม่ " อีกฝ่ายตั้งท่าจะเดินออกจากเรือน แต่ถูกอีกฝ่ายรั้งไว้ก่อน
" แล้วนั่นท่านจะไปไหน "
" เจ้าอยากให้คนอื่นจับได้หรือไง " เขาหันมามองและเอ่ยอีกครั้ง " อย่ากังวลและเผยพิรุธ ข้าเชื่อว่าทุกครั้งเจ้าทำได้ดี ลี่กวง " จากนั้นก็เดินออกไปไม่หันกลับมามองใบหน้างามของสตรีที่นามว่าลี่กวง ที่เม้มปากแน่น มือบีบเข้าหากัน นางจะเชื่อใจชายที่เพิ่งเดินออกจากเรือนของตนได้มากน้อยแค่ไหน และยิ่งเกิดเรื่องภายในจวน เขาแทบจะไม่ย่างก้าวเท้ามาเหยียบเรือนของนางสักครั้ง หากวันนี้นางไม่ส่งสารให้เขา มีหรือที่เขาจะมา ความเหนื่อยและวิตกกังวลร่วมเดือนทำให้ใบหน้าที่เคยงดงาม หยาดเยิ้มเริ่มดูทรุดโทรม นางย้ายตัวไปนั่งที่เตียงตั่ง และพึมพำกับตนเอง
" ใช่ ข้าจะกลัวไปไย ในเมื่อไม่มีใครรู้ใครเห็น.. " ใบหน้าเริ่มขมวดอีกครั้ง พร้อมกับเอนกายให้ร่างแนบกับฟูกนุ่ม " ข้าทำเพื่ออนาคตของเรา เสี่ยวหนาน " นัยน์ตาเริ่มชื้นเพราะแรงกดดันต่างๆ ทำให้หญิงสาวสะอื้นไห้ และหลับไปในที่สุด
ชายที่หญิงสาวเอ่ยนาม ได้ออกจากเรือนของลี่กวงเพื่อตรงไปยังเรือนของตน ทว่ามีชายรูปร่างสันทัดผู้หนึ่งเดินตามมาแล้วเอ่ยขึ้น
" ข้าน้อยคิดว่าคุณชายรองไม่ควรไปยังเรือนของนางอีก " เสียงเอ่ยขึ้นทำให้หวงเสี่ยวหนานหยุดยืนแล้วหันไปมองผู้เป็นเจ้าของเสียงนั้น
" ธุระกงการอะไรของเจ้า คนเยี่ยงเจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนข้า "
" แต่ว่า"
" หยุด! เก็บคำพูดของเจ้าไว้ อย่าได้กล่าวออกมาอีก " เสี่ยวหนานตะโคกใส่ด้วยความไม่พอใจสุดขีด จากที่เคยจะกลับเรือน เขากลับเดินสวนชายตรงหน้า มุ่งตรงไปทางประตูจวนโดยทันที
เทียนฟ่งอวิ๋น เดินทางกลับจวนของตนเองโดยมีหวงเสี่ยวไช่ บุตรชายคนโตของหวงฮูหยินและเสนาบดีหวงขอตามมาด้วย วันที่เกิดเรื่องเขาไม่ได้อยู่ที่จวนเนื่องด้วยต้องไปติดต่อการค้าที่หมู่บ้านเฉินเซวียนกอปรด้วยตัวเขาก็มีปัญหาอีกด้วย เมื่อทราบข่าวก็รีบเดินทางมาทันที จุดประสงค์ที่เขาได้เอ่ยปากขอ
เทียนฟ่งอวิ๋นมายังจวนท่านแม่ทัพด้วยเพียงเพื่อต้องการอยากเห็นหน้าหญิงใจร้ายที่เขาเคยชื่นชม และหวังอยากได้นางมาเป็นสตรีของเขา แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะนางมักจะเข้าหาบิดาของตนตลอด จึงส่งผลให้บัดนี้เขาชังน้ำหน้านางเหลือเกิน เมื่อถึงจวนแม่ทัพ ทั้งสองนั่งที่เรือนรับรองและมีคำสั่งของเทียนฟ่งอวิ๋นให้ไปตามเฉี่ยวอวี้มายังเรือน เพียงไม่นานทหารก็คุมตัวนางมา สายตาของหวงเสี่ยวไช่มองนางด้วยความสมเพชเวทนา นางผอมลงมาก แต่ยังมีเค้าความงามอยู่ หึ! นี่หรือสตรีที่เขาเคยมีใจ ถึงจะงดงามแต่จิตใจยิ่งอสรพิษ
" ข้าน้อยหลางเฉี่ยวอวี้คารวะคุณชายใหญ่เจ้าค่ะ " เสียงเล็กนุ่ม ไร้ซึ่งจริตของสตรีเพศย่อกายคารวะเพื่อทำลายความเงียบ ก่อนหน้านางปฏิบัติกับเขาอย่างไร ก็ยังคงเหมือนเดิม วางตัวออกห่างจนเขารู้สึกหงุดหงิด
" นางอสรพิษ เจ้าอยู่ได้นานทีเดียวนะ " เสี่ยวไช่เอ่ยทักทายขึ้นบ้าง
" เจ้าค่ะ แต่ก็อยากจะไปสู่ปรโลกเร็วๆ เหมือนกันเผื่อได้พบกับท่านเสนาบดีหวง "
" เจ้า! " เขามุ่งจะไปทำร้ายนางแต่ถูกเทียนฟ่งอวิ๋นรั้งไว้ก่อน เขาจำต้องหยุดฝีเท้าทันที
" ข้าอยากรู้นัก บิดาข้าไม่คิดจะยกย่องเจ้าเป็นอนุรึ เจ้าถึงคิดวางยาฆ่าบิดาของข้า "
นางฟังคำแล้วอยากจะบ้าตาย อะไรหนอทำให้คุณชายใหญ่ที่เคยดูสง่า สุภาพแปรเปลี่ยนได้ หรือเป็นเพราะตัวนางยินยอมเป็นอนุให้แก่เขาหรือ จึงทำให้นิสัยคนแปรเปลี่ยนได้ นางทำเพียงยิ้มให้แล้วเอ่ย
" ข้าน้อยคร้านที่จะอธิบายแล้วเจ้าค่ะ คุณชายใหญ่ ต่อให้ข้ามิมีอะไรกับบิดาท่าน ข้าก็มิชื่นชอบหรือตกลงปลงใจกับท่าน "
" เพราะเหตุผลบ้าๆ นั่นน่ะหรือ "
" เพียงบางส่วนเจ้าค่ะ แล้วที่ท่านมาดูเชลยเช่นข้าอย่าบอกนะเจ้าคะ ว่ามาเพื่อดูข้า หรือเกลี้ยกล่อมข้าให้รับผิด "
" ใช่ข้ามาเพื่อดูหน้าคนเลวเช่นเจ้า และข้าดีใจที่มิได้เจ้ามาเป็นอนุ "
" เช่นกันเจ้าค่ะ " นางย่อกายพร้อมส่งสายตาแสดงความยินดีกับการตัดสินใจของตน ที่เคยปฏิเสธไมตรีจิตของเขาตอนที่เขาเคยขอให้นางมาเป็นอนุ เหตุผลที่นางมิยินยอมประการสำคัญคือ เขาแต่งฮูหยินแล้ว นางมิชอบแย่งของรักจากใคร ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติที่แล้ว สตรีย่อมมีหัวใจ ปากมักบอกยอมรับธรรมเนียมสามภรรยาสี่อนุได้ แต่จิตใจกับแย้งโดยสิ้นเชิง
" พวกท่านเห็นข้าแล้ว ข้าขอตัวกลับได้เลยหรือไม่เจ้าคะ ท่านแม่ทัพ " นางอ้อมไปถามคนที่อยู่นอกวงสนทนา เขาโบกมือไล่ ทหารคุมตัวนางกลับไปเหมือนเดิม ส่วนหวงเสี่ยวไช่ระงับอารมณ์อย่างเต็มความสามารถ ก่อนมาเขามีความหวังเล็กๆ ว่าถ้านางยอมคุกเข่าขอร้องเขาให้ช่วย และยินยอมเป็นผู้หญิงของเขา ถึงแม้นางจะเคยมีอะไรกับบิดาตน เขาก็จะช่วยและพานางหนีไปอยู่หมู่บ้านอื่นแต่นางใจแข็งยิ่งนัก
" ข้าจะรีบเค้นความจริงให้เจ้าโดยเร็วเสี่ยวไช่ "
" ขอบใจเจ้ามาก เช่นนั้นข้าไปก่อน งานที่นั่นยังมิเรียบร้อย"
" ข้าไปส่ง "
" อืม " ทั้งสองเดินออกไปหน้าประตูจวนแม่ทัพ หวนเสี่ยวไช่เดินออกจากจวน ส่วนเทียนฟ่งอวิ๋นเดินเข้าเรือนของตน นั่งคิดอะไรสักพักก็ให้ทหารตามตัวเฉี่ยวอวี้มาพบตน